บท
ตั้งค่า

บทที่ 4

“เขาจะเปิดรีสอร์ตใหม่ที่สมุย เงินลงทุนระดับพันล้านเชียวนะเพราะแบบนั้นเธอจึงควรเทให้หมดหน้าตัก” รจนายังคงหว่านล้อม

“แต่ฉันไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้น”

“เพราะแบบนั้นไงฉันจึงแนะนำให้เธอโยกทุกอย่างออกมาเป็นของตัวเอง อะไรขายได้ขายแล้วเอาเงินไปลงกับคุณภีม เชื่อฉันสิว่ามันไม่มีวันขาดทุนหรอก ถ้าเธอกังวลฉันอาสาจัดการทุกอย่างให้เพราะครอบครัวฉันเองก็สนใจร่วมลงทุนอยู่เหมือนกัน”

“ขอบใจเธอมากนะ ไว้ฉันจะลองคิดดู”

“จ้ะ” รจนายิ้มมุมปากก่อนจะวางสายไป เธอไหวหัวไหล่เล็กน้อยเมื่อคิดถึงใบหน้าของอุษา “ขอให้การลงทุนครั้งนี้สำเร็จไปได้ด้วยดีนะจ๊ะเพื่อนรัก”

ทันทีที่วางสายจากรจนาคิ้วสวยได้รูปของอุษาก็ขมวดเข้าหากันอย่างครุ่นคิด เงินสดในมือเธอตอนนี้มีไม่กี่สิบล้านแต่ธุรกิจตัวใหม่ของภีมมีมูลค่าถึงพันล้าน ถ้าเธออยากลงทุนก็ต้องทุ่มหมดตัว อุษาขบเม้มริมฝีปากอิ่มอย่างใช้ความคิด

ก่อนจะหยิบปากกาขึ้นมาจดทรัพย์สินทุกอย่างของเธอที่พอจะขายเป็นเงินได้ลงกระดาษเอสี่ เงินสด ทองคำแท่ง เครื่องเพชร รถสปอร์ต คอนโดมิเนียมใจกลางเมือง ที่ดินที่นนทบุรีอีกร้อยกว่าไร่ แม้จะขาดทุนเพราะขายแบบเร่งด่วนแต่เธอก็เลือกเดินต่อไม่เปลี่ยนใจง่ายๆ

แต่อีกใจก็อยากมีเงินในมือที่มากกว่านี้ คำพูดของรจนาก็วกกลับเข้ามาในหัวทันที

หลังเลิกงานอุษาไม่ได้ตรงกลับบ้าน แต่เลือกจะแวะไปที่บาร์ลับแห่งหนึ่งซึ่งที่นั่นคือหนึ่งในร้านโปรดของเธอ แต่ที่คาดไม่ถึงคือเธอได้พบกับคนที่อยากพบมากที่สุด ทันทีที่เห็นเขาอุษาก็ตรงเข้าไปทักทายอย่างเป็นกันเอง

“คุณภีม”

“คุณอุษา”

“โลกกลมจัง ไม่คิดจริงๆ ว่าจะได้เจอคุณที่นี่” สีหน้ารวมไปถึงแววตาของอุษานั้นแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาว่าเธอรู้สึกยินดีที่ได้พบกับภีมมากแค่ไหน ยิ่งได้เจอกันด้วยความบังเอิญแบบนี้ด้วยแล้วหัวใจของเธอก็ยิ่งพองโตและมองว่ามันคือพรหมลิขิต

“ผมมาหาเพื่อนแถวนี้นะครับเลยแวะหาอะไรดื่มนิดหน่อย ถ้าคุณอุษาไม่รังเกียจนั่งด้วยกันไหมครับ” ภีมชิงออกตัวเพราะมั่นใจว่าต่อให้เขาไม่ชวนอุษาก็ต้องขอนั่งด้วยแน่นอน อีกอย่างถ้าจะปฏิเสธเธอก็คงไม่ใช่สิ่งที่ควรทำนักแม้จะอยากนั่งดื่มอะไรคนเดียวก็ตาม

“ค่ะ” คนถูกชวนเอ่ยรับอย่างยินดี ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ออกแล้วหย่อนตัวลงไปนั่งด้วยท่วงท่ามั่นใจ

“อยากดื่มอะไรดีครับ”

“ฉันขอแค่ไวท์เลดี้ก็พอค่ะ พอดีคืนนี้ฉันมีงานต้องเคลียร์เลยอยากดื่มอะไรเบาๆ” ไวท์เลดี้ที่อุษาบอกไปนั้นคือค็อกเทลสีขาวที่จะเสิร์ฟด้วยแก้วทรงสวย นั่งดื่มแบบเชิ่ดๆ เริดๆ ก็ยิ่งส่งทำให้เธอดูดีน่ามอง

“ครับ” ภีมเอ่ยรับแล้วหันไปสั่งเครื่องดื่มให้อุษาในขณะที่เขาดื่มไวน์นำเข้าแทน ไม่นานบทสนทนาของอุษาก็เริ่มขึ้น เธอพูดคุยกับเขาราวกับรู้จักกันมานานบ่อยครั้งที่ทำให้ภีมหัวเราะออกมาได้ นั่นยิ่งทำให้เธอคิดว่าตัวเองมีแต้มต่อกว่าคนอื่นๆ

แม้จะอยากถามอยากคุยเรื่องธุรกิจใหม่ของชายหนุ่มที่เธอนั้นสนใจอยากร่วมทุนด้วยอย่างมาก แต่อุษาก็เลือกที่จะไม่ถามเพราะอยากให้เขาเซอร์ไพรส์ในวันพบหน้าผู้ถือหุ้นว่าหนึ่งในนั้นคือเธอมากกว่า

“สเปคผู้หญิงคุณภีมเป็นแบบไหนเหรอคะ”

“อืม…แบบไหนอย่างนั้นเหรอ” ขณะตอบคำถามเธอสายตาของภีมก็จ้องมองมาที่อุษา นั่นทำให้คนถูกจ้องมองเกิดอาการร้อนๆ หนาวๆ เพราะคิดเข้าข้างตัวเองไปแล้วว่าเขาอาจหมายถึงเธอ

“ผมไม่มีสเปคครับ ถ้าถูกใจก็คือใช่”

“แล้วตอนนี้เจอคนที่ถูกใจแล้วหรือยังคะ” แม้จะผิดหวังในคำตอบของเขาแต่อุษาก็ยังคงเก็บสีหน้ารวมไปถึงอาการได้ดี

“ถ้าเราสนิทกันมากกว่านี้ผมจะตอบนะครับ” คำตอบของภีมทำให้อุษาหน้าชาไปเล็กน้อย เธอฝืนยิ้มก่อนจะยกแก้วค็อกเทลขึ้นมาดื่มแก้อาการคอแห้งที่มันอาจลามไปทั้งหัวใจแล้วด้วยซ้ำ ครั้งก่อนเขาชิ่งกลับโดยไม่บอกเหตุผลฉะนั้นวันนี้เธอจะทำแบบเดียวกันซึ่งถ้าเขารั้งเธอก็จะให้อภัย

“ดึกแล้ว ฉันคงต้องขอตัวกลับก่อน”

“ขับรถดีๆ นะครับ ถ้ามีโอกาสเราคงได้พบกัน”

“ค่ะ” คำตอบของภีมทำให้อุษาผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ก็ยังคงส่งยิ้มให้เขา จากนั้นก็คว้ากระเป๋าแล้วเดินออกไปพอคล้อยหลังเขาหน้าตายิ้มแย้มเป็นมิตรก็กลายเป็นบึ้งตึงชนิดที่หนุ่มๆ ที่หมายตาเธอไว้ต่างพากันหยุดเท้าไม่เข้าไปทำความรู้จัก

กรี๊ดดดด

“เล่นตัวอะไรนักหนา” หลังจากกรี๊ดออกมาสุดเสียง อุษาก็ใช้มือทุบพวงมาลัยรถเพื่อระบายอารมณ์ นั่นเพราะยังหงุดหงิดกับสิ่งที่คาดหวังแต่ไม่เป็นดังหวังทว่าเพราะภีมเป็นแบบนั้นเธอจึงยิ่งอยากเอาชนะ อยากให้เขาคุกเข่าขอโทษแล้วยอมถวายชีวิตให้

วันรุ่งขึ้นอุษาจึงนั่งรวบรวมเงินที่จะนำไปลงทุนกับภีมอีกครั้ง ขาดเท่าไหร่ก็จัดการโยกเงินสดในบริษัทเข้ากระเป๋าส่วนตัวกระทั่งได้ตามยอดที่ต้องการ หลังจากนี้ถ้าเกิดปัญหาเธอค่อยขายทรัพย์สินที่เหลือเพื่อนำเงินมาคืน จากนั้นจึงนัดแนะให้รจนาออกมาพบ

“อะไร”

“เช็คเงินสด เธออาสาจะจัดการเรื่องลงทุนกับคุณภีมให้ฉันไม่ใช่เหรอ” อุษาเอ่ยบอก เพราะไว้ใจรจนามากและมองว่าตัวเองไม่เก่งเรื่องนี้ทำให้เธอมอบเงินลงทุนทั้งหมดให้เพื่อนสนิทไปดำเนินการต่อ

“อ๋อ…ได้สิ”

“ถ้าวันหนึ่งเขารู้ว่าฉันคือหนึ่งในผู้ร่วมลงทุนหลัก เขาจะทำหน้ายังไง”

“คงทั้งเซอร์ไพรส์แล้วก็ตกใจมากแน่ๆ แต่ถ้าต้องการเป็นผู้ลงทุนหลักจริงๆ ฉันว่าเงินแค่สี่สิบห้าสิบล้านมันออกจะน้อยไปนะ”

“อะไร ยังน้อยไปอีกเหรอ”

“น้อยสิ โครงการใหม่ของคุณภีมมีมูลค่าเป็นพันๆ ล้าน เงินแค่นี้จะถือได้ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์หรือเปล่าก็ไม่รู้” คำพูดของรจนาเริ่มทำให้อุษากังวล

“แต่นี่ฉันก็เทหมดหน้าตักแล้วนะ”

“ยังหรอก ยังไม่หมด ฉันมั่นใจว่าเธอยังหาเงินได้มากกว่านี้อีก”

“ไม่มีแล้ว เพราะเงินสดที่บริษัทของพี่อาภาฉันก็…โยกมาใส่บัญชีตัวเองจนเกือบหมด” อุษาไม่อยากเอ่ยเรื่องโยกเงินสักเท่าไหร่แต่ก็เพราะไว้ใจเพื่อนสนิทจึงพูดออกไป

“แล้วถ้าเกิดเหตุพี่สาวของเธอไม่ฟื้นนอนเป็นเจ้าหญิงนิทรายาวๆ แบบนั้น ประจวบเหมาะกับหลานสาวคนเดียวจู่ๆ ก็มาเสียชีวิตอย่างปริศนาด้วยอุบัติเหตุ สมบัติทุกอย่างก็จะเป็นของเธอโดยชอบธรรมใช่ไหม” รจนาพูดอย่างใจเย็นไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัวเลยด้วยซ้ำ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel