ขอโทษนะคะที่หนูเป็นเมียน้อย

B1

คุณคงนึกไม่ออกว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ ฉันเองก็ไม่คิดว่าจะต้องมายืนที่จุดนี้เหมือนกัน ฉันไม่ได้กำลังทุกข์ แต่มันก็ไม่ถึงกับมีความสุข ฉันแค่…กำลังยืนมองคู่บ่าวสาวอยู่ในงานแต่งงานสุดหรู บนห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมห้าดาวที่คับคั่งไปด้วยผู้คนในวงการธุรกิจ พวกคนชั้นสูงในสังคมไฮโซ

เจ้าสาวของงานคือทายาทนักธุรกิจใหญ่ที่ประกอบกิจการมากมาย ฉันเองก็ไม่ได้มานั่งสนใจว่าเขาทำมาหากินอะไรบ้าง รู้เพียงแต่ว่าเขารวย เพราะรวย…เขาเลยสวย เป็นเรื่องธรรมดาใช่ไหมล่ะ สมัยนี้ขอแค่มีเงินก็สวยได้แล้ว

ส่วนเจ้าบ่าว…เขาคือ CEO ของ Ocean Group บริษัทชั้นนำที่ประกอบธุรกิจห้างสรรพสินค้าที่มีสาขาทั่วประเทศ เป็นบริษัทที่จ่ายเงินเดือนให้ฉัน เพราะฉันเป็นพนักงานฝ่ายการตลาดอยู่ที่นั่น แต่เรื่องนั้นมันไม่สำคัญ ที่สำคัญคือ…คุณเจ้าบ่าวคือผู้ชายที่ฉันพูดได้เต็มปากว่ารัก เขาเป็นผู้ชายคนแรกและยังเป็นคนเดียวของฉัน พูดง่ายๆเราเป็นแฟนกันมาห้าปี จนถึงตอนนี้…ตอนที่เขากำลังแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น เขาก็ยังเป็นแฟนของฉันอยู่

เขาบอกว่าแต่งงานกันแค่ปีเดียวแล้วก็จะหย่า

เขาบอกว่ามันคือการแต่งงานทางธุรกิจ ให้ฉันมองว่ามันคือหนึ่งในแผนการตลาด

เขาบอกว่ามันคือความรับผิดชอบ เขาบอกว่าผู้หญิงคนนั้นรับรู้เรื่องของฉันและรับได้ทุกอย่าง เขาบอกว่าคนที่เขาต้องการจะอยู่ด้วยคือฉัน

เขาขอให้ฉันรอ…และฉันก็จะรอ เขาบอกว่ารักฉัน…และฉันก็เชื่ออย่างเต็มหัวใจ

ปีเดียวมันไม่ได้นานจนทนรอไม่ได้ อดทนแค่ปีเดียวเท่านั้นแล้วฉันจะได้ยืนเคียงข้างเขา เพราะแบบนั้น…ฉันถึงยอมเป็นเมียน้อย ใช่ค่ะ…ฉันเป็นเมียน้อย ได้ยินแบบนี้แล้วคุณจะเบือนหน้าแล้วเดินหนีไปก็ได้ คุณคงมองว่าฉันต่ำตม ไร้จริยธรรม ไร้ศักดิ์ศรี อยู่ดีไม่ว่าดีจะมาเป็นเมียน้อยเขาทำไม ขอโทษนะคะ…นั่นคือปัญหาของคุณ ไม่ใช่ปัญหาของฉัน และขอโทษอีกครั้งนะคะที่ฉันเป็นเมียน้อย แต่ฉันมีความสุขดี ฉันกินอิ่มและนอนหลับ ฉันยังหัวเราะและยิ้มได้ ฉันยังตื่นเช้าและแต่งตัวสวยๆออกไปทำงาน ฉันมีเงินใช้ เป็นเงินที่หามาด้วยตัวเอง และต่อให้ฉันเป็นเมียน้อย…แต่รู้ไว้ซะว่าฉันมาก่อน!

B2

หลอกตัวเอง!

แกจะปั้นหน้ายิ้มมีความสุขกับใครก็ได้ แกจะโกหกบอกใครว่าภูมิอกภูมิใจนักหนาก็ได้ แต่แกโกหกตัวเองไม่ได้! แกกำลังทุกข์! แกอิจฉาที่ผู้หญิงคนนั้นได้แต่งงานกับผู้ชายที่แกรัก เขากำลังประกาศเป็นผัวเมียกันต่อหน้าผู้คนทั่วประเทศ ข่าวการแต่งงานนี้เผยแพร่ไปทั่ว และพวกเขาก็เป็นที่นับหน้าถือตา พวกเขาจะเป็นผัวเมียกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนแก…แกทำแค่นอนกอดคำว่ารักที่เป็นเพียงลมปาก แกจะต้องอยู่อย่างหลบซ่อน ไม่มีใครรู้ว่าแกอยู่ตรงนี้ด้วยฐานะอะไร จะไม่มีใครยอมรับแก พวกเขาจะพร้อมใจกันเหยียบย่ำแกถ้าหากรู้ว่าแกมันเป็นแค่เมียน้อยไร้ศักดิ์ศรี! ได้ยินไหมว่าแกมันก็เป็นได้แค่เมียน้อย!

ตลกจนต้องหัวเราะตัวโยน!

ในหัวสมองของฉันนั้นมี B1 และ B2 รวมอยู่ด้วยกัน B1 นั้นคือตัวแทนความคิดด้านบวก ที่มองทุกอย่างเป็นสีชมพู ราวกับเป็นเด็กสาวที่สวมชุดลูกไม้วิ่งเล่นอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ ขณะที่ B2 คือตัวแทนจากโลกแห่งความจริง เป็นเหมือนชาวเน็ตที่เตรียมพร้อมจะขุดคุ้ยชีวิตน่าอัปยศของฉันออกมารุมทึ้ง เพราะจากที่เคยเป็นรักแรก จากที่เคยเป็นแฟนคนเดียวของเขา ในตอนนี้ฉันกำลังตกที่นั่งลำบากเพราะต้องมารับบทเมียน้อยที่ต้องอยู่อย่างหลบซ่อน

คำถามคือ…ฉันจะทนอยู่ในสภาพนี้ไปตั้งหนึ่งปีได้ยังไงกัน?