บท
ตั้งค่า

2.1 เหยื่อ

“ว่าแต่พวกมึงเถอะ ช่วงนี้เป็นไงบ้าง?”

เป็นแทนไทที่ถามขึ้นมาเมื่อสามหนุ่มโฉดนั่งคุยนั่งดื่มกันอยู่พักใหญ่ คุยกันทั้งเรื่องงานและเรื่องสัพเพเหระ ด้วยเพราะช่วงนี้ต่างคนก็ต่างทำงานของใครของมันเลยทำให้ไม่ค่อยได้มีเวลามาเจอกันเหมือนเมื่อก่อน มาได้เจอก็อยากจะถามสารทุกข์สุขดิบของเพื่อนบ้าง

“แย่ว่ะ ช่วงนี้แม่งสาวแก่แม่หม้ายเขาหายไปไหนกันหมดวะ?” เคลวินส่ายหน้า “วันก่อนกูเสียค่าเปิดไวน์ไปสองหมื่น เกือบถึงเตียงอยู่แล้วเชียว ผัวโทรเรียกนางกลับบ้าน กูแอบตามไปดู ไอ้ฉิบหาย! ที่พูดว่ามีเยอะมีแยะ หลอกกูทั้งนั้น!”

“ก็กูบอกแล้วว่าจะลงทุนกับใครให้หาข้อมูลก่อน มึงดูไอ้ปี…ข้อมูลมันแน่น มันเลยฟันได้เงินมามากแบบนี้ไง” แทนไทว่าพลางเผยรอยยิ้ม ในกลุ่มพวกเขาสามคน คนที่มีฝีมือมากที่สุดคือปีแสง รองลงมาคือเขา ส่วนเคลวินนั้น…จัดว่าเป็นคนที่ห่วยที่สุด ที่จริงเขาไม่ควรเอาดีทางด้านนี้เลยด้วยซ้ำ

“เออ ๆ ทีหลังกูจะทำการบ้านเยอะ ๆ”

“แต่กูคิดว่าจะวางมือแล้วว่ะ”

“ทำไม?” ได้ยินแทนไทพูดแบบนั้นปีแสงก็ถามขึ้นมาทันที “อย่าบอกนะว่าเสือกมารู้สึกผิดเอาตอนนี้?”

“ไอ้เรื่องรู้สึกผิดมันก็อีกเรื่อง แต่กูไม่อยากให้ที่บ้านต้องมาซวยเพราะกู แล้วก็ไม่อยากให้แทนใจมาทำเรื่องพวกนี้แล้ว กูพอจะมีเงินเก็บอยู่…ว่าจะหาเซ้งบาร์สักที่ ยังไงเราก็ทำงานแบบนี้ไปตลอดไม่ได้อยู่แล้วนี่”

“กูเอาด้วย คิด ๆ ดูแล้วกูแม่งไม่เหมาะกับงานนี้เลยว่ะ ไอ้เวร…ทำมาตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ จนถึงตอนนี้กูยังไม่เงินตั้งตัวเลย ถ้ามึงจะเปิดบาร์กูหุ้นด้วยนะไอ้แทน” เคลวินเห็นดีเห็นงามกับแทนไท

“ไหนว่าไม่มีเงินเก็บ? แล้วมึงจะเอาเงินที่ไหนมาหุ้นกับกู?”

“ก็เงินที่บ้านไง”

“จะกลับบ้านไปขอเงินพ่อเหรอวะไอ้คุณชายเคล?”

“ครับไอ้กระจอก!”

“ต้องอิจฉาไหมที่มึงเกิดมามีพ่อรวย?”

“อิจฉาก็ดี ช่วยอิจฉากูหน่อย ว่าแต่มึงมองแถวไหนไว้? จะเปิดบาร์แม่งต้องมีเงินไว้ให้พวกเจ้าถิ่นด้วยใช่ไหม?”

