บท
ตั้งค่า

บทที่5

“คิดว่าฉันจะรู้สึกดีที่ได้ยินมันรึไง คำขอโทษของเธอมันได้มีความหมายอะไรกับฉันเลยสักนิด!”น้ำเสียงขุ่นมัวพูดขึ้นก่อนมือหนาจะเอื้อมไปหยิบบางสิ่งขึ้นมาถือเอาไว้จนฉันต้องลุกพรวดขึ้นมาพื้นทันทีที่เขาทำท่าว่าจะปามันทิ้ง

“ข้อร้องล่ะเรน....ส่งลัคกี้มาให้ฉัน อย่าทำร้ายมัน....”

“มันสำคัญกับเธอนักรึไง! ก็แค่กีต้าร์เก่าๆ ที่ใกล้จะพัง”น้ำเสียงเรียบเฉยพูดขึ้นแต่ก็ยังถือลัคกี้เอาไว้แน่นไม่มีทีท่าว่าจะคืนมันให้ฉันแต่อย่างใด

“มันคือทุกสิ่ง....มันคือสิ่งสำคัญที่ทำให้ฉันไม่ลืมเรื่องของเรา....มันคือของขวัญวันเกิดที่ดีและมีค่าที่สุดเท่าที่ฉันเคยได้รับ”

“แต่ว่ามันเป็นของฉัน! เพราะฉะนั้นฉันมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรกับมันก็ได้ ถ้าพังมันซะเธอก็จะลืมเรื่องงี่เง่าในอดีตสิใช่ไหม งั้นฉันจะพังมันเดี๋ยวนี้” ไม่พูดเปล่ามือหนาทำท่าจะโยนลัคกี้ลงพื้นอย่างที่พูดจริงๆ แต่ติดตรงที่ว่าฉันไวกว่า เอื้อมมือไปคว้าแขนแกร่งของเขาเอาไว้ได้ทันการ...

“อย่าทำแบบนี้ อย่าทำลายมัน....”

“ปล่อย!!”

“สัญญาสิว่ามันจะไม่ทำลายมัน...ให้ฉันทำอะไรก็ได้ ขออย่างเดียวนายอย่าทำลายมันแค่นั้นก็พอ” ฉันพูดขึ้นอย่างเหนื่อยยากลำบาก น้ำตาที่ไหลมันไม่ได้ช่วยให้เขาอารมณ์เย็นลงเลยสักนิด ไม่เลยแม้แต่นิดเดียว

คำพูดของฉันดูเหมือนจะยิ่งทำให้เรนโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ พระเจ้าหรือใครก็ได้ บอกทีว่าฉันควรจะทำยังไง ฉันควรทำยังไงดี

“อะไรก็ได้ทั้งนั้นใช่ไหม” นิ้วเรียวเอื้อมมาเชิดใบหน้าฉันให้ต้องเงยขึ้นสบกับนัยน์ตาสีดำที่ดุดัน นัยน์ตาที่เคยอ่อนโยนบัดนี้ไม่มีให้ได้เห็นอีกต่อไปแล้ว มันถูกทำลายลงด้วยฝีมือของฉัน...ฉันเพียงคนเดียว

“ใช่! อะไรก็ได้ทั้งนั้น”

“แม้กระทั่งไปตาย.....”

“ถ้านั่นคือสิ่งที่นายต้องการ ฉันจะทำ!”

เรนพาฉันนั่งรถจากัวน์สีดำสนิทมาจอดแถวบริเวณสะพานสูงที่ด้านล่างเป็นแม่น้ำใหญ่ในมือถือลัคกี้อย่างแน่นหนาไม่ปล่อยโอกาสให้ฉันได้ยื้อแย่งมันคืนได้เลยแม้แต่น้อย ฉันเดินตามร่างสูงไปเรื่อยๆ ตามราวสะพานสายตาพยายามจับจ้องเขาให้ได้นานที่สุด ไม่เจอกันสามปีเขาสูงขึ้นมากจนฉันตกใจ ยังจำได้ว่าช่วงที่เรียนนั้นเขาเป็นผู้ชายที่เตี้ยที่สุดในห้องนี่น่า

บ้าจริง! ในเวลาแบบนี้ทำให้ฉันถึงได้คิดแต่เรื่องเก่าๆ ก็ไม่รู้สิ เรื่องเก่าๆ ที่ทำให้ฉันมีความสุขมากกว่าที่เป็นอยู่

ตลอดสามปีที่ฉันเอาแต่โทษตัวเอง โทษตัวเองมาโดยตลอดว่าเป็นคนทำให้รอยยิ้มของเรนหายไป จนกระทั่งมาวันนี้....ฉันรู้แล้วว่าคนที่เจ็บปวดไม่ได้มีเพียงฉันแค่คนเดียวเท่านั้น และนี่คือสิ่งที่ฉันต้องชดใช้สินะ!

ฝีเท้าหนักๆ หยุดชะงักลงทันทีที่เราเดินมาถึงจุดหมาย ซึ่งก็คือสุดเขตของราวสะพาน เรนหันกลับมามองฉันอีกครั้งด้วยสายตาเย็นชา เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง จนในที่สุดก็พูดขึ้น

“เธอบอกว่าเธอจะทำทุกอย่างที่ฉันสั่ง!”

“ถ้านั่นมันจะทำให้นายมีความสุข ฉันก็พร้อมจะทำ”

“เธอทำไม่ได้หรอก! เธอกำลังจะบอกฉันว่าเธอสามารถเรียกเอาความสุขทั้งหมดของฉันคืนกลับมาได้ทั้งๆ ที่เธอเป็นคนทำลายมันให้พังทลายลงกับมือตัวเองเนี่ยนะ คิดว่าฉันจะหลงเชื่อคำลวงโง่เง่าของเธออีกครั้งรึไง!”

“เรน”

“หมดเวลาแก้ตัวแล้วยัยผู้หญิงโสโครก....เธอคงจะเจ็บปวดเจียนตายน่าดูถ้าฉันทำลายสิ่งนี้ สิ่งที่เธอยังเก็บเอาไว้เพื่อรอวันเวลาที่จะสร้างรอยแผลใหม่ให้กับฉันอีกครั้ง!”

ไม่ว่าเปล่ามือหนายื่นลัคกี้ออกไปที่นอกแนวสะพาน เขาจะโยนมันลงน้ำแบบนี้ไม่ได้นะ ฉันไม่ยอมหรอก มันคือทุกสิ่งสำหรับฉัน มันคือตัวแทนของเขา ผู้ชายคนแรกและคนสุดท้ายที่ฉันจะรัก

“เรน...อย่าทำแบบนั้น!”

“เธอรู้ว่าฉันทำแน่...กล้าลองเสี่ยงดูไหมล่ะ”

“อย่า...ฉันขอร้อง ฉันกำลังขอร้องนายอยู่นะเรน” ฉันพูดขึ้นอย่างยากลำบาก เหมือนที่เคยบอกเอาไว้ว่าฉันในตอนนี้ยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับเขาเลยจริงๆ

“เธอมีสิทธิ์อะไรมาขอร้องฉัน เธอคิดว่าผู้หญิงไร้ค่าอย่างเธอจะทำให้ฉันเปลี่ยนใจทำในสิ่งที่อยากทำได้รึไง เธอ...คิดผิดแล้ว!!” จบคำพูดที่เย็นชาไร้เยื้อใย ลัคกี้ในมือของเขาก็ถูกปล่อยลงสู่แม่น้ำไปต่อหน้าต่อตาฉันทันที ฉันมองหน้าเรนอยู่ครู่ด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดจนใจจะขาดก่อนจะตัดสินใจกระโดดลงสะพานตามมันไปท่ามกลางสายตาตกตะลึงของเขาเองที่คงคิดไม่ถึงว่าฉันจะกล้าทำ ฉันรู้ว่าที่ทำอยู่นี้มันโง่เง่าสิ้นดี แต่สำหรับสิ่งนั้น....ซึ่งคือสิ่งเดียวที่ฉันยึดมั่นมาโดยตลอด

มันก็คุ้มค่าที่จะเสี่ยง!

ตู้ม!

แรงคลื่นใต้น้ำบวกกับแรงกดอากาศทำให้ร่างฉันลอยเคว้งอยู่นาน ความเย็นเยือกของน้ำที่มีน้ำตาของฉันเป็นส่วนประกอบหลักค่อยๆ ถาโถมเข้ามาเรื่อยๆ ก่อนที่สติฉันใกล้จะหมดไปพร้อมๆ กับลมหายใจเฮือกสุดท้ายนั้น....มือหนาของใครบางคนก็ฉุดกระชากฉันให้ขึ้นเหนือน้ำได้ทันการ....

“เธอบ้าไปแล้วรึไงฮะ! คิดว่าชีวิตตัวเองมีค่าน้อยกว่าไอ้กีต้าร์ห่วยๆ นั่นอีกรึไง!!”ฉันได้แต่กระพริบตามองชายตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งๆ ที่เขาน่าจะเป็นคนแรกที่ดีใจถ้าฉันตายไปซะแล้วแท้ๆ แต่แล้วทำไม...ถึงยังมาช่วยฉันเอาไว้อีก

“เพราะว่ามัน....สำคัญยังไงล่ะ....”

“…..”

“ถ้าคนที่ให้ลัคกี้กับฉันต้องรู้ว่ามันต้องหายไป...คนๆ นั้นจะต้องเสียใจ เสียใจกว่าใครทั้งนั้น....”อีกเพียงนิดเดียวเท่านั้นที่ฉันจะได้สัมผัสได้ใบหน้าหล่อเหลา อีกเพียงนิดเดียวที่ฉันจะได้ทำในสิ่งที่เฝ้าฝันมาตลอดสามปี แค่เพียงอีกนิดเดียวสติที่เหลืออยู่น้องนิดก็ดันดับวูบไปเสียก่อนอย่างน่าเสียดาย....

[เรนระบาย]

ผมรู้ว่าพระเจ้าอาจจะจงเกลียดจงชังผมมากกว่าผู้ชายหน้าไหนในโลกใบนี้ เพราะท่านช่วงชิงสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตไปจากผม สามปีก่อนผมยังเป็นผู้ชายธรรมดาที่มีความสุขและมีความฝันไปพร้อมๆ กับผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่มีรอยยิ้มสดใสอีกคนอยู่เลยแท้ๆ

เธอมักจะเดินเข้ามาหาผมด้วยรอยยิ้มแล้วถามผมว่าวันนี้อากาศดีไหม ผมยิ้มไปอีกครั้งแล้ววันนี้ มันเป็นคำถามโง่ๆ แต่ทำไมผมถึงได้ตั้งหน้าตั้งตารอที่จะตอบคำถามของเธอในทุกๆ วันกันนะ

จนกระทั่งเมื่อวันหนึ่งมีแมวมองเข้ามาชวนให้ผมไปเป็นนักร้อง ซึ่งมันคือความฝันของผมเลยก็ว่าได้ ผมทำความฝันให้เป็นจริงแลกกับการต้องสูญเสียเธอไปตลอดกาล

ผมยังจำวันนั้นได้ดีขึ้นใจ เธอเดินเข้ามาหาผมด้วยรอยยิ้มเหมือนที่เคยเป็น...แล้วบอกผมว่าเธอจะเลิกรักผม เธอบอกว่าเธอไม่อาจจะรักกับผู้ชายที่มีเพียงความฝันล้มๆ แล้งได้อีกต่อไป มันคือวันสุดท้ายที่ผมได้เห็นเธอ....จนกระทั่งมาถึงตอนนี้

เธอกลับเดินเข้าในชีวิตของผมอีกครั้ง...กลับมาในวันที่ผมมีทุกสิ่ง เธอจะให้ผมคิดยังไงในเมื่อเธอจากไปในวันที่ผมไม่เหลืออะไรแล้วจู่ๆ ก็กลับมาในวันที่ผมมีความฝัน เธอมันก็แค่ผู้หญิงลวงโลกเท่านั้นหวานใจ

ฉันจะทำให้เธอเจ็บปวดกว่าที่ฉันเคยเจ็บหลายเท่า...ฉันจะไม่ฆ่าเธอให้ตาย แต่ฉันจะค่อยๆ ฆ่าเธอทีละนิดให้เธอต้องตายทั้งเป็น!

ฉันหาเธอเจอจนได้....หวานใจ!

ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะมองไปรอบๆ ในห้องสี่เหลี่ยมที่กว้างใหญ่ไม่คุ้นเคย เพดานสีขาวที่ถูกพ่นให้กลายเป็นตัวอักษรคำว่า ‘sweet’ โคมไฟระย้าที่ดูหรูหรา และอีกอย่าง...มือหนาของใครบางคนกำลังโอบรัดที่หน้าท้องของฉันอยู่

“ระ....เรน” ฉันอุทานออกมาดังลั่นก่อนจะพยายามแกะมือหนาให้ออกห่างจากตัวจนเผลอทำให้ร่างสูงที่นอนแน่นิ่งมีเพียงกางเกงบ๊อกเซอร์ตัวเดียวเท่านั้นที่ปิดบังเรือนร่าง แพขนตายาวกระพริบขึ้นอย่างเชื่องช้า สีหน้าดุดันมองมาที่ฉันทันทีที่ลืมตาขึ้น

“ฉะ...ฉันมาที่นี้ได้ยังไง แล้วเสื้อผ้า....”

“คิดว่าไงล่ะ ผู้ชายกับผู้หญิงอยู่ด้วยกันสองต่อสองภายในห้องโดยที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยแบบนี้ เธอคงไม่คิดว่าฉันจะพาเธอมาที่นี้เพื่อนอนเล่นหรอกจริงไหม” เรนตอบแบบขอไปที่ในขณะที่ฉันกำลังช็อกได้ที่

“เรน..” ฉันเรียกชื่อของเขาเบาๆ ก่อนจะมองดูสภาพตัวเองที่มีเพียงเสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่ห่อหุ้มคลุมร่างกายเอาไว้เท่านั้น และที่สำคัญนี่มันไม่ใช่เสื้อของฉัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel