
บทย่อ
ความสัมพันธ์มีหลายรูปแบบ แต่มันจะดีกว่านี้หากเขาบอกเธอตั้งแต่แรกไม่ใช่ตอนที่เธอรักไปแล้ว สุดท้ายก็เป็นเธอที่ผิด ผิดที่เลือกจะรักษาเขาไว้แม้จะไร้สถานะ
ตอนที่1-1 ไม่เคยรู้สึกแบบนี้
ณ ลานประชุมประจำคณะที่เป็นแหล่งรวมตัวของนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจคราคร่ำไปด้วยนักศึกษาปีหนึ่งสำหรับกิจกรรมรับน้อง รุ่นพี่ปีสองที่เป็นผู้ดูแลรับน้อง และรุ่นพี่ปีสามปีสี่บางกลุ่มที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้
กิจกรรมที่ดำเนินมาตั้งแต่เช้าด้วยการเข้าฐานต่างๆ ได้เสร็จสิ้นลงในช่วงบ่ายแก่ๆ ของวันก่อนนักศึกษาปีหนึ่งจะถูกเรียกตัวมานั่งเรียงแถวกันอยู่ในลานประชุมพร้อมกับมีรุ่นพี่ปีสองที่เป็นผู้ดำเนินการต่อเพื่อพบปะพูดคุยกับเรื่องต่างๆ ที่จะต้องทำหลังจากนี้
“เดี๋ยวพี่จะคัดเลือกคนประกวดดาวเดือนคณะ น้องๆ คนไหนสนใจสามารถเสนอตัวเองได้เลยนะคะ และพี่ก็อยากให้พวกเราให้ความร่วมมือกับกิจกรรมของคณะหรือของมหาลัยอย่างเต็มที่...”
“เพราะชีวิตในรั้วมหาลัยไม่ได้มีแค่การเรียน เรายังสามารถสนุกกับเพื่อน รุ่นพี่ แล้วก็กิจกรรมต่างๆ ได้ พี่อยากให้น้องๆ เต็มที่กับชีวิตในรั้วมหาลัยตลอดเวลาสี่ปีหลังจากนี้นะคะ” เสียงรุ่นพี่ปีสองรายหนึ่งพูดกับรุ่นน้องขึ้นถึงอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญที่ต้องทำกันทุกปีทุกคณะนั่นก็คือการคัดเลือกดาวเดือนหน้าใหม่เพื่อส่งเข้าประกวดนั่นเอง
หลังจากสิ้นสุดเสียงของรุ่นพี่ก็เกิดเสียงพูดคุยจอแจของนักศึกษาปีหนึ่งที่เริ่มพูดคุยและหันมองเพื่อนหน้าใหม่ของตัวเองอย่างที่ยังไม่คุ้นหน้าคุ้นตากันเท่าไหร่ แต่ทั้งนี้ก็มีรุ่นพี่ปีสองที่ทำหน้าที่กระจายกันเดินเพื่อเลือกสรรรุ่นน้องด้วยตัวเองอีกแรงเช่นกัน
“ฉันว่าพี่เขาต้องเลือกแกแน่เลยหนูพริม” เสียงกระซิบของนิสาดังขึ้นพูดกับเพื่อนตัวเองอย่างที่คิดไว้ เพื่อนที่มักจะถูกเลือกเป็นตัวแทนในกิจกรรมต่างๆ ประจำตั้งแต่มัธยมต้นจนมัธยมปลายเนื่องจากเพื่อนของเธอเป็นคนสวยมาก เรียนก็ดี ความสามารถก็เด่น
“เพื่อนสวยๆ หุ่นดีๆ มีเยอะไม่น่าจะถึงฉันหรอก อีกอย่างฉันไม่อยากทำอะไรแบบนี้อีกแล้วนะ” พริม หรือ พริมา ขยับหน้าตอบเพื่อนสนิทของตัวเองที่มาเรียนด้วยกันสองคนเบาๆ อย่างกังวลไม่น้อยเหมือนกัน