“อืม มันก็ต้องจ่ายอยู่แล้ว…แต่กูมองย่านนี้ไว้ เพราะอย่างที่เรารู้กันว่าในบรรดาเจ้าถิ่น…ลูเซียโนแฟร์ที่สุดแล้ว แถมอำนาจก็ล้นมือของจริง” ลูเซียโนคือนามสกุลของแก๊งผู้มีอำนาจที่ตั้งตัวเป็นเจ้าถิ่นคอยดูแลผู้ประกอบการคลับบาร์ในย่านนี้ คอยเคลียร์กับตำรวจรวมถึงปกป้องยามมีภัย หัวหน้าแก๊งก็คือเพทาย มาเฟียใหญ่ที่มีเชื้อสายอิตาลี สืบทอดอำนาจจากวาดิมผู้เป็นพ่อ และรอยส์มาเฟียที่ย้ายถิ่นฐานมาจากอิตาลีซึ่งเป็นปู่ของเขา

“เออ แบบนั้นก็ดีเลย…จ่ายให้ลูเซียโนยังดีกว่าไปจ่ายให้แก๊งอื่น เท่าที่กูรู้มา…ลูเซียโนเป็นแก๊งที่มั่นใจได้ว่าไม่ยุ่งกับยา กูเกลียดพวกค้ายาว่ะเอาตรง ๆ แม่งมีของให้ขายเยอะแยะเต็มไปหมด ทำไมต้องขายยาไม่เข้าใจ” เควลินพยักหน้าเห็นด้วยกับแทนไท “แต่ว่านะ ต่อให้ไม่ยุ่งกับยา…ลูเซียโนเนี่ย โหดของจริงเลยว่ะ พวกไอ้ไนท์มันบอกกูว่าคุณเพทายหัวหน้าแก๊งแม่งฆ่าคนไม่กะพริบตาด้วยซ้ำ”

“ก็ถ้าไม่อยากตายเราก็แค่มีสร้างปัญหา แล้วมึงอะไอ้ปี…จะมาหุ้นบาร์กับกูไหม?” แทนไทหันมาถามปีแสงที่นั่งนิ่งเงียบ ดูเหมือนว่าเขาเป็นคนเดียวที่ไม่คิดจะวางมือจากวงการนี้

“คิดว่าไม่ กูไม่อยากทำธุรกิจ แล้วตอนนี้งานของกูก็ไปได้สวยอยู่ เดี๋ยวมา…ออกไปสูบบุหรี่แป๊บ” ว่าแล้วก็ลุกออกมาจากโต๊ะ ล้วงหยิบบุหรี่ออกจากซองมาคีบไว้ที่ปากพร้อมกับผลักประตูไม้บานใหญ่ของบาร์ออกมา เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่หญิงสาวจากหน้าบาร์ก้าวเท้าเข้ามาพอดี ชนเข้ากับแผงอกของเขาอย่างจัง

“อ๊ะ!” คนตัวเล็กส่งเสียงร้องด้วยความตกใจ เธอเสียหลักที่ชนเข้ากับคนตัวโตเกือบจะล้มที่อยู่ที่พื้น แต่เขาเร็วมาก…คว้าเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนได้ในเวลา

“ระวังหน่อย…” ปีแสงทำเสียงเข้ม นิ่วหน้าอย่างไม่พอใจนัก เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ ทว่าพอได้ก้มลงมองหน้าคนที่อยู่อ้อมแขนน้ำเสียงของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที “เจ็บไหมครับ?”

“มะ…ไม่ หนู…เอ่อ…ฉันไม่เจ็บค่ะ ขอบคุณค่ะ” คนตัวเล็กรีบผละตัวออกจากอ้อมกอด เอ่ยคำขอบคุณอย่างเร่งรีบแล้วเบี่ยงตัวเดินผ่านประตูบาร์เข้าไปด้านใน ไปยืนเก้กังอยู่ที่กลางบาร์

“หึ!” ยอดนักตุ๋นมองตามเธอไป ไล่สายตามองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า มองปราดเดียวเขาก็พอจะเดาอะไรหลายอย่างได้ ท่าทางของเธอดูไม่ประสีประสา เหมือนคนไม่เคยออกมาเที่ยวผับบาร์ ดูเหมือนคนไม่มีที่จะไป ตั้งแต่หัวจรดเท้าประโคมด้วยแบรนด์เนม เสื้อผ้า หน้าผม กระเป๋ารองเท้า นี่มัน…บ่อเงินของเขาชัด ๆ มากไปกว่านั้น…กลิ่นตัวหอมหวานของเธอทำให้ของเหลวในกายเขามันปั่นป่วนไปหมดแล้ว ทีแรกคิดว่าจะพักร้อนสักเดือน กะว่าจะเที่ยวเล่นใช้เงินสักพักก่อนหาเหยื่อใหม่ แต่พอได้เจอเธอคนนี้เห็นทีเขาคงหยุดพักไม่ได้แล้ว

พริมโรส ลูเซียโน ลูกสาวคนเดียวของเพทาย ลูเซียโน จะให้เข้าใจง่าย ๆ เธอคนนี้ก็คือลูกสาวมาเฟียใหญ่ที่คุมย่านนี้ทั้งหมด เป็นเหมือนไข่ในหิน เหมือนนกน้อยในกรงทอง ทว่าเป็นนกที่แสบจนถึงทรวง อายุเพียงสิบแปดปีเท่านั้นแต่สร้างเรื่องได้ไม่เว้นวัน ท่าทางภายนอกเหมือนเป็นเด็กสาวไร้เดียงสา ดวงตากลมโตรับกับขนตางอนเป็นแพสวย แววตาเธอใสซื่อคล้ายกับว่าอ่อนต่อโลกเสียเหลือเกิน ตัวเล็กบอบบางดูล่อตาล่อใจให้ใครต่อใครอยากจะมารุมรังแก เธอดูเหมือนเป็นแบบนั้นแต่ความจริงแล้วไม่ใช่ แม้จะไม่เคยได้ออกมาใช้ชีวิตเผชิญกับโลกความเป็นจริง แต่พริมโรสไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครมาหลอกเอาได้ง่าย ๆ เว้นเสียแต่ว่าเธอยอมให้หลอก

ที่จริงแล้วเวลานี้เธอควรจะต้องอยู่ที่หอพักนักศึกษาในกรุงลอนดอน แต่เพราะวันก่อนเธอหนีออกมาจากสนามบิน วางแผนทำให้คนของคุณป๋าหรือผู้เป็นพ่อเข้าใจว่าเธอนั้นได้เดินทางขึ้นเครื่องบินไปลอนดอนแล้วหนีออกมาเปิดโรงแรมหรูนอนกินขนมดูการ์ตูนอย่างสบายใจ หรืออาจไม่ค่อยสบายใจเท่าไรนัก แม้จะกลัว ๆ อยู่บ้างแต่ก็ยังทำใจดีสู้เสือ ก็ในเมื่อเธอบอกไปแล้วว่าไม่ต้องการไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่อังกฤษแต่พ่อไม่ฟัง ในเมื่อสิ่งที่ต้องการคือเวลาและการใส่ใจจากพ่อแต่กลับไม่เคยได้รับ เธอก็มุ่งหน้าต่อต้าน…ที่ทำมาตลอดคือการแหกกฎและฝ่าฝืนคำสั่งพ่อ ทั้งหนีเที่ยว แกล้งสอบตก ทั้งก่อเรื่องวิวาท สร้างปัญหามากมาย ทำไปตั้งมากมายแต่สุดท้ายกลับได้รับเพียงคำสั่งอันเด็ดขาดให้ขังเธออยู่ในเซฟเฮาส์แล้วเอาเรื่องความปลอดภัยมาอ้าง พอถึงเวลาต้องเรียนต่อมหาวิทยาลัยก็เลือกที่จะส่งเธอไปให้ไกลหูไกลตา ในเมื่อผู้เป็นพ่อไม่เคยเข้าใจ ไม่เคยมองเห็นความต้องการแท้จริงของเธอ เธอก็จะทำในสิ่งที่เขาสั่งห้ามมาตลอด นั่นก็คือออกมาใช้ชีวิตด้วยตัวเองแล้วตามหาแม่ แม่ที่เขาบอกเธอว่าได้ตายไปจากโลกนี้แล้ว ซึ่งพริมโรสไม่เคยเชื่อแบบนั้น ถ้าแม่เธอตายไปแล้วจริง ๆ เธอก็อยากจะเห็นหลุมศพของคนที่คลอดเธอออกมาด้วยสองตาตัวเอง แล้วถ้ามันเป็นอย่างที่คิด ถ้าแม่ยังไม่ตาย…เหตุผลที่พริมโรสอยากจะหาแม่ให้เจอนั้นก็เพื่อจะถามว่าทำไมแม่ถึงทิ้งเธอไป? ทำไมแม่ถึงไม่รัก…ไม่อยู่กับเธอเหมือนแม่คนอื่น?

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel