3.เป็นตัวของตัวเองเต็มที่
ชองคิดเช่นนั้น จนถึงวันที่เขาได้พบเจอกับเลดี้อีสซาจริงๆ ใบหน้าของสตรีผู้นั้นสวยหวานละมุนตา ดวงหน้ากลมแก้มป่องดูน่ารักและน่าเอ็นดู จุดเด่นคือดวงตาสีน้ำทะเลที่เพียงแค่มองก็ให้ความรู้สึกลุ่มหลงอย่างบอกไม่ถูก ใบหน้าเช่นนั้นของเลดี้อีสซาจะเรียกว่าเป็นลูกรักของพระเจ้าก็คงไม่ผิดเท่าไหร่นัก
“อย่าเสียมารยาท ชอง”
เสียงของท่านหัวหน้าดังขึ้นมาเพื่อเตือนสติของเขา ชองรีบหุบปากของตัวเองที่กำลังอ้าออกด้วยความตกใจ ก่อนที่เขาจะก้มหน้าลงเพื่อทำความเคารพชนชั้นสูงที่เดินทางมาพร้อมกับเลดี้อีสซา
“ยินดีต้อนรับเข้าสู่เผ่าออร์คของเราครับ”
ฟากัสมาส่งน้องสาวของเขาแทนท่านพ่อและท่านแม่ที่ยังทำใจไม่ได้ หากเลือกได้เขาเองก็ไม่อยากมาส่งเฟียมายังดินแดนของเผ่าออร์คเลย
ความแค้นที่องค์รัชทายาททรงกระทำกับตระกูลอีสซา ฟากัสตั้งมั่นเอาไว้แล้วว่าเขาจะต้องส่งมอบความเจ็บช้ำนี้คืนให้แก่ราชวงศ์อย่างแน่นอน!
“ขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่ดีนะครับ..ข้ามีเรื่องที่จะพูดคุยกับท่านผู้นำสักหน่อย”
ฟากัสเลือกที่จะกล่าวอย่างตรงไปตรงมา และบาทีสต์เองก็เข้าใจในสีหน้าและแววตาของชายเบื้องหน้า
“ด้วยความยินดีครับ”
“.....”
ฟริเซียกำลังกวาดสายตามองไปรอบๆ เธอนั่งรถม้ามาที่นี่หลายวันมากทีเดียว สิ่งแรกที่ฟริเซียมองเห็นในดินแดนออร์คนั้นมันไม่ใช่ความทุรกันดาร แต่เป็นป่าที่มีความ อุดมสมบูรณ์ต่างหาก อีกทั้งหัวหน้าเผ่าออร์คที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นเขาไม่ได้น่าเกลียดน่ากลัวเหมือนกับที่ทุกคนกล่าวเอาไว้สักหน่อย
ใบหน้าของเขาโดดเด่นออกมาท่ามกลางคนจำนวนมาก ไม่ว่าดวงตา ปากหรือว่าจมูกก็ล้วนถูกพระเจ้าทรงปั้น อีกทั้งเขี้ยวเล็กทั้งสองข้างนั้น ฟริเซียมองว่ามันช่างน่ารักมากทีเดียว
เพียงแต่ขนาดตัวของเรานั้นมันแตกต่างกันมากทีเดียว ขนาดท่านพี่ฟากัสที่สูงมากกว่าบุรุษทั่วๆ ไปยังดูตัวเล็กเลยเมื่อเทียบกับชาวออร์ค
แต่ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่ฟริเซียไม่แน่ใจเท่าไหร่นัก นั่นคือท่านหัวหน้าเผ่าหรือว่าชายที่เธอจะแต่งงานด้วย..เขาไม่มองมาที่เธอเลยแม้แต่นิดเดียว ราวกับเขามองไม่เห็นเธอในสายตานั้นเลย
....ให้ตายสิ เริ่มต้นไม่ค่อยดีเช่นนี้ เธอจะสามารถอยู่ที่นี่อย่างมีความสุขได้รึเปล่านะ
“เชิญทางนี้ค่ะเลดี้”
มีสตรีเผ่าออร์คเดินเข้ามาต้อนรับเธอด้วยรอยยิ้ม และนั่นทำให้ฟริเซียใจชื้นขึ้นมาหน่อย
จะอยู่ได้หรือไม่ เธอก็ต้องอยู่ที่นี่..เพราะเธอไม่มีทางเลือกแล้ว
.
.
“ข้าคิดว่าท่านผู้นำจะต้องเข้าใจข้าอย่างแน่นอน ข้ามีน้องสาวเพียงผู้เดียวเท่านั้น และนางก็เป็นที่รักของทุกคนในครอบครัว การแต่งงานครั้งนี้คือการแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ก็จริงอยู่แต่ข้าไม่อยากให้ท่านใช้ชีวิตเยี่ยงสามีภรรยากับน้องสาวของข้า ช่วยรับคำขอของข้าด้วยนะครับ จากนี้ไปไม่ว่าท่านผู้นำจะร้องขอสิ่งใด ข้าก็ยินดีจะรับคำขอของท่านทุกอย่าง..เพียงแค่หนึ่งปีเท่านั้น ข้าจะหาทางพาน้องสาวของข้ากลับไปยังที่ที่นางควรอยู่”
ไม่ต่างจากที่บาทีสต์คิดเอาไว้ในใจเลย ไม่ว่าจะเมื่อไหร่มนุษย์ก็ยังคงมองว่าเผ่าพันธุ์ออร์คของเขานั้นมันต่ำต้อยอยู่ดี
“ครับ..ข้าจะไม่แตะต้องหรือว่าทำให้ชื่อเสียงของเลดี้อีสซาเสียหายอย่างแน่นอน ท่านชายไม่ต้องเป็นห่วงไป”
ฟากัสคุกเข่าลงพร้อมกับก้มหน้าเพื่อเป็นการแสดงความชอบคุณต้องบาทีสต์
“ขอบคุณมากๆ นะครับ..ข้าจะมารับนางกลับไปอย่างแน่นอน”
บาทีสต์เองก็ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าเขาจะไม่มีวันแตะต้องเลดี้อีสซาแม้แต่ปลายเล็บ เขาไม่ควรทำให้ชื่อเสียงของนางต้องป่นปี้ เมื่อถึงเวลาเขาจะส่งนางคืนให้ครอบครัวอย่างไร้รอยขีดข่วนอย่างแน่นอน
................
“ท่านหัวหน้าของเรานั้นหล่อเหลามากๆ เลยใช่ไหมคะ สตรีในเผ่าออร์คนั้นจ้องตำแหน่งภรรยาของหัวหน้าเผากันตาเป็นมันเลย แต่ข้าคิดว่าเลดี้นั้นเหมาะสมยิ่งกับท่านผู้นำของเรานะคะ เพราะว่าท่านงดงามมากๆ เลย ข้ายังเคยพบเจอสตรีใดที่ชวนมองเช่นท่านมาก่อน”
ฟริเซียสนิทสนมกับสาวใช้นามว่ามีมี่อย่างรวดเร็ว อาจเพราะว่าเราคุยกันถูกคอ อีกทั้งในยามนี้เธอไม่ต้องดึงหน้าตึงทำตัวว่าเป็นสตรีชนชั้นสูงที่แสนจะเย่อหยิ่งอีกแล้ว เมื่ออยู่ที่นี่เธอสามารถเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่
“ไม่ขนาดนั้นหรอก..แต่ว่าท่านหัวหน้าเผ่านั้นหล่อเหลามากจริงๆ นั่นแหละ เขามีรูปร่างที่งดงามสมชายชาตรีดีจริงๆ”
ชุดของเผ่าออร์คนั้นถูกใจเธอมากทีเดียว เพราะพวกเขามิได้สวมใส่เสื้อผ้าเหมือนกับมนุษย์ เธอสามารถมองเห็นกล้ามท้องที่เป็นลอนสวยงามนั้นได้อย่างไม่จำกัด อีกทั้งออร์คที่นี่ไม่ได้หน้าเกลียดเลยให้ตายสิ พวกเขามีใบหน้าที่ใกล้เคียงกับมนุษย์มากๆ แค่มีผิวสีเขียวและโครงร่างที่ใหญ่มากกว่าก็เท่านั้น
นี่ทำให้เธออยากรู้แล้วละสิว่าพวกเขามีสีเขียวแค่ผิว..หรือว่าเขียวไปจนถึงส่วนนั้นกันนะ
อิอิอิอิ..อยากเห็นชะมัดเลยเจ้าแท่งเขียวนั่นจะมีหน้าตาแบบไหน
มีมี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย นางไม่คิดว่าสตรีที่งดงามอย่างเลดี้อีสซาจะมีรอยยิ้มที่น่ากลัวเช่นนี้ด้วย
“ละ..เลดี้คะ ใกล้จะถึงเวลาที่ต้องทำพิธีแล้วนะคะ”
ฟริเซียยกมือขึ้นมาตบแก้มตัวเองเบาๆ เพื่อเรียกสติ
“งานแต่งอย่างนั้นสินะ”
“ใช่ค่ะ ที่นี่มีธรรมเนียมการแต่งงานที่อาจจะไม่เหมือนมนุษย์เท่าไหร่นัก เพราะจะมีการใช้เวลาเข้าหอที่ยาวนานถึงสามสัปดาห์..แต่เรื่องนั้นข้าไม่ทราบว่านายท่านจะปรับเปลี่ยนเป็นหนึ่งวันเหมือนธรรมเนียมของจักรวรรดิรึเปล่า..หากว่าเลดี้ต้องการให้เปลี่ยนพิธีการเข้าหอเหมือนจักรวรรดิก็แจ้งข้ามาได้เลยนะคะ."
ฟริเซียยกมือขึ้นมาจับเข้าที่ไหล่ของมีมี่
“หื้อ..ประเพณีอันดีงามของเผ่าออร์คนั้น มันดีอยู่แล้ว อย่าเปลี่ยนเลยมีมี่ ไหนๆ ข้าก็เข้ามาอยู่ในเผ่าออร์คแล้ว เช่นนั้นก็ทำทุกอย่างตามที่เคยทำเถอะ”
สามสัปดาห์ ยี่สิบเอ็ดวัน..หรือห้าร้อยกว่าชั่วโมง..ในการเข้าหอ นั่นมันช่างเป็นประเพณีอันดีงามที่ควรจะสืบทอดเอาไว้จริงๆ
“เช่นนั้นข้าจะไปบอกท่านผู้นำเองค่ะว่าเลดี้ต้องการทำตามประเพณีของเผ่าออร์ค..อีกเดี๋ยวจะมีสาวใช้เข้ามามอบมงกุฎดอกไม้ให้ เมื่อถึงเวลานั้นเลดี้ค่อยออกไปนะคะ”
ฟริเซียพยักหน้า จากนี้ไปฉันจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของตัวเอง..
ตอนอยู่ที่จักรวรรดิฉันต้องใช้ชีวิตแบบระมัดระวังอยู่เสมอ เพราะกลัวถูกฆาตกรของเกมนี้ฆ่า..แต่ตอนนี้ฉันไม่ต้องทำแบบนั้นแล้ว ฉันสามารถใช้ชีวิตอย่างอิสระอยู่ที่นี่ เป็นภรรยาของหัวหน้าเผ่าสุดหล่อคนนั้น..
จะมีอะไรที่ดีไปมากกว่านี้กันนะ! ลาก่อนชีวิตที่ต้องหนีฆาตกร..ฉันจะไม่กลับไปเป็นเป้านิ่งให้แกฆ่าแล้ว
