ก็ไม่คิดว่าจะรัก

118.0K · จบแล้ว
ผืนแพร
41
บท
5.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

หลอกกินจนแทบเลียทั้งตัวเพิ่งจะรู้ว่า 'พริมโรส' เป็นแค่เด็กอายุสิบแปด! หนักกว่านั้นคือเธอเป็นลูกสาวมาเฟีย! ทางเดียวที่ 'ปีแสง' จะเอาชีวิตรอดได้คือต้องแต่งงาน! แล้วเขาจะไม่คลั่งตายเพราะเมียเด็กได้ยังไง? “พี่ปี…” “ไม่ต้องมาเรียกว่าพี่!” “ฮึก! คุณปีแสง…อย่าทำอะไรหนูเลยนะคะ คืนนั้นหนูก็ให้ทุกอย่างที่คุณต้องการแล้ว หนูไม่ได้หลอกอะไรคุณเลยนอกจากเรื่องอายุ ก็ถ้าหนูบอกว่าอายุสิบแปด คุณจะพาหนูกลับมาด้วยเหรอ?” “เหลือเชื่อเลย! อย่าได้คิดจะบีบน้ำตาใส่ฉันนะยัยเด็กบ้า!” “ฮือ ๆ หนูไม่ได้บีบน้ำตา…ฮึก! มันไหลออกมาเอง! คุณคิดว่าหนูอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเหรอ? คิดว่าหนูอยากแต่งงานกับคุณเหรอ? ถ้าหนูไม่แต่งคุณก็ต้องตาย นี่หนูช่วยชีวิตคุณอยู่นะ! แล้วคิดไหมคะว่าหนูต้องอับอายแค่ไหน! ถ้าเพื่อน ๆ รู้ ฮึก! ถ้าอปป้าฮยอนรู้ว่าหนูแต่งงานมีสามีแล้ว หนูจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน!” “…” “ชีวิตหนูจบแล้ว! หนูจบเห่ที่ต้องแต่งงานกับคุณ! ต่อไปโลกของหนูของหม่นหมอง…แล้วหนูจะได้หัวเราะอีกครั้งเมื่อไหร่?! ฮึก! ลองคิดดูสิคะ…หนูเพิ่งจะอายุแค่นี้เอง แต่กลับต้องมาแต่งงานกับคุณลุงแก่ ๆ อย่างคุณอะ! ใครรู้เข้าเขาคงหัวเราะหนูแน่! ที่สำคัญ…หนูมีคนที่อยากแต่งงานด้วยแล้ว! แน่นอนว่ามันไม่ใช่คุณแน่!”

นิยายรักโรแมนติกพลิกชีวิตแต่งงานสายฟ้าแลบรักหวานๆมาเฟียเศรษฐีโรแมนติกผู้ชายอบอุ่นนักศึกษา

1.1 ถูกใจไม่มีคำว่าแพง

ปีแสง วรเดชดำรง บุคคลโนเนมผู้ไม่เป็นที่รู้จัก ไม่ใช่คนดังยิ่งใหญ่มาจากไหน ทว่าสามารถเรียกร้องความสนใจจากพวกคนเหล่านั้นได้อย่างดี เดินไปทางไหนก็มีแต่คนเหลียวหลังหันมองตาม เขาไม่ใช่คนดังที่ใคร ๆ ก็รู้จักชื่อ แต่ทุกครั้งที่ปรากฏตัว สาวน้อยสาวใหญ่ก็อยากจะเข้ามาทำความรู้จัก เพียงเดินเข้ามาในงานเลี้ยงเปิดตัวแกลเลอรี่แห่งใหม่ เขาก็สามารถหยุดทุกสายตา ผู้คนจำต้องเลิกสนใจภาพวาดงามวิจิตรตระการตาตรงหน้าแล้วหันมามองที่เขา พร้อมกับคำถามในหัวว่าสุดหล่อคนนี้เป็นใครกัน? เป็นลูกชายจากตระกูลไหน? พ่อแม่เป็นใครแล้วทำมาหากินอะไร? เงินในบัญชีมีเท่าไรหรือแม้แต่ผู้หญิงที่ควงแขนเขามาด้วยเป็นใคร?

ปีแสงปรากฏตัวในงานด้วยชุดสูทแบรนด์ดังจากอิตาลีสีน้ำตาลอ่อน ด้านในสวมเชิ้ตสีดำ สีเดียวกับรองเท้าหนังที่เงาวาววับ ด้วยเพราะไม่ได้ผูกเนกไทเลยทำให้ลุคนี้ของปีแสงนั้นดูลำลองมากกว่าหรูหรา แต่เมื่อสีน้ำตาลมาอยู่กับสีดำจึงยิ่งขับความแบดบอย น่าค้นหาให้เขาเป็นอย่างมาก เขาเป็นคนที่ละเอียดอ่อนเรื่องการแต่งตัว ใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ ที่หลายคนอาจมองข้าม ภาพลักษณ์ของเขาดูดีอยู่เสมอ ดูภูมิฐาน ดูเหมือนคนในวงสังคมชั้นสูง มองแวบแรกเดาได้ว่าคงเป็นนักธุรกิจ แวบที่สองอาจเอนเอียงไปทางดาราหรือนายแบบด้วยเพราะหน้าตาที่ดูดี ดวงตาที่เพียงจ้องมองก็ต้องหยุดนิ่งราวกับมีมนต์สะกด จมูกโด่งเป็นสันรับกับเรียวปากบาง ๆ ของเขา ช่างน่าหลงใหล น่าลิ้มลอง เขาจัดว่าเป็นผู้ชายที่เพอร์เฟค หุ่นกำยำสูงลิ่ว ผิวขาวดูสะอาดตา ที่สำคัญ…เขาขับรถคันละสิบล้านและนาฬิกาที่สวมมาวันนี้ก็แพงเสียจนบางคนเอื้อมไม่ถึง พูดได้คำเดียวว่าปีแสงคนนี้คือชายในฝัน

แต่จะเป็นฝันดีหรือฝันร้ายก็คงต้องดูกันอีกที เพราะเขาไม่ใช่ทั้งนักธุรกิจหรือดาราคนดัง แต่เป็น…นักต้มตุ๋นฝีมือดีหาตัวจับยาก! ซึ่งวันนี้เขาไม่ได้มางานเลี้ยงเปิดตัวแกลเลอรี่แห่งนี้เพื่อชมงานศิลปะ แต่เขากำลังทำงานอยู่

หญิงสาวในชุดราตรีเนื้อผ้ากำมะหยี่สีดำเหลือบแดงคือหญิงสาวที่ปีแสงควงมางานด้วยในวันนี้ เธอมีชื่อว่าระดับดาว…สถานะคือเหยื่อรายล่าสุดของเขา เขาตั้งใจพอเธอมาที่แกลเลอรี่แห่งนี้โดยเฉพาะ โอบเอวบางพาเดินชมงานศิลปะ คอยดูแลเอาใจใส่ พูดคำหวานให้เธอรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่ากว่าหญิงสาวคนในบนโลกนี้ ก่อนที่จะปิดจ็อบที่หน้าภาพวาดสีน้ำมันรูปทิวทัศน์ทุ่งดอกลาเวนเดอร์

“ชอบภาพนี้เหรอ?” ระดับดาวเอ่ยถามกับเขาด้วยน้ำเสียงสนอกสนใจ สงสัยว่างานศิลปะที่อยู่ตรงหน้ามันมีอะไรดีอย่างนั้นหรือ ทำไมเขาถึงมองมันไม่วางตาแบบนั้น ด้วยเพราะไม่มีความรู้เรื่องศิลปะเลยไม่เห็นว่าภาพวาดสีน้ำมันตรงหน้ามันจะต่างไปจากภาพอื่นที่อยู่ในแกลเลอรี่แห่งนี้ตรงไหน ก็แค่ภาพทิวทัศน์ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ธรรมดา ๆ

“พี่ไม่ชอบเหรอ?” ส่งรอยยิ้มให้เธอพร้อมคำถามก่อนจะหันกลับมามองภาพตรงหน้าเช่นเดิม

“พี่เหรอ? ไม่รู้สิ…แต่ดูเหมือนเธอชอบมันนะ”

“บอกไม่ถูกว่าชอบไหม แต่ผมแค่ละสายตาไปจากมันไม่ได้”

“ก็คงชอบแล้วล่ะ พี่เห็นเธอมองภาพนี้มาสิบนาทีแล้ว ถ้าชอบพี่ซื้อให้เอาไหม?” เธอคนนี้คือนักธุรกิจสาววัยสี่สิบ เป็นหญิงสาวทำงานเก่ง คุมพนักงานนับพัน หน้าตาดีแถมยังรวย เธอมีครบทุกอย่างยกเว้นความสุข เพราะแบบนั้นถึงได้ทำตัวติดปีแสงราวกับตังเมมาตลอดหนึ่งเดือนเต็ม เพราะเขาเป็นคนเดียวที่ให้ในสิ่งที่ต้องการได้ และเช่นกัน…เธอเองก็พร้อมจะให้ในสิ่งที่เขาต้องการโดยไม่เคยต้องร้องขอ

“พี่จะมาซื้อให้ผมทำไม? ผมก็มีเงินนะ…อีกอย่างภาพนี้น่ะห้าล้านครับ” รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปากของชายหนุ่มอีกครั้ง เขากำลังจะปิดจ็อบกับระดับดาว วันนี้ต้องได้เงินห้าล้านกลับบ้าน นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่เขาจะหาเงินกับเธอคนนี้ได้ สาเหตุก็เพราะพรุ่งนี้เธอจะต้องบินไปเยอรมันและคงหาโอกาสกลับมาเมืองไทยยาก

“ห้าล้านแล้วไง? เธอมีเงินแล้วไง? พี่รู้ว่าเธอน่ะรวยแต่ขอโทษทีที่พี่รวยกว่า แล้วก็…พี่แค่อยากให้ของขวัญเธอก่อนที่เราจะไม่ได้เจอกันอีก” ระดับดาวเป็นคนฉลาด แต่ก็ยังฉลาดไม่พอที่จะมองออกว่าปีแสงเข้าหาเธอก็เพราะเงิน ฉลาดไม่พอที่จะรู้ว่าตัวเองกำลังโดนต้มจนเปื่อย เธอคงไม่คิดว่าคนที่ดูเหมือนมีทุกอย่างแบบปีแสงจะมาหลอกเอาเงินจากเธอ และไม่คิดว่ารถหรู นาฬิกาแพง ๆ หรือแม้แต่คอนโดมิเนียมราคาหลายสิบล้านของเขา มันก็แค่หน้าฉากที่เขาลงทุนสร้างขึ้นมาเพื่อตบตาให้หญิงสาวทั้งหลายคิดว่าเขาเป็นคนมีเงิน ก็ใช่…เขามีเงิน แต่เงินเหล่านั้นไม่ได้มาจากการทำธุรกิจ มันมาจากเหยื่อคนก่อนหน้าต่างหาก “ว่าแต่ภาพนี้ราคาสูงไปไหม? ฝีมือก็งั้น ๆ สไตล์ก็ไม่ได้แตกต่างจากศิลปินคนอื่น พี่ไม่เคยเห็นชื่อศิลปินนี้ผ่านตาด้วยซ้ำ”

“ถ้าถูกใจไม่มีคำว่าแพงหรอกครับ ศิลปินคนนี้ผมเคยเห็นงานเขามาก่อนแล้ว…ได้ยินว่าปีก่อนคุณศิรินซื้อภาพของเขาไปสามภาพ รวม ๆ แล้วเกือบสิบล้าน”

“ศิรินไหน? อย่าบอกนะว่าศิรินที่เปิดร้านเพชร?” ได้ยินชื่อศิรินแล้วระดับดาวก็หน้าตึงขึ้นมาทันที แม่ค้าเพชรคนนั้นเป็นเพื่อนเก่าที่เวลานี้กลายเป็นศัตรูของเธอไปแล้ว สาเหตุคือเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เรื่องธุรกิจที่คุยกันไม่ลงตัวและมันคือข้อมูลที่ปีแสงทำการบ้านมาอย่างดี

“คนนั้นแหละครับ…”

“เดี๋ยว…เธอไปรู้จักมันได้ยังไง? นังนั่นน่ะเป็นจิ้งจอกนะ! ไว้ใจไม่ได้…อย่าเข้าใกล้มันเด็ดขาด พี่ไม่อยากให้เธอโดนหลอก”

“อะไรกันพี่ดาว ผมจะไปมีอะไรให้คุณศิรินเขาหลอกได้? เราก็แค่เคยเจอกันครั้งสองครั้งที่งานประมูลเพชร”

“ทำไมเธอจะไม่มีอะไร? เธอมีเงิน…พี่ดูออกว่าใครมีใครไม่มี เธอน่ะระวังตัวไว้ให้ดี พี่กลัวจริง ๆ ว่าจะใจดีจนเกินไปแล้วจะโดนหลอกเข้าสักวัน”

“โถ่ อย่าคิดมากเลยน่ะ ไปกันเถอะ ผมอยากพาพี่ไปดื่มไวน์ แล้วคืนนี้ก็อยากนอนกอดพี่ด้วย…ยังไงพรุ่งนี้เราก็จะไม่ได้เจอกันแล้ว ผมอยากใช้เวลากับพี่ให้มากที่สุด” ว่าแล้วก็โอบเอวเหยื่อกระเป๋าหนักออกมาจากตรงนั้น ทว่าหญิงสาวไม่ยอม เธอรั้งแขนของปีแสงเอาไว้แน่น

“แต่เธอบอกว่านังศิรินซื้อภาพจากศิลปินคนนี้ไปสามภาพเลยอย่างนั้นเหรอ?”

“ครับ?”

“ตอบมาว่าอะไรทำให้เธอยืนมองภาพนั้นตั้งเป็นสิบนาทีแบบนั้น ภาพนั้นต้องมีอะไรดีสิ…ไม่งั้นนังศิรินมันไม่ซื้อของแพง ๆ แบบนี้หรอก!”

“ถ้าผมอยากได้ผมจะซื้อเองครับ พี่ดาวอย่าทำแบบนี้เลยนะ”

“ตอบพี่มาปีแสง!”

ปีแสงวางนิ่ง แสร้งทำเป็นถอนหายใจพร้อมสีหน้าลำบากใจ จะให้เขาตอบหรือ? เธอคนนี้ไม่สนใจความจริงหรอก…ที่สนก็แค่สิ่งที่อยากจะได้ยินเท่านั้นเอง และเขารู้ว่าสิ่งที่เธออยากได้ยินคืออะไร

“ผมก็แค่…เห็นพี่ในภาพนั้น”

“เห็นพี่เหรอ?”

“เคยบอกไปแล้วว่าพี่เป็นเหมือนดอกลาเวนเดอร์สำหรับผม แล้วในภาพมันก็เป็นทุ่งดอกลาเวนเดอร์ ผมไม่ได้อยากทำให้พี่ลำบากใจ…ผมรู้ว่าเรื่องของเราเป็นไปไม่ได้ และผมรู้ว่าที่จริงพี่ไม่ได้แค่ไปทำธุรกิจที่เยอรมันแต่สามีของพี่อยู่ที่นั่น ผมไม่สนใจหรอกครับว่าคุณศิรินซื้อภาพของศิลปินคนนี้ไปทำไม แต่…”

“พอแล้ว…” ระดับดาวเอ่ยเสียงสั่น “เธอรู้งั้นเหรอ? รู้เหรอว่าพี่มีสามีแล้ว?”

“ครับ”

“ปีแสงพี่ขอโทษ…พี่ขอโทษที่ปิดบังเรื่องนี้”

“พี่มีสามีแล้วมันผิดด้วยเหรอ? จะขอโทษผมทำไม…ผมเป็นคนชอบพี่ก่อน ผมชอบพี่ฝ่ายเดียวและผมรู้มาตลอดว่าเรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้ พี่ไม่ผิดหรอกครับ อย่าร้องไห้เลยนะ อย่าเสียน้ำตากับเรื่องที่พี่ไม่ได้ทำผิดอะไร” ปล่อยมือจากเอวบางมาประคองใบหน้าไว้อย่างแผ่วเบา ส่งปลายนิ้วเข้าเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างช้า ๆ “ให้คืนสุดท้ายของเรามีแต่รอยยิ้มเถอะนะพี่ดาว”

“ฮึก! พูดจริงเหรอ? พี่บอกว่าเห็นพี่ในภาพนั้น?”

“แล้วผมจะโกหกทำไมครับ?”

“งั้นพี่จะซื้อมัน…เอาไปติดไว้ในห้องนอนของเธอ มองมันแล้วคิดถึงพี่ให้มาก ๆ คิดถึงพี่นะปีแสง เพราะพี่ก็จะเฝ้าคิดถึงเธอทุกลมหายใจ” เธอหลงเขาหัวปักหัวปำ หลงความหล่อเหลา หลงคำพูดจาหวาน ๆ หลงอ้อมกอดที่แสนอ่อนโยน ทุกอย่างที่ปีแสงมอบให้…เป็นความสุขที่เธอไม่อาจลืมเลือน การมาเมืองไทยครั้งนี้ เป็นหนึ่งเดือนที่เธอมีความสุขที่สุด เป็นช่วงเวลาที่เหมือนตกอยู่ในความฝัน แต่ท้ายที่สุดเธอก็ต้องกลับสู่ความเป็นจริง กลับไปหาสามีชาวต่างชาติอายุเจ็ดสิบที่เธอไม่เคยรัก

“ครับ ผมจะมองภาพนี้ก่อนแล้วคิดถึงพี่”

“ฮึก! ขอบคุณนะ…ขอบคุณที่ทำให้พี่มีความสุขตลอดหนึ่งเดือนที่เราได้รู้จักกัน พี่คงพูดไม่ได้ว่ารักเธอ…แต่เธอเป็นคนเดียวที่ทำให้พี่รู้ว่าความสุขคืออะไร” จบคำทั้งสองก็กอดกันแน่นพร้อมด้วยจูบที่แสนอ่อนโยน สำหรับปีแสงทั้งหมดนี้เป็นแค่งานของเขา เป็นงานที่มีต้นทุนสูง เป็นงานที่เปลืองตัวแบบสุด ๆ แต่ค่าตอบแทนก็สูงมากเช่นกัน และเขาทำงานนี้มาหลายปีโดยที่ไม่เคยหวั่นไหวกับเหยื่อคนไหนหรือไม่เคยเจอทางตันโดนจับได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะเหยื่อทุกคน เขาเลือกมาอย่างดี คิดอย่างถี่ถ้วนว่าต้องเป็นคนยอมจ่ายเท่าไรก็ได้เพื่อความสุขเพียงชั่วครั้งชั่วคราว