กามเทพเสนอรัก

49.0K · จบแล้ว
วรนิษฐา
30
บท
1.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

รวีคือหญิงสาวที่รอดตายจากการถูกลอบฆ่า เธอดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากก้นเหมืองและคนที่ช่วยชีวิตเธอไว้คือภีม บางคนกล่าวไว้ว่าความรักครั้งนี้ของภีมเกิดขึ้นจากความสงสาร แต่ชายหนุ่มก็พิสูจน์ให้เห็นว่าความรักที่เกิดจากความสงสารนั้นไม่ผิด เขารักเธอ รักผู้หญิงแปลกหน้าที่ใสซื่อและไร้พิษภัย เพราะรักจึงทุ่มเทและเลือกที่จะปกป้อง ใครหน้าไหนก็แตะเธอไม่ได้

นิยายรักโรแมนติกผู้ชายอบอุ่นมาเฟียพระเอกเก่งรักหวานๆ

บทที่ 1

“ทำใจดีๆ ไว้นะรวี”

ประโยคที่ได้ยินจากน้าสาวที่เวลานี้ยืนรออยู่หน้าห้องไอซียูด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนั้นทำให้รวีทรุดลงไปนั่งกับพื้น ทันทีที่รู้ข่าวว่าแม่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอที่ตอนนี้ยังเรียนอยู่ที่สหรัฐอเมริกาก็รีบหาตั๋วเครื่องบินที่เร็วที่สุดเพื่อบินกลับมาเมืองไทย แต่ก็เสียเวลาต่อเครื่องจากสุวรรณภูมิมาที่ภูเก็ตอยู่หลายชั่วโมง

ยิ่งเมื่อใจจดจ่อกับอาการเจ็บป่วยของแม่ที่เมืองไทยด้วยแล้วระยะเวลานั่งเครื่องรวมต่อเครื่องจึงนานเท่าตัว นั่นทำให้รวีนั่งร้องไห้โดยไร้คนปลอบโยน ความเหนื่อยล้าที่ควรจะมีเพิ่มขึ้นหลายเท่าเช่นกันโดยเฉพาะทางใจที่เฝ้าภาวนาขอให้ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องจริงแต่แล้วสิ่งที่เธอเฝ้าภาวนาก็ไม่เป็นผล

“หนูเข้าไปเยี่ยมแม่ได้ไหมคะน้าอุษา”

“วันนี้คงไม่ได้จ้ะ เพราะหมดเวลาเยี่ยมแล้ว” สีหน้ารวมถึงน้ำเสียงของอุษานั้นเจ็บปวดไม่แพ้รวีหลานสาวเลยแม้แต่น้อย เธอเข้าไปโอบกอดอีกฝ่ายไว้แล้วลูบหลังเบาๆ อ้อมกอดที่ได้รับทำให้รวีปล่อยโฮออกมา

“แม่จะไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ” น้ำเสียงสั่นเครือของรวีเอ่ยถาม นั่นเพราะเธอยังไม่พร้อมจะสูญเสียมารดาแม้จะเคยสูญเสียบิดาไปแล้วแต่มันก็ยากจะรับมือกับสถานการณ์ในตอนนั้นหากเกิดขึ้นซ้ำอีก

เธอพึ่งคุยกับมารดาเมื่อไม่กี่วันก่อนว่าปีนี้เธอจะขอบินกลับมาฉลองวันเกิดด้วยกัน แต่แล้วทำไมเหตุการณ์แบบนี้ถึงได้เกิดขึ้น ทำไมกัน

“จ้ะ พี่อาภาเข้มแข็ง น้าเชื่อว่าอีกไม่กี่วันต้องรู้สึกตัวแน่ๆ”

“หนูไม่พร้อมสูญเสียใครอีกแล้วค่ะ ไม่เอาอีกแล้ว”

“โธ่เอ๋ย หลานสาวของน้า” อุษากอดปลอบโยนรวีที่หน้าห้องไอซียูอยู่นานเพราะเข้าใจความรู้สึกดี ถ้าเธอเลือกได้ก็ไม่อยากให้หลานสาวรีบกลับมาในสถานการณ์เช่นนี้นักแต่เรื่องอุบัติเหตุคงไม่มีใครคาดเดาหรืออยากให้เกิด

คืนนั้นอุษาขับรถไปส่งรวีที่บ้าน เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจึงกลับออกไปทว่าเป้าหมายของเธอกลับไม่ใช่บ้านตัวเองแต่คือบาร์แห่งหนึ่ง

“มาแล้วเหรอ” ทันทีที่เห็นอุษารจนาเพื่อนสนิทที่มานั่งดื่มรออยู่นานแล้วก็เอ่ยทักขึ้น

“อืม”

“ดื่มอะไรหน่อยไหม”

“ขอแรงๆ หน่อย พักนี้เหนื่อยเป็นบ้า” อุษาหลับตาแล้วขยับบิดหัวไหล่ที่รู้สึกว่าตึงไปหมดไปมา คงต้องหาเวลาเข้าร้านสปาเพื่อนวดเสียหน่อย

“ก็ควรจะเหนื่อย ไหนจะวิ่งรอกทำงานแทนที่พี่สาวที่ตอนนี้ยังไม่ได้สติ ไหนจะต้องเป็นที่พึ่งให้หลานสาวที่พึ่งบินกลับมาจากเมืองนอกอีก”

“ใช่ว่าฉันอยากจะทำแบบนั้นเสียเมื่อไหร่” อุษายิ้มเหยียดออกมา พักนี้เธอเหนื่อยจนอยากเหวี่ยงใส่ทุกอย่างแต่ก็ต้องข่มอารมณ์ไว้ วางมาดเป็นผู้บริหารที่ดีต่อหน้าลูกน้องเพื่อหวังผลประโยชน์ที่กำลังตามมา

ทั้งๆ ที่เธอนั้นรักชีวิตที่แสนสุขสบายอย่างในตอนนี้มากกว่าอย่างอื่น จะว่าไปการเกิดเป็นน้องที่อายุห่างจากพี่สาวเกือบสิบปีก็ดีไปอีกแบบ

“เธอนี่ อย่าใจร้ายนักสิมันไม่สมกับหน้าตาสวยๆ ของเธอเลย” รจนาแกล้งแซวเพราะเป็นเพื่อนกันมานานจึงรู้นิสัยใจคอกันเป็นอย่างดี ภายนอกอุษาอาจเหมือนนางฟ้าจุติมาเกิดแต่เนื้อในเธอคือนางแม่มดดีๆ นี่เอง

“แล้วนี่เขามาหรือยัง” ขณะเอ่ยถามก็กวาดสายตามองไปรอบๆ ร้านเพื่อหาอีกคน

“ยังไม่เห็น แต่มาชัวร์”

“ข่าวเธอนี่เชื่อได้แน่ใช่ไหม”

“เชื่อได้สิ คนระดับฉันเรื่องแค่นี้ไม่มีคำว่าพลาด พูดถึงก็มานู่นแล้ว เป้าหมายของเธอ…คุณภีม” รจนามองไปยังชายหนุ่มที่เวลานี้กำลังเดินเข้ามา ที่นี่นอกจากมีเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ให้บริการแล้วอาหารอิตาเลียนก็อร่อยขึ้นชื่อ

พอรู้ว่าที่นี่คือร้านโปรดของภีมอุษาก็ส่งรจนามาคอยจับตาชายหนุ่มกระทั่งรู้ว่าเขาจะมาทุกศุกร์หรือไม่บางอาทิตย์ก็จะมาวันเสาร์ด้วย ที่มาบ่อยเพราะภีมเป็นหุ้นส่วนของที่นี่ ผู้ชายเพอร์เฟคแบบนี้มีหรือที่อุษาจะไม่พึงพอใจ ที่เหลือจากนี้ก็แค่ทำให้ชายหนุ่มสนใจเธอบ้าง

“งั้นฉันไปก่อนนะ คืนนี้เธอจะดื่มอะไรก็ลงบัญชีไว้ เดี๋ยวฉันเคลียร์เอง”

“ขอบใจ” รจนายิ้มให้อีกฝ่ายอย่างพอใจแล้วยกแก้วขึ้นมองตามอุษาที่กำลังเดินไปหาภีม “มั่นหน้า กินแห้วทีเถอะ” เมื่ออวยพรเสร็จเธอก็ยกแก้วขึ้นดื่ม

“สวัสดีค่ะคุณภีม” ประโยคทักทายที่ได้ยินทำให้ชายหนุ่มเจ้าของชื่อหันมอง จึงเห็นว่าเป็นสุภาพสตรีแสนสวยคนหนึ่งที่เขาไม่คุ้นหน้าเสียเท่าไหร่

“สวัสดีครับ”

“อุษาค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก” อุษายื่นมือไปรอทักทายภีมอย่างเป็นกันเอง ซึ่งชายหนุ่มก็ยื่นมือมาสัมผัสกับมือนุ่มของเธอเบาๆ เพื่อไม่ให้เสียมารยาท ทว่าอีกฝ่ายกลับเพิ่มแรงสัมผัสรวมถึงสายตาที่สื่อมานั้นก็มีนัยยะแอบแฝง

ภีมไม่ใช่ผู้ชายอ่อนต่อโลก ชายหนุ่มอ่านความหมายของสายตานั้นออกว่าอุษาต้องการสื่ออะไร แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเดินเกมผิดเพราะการเข้าหาเขาแบบโต้งๆ แบบนี้ยิ่งทำให้เขาถอยห่าง แต่ถึงอย่างนั้นภีมก็ไม่อาจหมางเมินหรือแสดงท่าทางต่อต้านได้อย่างที่ใจคิด

“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับคุณอุษา” รอยยิ้มจากเขามีอิทธิพลต่อหัวใจอุษา นั่นเพราะเธอตกหลุมรักชายหนุ่มตั้งแต่แรกเห็นเพราะแบบนั้นจึงอยากรู้จักและอยากได้ ยิ่งรู้ว่าเขาเข้าถึงยากก็ยิ่งท้าทายที่จะเอาชนะ

“ฉันชอบที่นี่มากค่ะ” ทันทีที่ปล่อยมืออุษาก็รีบบอกว่าเธอชอบที่นี่ นั่นก็เพื่อหวังทำให้ภีมประทับใจ

“อ้อครับ”

“นอกจากบรรยากาศดีแล้วอาหารก็อร่อย เจ้าของก็ยัง…น่าสนใจ จะรังเกียจไหมคะถ้าฉันอยากเป็นเพื่อนกับคุณ” ขณะนั้นอุษาก็ใช้สายตาที่สื่อความหมายหลายๆ อย่างมองตรงมายังภีม

“ไม่รังเกียจครับ”

“ชนแก้วค่ะ เพื่อมิตรภาพของเรา” อุษายกแก้วทรงสวยขึ้นเชื้อเชิญชายหนุ่ม ซึ่งภีมก็ชนแก้วกับเธออย่างไม่ลังเล จากนั้นทั้งคู่แลกนามบัตรแล้วนั่งดื่มด้วยกัน

บ่อยครั้งที่มีผู้หญิงเข้ามาทักทายภีม แม้จะหวงแต่อุษาก็ไม่อาจแสดงออกได้ตรงกันข้ามเธอกลับแสดงถึงความใจกว้าง บางจังหวะก็ยังยั่วให้ภีมสนใจด้วยการชนแก้วกับสุภาพบุรุษที่เดินเข้ามาทำความรู้จักเธอเช่นกัน

แต่ดูเหมือนมารยาของเธอจะใช้ไม่ได้ผล เพราะจู่ๆ ภีมก็ขอตัว ชายหนุ่มไม่ได้บอกเหตุผลว่าเขาจะไปที่ไหนหรือจะกลับมาหาเธออีกไหมและเพราะตัวเองก็เป็นผู้หญิงที่มั่นใจสูงอุษาจึงเลือกที่จะไม่ได้ถามเช่นกัน แม้จะไม่พอใจที่ถูกเขาทิ้งไว้แบบนี้ก็ตาม

“อ้าว! ทำไมกลับมาเร็ว” รจนาเอ่ยถามขึ้น ทั้งๆ ที่อุษาหายไปเกือบชั่วโมง แต่กลับมาคนเดียวแบบนี้แห้วอย่างที่เธอคิดสินะ