ไม่ใช่ว่าหลงตัวเองหรอกนะ แต่เพราะที่ผ่านมาเธอมักจะถูกเลือกจากครูหรือรุ่นพี่บ่อยๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ตอนแรกๆ มันก็สนุกดีหรอกนะที่ได้ทำอะไรใหม่ๆ แต่พอได้ทำบ่อยๆ สำหรับเธอแล้วมันเริ่มไม่สนุก ยิ่งคำว่าประกวดดาวเดือนอะไรแบบนี้ด้วยแน่นอนว่าต้องถูกฝากความหวังไว้จากคณะเป็นแน่ เธอรับไม่ไหวหรอก
“แกไม่เคยอยากเป็นตั้งแต่ม.สี่แล้ว แต่เคยหนีได้สักครั้งไหม” นิสาพูดกับเพื่อนถึงอดีตที่ไม่เคยอยากทำอะไรแบบนี้แต่ก็ไม่เคยกล้าปฏิเสธครูอาจารย์
ก็เห็นใจแหละ แต่ทำยังไงได้ในเมื่อหน้าตาเพื่อนเธอมันโดดเด่นดึงดูดให้เป็นตัวเลือกแรกๆ ตลอด
“ฉันคิดคำโกหกไว้แล้ว แกช่วยฉันด้วยนะ”
“น้องคะ” และมันก็ไม่ผิดจากที่นิสาพูดไปเลยสักนิด หลังจากเธอพูดยังไม่ทันจะขาดคำเงารุ่นพี่ที่เดินมาทางนี้ก็หยุดลงตรงหน้าเพื่อนของเธอก่อนจะเรียกขึ้น
“หนูสูงแค่ร้อยห้าสิบห้าเองค่ะ” แล้วคำโกหกของพริมาก็ดังขึ้นด้วยหัวใจที่เต้นโครมครามว่าเขาจะเชื่อไหม เพราะการประกวดแบบนี้ส่วนใหญ่จะมีมาตรฐานความสูงอย่างต่ำก็ร้อยหกสิบขึ้นไป
แม้ว่าส่วนสูงของเธอจะหนึ่งร้อยหกสิบสามเซนติเมตรก็ตาม
“ลองยืนขึ้นสิคะ” รุ่นพี่พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเพราะเธอเล็งรุ่นน้องคนนี้ไว้ตั้งแต่แรกเห็นแล้ว รุ่นน้องที่โดดเด่นตั้งแต่แรกที่รวมตัวกันตั้งแต่เช้า
“.....” พริมาหันไปมองหน้าเพื่อนตัวเองอย่างขอความช่วยเหลือ แต่นิสากลับคิดอะไรไม่ออกในเวลากระชั้นชิดแบบนี้
“พี่เขาพูดว่ายังไงคะ อยากให้น้องๆ ให้ความร่วมมือกับคณะหรือมหาลัย” รุ่นพี่รายนั้นถามเองก่อนจะตอบเองถึงสิ่งที่รุ่นพี่คนข้างหน้าพูดขึ้นเมื่อกี้
“แต่หนูไม่มีความสามารถอะไรเลยนะคะ” เมื่อโกหกรอบแรกไม่สำเร็จคำโกหกรอบที่สองก็ตามมาทันที
“ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องนั้นเดี๋ยวเราคุยกันอีกที ไปค่ะ” ครั้งนี้รุ่นพี่ไม่พูดเปล่าก้มลงมาดึงแขนขาวเนียนของพริมาให้ลุกขึ้นก่อนจะจูงมือเดินไปด้านหน้าแถวที่มีนักศึกษาปี
หนึ่งบางคนที่ถูกเลือกยืนรออยู่แล้ว และพอเธอลุกขึ้นยืนจริงๆ ความจริงก็ปรากฏแล้วว่าเธอไม่ได้สูงร้อยห้าสิบห้าอย่างที่บอกไป
