บท
ตั้งค่า

ตอนที่4 เจ้าชู้

“ไง” เสียงทักทายของเทวินทร์ดังขึ้นหลังประตูห้องเปิดออก

“ไง” เสียงตอบรับของหญิงสาวผู้เป็นเจ้าห้องของขนาดสามสิบตารางเมตรเหมาะกับการอยู่คนเดียวดังขึ้นด้วยรอยยิ้มก่อนจะหมุนตัวเดินนำเข้าห้องของตัวเองไปพร้อมกับเทวินทร์ที่เดินเข้าห้องไปอย่างคุ้นเคยโดยไม่ลืมปิดประตู

“ยุ่งเหรอ ไม่เห็นติดต่อหากันบ้าง” เทวินทร์เดินไปนั่งโซฟากลางห้องถามหญิงสาวขึ้น

“ปกติเป็นเทไม่ใช่เหรอที่ต้องติดต่อมา” วา หรือ ไอวา ตอบคำถามของเทวินทร์ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มในสิ่งที่มักเป็นตลอดมา

“วาก็พูดซะเราดูแย่เลยนะ” มันก็ไม่ได้เสมอไปหรอกที่เขาเป็นฝ่ายติดต่อหาเธอตลอด เพราะเธอก็มีสิทธิ์ติดต่อหาเขาได้ทุกครั้งที่ต้องการเหมือนกัน ติดต่อเพื่อเจอกันยามต้องการ(ทุกอย่าง)

“ช่วงนี้ลูกค้าเยอะน่ะ ไหนจะงานที่อาจารย์สั่งอีก เลยไม่มีเวลาได้มีอารมณ์เท่าไหร่” ไอวายกยิ้มกับคำพูดของเขาก่อนจะบอกให้เขารู้ว่าช่วงนี้เธอค่อนข้างยุ่งจริง ยุ่งจนแม้แต่เรียนมหาลัยเดียวกันแต่กลับไม่มีโอกาสได้เจอกันในมหาลัยเลยสักครั้งตั้งแต่เปิดเทอมนี้

“ก็บอกแล้วว่าเลี้ยงได้” เทวินทร์พูดสิ่งที่เขาเคยพูดกับเธอไปแล้วหลายครั้ง แต่เธอก็ปฏิเสธตลอด

“รอเป็นเมียเทก่อนแล้วจะให้เลี้ยง แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เพราะฉะนั้นไม่รับเงินจ้ะ” เธอไม่ได้หยิ่งหรอก แต่การมีสัมพันธ์ทางร่างกายกับเขาอย่างไร้สถานะหรือเรียกง่ายๆ ว่ามากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน หากเธอรับเงินของเขาก็ไม่ต่างจากเธอเป็นผู้หญิงของเขา ขายร่างกายให้เขาและต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของเขา

แต่การที่เธอไม่รับเงินนั่นก็เพราะมันคือการแลกเปลี่ยนอย่างเต็มใจ คือความต้องการของเขาและเธอทั้งสองฝ่าย ไม่มีใครเสียเปรียบใคร ไม่มีใครได้เปรียบใคร วินวินกันทั้งคู่ และเธอก็หาเลี้ยงตัวเองได้

“แล้วเมื่อไหร่จะเป็นล่ะ” เทวินทร์ได้ยินแบบนั้นก็ยกยิ้มพร้อมถามอย่างหยอกล้อ

“รอเทอยากหยุดก่อนถึงจะยอม วาไม่อยากคบกับคนเจ้าชู้” ก็เป็นการหยอกล้อกันนั่นแหละเพราะไม่ใช่แค่เขาที่ยังไม่อยากหยุด แต่ตัวเธอเองก็ยังไม่อยากถูกผูกมัดด้วยสถานะด้วยเช่นกัน ที่สำคัญกว่านั้นเขาน่ะเสือผู้หญิงตัวพ่อเลยแหละ

ความรักน่ะมันสวยงาม แต่บางทีมันก็น่ากลัวและทิ้งบาดแผลให้เราอย่างเจ็บแสบ

“โทษเราอีกแล้ว ไม่คิดว่าเราก็เจ้าชู้รอวาหยุดเหรอ” คำกระเซ้าดังขึ้นหยอกล้อกลับไปอย่างแยกไม่ออกเลยว่าพูดจริงหรือพูดเล่น

“ถ้างั้นก็รอไปก่อนนะ อย่าพึ่งท้อล่ะ” เธอรู้ว่าคำพูดของเขามันไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก แต่เธอก็ไม่ได้คาดหวังด้วยเช่นกันเพราะที่เป็นอยู่ตอนนี้ทั้งเขาและเธอก็มีความสุขดี

ต้องการก็เจอกัน สุขสมก็แยกย้ายโดยไม่ต้องผูกมัดด้วยสถานะ แต่ก็ไม่ใช่แค่เรื่องเซ็กซ์อย่างเดียวที่เราพึ่งพากันได้ เรื่องทั่วไปเราก็ช่วยเหลือและพึ่งพากันได้เหมือนเพื่อนคนหนึ่ง และมันก็ดูจะเป็นความสัมพันธ์ที่ดีและยั่งยืนไม่น้อยเพราะเธอกับเขาอยู่ในความสัมพันธ์นี้มาตั้งแต่เข้ามหาลัยปีหนึ่งไม่นาน

คนความคิดเดียวกัน พอได้สบตากันก็เข้าใจได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องพูดอะไรมาก นั่นคือจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของเธอและเขา

“ดื่มอะไรก่อนไหม” เมื่อพูดคุยกันพอหอมปากหอมคอไอวาก็ถามขึ้นเพราะรู้ว่าการมาของเขาวันนี้คืออะไร ความต้องการส่วนใหญ่เวลาเธอกับเขาเจอกัน

“คุ้นเคยขนาดนี้ไม่ต้องบิ้วแล้ว” เทวินทร์พูดด้วยรอยยิ้มและสายตาที่มองเธออย่างรู้กัน และนั่นก็เรียกรอยยิ้มให้กับไอวาได้อย่างง่ายดาย

แต่รอยยิ้มขบขันของเธอก็แปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเย้ายวนในทันทีที่เธอลุกขึ้นนั่งคร่อมเทวินทร์ มือข้างหนึ่งเกาะไหล่แกร่งของเขาไว้มืออีกข้างหนึ่งไล้แผงอกแกร่งจากการใส่ใจดูแลตัวเองอย่างดีของเขาแล้วขยับเข้าไปจูบเขาในทันที

“อืม” เทวินทร์ครางในลำคอกับความเร่าร้อนของไอวาพร้อมกับจูบตอบเธอโดยฝ่ามือใหญ่บีบเคล้นสะโพกกลมของเธอทั้งสองข้างอย่างไม่เบานัก

จ๊วบบ! เสียงแลกจูบของพวกเขาดังขึ้นอย่างไม่ต้องบอกเลยว่าเร่าร้อนแค่ไหนแม้จะพึ่งเริ่ม มือบางไม่ได้อยู่นิ่งเลื่อนสัมผัสกับกระดุมเสื้อเชิ๊ตสีขาวของเขาแล้วปลดออกทีละเม็ดไล่ลงไปด้านล่างจนหมดทุกเม็ดก็ถอดออกโดยมีเขาให้ความร่วมมืออย่างดีจนส่วนบนของเขาเปลือยเปล่าโชว์กล้ามเนื้อเป็นมัดกล้ามท้องเป็นลอนและรอยสักประโยคภาษาอังกฤษที่เหนืออกซ้ายของเขาอย่างมีเสน่ห์

สะโพกกลมของเธอบดเบียดถูไถไปกับแกนกลางของเขาที่เธอสัมผัสได้ถึงการตื่นตัวขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนมันสัมผัสกับร่องรักของเธอผ่านกางเกงตัวสั้นที่ใส่อยู่อย่างไร้ชั้นใน

พรึ่บ! เทวินทร์ลุกขึ้นยกไอวาอุ้มกระเตงหน้าและตรงไปยังห้องนอนของเธออย่างคุ้นเคยวางเธอลงเตียงขนาดห้าฟุตโดยมีเขาทาบทับอยู่และแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม จูบกันอย่างเร่าร้อนอยู่แบบนั้นอีกครู่หนึ่งก็ผละออกถอดเสื้อผ้าของเธอจนพ้นร่างและตามด้วยเสื้อผ้าของเขาและไม่ลืมหยิบกระเป๋าเงินในกระเป๋ากางเกงของตัวเองออกมาพร้อมกับถุงยางอนามัยสามชิ้นที่ใส่เข้าไปใหม่ทุกครั้งหลังใช้หมด มีติดตัวสำหรับเกมสวาททุกนัดเพื่อความปลอดภัยของทั้งสองฝ่ายนั่นเอง

“คงไม่มีเวลามีอารมณ์จริงๆ สินะ พอถึงเวลาฉ่ำเชียว” หลังจากฉีกซองสี่เหลี่ยมสวมใส่เข้าไปยังแกนกายร้อนแล้วแยกขาเรียวออกเห็นความฉ่ำแฉะกลางรอยแยกอดจะหยอกล้อไม่ได้

“ทำไงได้ล่ะ ถูกของคุ้นเคยสะกิดนิดเดียวก็พร้อมติดแล้ว” เธอไม่ได้เขินอายเลยสักนิดเพราะเธอกับเขายิ่งกว่าคุ้นเคยกันจึงยอกย้อนกลับมาด้วยสายตายั่วยวนไม่น้อย

“หึ” และสิ้นคำพูดของเธอก็เป็นอีกครั้งที่ต่างฝ่ายกระโจนหากันราวกับคนอดอยากมาแรมปี

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel