4.เป็นคนแบบไหน
ในระหว่างที่ฟริเซียกำลังนั่งรอสาวใช้นำมงกุฎดอกไม้มาให้เธอ ท่านพี่ฟากัสก็เดินเข้ามาด้วยแววตาที่หม่นหมอง
“พี่รู้ว่าวันนี้พี่ควรจะยิ้มและยินดีกับงานแต่งของเจ้า..แต่เฟีย..นี่ไม่ใช่เรื่องที่พี่จะทำใจยอมรับได้”
เขาโอบกอดน้องสาวสุดที่รักด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย ฟริเซียนั้นเป็นเหมือนนางฟ้าตัวน้อยๆของเขา คนอื่นอาจจะมองไม่เห็นแต่ทว่าเขามองเห็นปีกที่เก็บซ่อนอยู่ที่ด้านหลังของเธอได้อย่างชัดเจน
ไม่ว่าจะที่ไหนหรือว่าเมื่อไหร่ ฟริเซียของเขานั้นจะต้องเจิดจรัสและเจิดจ้าอยู่เสมอ ฉายาดอกไม้แห่งชนชั้นสูงของเธอไม่ได้มาเพราะโชคช่วยแต่ฟริเซียของเขานั้นเป็นเช่นนั้นจริงๆ
เขาคาดหวังว่าจะได้มองเห็นงานแต่งที่แสนจะยิ่งใหญ่ของน้องสาว และแขกมากมายที่ตบเท้าเข้ามาเพื่อแสดงความยินดีด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม คาดินันคงจะทำพิธีให้ด้วยใบหน้าที่แสนยินดี เธอคือบุตรีของดยุคอีสซาผู้ร่ำรวยและทรงอำนาจ ฉะนั้นแล้วว่าที่สามีของเธอควรจะต้องเป็นบุรุษที่มีอำนาจใกล้เคียงกันถึงจะถูก
แต่นี่..นางฟ้าตัวน้อยของเขากลับเดินทางเข้ามาในป่า ฟริเซียแต่งงานกับหัวหน้าเผ่าที่ไม่มีคฤหาสน์ที่แสนใหญ่โตให้เธออยู่ ไม่มีอาหารดีๆให้เธอได้กิน ไม่มีเสื้อผ้าสวยๆ ให้เธอได้ใส่..ไม่มีอะไรเลยที่จะมารับประกันว่าน้องสาวของเขาจะได้อยู่ที่นี่อย่างสุขสบาย
แล้วเขาจะยินดีกับการแต่งงานในครั้งนี้ได้อย่างไร
“ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงหรอกค่ะท่านพี่ ข้าจะมีความสุขอย่างแน่นอน”
ฟากัสหลับตาลงช้าๆ เพื่อกดข่มอารมณ์โศกเศร้า เขาลูบผมของฟริเซียเบาๆ
“พี่จะกลับมารับเจ้าอย่างแน่นอนเฟีย พี่จะมาที่นี่เพื่อมารับเจ้ากลับไปที่คฤหาสน์ ไปอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้ง”
เธอเข้าใจความหมายและเจตนาของท่านพี่ดีเลยล่ะ สตรีที่ถูกเลี้ยงมาราวกับไข่ในหิน อะไรก็ตามที่ได้ชื่อว่าดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอัญมณีหรือว่าเสื้อผ้า สิ่งของเหล่านั้นจะถูกส่งมาที่คฤหาสน์อีสซาก่อนเป็นอันดับแรก ถูกส่งมาให้เธอได้เลือกสรร..ฟริเซียเติบโตมาเช่นนั้นแต่กับเธอไม่ใช่
เธอไม่ต้องการอยู่ที่เมืองหลวงจนกว่าจะแน่ใจว่าฆาตกรเลือดเย็นผู้นั้นจะถูกกำจัด
“เรื่องนั้นท่านพี่ไม่ต้องลำบากเพื่อข้าก็ได้ค่ะ ข้าจะอยู่ที่นี่อย่างมีความสุขแน่ๆ ..”
ฟริเซียกำลังเฝ้าภาวนาในใจขอให้พี่ชายของเธอได้พบเจอกับสตรีที่ดี ให้เขาได้พบเจอกับความรักที่สวยงาม เพราะที่ผ่านมาท่านพี่ฟากัสทำเพื่อเธอมามากแล้ว มันถึงเวลาที่เขาควรจะทำเพื่อตัวเองสักที
“จากนี้ไปท่านพี่ก็ลองมองหาสตรีดีๆ สักคนมาคบหาด้วยบ้างสิคะ ท่านพี่น่ะทำเพื่อข้ามามากแล้ว ข้าอยากให้ท่านพี่มีความสุขบ้าง..ท่านพี่เลิกคิดเรื่องของข้าแล้วไปใช้ชีวิตตัวเองบ้างนะคะ”
ฟากัสกัดกรามแน่น เขากอดฟริเซียแนบแน่นยิ่งกว่าเดิม ดูสินางฟ้าตัวน้อยๆของเขานั้นแสนดีมากแค่ไหน เธอกล่าวคำเหล่านั้นออกมาเพื่อให้เขาไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องของเธอ เธอต้องการแบกรับเรื่องหนักหนาเหล่านั้นเอาไว้ผู้เดียว น้องสาวของเขาจะแสนดีเกินไปแล้ว..
ไอ้องค์รัชทายาทสารเลวผู้นั้น..จะต้องถูกเขาสั่งสอนอย่างแน่นอน ฟากัสให้คำมั่น!
“อดทนนะเฟีย..”
เธอย่นจมูกเล็กน้อยแล้วพยักหน้าเบาๆ
“ไม่มีอะไรที่ท่านพี่ต้องห่วงหรอกน่า..”
หลังจากพูดคุยกันพักหนึ่ง สาวใช้ก็เดินนำมงกุฎดอกไม้เข้ามา
“พิธีพร้อมแล้วค่ะ เชิญเลดี้เข้าร่วมพิธีได้”
ไม่มีชุดแต่งงานที่แสนหรูหรา ไม่มีผ้าคลุมหน้าหรือว่าคาดินันผู้สูงส่งในการทำพิธี ไม่มีแขกมากมายที่แสดงความยินดีผ่านรอยยิ้ม ไม่มีงานเลี้ยงแสนยิ่งใหญ่ที่คู่ควรกับเกียรติของฟริเซีย..
แต่ถึงอย่างนั้นน้องสาวของเขาก็ยังคงเปล่งประกายท่ามกลางเหล่าออร์คตัวเขียวที่มายืนดู
ดวงหน้าของเธอสะสวยราวกับตุ๊กตาที่มีชีวิต ต่อให้สวมเสื้อผ้าของเผ่าออร์คที่ออกจะแปลกตา และบนศีรษะนั้นไร้ซึ่งอัญมณี มีเพียงมงกุฎดอกไม้ที่ถูกถักขึ้นมาเท่านั้น
ถึงแม้ว่านี่จะเป็นเพียงงานแต่งชั่วคราวของฟริเซียแต่ทว่าเขาก็แทบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่
ฟริเซียระบายยิ้มหวานออกมาเมื่อเธอมองเห็นท่านหัวหน้าเผ่าที่กำลังยืนรอ
“จากนี้ก็ฝากน้องสาวของข้าด้วยนะครับ”
บาทีสต์พยักหน้าเบาๆ เขายังคงไม่ปรายสายตามองใบหน้าของฟริเซียเลยแม้แค่น้อย
พิธีของชาวออร์คนั้นเรียบง่าย มีผู้อาวุโสในเผ่ามาสวดทำพิธีให้ฟริเซียและบาทีสต์ หลังจากนั้นสาวใช้ก็พาเธอไปยังบ้านของหัวหน้าเผ่า
“ไม่ต้องเป็นกังวลนะคะท่านฟริเซีย จากนี้ท่านคือคนเผ่าออร์คของเราแล้ว”
มีมี่กำลังขัดตัวให้เธออยู่ อันที่จริงบ้านของหัวหน้าเผ่านั้นดีมากกว่าที่เธอคิดเอาไว้เยอะเลย ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่ใช่คฤหาสน์ แต่ก็สามารถอยู่ได้อย่างสะดวกสบาย
“ท่านบาทีสต์เป็นคนยังไงเหรอ? คือว่าเพราะต้องมาแต่งงานกันอย่างกะทันหัน ข้าก็เลยอยากจะรู้ว่าสามีชอบหรือว่าไม่ชอบอะไร”
มีมี่หัวเราะออกมาเบาๆ
“เรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องที่ท่านฟริเซียต้องกังวลหรอกค่ะ ท่านบาทีสต์มิใช่ชายเรื่องมาก ไม่ว่าท่านฟริเซียจะทำอะไร ท่านหัวหน้าก็ชอบทั้งนั้น”
ด้วยใบหน้าเช่นนั้น..จะมีบุรุษหน้าไหนไม่หลงใหลท่านฟริเซียอย่างนั้นหรือ
“ขอให้ท่านฟริเซียมีค่ำคืนที่สวยงามนะคะ”
เธออยู่ในชุดนอนที่แสนวาบหวิว อันที่จริงมีมี่บอกว่าไม่ต้องใส่อะไรเลยก็ได้ ตามธรรมเนียมส่วนใหญ่สตรีเผ่าออร์คจะไม่ใส่เสื้อผ้า เพราะอย่างไรก็ต้องถอดอยู่แล้ว
แต่มันจะเขินไปหน่อยไหม..แบบว่าเขาเปิดประตูมาแล้วเห็นเธอนั่งเปลือยอยู่อะไรแบบนั้น
ฟริเซียก็เลยลงความเห็นว่าใส่เอาไว้ดีกว่า ในระหว่างที่ไม่รู้จะทำอะไรอย่างน้อยเขาก็จะได้ถอดชุดเธอออกพร้อมกับพูดคุย หยอกเย้ากันไป
เธอยกมือขึ้นมาปิดหน้าด้วยความเขินอายก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียง..สามีของเธอจะมีรสนิยมแบบไหนกันนะ
แล้วครั้งแรกของเรามันจะเจ็บมากรึเปล่า..เจ้าแท่งเขียวของเขาจะมีขนาดที่น่าตกใจแค่ไหนกัน
อา..อยากเห็นชะมัดเลย!
ขณะที่ฟริเซียกำลังจินตนาการถึงเรื่องไม่เป็นเรื่องประตูก็ถูกเปิดออกพร้อมกับบาทีสต์ที่เดินเข้ามา
กลิ่นสุราเป็นสิ่งแรกที่เธอสัมผัสได้ ฟริเซียรีบลุกขึ้นมาจากเตียงแล้วเดินเข้าไปหาเขา
มันต้องเริ่มจากตรงไหนก่อนนะ..ตามคำแนะนำของมีมี่ สาวใช้ผู้นั้นบอกให้เธอเดินขึ้นไปคุกเข่าบนเตียง แต่นั่นมันจะเกินไปไหมนะ..ไม่ใช่ว่าเราควรจะสัมผัสกันก่อนงั้นเรอะ
“คือว่า..”
“ไปนอนเถอะ”
ในความคิดของบาทีสต์ เขาจะนอนที่พื้นเองให้เธอนอนลงบนเตียงไป เพราะอย่างไรเขาไม่คิดจะแตะต้องเธออยู่แล้วในคืนนี้ แต่จะออกไปจากห้องนี้ก็ไม่ได้เพราะประตูจะถูกล็อคจากด้านนอก..มันเป็น ธรรมเนียมน่ะ
ใบหน้างามแดงซ่านด้วยความเขินอาย เธอควรจะเชื่อคำกล่าวของมีมี่ตั้งแต่แรก เพราะอย่างนั้นฟริเซียจึงเริ่มถอดชุดนอนของตัวเองออกเพื่อที่จะเดินไปคุกเข่าลงบนเตียง
