บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 8 ก่อกบฎ

ไท่จื่อตรัสเรียกเฉินหลินมายังอีกห้องหนึ่ง เพื่อไถ่ถามอาการของต้าหวางที่ทรงเจ็บป่วยในยามนี้ เฉินหลินมาตามรับสั่งของพระองค์ ถวายบังคมต่อพระพักตร์

“เฉินหลิน ฟู่จวินมีอาการแบบนี้นานเท่าไหร่แล้ว” ไท่จื่อตรัสถาม

“ทูลไท่จื่อ ต้าหวางเป็นมาสักพักหนึ่งแล้ว แต่วันนี้ทรงอาการหนักจนเป็นลมครั้งที่สามพระเจ้าค่ะ” เฉินหลินทูลบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“ทำไมไม่บอกข้า” ไท่จื่อตรัสถามด้วยพระสุรเสียงดุดันยิ่งนัก ทำให้เขาหวาดกลัวพระองค์ยิ่งขึ้น

“ต้าหวางมีรับสั่งว่าอย่าบอกใครเด็ดขาด แม้กระทั่งไท่จื่อ” เฉินหลินทูลบอกด้วยความหวาดกลัว

“ข้าผิดเองที่ไม่ได้ดูแลพระองค์อย่างใกล้ชิด” ไท่จื่อตรัสแผ่วเบา

“ไท่จื่ออย่าโทษตัวเองเลยพระเจ้าค่ะ”

“เฉินหลิน เจ้าไปดูแลฟู่จวินให้ดี มีอะไรรีบมารายงานข้าทุกอย่างในแต่ละวัน” ไท่จื่อตรัสจริงจัง

“พระเจ้าค่ะ”

ไท่จื่อประทับนั่งอยู่ในห้องพระอักษรเพียงลำพัง พระองค์มีพระดำริว่าใครกันที่ใส่พระโอสถพิษในพระกระยาหาร หรือจะเป็นแคว้นอื่นที่ส่งคนแฝงตัวเป็นขันที

“ไท่จื่อ หม่อมฉันทำน้ำแกงโสมมาถวายเพคะ” เสียงของซินเซียงทำให้พระองค์หลุดจากภวังค์ทันที

“ขอบใจเจ้ามากซินเซียง” ไท่จื่อตรัสและแย้มพระสรวล ทรงหยิบถ้วยและช้อนมาเสวยเพียงหนึ่งคำ และวางลงในจานรอง ซินเซียงก้าวเดินมาด้านหลังของไท่จื่อนางนวดพระอังสาให้พระองค์ เพราะนางเห็นว่าไท่จื่อมีสีพระพักตร์เป็นกังวล (พระอังสา แผลว่า ไหล่)

“ไท่จื่อ มีเรื่องกลุ้มพระทัย ทรงเล่าให้หม่อมฉันฟังได้ไหมเพคะ” ซินเซียงทูลถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่ทว่าไท่จื่อถอนพระทัยยาวๆ

“ซินเซียง ต้าหวางพระประชวรหนัก” ไท่จื่อตรัสด้วยพระเสียงเป็นกังวล

“ไท่จื่อต้องเข้มแข็งนะเพคะ พระองค์ต้องดูแลราชกิจเป็นอันมาก หม่อมฉันเป็นห่วงพระอนามัยของพระองค์” ซินเซียงทูลบอกด้วยรอยยิ้ม ไท่จื่อหันพระพักตร์มามองหน้านางที่แย้มยิ้มให้พระองค์

“ขอบใจเจ้ามากนะ”

เมื่ออรุณรุ่งมาเยือนไท่จื่อเสด็จไปยังห้องพระบรรทมของต้าหวาง ก่อนที่พระองค์จะเสด็จเข้าท้องพระโรงเพื่อประชุมกับเหล่าขุนนาง พระองค์ทอดพระเนตรต้าหวางที่ทรงรับพระโอสถจากเฉินหลินขึ้นมาเสวยช้าๆ

“ฟู่จวิน” ไท่จื่อตรัสเรียกพระองค์ หลังจากถวายบังคมเสร็จสิ้น ต้าหวางจึงหันพระพักตร์มาทางไท่จื่อ

“เทียนหมิงมานั่งข้างข้าหน่อย” ต้าหวางตรัสเช่นนี้ พระองค์เสด็จมาประทับนั่งบนเก้าอี้ ที่เฉินหลินเตรียมให้

“ฟู่จวินดีขึ้นรึยังพระเจ้าค่ะ” ไท่จื่อตรัสถามด้วยพระสุรเสียงเป็นห่วง

“ยังปวดหัวอยู่ วันนี้ข้าอยากให้เจ้าว่าราชการแทน” ต้าหวางตรัสด้วยพระสุรเสียงจริงจัง

“ฟู่จวินวันนี้หยุดก่อนหนึ่งวันก่อน รอให้พระองค์หายดีก่อนเถิดพระเจ้าค่ะ”

“เทียนหมิง เรื่องของราษฎรจะหยุดไม่ได้ ข้ารู้เจ้าทำหน้าที่นี้ได้ดีว่าใครๆ”

“กระหม่อมน้อมรับพระบัญชา”

ไท่จื่อเสด็จเข้ามายังท้องพระโรง เหล่าขุนนางถวายบังคมพระองค์โดยพร้อมเพรียงกัน ไท่จื่อเสด็จมาประทับยืนข้างบัลลังก์เช่นทุกวัน เหล่าขุนนางกลับแปลกใจเป็นอันมาก เพราะไท่จื่อจะเสด็จพร้อมกับต้าหวางเช่นทุกวัน

“ทูลไท่จื่อ ต้าหวางทรงไม่ว่าราชการหรือพระเจ้าค่ะ” ขุนนางชั้นสูงผู้หนึ่งทูลถามด้วยความสงสัย

“ต้าหวาง ให้ข้ามาเป็นตัวแทนว่าราชการพระองค์ ขณะที่ทรงประชวรอยู่” ไท่จื่อตรัสเรียบเฉย

หลังจากไท่จื่อตรัสจบแล้ว นั้นขุนนางเริ่มการกราบทูลรายงานสำคัญเรื่องบ้านเมืองปากท้องของทวยราษฎรเช่นทุกวัน

ไท่จื่อเสด็จกลับมาจากท้องพระโรง เสด็จเข้ามาทางด้านในพระตำหนักในส่วนห้องพระบรรทม ต้าหวางทอดพระเนตรไท่จื่อที่เสด็จเข้ามาภายในห้องพระบรรทม

“เจ้าทำได้ดีมาก เทียนหมิง” ต้าหวางตรัสชื่นชมพระองค์ทันที

“ฟู่จวิน ทรงสดับที่หม่อมฉันกล่าวกับเหล่าขุนนางหรือพระเจ้าค่ะ” ต้าหวางตรัสถามและแย้มพระสรวล

“ข้ายังไม่อยากนอน จึงฟังเจ้าพูด”

“พักผ่อนเถอะพระเจ้าค่ะ”

“อืม” ต้าหวางตรัสสั้นๆ เพียงเท่านี้

“ทูลลาพระเจ้าค่ะ” ไท่จื่อตรัสและถวายบังคม แล้วจึงเสด็จออกจากตำหนัก

พอไท่จื่อทรงเสด็จพ้นตำหนัก ต้าหวางทรงไอออกมาเป็นพระโลหิตใส่ผ้าเช็ดหน้า เฉินหลินให้นางกำนัลไปตามหมอหลวงเฉินมาทันที

ขณะที่ไท่จื่อเสด็จผ่านระเบียงคดออกมาจากตำหนักเพื่อเสด็จมาขึ้นรถม้า กับจางซื่อขันทีของตำหนักต้าหวางวิ่งมาหาพระองค์ทันที

“ไท่จื่อ ต้าหวางทรงอาการทรุดลงพระเจ้าค่ะ”

“หวางเย่ให้เข้าวังด่วน”

ห้องบรรทม ไท่หวังกง ต้าหวางทรงประทับนอนบนพระแท่นไท่จื่อทรงนั่งประทับเคียงข้างอีกทั้งทรงจับพระหัตถ์ต้าหวางไว้

“เทียนหมิง ข้ามีเวลาไม่มากนัก จงปกครองแคว้นให้ยิ่งใหญ่กว่าข้า รวบรวมแผ่นดินเป็นหนึ่งเดียว เจ้าอย่าให้ข้าผิดหวังเป็นอันขาด”

“ฟู่จวินต้องหายประชวร” ไท่จื่อตรัสจริงจัง

“ข้ารู้เวลาของข้า รับปากข้านะ ต้องดูแลบ้านเมืองให้สงบสุข” ต้าหวางตรัสแผ่วเบาด้วยความเจ็บปวดพระวรกาย

“หม่อมฉันสัญญาหม่อมฉันพระเจ้าค่ะ” ไท่จื่อตรัสหนักแน่น ต้าหวางทรงยกพระหัตถ์ขึ้น เหมือนจะไขว่คว้าสิ่งใดอย่างนั้น ไม่ช้าพระหัตถ์ก็ร่วงหล่นบนพระแท่น

“ฟู่จวิน!!!!”

“เกาหลงต้าหวางสวรรคตแล้ว” เฉินหลินตะโกนออกมาประกาศต่อหน้าขุนนางทั้งน้ำตา ทุกคนในที่นั้นต่างร้องได้กันระงมกับการจากไปของต้าหวางที่ไม่มีวันกลับ แต่ว่ากลับมีพระสุรเสียงที่ทำให้เหล่าขุนนางทุกคนแตกตื่น

“ทหารล้อมตำหนัก” เกาเสียงหวางเย่ตรัสด้วยพระสุรเสียงดุดัน มีแต่ทหารของเกาเสียงหวางเย่เป็นทหารใต้อาณัติของพระองค์ ทหารเหล่านั้นขึ้นสายธนูเช่นกัน ทำให้เหล่าขุนนางในท้องพระโรงแตกตื่นยิ่งนัก

“เกอเกอท่านจะทำอะไร กบฏหรือ” เกาอวี้หวางเย่ตรัสด้วยความตกพระทัย

“ทหารทุกคนประจำที่ ยิง!!!!” เกาเสียงหวางเย่มีพระบัญชากับเหล่าทการของพระองค์โดยทันที

ลูกธนูพุ่งโดนไปที่เหล่าขันที และเหล่าขุนนาง บางคนตาย บางคนบาดเจ็บหนีเอาตัวรอด ทหารส่วนหนึ่งของต้าหวางพาไท่จื่อกับเกาอวี้หวางเย่ ทหารที่เอาตัวเป็นเกราะกำบัง ทุกคนล้วนตายหมด

“พระศพยังอุ่นๆ อยู่ เลยเจ้าคิดกบฏแล้วหรือ” ไท่จื่อตรัสถามด้วยพระสุรเสียงดุดัน ทหารของต้าหวางส่วนหนึ่งวิ่งเข้ามาในท้องพระโรงเป็นจำนวนมาก ยิงไปที่ทหารของเกาเสียงหวางเย่

จนกระทั่งเหลือแต่เกาเสียงหวางเย่เพียงผู้เดียวที่ประทับยืนอยู่ ทหารของต้าหวางนำขุนนางออกจากท้องพระโรงทันที ทหารสองคนจับเกาเสียงหวางเย่นั่งคุกเข่าลงต้องพระพักตร์ของไท่จื่อ

“เกอเกอท่านทำเช่นนี้ได้อย่างไร” เกาอวี้หวางเย่ตรัสถามด้วยความพิโรธยิ่งนัก (เกอเกอ แปลว่า พี่ชาย)

“ข้าต้องเป็นต้าหวาง ชัดเจนไหมเกาอวี้” เกาเสียงหวางเย่ตรัสด้วยพระสุรเสียงหนักแน่น

“เกาเสียง ข้าไม่เคยคิดจะฆ่าตี๋ติของตนเอง ข้าอยากให้เจ้าเป็นตี๋ติที่ข้ารักตลอดไป แต่ข้าจำเป็นต้องเนรเทศเจ้าไปอยู่ลั่วหนาน และให้ทหารอยู่ล้อมตำหนักเอาไว้” ไท่จื่อตรัสรับสั่งด้วยพระสุรเสียงที่เด็ดขาด (ตี๋ติ แปลว่าน้องชาย)

“เกอเกอทำกับข้าแบบนี้ไม่ได้นะ เกอเกอ” เกาเสียงหวางเย่ตรัสดังลั่น ขณะที่ทหารรั้งพระองค์ไว้ ไท่จื่อทรงหันหลังทันทีหลั่งพระอัสสุชลออกมาจากพระเนตร (พระอัสสุชล แปลว่า น้ำตา)

“เอาตัวออกไป” ไท่จื่อมีพระกระแสรับสั่งเช่นนี้ ทหารของพระองค์นำเกาเสียงหวางเย่ออกจากท้องพระโรงไปทันที ขณะที่สดับเสียงหวางเย่ที่ร้องตะโกนให้ปล่อยพระองค์

เทียนหมิงไท่จื่อกับเกาอวี้หวางเย่นำพระศพของเกาหลงต้าหวางมาฝังที่สุสานหลวงที่อยู่บนภูเขา ทอดมองไปทางด้านหลังเป็นภูเขา ทางด้านหน้าเป็นแม่น้ำ พระองค์ตั้งแท่นสักการะอดีตต้าหวาง รวมถึงเหล่าขันทีเหล่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่ มาเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก

“ฟู่จวินไม่ต้องห่วงในสิ่งที่พระองค์ตรัสว้กับหม่อมฉัน หม่อมฉันสัญญา ดูแลใต้หล้าให้ร่มเย็นเป็นสุขอย่างที่พระองค์มีรับสั่งกับหม่อมฉันไว้ ส่วนเกาเสียงกระหม่อมไม่ได้ประหารเขาแต่อย่างใด กระหม่อมจำเป็นต้องกักบริเวณตลอดชีวิต ขอพระองค์จงไปสู่สุคติ” เทียนหมิงไท่จื่อตรัสต่อแท่นบูชา

“กระหม่อมจะช่วยเกอเกอดูแลทุกข์สุขของใต้หล้าด้วยความซื่อสัตย์” หวางเย่ทูลต่อไท่จื่อ

“กลับเถอะฝนใกล้ตกแล้ว” หวางเย่ทูลบอก ไท่จื่อพยักพระพักตร์ แล้วลุกขึ้นไปพร้อมกับหวางเย่

ภายในไท่หวังกง ห้องพระบรรทมบัดนี้เป็นของไท่จื่อ พระองค์มาประทับก่อนครองราชย์สามวันมานี้ ในขณะเดียวกันซินเฟยจัดฉลองพระองค์ให้พระองค์หน้าคันฉ่อง

“ต่อไปนี้อยู่ที่ตำหนักนี้กับข้านะ” ไท่จื่อตรัสกับนาง นางรับเสื้อคลุมลายมังกรจากนางกำนัล คลุมพระอังสาให้พระองค์ทั้งสองข้าง ไท่จื่อโบกพระหัตถ์ไล่นางกำนัลและจางซื่อทันที เหล่าข้าหลวงออกไปทั้งหมด มีเพียงพระองค์กันซินเฟยอยู่กันตามลำพัง ไท่จื่อดึงนางเข้ามาสวมกอดทันที

“ถึงเวลาแล้วเพคะ” นางเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเอียงอาย ไท่จื่อประทับพระโอษฐ์ที่หน้าผากนางแผ่วเบา

“ข้าไปแล้ว ไปเจอกันที่ท้องพระโรง” ไท่จื่อตรัสอ่อนโยน แล้วเสด็จออกไปทันที โดยมีเหล่าข้าหลวงส่วนหนึ่งที่อยู่หน้าพระตำหนักไปพร้อมกับพระองค์

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel