ตอนที่ 9 ลูกของข้า!!!
วันนี้ต้าหวางตื่นบรรทมเช้าตรู่เช่นทุกวัน เสด็จมาประทับที่คันฉ่อง ขณะที่เหล่าขันทีแต่งฉลองพระองค์ให้ทุกวัน จางซื่อถวายถ้วยที่มีพระสุธารสชาให้พระองค์เสวยเป็นประจำ ต้าหวางยกถ้วยพระสุธารสชาขึ้นมา แต่ทว่าพระองค์กลับทรงอาเจียนหลายรอบตั้งแต่เช้าได้ ทั้งที่พระองค์แข็งแรง ไม่เคยทรงเจ็บไข้
“จางซื่อเจ้าเอาออกไปข้าเวียนหัวไปหมดแล้ว” ต้าหวางตรัสเช่นนี้ แล้วหันไปหาพระกระโถนทรงอาเจียนออกมาทันที ทำให้เหล่าข้าหลวงแตกตื่นยิ่งนัก
“จูหม่ง ไปตามหมอหวงมา” จางซื่อบอกขันทีในสังกัดของตัวเอง จูหม่งออกไปจากพระตำหนักทันที
ซินกุ้ยเฟยตื่นบรรทมลุกขึ้นประทับนั่ง เสด็จจากแท่นบรรทมเชื่องช้าซีเหนียงนำเสื้อผาวสีขาวสะอาดคลุมพระวรกายทันที ขณะที่พระนางเสด็จออกจากพระวิสูตร ทอดพระเนตรต้าหวางด้วยทรงตกพระทัยที่ต้าหวางทรงพระอาเจียน
“ต้าหวางเป็นอะไรรึเปล่าเพคะ” พระนางตรัสถามประคองพระองค์มาประทับนั่งบนตั่ง ต้าหวางเอียงพระวรกายอิงพระเขนย ขณะที่หมอหลวงเฉียงเฉียงรีบวิ่งมาดูพระอาการของพระองค์ เขาไม่ลืมที่ถวายบังคมต้าหวาง และซินกุ้ยเฟย
“ถวายบังคมต้าหวาง ถวายบังคมกุ้ยเฟย” หมอหลวงทูลบอก
“ไม่ต้องมากพิธี เจ้าดูอาการของข้าเป็นเช่นไร” ต้าหวางตรัสเช่นนี้ และยื่นพระหัตถ์ให้จับพระชีพจร
“ต้าหวาง พระองค์พระอาการเป็นเช่นไรบ้างพระเจ้าค่ะ” หมอเฉียงเฉียงทูลถาม
“ข้าไม่รู้ว่าเป็นอะไร รู้สึกคลื่นไส้แต่เช้า เมื่อได้กลิ่นน้ำชา” ต้าหวางตรัส
“ต้าหวาง พระองค์ไม่มีสิ่งใดผิดปกติพระเจ้าค่ะ อาจจะบรรทมไม่มากพอก็เป็นได้พระเจ้าค่ะ” หมอเฉียงทูลบอก
“หมอเฉียงช่วยตรวจดูสนมซินกุ้ยเฟยด้วยเถิด ข้ามีข้อคล่องใจว่าต้าหวางอาจจะแพ้พระครรภ์แทนสนมกุ้ยเฟยหรือไม่” จางซื่อเอ่ยบอกกับหมอหลวง ต้าหวางพยักพระพักตร์
“กระหม่อมขออนุญาตซินกุ้ยเฟย” หมอหวงทูลบอก พระนางพยักพระพักตร์ ผู้ช่วยหมอหวงนำเส้นไหมสีขาวให้ซีเหนียง นางจึงส่งให้พระสนมกุ้ยเฟย พระนางจับปลายเส้นไหมขาว ไม่นานนักหมอหลวงเผยรอยยิ้มออกมาทันที
“กุ้ยเฟยเป็นอย่างไงบ้าง” ต้าหวางตรัสถามด้วยความสงสัย ทอดพระเนตรเห็นว่าเขานั้นยิ้มกว้างยิ่งนัก
“ทูลต้าหวาง ซินกุ้ยเฟยทรงพระครรภ์ หม่อมฉันคิดว่าน่าจะสามสัปดาห์แล้วพระเจ้าค่ะ” หมอหลวงทูลด้วยความดีใจ และถวายบังคมต้าหวางและกุ้ยเฟยทันที เหล่าข้าหลวงในตำหนักต่างดีใจและยิ้มให้กันและกัน
“จริงหรือ ซินเซียงข้ามีลูกกับเจ้าแล้ว ข้าดีใจเหลือเกิน" ต้าหวางตรัสด้วยทรงดีพระทัยยิ่งนัก แล้วดึงพระนางมาเข้ามากอด จางซื่อและเหล่าข้าหลวงในตำหนักออกไปทั้งหมดทันที
“เพคะ ต้าหวาง” พระนางตรัสด้วยความดีพระทัย จนหลั่งพระอัสสุชลออกมาด้วยความปีติยินดียิ่งนัก ต้าหวางแย้มพระสรวลกว้าง ใช้พระหัตถ์ลูบไปที่พระอุทรที่แบนราบ พระนางจึงตีพระหัตถ์ของต้าหวางทันที (พระอัสสุชล แปลว่า น้ำตา / พระอุทร แปลว่า ท้อง)
“เทียนหมิง ลูกยังไม่ดิ้นสักหน่อย พึ่งจะสามสัปดาห์เอง” พระนางตรัสแผ่วเบา
“ข้าสัมผัสได้ถึงลูกของเราได้” ต้าหวางตรัสจริงจัง และใช้พระหัตถ์ลูบเบาๆ ที่พระอุทรอีกครั้ง อีกทั้งยังก้มลง ใช้พระกรรณแนบชิดที่พระอุทรอีกด้วย
“ต้าหวางไปว่าราชการเถอะเพคะ หม่อมฉันจะไปอาบน้ำแล้ว” พระนางทูลบอก ต้าหวางเงยพระพักตร์ขึ้นมาทอดพระเนตรพระนางและแย้มพระสรวล
“ข้าไปก่อนนะ” ต้าหวางตรัสอ่อนโยน ประทับพระโอษฐ์ที่พระนลาฏแผ่วเบาด้วยความรักต่อพระนาง แล้วเสด็จออกจากพระตำหนัก ทอดพระเนตรข้าหลวง และเหล่าขันทีที่ยืนรอพระองค์อยู่
“ดูแลซินกุ้ยเฟยให้ดีๆ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นข้าจะไม่ไว้ชีวิตพวกเจ้าแน่” ต้าหวางมีพระราชกระแสรับสั่งจริงจังยิ่งนัก
“พระเจ้าค่ะ/เพคะ”
“เจ้าว่าอะไรนะ!!! ซินเซียงท้องหรือ”
หวังหวางโฮ่วตรัสด้วยความตกพระทัย ขณะที่นางสนองพระโอษฐ์ทูลบอกพระนางด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เพคะ หวางโฮ่ว” หลิวจินทูลบอก
“ไม่ได้ ถ้าลูกคนแรกของนางเป็นชายจะต้องได้เป็นไท่จื่อแน่นอน” พระนางตรัสด้วยพระสุรเสียงเป็นกังวล และกลัดกลุ้มพระทัยยิ่งนัก จนเสด็จตั่งที่ประทับ เสด็จวนไป เสด็จวนมา อีกทั้งยังกัดพระนขาด้วย (พระนขา แปลว่า เล็บ)
“หวางโฮ่วเพคะ ถ้าลูกนางตาย” หลิวจินทูลบอก
“ใช่ ถ้าลูกนางตาย” หวางโฮ่วตรัสจริงจัง แย้มพระโอษฐ์ราวกับทรงมีแผนร้าย แล้วพระโยนกิ่งกุ้ยฮัวลงในคบไฟทันที
บัดนี้ซินกุ้ยเฟยตั้งพระครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว ทำให้พระอุทรนูนเด่นเห็นได้ชัด เมื่อว่างจากราชการต้าหวางจะรีบเสด็จมาหาพระนางโดยทันที ทุกคนในตำหนักต่างมีความสุข ทุกคนได้เห็นอีกด้านของต้าหวางที่เย็นชามาโดยตลอด ตั้งแต่พระนางกุ้ยเฟยแต่งเข้ามาในตงกง จนถึงบัดนี้พระองค์ช่างอ่อนโยนยิ่งนัก
“กุ้ยเฟยเพคะ ยาบำรุงพระครรภ์เพคะ” ซีเหนียงทูลบอก ขณะที่ถวายพระโอสถให้พระนางเช่นทุกวัน พระนางทรงรับ และยกสวยพระโอสถ จนหมดถ้วย พระนางส่งถ้วยให้ซีเหนียง พระนางทรงรู้สึกถึงกลิ่นเลือด จึงก้มดู ทอดพระเนตรพระโลหิตที่ไหลออกมาจากพระโยนี ทำให้พระนางตกพระทัยเป็นอันมาก
“ไม่!!! ลูกแม่”
พระนางตรัสด้วยทรงตกพระทัย ทำให้พระนางสิ้นพระสติโดยทันที ซ่งเมิ่งที่ตกใจเช่นเดียวกับพระนาง แต่ก็เข้ามาประคองพระขนอนให้พระนางประทับนอนลงบนตั่งบรรทม
“รีบไปตามหมอเฉียงมา และไปทูลต้าหวางด้วยไป!!!” ซ่งเมิ่งบอกด้วยน้ำเสียงดุดันทั้งน้ำตา ซีเหนียงเองก็ร้องไห้ข้างพระนางไม่ออกไปไหน
ตำหนักไท่หวัง ต้าหวางกำลังประชุมกับเหล่าขุนนางกำลังถกปัญหาบ้านเมืองให้พระองค์สดับ นางกำนัลจากตำหนักของพระองค์วิ่งเข้ามา วิ่งมากระซิบข้างหูจางซื่อที่ยืนข้างพระที่นั่งของต้าหวาง
“กงกงเจ้าคะ กุ้ยเฟยตกพระโลหิต” นางกำนัลเอ่ยบอกเช่นนี้ จางซื่อมีสีหน้าที่ดูแตกตื่น และกระซิบข้างพระกรรณของต้าหวาง (พระกรรณ แปลว่า หู)
“ต้าหวาง กุ้ยเฟยตกพระโลหิตพระเจ้าค่ะ” จางซื่อทูลบอกเพียงเท่านี้ ต้าหวางมีพระพักตร์ที่ตื่นตกพระทัยเป็นอันมาก พระองค์ทรงลุกขึ้นจากพระที่นั่ง ทรงวิ่งออกจากท้องพระโรงพร้อมด้วยจางซื่อและขันทีส่วนหนึ่งในสังกัดของจางซื่อ ขุนนางในท้องพระโรงต่างงวยงงตามๆ กัน
“ซ่งเมิ่งเกิดอะไรขึ้น!!!”
ต้าหวางตรัสถามด้วยพระสุรเสียงที่ดุดัน ผู้คนมองพระพักตร์ไม่ติด เมื่อเสด็จมาถึงแท่นบรรทมของพระองค์ โดยมีหมอเฉียงยืนอยู่ที่ข้างพระแท่น
“ซินกุ้ยเฟยได้เสวยหงฮวาจนมากเกินไป ทำให้ตกพระโลหิต จนทำให้ทรงแท้งพระเจ้าค่ะ” หมอเฉียงทูลรายงานพระองค์ (หงฮวา แปลว่า ดอกคำฝอย)
“ซ่งเมิ่งใครยกยาบำรุงให้ซินเซียงดื่ม” ต้าหวางตรัสด้วยพระสุรเสียงดุดัน ทอดพระเนตรมองซ่งเมิ่งที่คุกเข่าลงที่พื้นอยู่แล้ว
“ทูลต้าหวาง ซีเหนียงเป็นคนยกยาบำรุงให้ซินกุ้ยเฟยเสวยทุกวันพระเจ้าค่ะ” ซ่งเมิ่งทูลบอกด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว ซ่งเมิ่งดูแลกุ้ยเฟยนั้นก็จริงอยู่ แต่เรื่องพระโอสถบำรุงพระครรภ์ นางเป็นคนยกพระโอรสให้พระนางเสวยในทุกวัน เนื่องด้วยนางเป็นคนขอถวายงานในเรื่องนี้เองมาตลอดหกเดือนที่ผ่านมา
ต้าหวางและเหล่าข้าหลวงในตำหนักต่างมองไปที่ซีเหนียง นางกับทำท่าทางลุกลี้ลุกลน หมายจะหนีออกจากตำหนัก ขันทีสองคนกลับจับตัวนางไว้ก่อน และแตะเข่าให้นางคุกเข่าต่อพระพักตร์ของต้าหวาง
“ซีเหนียงใครบงการเรื่องนี้!!!!” ต้าหวางตรัสด้วยพระสุรเสียงที่ดุดันอย่างยิ่ง เหล่าข้าหลวงในตำหนักต่างขนลุกกันไปตามๆ กัน
“ไม่มีเพคะ หม่อมฉันด้วยตัวเอง” ซีเหนียงทูลด้วยน้ำเสียงจริงจัง ไม่เกรงกลัวพระองค์แต่อย่างใด แล้วนางก็กลืนยาพิษที่อยู่ที่กระพุ้งแก้มนางลงคอ ทันใดนั้นซีเหนียงสิ้นใจทันที หมอหลวงตรวจดูและทูลต่อต้าหวาง
“ต้าหวางนางตายแล้วพระเจ้าค่ะ” หมอหลวงทูลบอก ในขณะเดียวกันกุ้ยเฟยลืมพระเนตรขึ้น ทรงแตกตื่นยิ่งนักแล้วลูบพระอุทร และกอดพระอุทรเอาไว้ บัดนี้แบนราบเสียแล้ว ทำให้พระนางทรงกันแสงออกมาอย่างหนักราวกับคนเสียสติ (พระอุทร แปลว่า ท้อง / ทรงกันแสง แปลว่า ร้องไห้)
“ต้าหวางลูกหม่อมฉันไปไหน เทียงหมิงลูกข้า ลูกของเราไปไหน พระองค์ทรงตอบหม่อมฉันสิเพคะ ลูกของเราไปไหน” พระนางตรัสด้วยความเสียพระทัยอย่างมาก ต้าหวางกอดพระวรกายของพระนางโดยทันที และกันแสงออกมาด้วยเช่นกัน
“ซินเซียงลูกเราสิ้นแล้ว” ต้าหวางตรัสแผ่วเบา จางซื่อ และซ่งเมิ่งต่างก็น้ำตาเอ่อล้นออกมาเช่นเดียวกัน
“เทียนหมิง ท่านหลอกข้าใช่หรือไม่ ลูกข้าไปไหนซ่งเมิ่งเจ้าเอาลูกข้าไปซ้อนที่ไหน เอาลูกข้าคืนมา” พระนางตรัสทั้งที่ยังทรงกันแสงอยู่ อีกทั้งยังทุบพระอุระของต้าหวางด้วย ซ่งเมิ่งจะจับพระหัตถ์เรียวออก แต่ต้าหวางยกพระหัตถ์ขึ้น พระองค์ต้องการให้พระนางระบายพระอารมณ์ที่เสียพระทัยออกมา
“ซินเซียงเขายังไม่ใช่ลูกของเรา เจ้าอย่าเสียใจไปเลยนะ” ต้าหวางตรัสด้วยพระสุรเสียงแผ่วเบา ทั้งที่ในพระทัยแทบแตกสลาย ต้าหวางจับพระหัตถ์เรียวของพระนางมาโอบกอดพระนางกอดพระองค์ด้วยความเสียพระทัยอย่างมากถึงมากที่สุด
แม่จะแก้แค้นให้เจ้า แม่จะแก้แค้นที่ให้เจ้าไม่ได้ลืมตาดูโลก
