4 ทวงคืน
RIVERSIDE
หมอกกลับมาที่บ้านหลังใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำสายหลักของเมือง บ้านหลังนี้…เขาได้รับมันมาจากผู้เป็นพ่อ ที่ยกให้เขาเป็นของขวัญวันแต่งงาน ทันทีที่มาถึงบ้าน เขาก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดเจ้าบ่าวที่ใส่ตั้งแต่เมื่อคืนเป็นชุดสูทสีกรมสำหรับการจะออกไปทำงาน ไม่นานพ่อแม่ของไอรินก็มาถึง ท่านทั้งสองมาร่วมกินมื้อเช้ากับคู่บ่าวสาวข้าวใหม่ปลามัน ที่ต่างก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าการแต่งงานครั้งนี้มันปราศจากความรักโดยสิ้นเชิง
“ตอนพ่อกับแม่แต่งงานกัน ก็ไม่ได้รักกันหรอกนะ แต่ดูตอนนี้สิ…รักกันมากจนกลายเป็นคู่ชีวิต เป็นเพื่อนแท้เป็นสามีภรรยาและหุ้นส่วนธุรกิจ” อังกูรเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม ขณะที่เอื้อมไปโอบไหล่กันยามาหอมแก้ม
“ความรักมันสำคัญนะ แต่ชีวิตคนเรามันมีอะไรมากกว่านั้น อยู่กันไป…เดี๋ยวก็รักกันเอง คำนี้…ฟังครั้งแรกแม่ก็ไม่เชื่อหรอกนะ แต่ตอนนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันจริง” กันยาเสริมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับไอรินและหมอก
“แล้วถ้ามีลูกด้วยกันสักคนสองคน พ่อบอกเลยนะว่ามันคือสิ่งมหัศจรรย์”
มันคือหายนะ!
นั่นคือสิ่งที่หมอกคิดอยู่ภายใต้ความเงียบงัน เขารู้ดี…ว่าหากเขาเกิดพลาดพลั้งมีลูกกับไอริน ก็เท่ากับว่าเขาจะต้องล้มเลิกความคิดที่จะได้เป็นอิสระ และเขาจะต้องเสียนับดาวไปอย่างแน่นอน เพราะแบบนั้น…เขาถึงตกลงกับไอรินไว้ตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่าต้องแต่งงานกับเธอ ว่าเขาจะไม่ร่วมห้องกับเธอและจะไม่แตะต้องเธอหากไม่ใช่ยามจำเป็น อย่างเช่นตอนที่ต้องไปออกงานสังคมร่วมกัน
“ลืมเรื่องลูกไปก่อนเถอะนะคะคุณพ่อคุณแม่ ตอนนี้ไอยุ่งกับงานจนไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นด้วยซ้ำ ขนาดฮันนิมูนยังไม่มีเวลาไปเลย อีกอย่าง…อาทิตย์หน้าไอก็ต้องไปทำงานที่Oceanด้วย”
หมอกเองก็ลืมเรื่องนี้ไปสนิทใจ การแต่งงานของเขากับไอริน ไม่เพียงแต่จะทำให้หุ้นสูงขึ้น แต่จุดเริ่มต้นมันมีเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน สองบริษัทยักษ์ใหญ่จับมือกันสร้างคอมมูนิตี้ มอล์ แหล่งความบันเทิงครบวงจรที่มีทุกอย่างครบครัน ตั้งแต่ห้างสรรพสินค้าไปจนถึงคอนโดมิเนียมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มันคือโปรดเจคขนาดมหึมา เลยทำให้ไอรินต้องเข้ามาดูแลโปรเจคนี้ด้วย
“พ่อเชื่อมั่นในตัวลูกทั้งสองคนนะ หนึ่งปีข้างหน้า…พ่อแทบรอที่จะเห็นโปรเจคของเราสำเร็จออกมาเป็นที่พูดถึงไปทั่วเอเชียไม่ไหวแล้ว”
“ไอก็เชื่อว่ามันต้องออกมาเพอร์เฟคแน่นอนค่ะ” ไอริน นักธุรกิจสาวผู้หลงใหลในความสมบูรณ์แบบ เธอเกลียดความผิดพลาด ทุกสิ่งที่เธอลงทุนลงแรง ไม่เคยมีแม้แต่อย่างเดียวที่มันไม่ประสบความสำเร็จ และเธอรู้ว่าหมอกคือคนประเภทเดียวกับเธอ…นักล่าความสำเร็จ
“ฉันน่าจะเคลียร์งานเก่าเสร็จภายในวันสองวันนี้…อาทิตย์หน้าฉันจะเข้าไปที่Ocean คุณเตรียมทุกอย่างไว้แล้วใช่ไหม?” ไอรินเอ่ยถามหมอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ขณะที่เธอกำลังนั่งไขว่ห้างจิบกาแฟอยู่ที่สวนหลังบ้านพร้อมกับหมอก หลังจากที่พ่อและแม่กลับไปแล้ว
“ครับ…” ชายหนุ่มเอ่ยตอบสั้นๆ ที่จริงแล้วไอรินอายุเท่ากับนับดาว ซึ่งอ่อนกว่าเขาสองปี แต่เธอกลับไม่เรียกเขาว่าพี่ ซึ่งเขาก็คิดว่ามันดีแล้ว เพราะเขาไม่ได้ต้องการจะสนิทกับเธอนัก
“ครับของคุณคืออะไรคะ? ที่บอกว่าเตรียมทุกอย่าง…นี่หมายถึงห้องทำงานที่ครบครันกับงานเลี้ยงต้อนรับฉันอย่างเป็นทางการ มีอะไรพวกนั้นใช่ไหม?” อย่างที่บอก ไอรินคือหญิงสาวผู้คลั่งไคล้ความเพอร์เฟค
“ครับ”
“คุณหมอก…”
“ครับ?”
“คุยกับฉัน…คุณต้องมองหน้าฉัน โฟกัสที่ฉัน เพราะเวลาที่ฉันคุยกับคุณ ฉันก็ทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลังและสนใจแค่คุณ แฟร์ๆหน่อย”
“ขอโทษ…เอาเป็นว่าผมจะจัดการทุกอย่างตามที่คุณต้องการ มีอะไรก็ให้เลขาคุณแจ้งเลขาผมมาก็แล้วกัน” หมอกหยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วล้วงสองมือเข้ากระเป๋ากางเกง
“ฉันไม่เอาแบบนั้นวันนี้แล้วนะ”
“แบบไหน?”
“คุณจะไปค้างที่อื่นฉันไม่สน คุณจะมีเมียซุกไว้ฉันก็ไม่สนอีกเหมือนกัน แต่ทุกเช้า…ฉันต้องเจอคุณที่โต๊ะอาหาร อย่าลืมนะว่าคนงานในบ้านเป็นคนของพ่อแม่ฉัน หน้าต่างมีหู ประตูมีตา พ่อแม่ฉันจะรู้ไม่ได้ว่าคุณมีเมียเก็บ และพวกนักข่าวก็รู้ไม่ได้เหมือนกัน เรื่องพวกนี้เราคุยกันไปหมดแล้ว อย่าให้ฉันต้องพูดมันซ้ำๆ”
“ผมก็ไม่อยากพูดมันซ้ำๆเหมือนกัน…นับดาวไม่ใช่เมียเก็บ เมียน้อยก็ไม่ใช่ เธอเป็นแฟนของผม ระวังคำพูดด้วยไอริน” หมอกไม่พอใจกับคำว่าเมียเก็บเป็นอย่างมาก แต่เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะตะโกนออกมาเสียงดังเวลาไม่พอใจ
“สำหรับคุณ…นับดาวอาจจะเป็นแฟน แต่ถ้ามีคนอื่นที่รู้เรื่องนั้น…คิดว่าเขาจะนิยามผู้หญิงของคุณว่าแฟนเหรอ? ฉันว่า…มันไม่ใช่แค่นั้นหรอก”
“…” หมอกนิ่งเงียบ เพราะเขารู้ว่าสิ่งที่ไอรินพูดมาคือความจริง เพียงแต่มันทิ่มแทงใจคนฟังก็เท่านั้นเอง
“ฉันจะไม่ยอมหรอกนะ ถ้าหากว่ามีข่าวเรื่องคุณซุกเมียหลุดออกไป อย่าลืมนะว่าการแต่งงานของเรามีมูลค่าหมื่นล้าน”
“ผมรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ แล้วเกิดว่าคุณเชื่อมั่นในตัวเองขนาดนี้…คุณก็ต้องมั่นใจในตัวผมไม่น้อยหรอก ไม่งั้นคุณคงไม่เลือกลงทุนและแต่งงานกับผม แล้วถ้ามันจะพัง…เราก็พังกันทั้งคู่ คุณรู้ตั้งแต่แรกว่าผมมีนับดาวอยู่แล้ว และผมก็บอกเงื่อนไขทั้งหมดของผมไปแล้ว ในเมื่อคุณตกลงที่จะแต่งงาน แล้วตอนนี้คุณมาพูดเรื่องพวกนี้ทำไม?”
“ก็…เพราะวันนี้ฉันเกือบซวยไงล่ะ ถ้าเกิดว่าคุณกลับมาไม่ทันพ่อแม่ฉัน ถ้าพวกท่านรู้ว่าเมื่อคืนคุณไปค้างที่อื่น คิดไหมว่ามันจะเป็นยังไง?”
“เอาเป็นว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก” หมอกทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้น ก่อนที่จะเดินออกมา เวลาเดียวกัน…เมฆ อัศวเมฆินทร์ ผู้เป็นพ่อก็ต่อสายตรงเข้ามาหาลูกชาย
“ครับ…พ่อ” เขารับสาย พลางขึ้นรถยนต์คันหรู เตรียมตัวออกไปทำงาน
[เป็นยังไง? แต่งงานวันแรก…]
“ก็ดีครับ”
[แค่ก็ดีเองเหรอ? ฉันคิดว่าแกจะต้องหมดแรงจนเข้าออฟฟิศไม่ไหว]
“ผมกำลังจะเข้าออฟฟิศครับ ไม่ได้หมดแรง”
[อะไรกัน? เมื่อคืนแกไม่ได้เข้าห้องหอหรือไง?]
“พ่อครับ พ่อพูดเหมือนลืมไปแล้วว่าการแต่งงานครั้งนี้…”
[ฉันรู้ แต่แล้วยังไง…ถึงจะแต่งงานกันเพราะเรื่องธุรกิจ แต่ก็ใช่ว่าจะนอนกันไม่ได้ คนเป็นผัวเมีย…ก็ต้องนอนกันสิวะ]
“ผมบอกพ่อไปแล้วว่าผมจะแต่งงานกับไอรินแค่หนึ่งปีเท่านั้น หลังจากที่โปรเจคใหญ่ของเราจบ ผมจะหย่า”
[เออ! เรื่องนั้นฉันรู้ แต่…คุณอังกูรเขาไม่ได้คิดแบบนั้นน่ะสิ เขาคุยกับฉันเรื่องทายาท]
“พ่อ…ผมไม่คุยเรื่องนี้”
[ก็แค่…ทำเหมือนว่าแกพยายาม ติดก็ดี ไม่ติดก็ทำใจ]
“พ่อจะให้ผมพยายามมีลูกกับไอริน ทั้งๆที่ยังไงผมก็จะหย่าเหรอครับ? ไม่…ผมทำไม่ได้ ผมทำตามคำขอของพ่อแล้ว และผมหวังว่าพ่อจะทำตามที่สัญญาเอาไว้กับผมด้วยนะครับ” จบคำนั้นหมอกก็ตัดสายผู้เป็นพ่อทิ้งในทันที เขาอดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้ แต่ไหนแต่ไร…พ่อของเขามักจะบงการชีวิตเขาอยู่เสมอ และตลอดสามสิบปีที่ผ่านมา…เขาไม่เคยขัดใจผู้เป็นพ่อได้เลยสักครั้ง
V : มีการเคลื่อนไหวของตุลย์ครับ เขาจะกลับเมืองไทยพรุ่งนี้
ข้อความจาก วี เลขาคนเก่งของหมอกแจ้งเตือนขึ้นมาที่หน้าจอมือถือ ที่จริงแล้วหมอกรู้ก่อนที่วีจะบอก เพราะเขาได้ยินที่นับดาวคุยโทรศัพท์ก่อนจะออกมาจากคอนโดของเธอ นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเขาดูครุ่นคิดเรื่องอื่นขณะที่กำลังคุยกับไอริน
เขาบอกไม่ถูกตัวเองรู้สึกยังไงที่ได้รู้ว่าตุลย์ เพื่อนรักของนับดาวกำลังจะกลับมาเมืองไทย อดคิดถึงเมื่อสี่ปีก่อนไม่ได้…ในตอนที่เขาคบกับนับดาวได้หนึ่งปี ก่อนที่ตุลย์จะย้ายไปอังกฤษ ตุลย์ได้นัดเขาออกไปเจอและบอกว่าให้โอกาสเขาสี่ปี…หากเขาทำให้นับดาวเป็นแฟนที่ออกหน้าออกตาไม่ได้ และหากว่าเขาทำนับดาวต้องเสียใจ หรือแม้แต่เสียน้ำตาเพียงหยดเดียว ก็ขอให้เขาทำใจซะ ถึงเวลานั้น…ตุลย์จะมาทวงนับดาวคืนไป และมันจะไม่ใช่ในฐานะเพื่อนสนิท แต่เป็น…ผู้ชายคนหนึ่งที่รักและรอนับดาวมานาน!
ตัดภาพกลับมาที่ปัจจุบัน…หมอกทำนับดาวเสียใจและเสียน้ำตาครั้งใหญ่ นอกจากเขาจะคบเธอโดยเปิดเผยไม่ได้แล้ว…เขายังแต่งงานกับคนอื่นและยัดเยียดฐานะเมียน้อยให้เธอ แน่นอน…ว่าเขารู้ว่าการกลับมาครั้งนี้ของตุลย์ มันหมายความว่ายังไง…
