บท
ตั้งค่า

10. คิดอกุศล (1)

“ทะ ท่านดูเองเถิดขอรับ แหะ” อคินธิษณ์หรี่ตามองเด็กหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ ท่าทีของกษมาและตะขบดูตกใจแลร้อนรนราวกับทำเรื่องผิด

แต่กระนั้นอคินธิษณ์ก็มิได้ใส่ใจมากนัก ชะโงกหน้าไปดูเงาสะท้อนจากน้ำในสระ แต่ภาพที่เห็น ทำให้นาคาหนุ่มถึงกับชะงักงัน สติสตางค์ที่มีอยู่ตรงหน้าหายไปจนสิ้น

“นะ หน้าข้า หน้าของข้า!” เสียงใหญ่ตะโกนออกมาดังลั่น ทั่วใบหน้าของเขากลายเป็นสีเหลือง เหลือไว้เพียงบริเวณตาและปากเท่านั้น ไม่ต้องบอกก็พอรู้ว่าน่าตลกขบขันเพียงใด

“คะ คะ คือมันเป็นสีของขมิ้นขอรับ ทิ้งไว้ไม่นานก็หาย ละ แล้วพอหาย หน้าท่านก็จะเปล่งประกายราวกับแสงอาทิตย์” กษมาว่าเสียงสั่น เด็กหนุ่มถอยร่นไปหลบอยู่ข้างหลังเจ้าตะขบตัวน้อย

“ยามนี้หน้าข้าก็เจิดจรัสยิ่งกว่าดวงทินกรแล้ว เจ้ามิเห็นหรือ เหลืองถึงเพียงนี้!” ความโกรธเกรี้ยวและอับอายพุ่งสูงขึ้นอย่างฉุดไม่อยู่ จะทำสิ่งใดก็ไม่ได้ หากว่าเป็นบริวารตนอื่น บัดนี้คงถูกส่งเข้าคุกเสียแล้ว

“ข้าขอโทษขอรับ ท่านอคินอย่าโกรธข้าเลย”

“เจ้าตั้งใจเอาคืนข้า ข้าอุตส่าห์เป็นห่วงเจ้าเลยแวะมาดู แต่เจ้ากลับแกล้งข้า” กษมาหน้าเจื่อนแล้วเจื่อนอีก เขาไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องนี้เกิดขึ้น แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่คิดเช่นนั้น

“ข้ามิได้ตั้งใจนะขอรับ ท่านฟังข้าก่อน ข้ามิได้จะกลั่นแกล้งท่าน” มือบางเอื้อมไป หมายจะรั้งชายตรงหน้าไว้ แต่ไม่ทันเสียแล้ว

อคินธิษณ์ทำหน้าปั้นปึ่ง กระแทกเท้าเดินออกจากเรือนไปอย่างรวดเร็ว ตะขบเห็นดังนั้นก็รีบวิ่งตามผู้เป็นนายไป

ขาแกร่งเดินออกมาจากสวนอย่างไม่สบอารมณ์ ตั้งใจว่าจะรีบกลับเรือน เพราะหากผู้อื่นเจอเขาในสภาพนี้ จะต้องหัวเราะเยาะเป็นแน่ ตั้งแต่เขาเติบใหญ่มา รูปลักษณ์หน้าตาเป็นหนึ่งในสิ่งที่เขาภาคภูมิใจ ฉะนั้นการที่ใบหน้าของเขาเหลืองอ๋อยเช่นนี้ ย่อมเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยาก

“อ่าว ท่านอคินธิษณ์ นะ หน้าท่าน” ยังไม่ทันได้ก้าวออกจากเรือนของกษมา สหายของเขาก็เปิดประตูเข้ามาเสียก่อน ทั้งยังทักเรื่องหน้าของเขาอีก

ยิ่งทำให้ชายหนุ่มรู้สึกขายหน้าเข้าไปใหญ่ รีบแปลงกายกลับไปเป็นนาคาสีเหลืองอร่าม แล้วใช้อิทธิฤทธิ์ตรงกลับเรือนทันที

ด้านปัญฐกะที่ยังมึนงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เอ่ยถามน้องชายที่วิ่งมาจากหลังเรือนด้วยใบหน้ารู้สึกผิด

“กษมา เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือ”

“ขะ ข้าทำท่านอคินธิษณ์โกรธเสียแล้วขอรับ” เรื่องราวทุกอย่างถูกถ่ายทอดผ่านน้ำเสียงหม่นหมอง จนปัญฐกะต้องรีบกอดปลอบน้องชาย

“ข้ามิได้ตั้งใจจริงๆ นะขอรับ”

“พี่รู้ๆ รอให้ท่านอคินธิษณ์ใจเย็นลงก่อน วันพรุ่งเจ้าก็ไปหาเขา เอาของไปฝากสักเล็กน้อย แล้วเอ่ยขออภัยอย่างจริงใจ” ปัญฐกะรู้ดีว่าสหายของเขามิใช่พวกไร้เหตุผล หากว่ากษมายอมรับผิดและขอโทษอย่างจริงใจ ย่อมได้รับการอภัย

“ขอรับ เช่นนั้นข้าเย็บหมอน ไปให้ท่านอคินธิษณ์ดีหรือไม่ขอรับ หมอนที่เรือนของท่านอคินธิษณ์มันแข็งเกินไป” หมอนที่กษมาว่า เป็นหมอนสามเหลี่ยม แม้จะมีลวดลายสวยงาม แต่ใช้นอนยากมาก ทั้งยังไม่นุ่มอีกต่างหาก

“ดียิ่ง แล้วเจ้าจะทำเลยหรือไม่ พี่จะอยู่ช่วย”

“ขอรับ พี่ปัญฐกะช่วยข้าหานุ่นนุ่มๆ ได้หรือไม่” กว่ากษมาจะอธิบายเรื่องนุ่นให้ปัญฐกะเข้าใจ ก็เสียเวลาไปมาก

คืนนั้นทั้งคืนกษมาจึงได้แต่นั่งเย็บหมอน ตื่นมาตอนเช้าคนตัวเล็กจึงหาวแล้วหาวอีก กระนั้นเขาก็ตื่นแต่เช้า ตระเตรียมของทุกอย่างจนพร้อม แล้วก็รีบเดินทางออกไปที่เรือนท่านอคินธิษณ์พร้อมกับพี่ชาย

“พี่วารี ข้าขอเข้าไปพบท่านอคินธิษณ์ได้หรือไม่ขอรับ” หลังจากกษมาแยกกับพี่ชาย เขาก็รีบตรงดิ่งมายังเรือนนอนของนาคาผู้สูงศักดิ์ทันที แต่แล้วก็ต้องผิดหวัง เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ยอมให้ผู้ใดเข้าพบ

“มิได้ดอก ท่านสั่งมิให้ใครเข้าไป เว้นเพียงตะขบเท่านั้น”

“ขะ ข้าจะลองขออนุญาตดูขอรับ”

“เจ้าจะเสี่ยงหรือ ขนาดบัวงามยังถูกไล่ตะเพิด ข้าว่าเจ้าอย่าทำให้ท่านโมโหเลย” วารีทำสีหน้าเป็นห่วง

“ไม่เป็นไรขอรับ ข้าจะลองเข้าไปดู” ว่าแล้วกษมาก็เอ่ยขออนุญาตหน้าห้อง แต่ก็ใม่มีเสียงตอบรับ จึงเสียมารยาทเปิดประตูเข้าไป

เมื่อพบตะขบก็อ้าปากบอกให้นาคน้อย ออกไปรอด้านนอกอย่างไม่มีเสียง ส่วนตนเองก็รีบก้าวย่างเข้าไปหานาคาหนุ่มที่นอนขดบนแท่นหิน

“ทะ ท่านอคินธิษณ์”

“มันผู้ใดให้เจ้าเข้ามา ตะขบ ตะขบอยู่ที่ใด”

“ตะขบออกไปข้างนอกขอรับ ท่านอคินธิษณ์ ข้าขออภัยท่าน ข้ามิได้ตั้งใจจะกลั่นแกล้งท่านเลยนะขอรับ” คนตัวเล็กเดินเข้าไปนั่งอยู่ข้างหางใหญ่ พลางเอานิ้วจิ้มเกล็ดที่หางเบาๆ

“…”

“ข้าเย็บหมอนมาให้ท่านด้วย เห็นว่าท่านชอบนอนหมอนนุ่มๆ มันอาจจะไม่สวย แต่ว่าข้าพยายามที่สุดแล้ว” กษมาไปซื้อผ้ามาจากแม่ค้าในตลาด เห็นว่าทำมาจากใยไหม สีจึงออกไปในทางขาว เงิน และมีความเงางาม

ทว่าคนที่ทำให้เสียของคงไม่พ้นกษมา ที่เย็บตะเข็บเบี้ยวไปเบี้ยวมา ในใจเขายังคิดว่าหากท่านอคินธิษณ์ปาทิ้งก็คงจะไม่แปลก ไหนจะลวดลายพญานาคที่คล้ายไส้เดือนนั่นอีก

ดูไม่ได้เลยจริงๆ

“เอาวางไว้ เจ้าออกไปเสีย”

“เดี๋ยวสิขอรับ ทะ ท่านให้อภัยข้าแล้วหรือยัง”

“ไม่ เจ้าคิดว่าเพียงเอาของมาให้ แล้วข้าจะหายโกรธหรือ” ศีรษะใหญ่ของพญานาคา ยังคงหันหนีไปมองทางอื่น เพื่อซ่อนมุมปากที่พยายามจะยกขึ้นอยู่ตลอดเวลา

“ชะ เช่นนั้นข้าจะทำตามที่ท่านบอกทุกอย่าง จนกว่าหน้าท่านจะหาย ดีหรือไม่ขอรับ ข้าทำได้หลายอย่างท่านก็รู้ สัญญาว่าข้าจะไม่ขัดใจ ไม่ดื้อ ไม่ซน ไม่บ่นด้วยเอ้า” กษมาว่า พลางเอียงแก้มไปแนบกับลำตัวมีเกล็ด ส่งสายตาออดอ้อนอีกฝ่ายให้เห็นใจ

“…ข้าเศร้ามาก เจ้าทำให้ข้าหายเศร้าได้หรือไม่”

“ได้สิขอรับ ข้าเล่นตลกเป็นนะ อคินทด แฮ่! อคินแทด แฮ่! อคินธิษณ์ แฮ่! ถูกแล้ว!” เด็กหนุ่มทำท่าทำทางตลกขบขันจนสุดฤทธิ์

“หึ ก็น่าขันอยู่หรอก แต่ข้าชอบดูการร่ายรำมากกว่า” นาคาใหญ่ว่า พลางแปลงกายกลับมาเป็นมนุษย์ บนใบหน้าคมเข้มยังคงมีสีเหลืองของขมิ้นติดอยู่ กษมาอยากขำก็ขำไม่ออก เพราะเรื่องนี้เป็นฝีมือของเขา

“ระ ร่ายรำหรือขอรับ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel