บทที่ 3 - แม่ค้าปลาคนสวย
ทั้งลีลาการขายของแม่ค้าคนสวยก็จัดจ้านติดตรึงตราเสียเหลือเกิน เพราะสำหรับตัวเขาเอง แม้จะพึ่งเคยเห็นวิธีค้าขายแบบนี้เป็นครั้งแรก ก็ต้องยอมรับว่าติดใจจนอยากมายืนดูลีลาแม่ค้าอีกหลายครั้ง หรือจะให้มาดูทุกวันก็ย่อมได้
ริมฝีปากแดงระเรื่อยามตะโกนเรียกลูกค้า ขยับปากพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน ก่อนจะแย้มยิ้ม อดทำให้คิดไม่ได้ว่าหากได้กุ้งหอยปูปลาจากร้านนี้ไป อาหารคงจะปรุงออกมาได้อร่อยมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว เพราะกินไปก็ให้นึกถึงหน้าตาและรอยยิ้มของแม่ค้าอยู่ร่ำไป
‘ทั้งสดปลาและสดใจ’ อย่างที่แม่ค้าสูงวัยเปรียบเปรย
“แล้วพ่อคิดว่าคนอื่นเขาคิดแบบไหนกันเล่า ดูสิเข้าไปรุมล้อมอยู่แต่แผงอีนวล แล้วดูแผงฉันสิ ดูแผงนู้น แผงโน้นด้วย คิดว่าป่าช้ามาเยือนกันแล้วนะเนี่ย”
“รอก่อนเถอะแม่น้อย ประเดี๋ยวอีนวลมันขายหมดก็ถึงคราวของเราบ้าง”
พ่อค้าที่คงเป็นผัวพูดเหมือนจะปลอบใจเมียที่ส่งสายตามองค้อนไปยังแม่ค้าคนสวยแบบกะหลับกะเหลือก แต่แล้วก็กลายเป็นเขม่นมองและพูดโดยเร็ว
“โน่น! อีนวลมันว่างแล้ว พ่อรีบไปก่อนจะหมดเร็ว!”
ปานหันมองตามแล้วก็เห็นว่าแม่ค้านวลถอนหายใจเฮือกพร้อมยกหลังมือขึ้นปาดเหงื่อ แบบคนเหนื่อยจริง แต่ไม่ทันไร ลูกค้าผู้ชายกลุ่มใหญ่ก็ตรงเข้าไปอีก และแม่ค้านวลก็ยิ้มหวานทักทายทันที ใบหน้าที่เห็นว่าเหน็ดเหนื่อยหายวับ
“เห็นไหมล่ะนั่น พ่อมัวแต่ช้า อีนวลน่ะมันไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้นนะ ใครมาซื้อก่อนมันก็ขายก่อน มันน่ะเน้นขายเร็วหมดเร็ว แบบรวยคนเดียวไม่แบ่งปันพ่อค้าแม่ค้าคนอื่นเลย!”
“แม่น้อยอย่าไปพูดแบบนั้น แม่น้อยก็รู้ว่าอีนวลมันจำเป็นต้องขายของให้หมดทุกวัน”
“แล้วใครไม่จำเป็นกันเล่า ฉันก็จำเป็นเหมือนกัน ต้นดอกก็ต้องส่งกำนันเหมือนกันนั่นแหละ มีใครไม่ต้องส่งบ้างเล่า”
“เหมือนที่ไหนกัน แม่น้อยก็พูดเหมือนไม่รู้ความ พ่อหนุ่มอย่าถือสาเมียลุงเลยนะ ขายของดีไม่สู้เขา มันก็พูดไปเรื่อย”
ลุงพ่อค้าที่พูดแบบเป็นความนัยกับป้าแม่ค้าที่หน้าง้ำมองผัว ก่อนจะสะบัดหน้าพรืดไปอีกทาง กระตุ้นให้ปานต้องขยับเข้าไปชิด ทั้งที่ตัวเขาเอง ไม่เคยจะอยากรู้อยากเห็นเรื่องใครเลย ยิ่งคนตั้งท่าจะพูดทำทีอยากให้เขาถาม เขายิ่งไม่ทำแน่ แต่เรื่องของแม่ค้าชื่อนวลนั้น เขาไม่รู้ไม่ได้ ทว่ามาจากเรื่องกำนันเป็นเจ้าหนี้ หรือเรื่องที่หัวใจเขาเต้นระส่ำกันล่ะ
“ไม่เหมือนยังไงหรือจ๊ะ ลุง ป้า ช่วยบอกฉันหน่อย”
“พ่ออย่ารู้เลย รู้ไปพ่อก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก อีกอย่าง หน้าตาพ่อก็ไม่คุ้น ดูเชิงพ่อไม่ใช่คนถิ่นนี้ ยิ่งช่วยได้ยากใหญ่”
“บอกฉันหน่อยเถอะจ้ะลุง ฉันจะได้รู้ว่าควรมาซื้อปลาที่แผงของแม่ค้าคนสวยในวันพรุ่งนี้อีกหรือเปล่า”
ดวงตาคมเข้มที่เปลี่ยนเป็นหวานล้ำยามมองไปยังแม่ค้าหน้าสวยที่ยังคงยิ้มแย้มแจ่มใสหยิบจับปลากุ้งหอยใส่ข้องให้ลูกค้า ทำเอาป้าแม่ค้าค้อนน้อยๆ ก่อนจะหันไปพยักหน้าเบ้ปากให้กับลุงพ่อค้า ทำนองที่ว่าเขาก็เป็นอีกหนึ่งผู้ชายที่มาติดพันแม่ค้าขายปลานั่นแหละ
“พูดแล้วเหยียบไว้นะพ่อ ลุงไม่ได้อยากพูดเรื่องคนอื่น ประเดี๋ยวใครๆ จะหาว่าพ่อค้าแม่ค้าร้านนี้ขี้นินทา”
“จ้ะลุง รับรองว่าฉันจะไม่บอกใคร ฉันแค่อยากให้ความช่วยเหลือ... ถ้าเป็นไปได้”
พูดเสียงทุ้มและสายตายังคงจับจ้องที่ใบหน้าสวย ‘ใช่’ เขาพูดตรงตามใจ เป็นไปได้อยากให้ความช่วยเหลือจริงๆ
“ก็อีนวลน่ะ มันต้องหาเงินส่งดอกให้กำนันน่ะสิ มันถึงต้องขายของให้หมดให้ได้สตางค์เยอะๆ ถ้าขายไม่หมดหรือได้น้อยนะ คราวนี้มันแย่แน่”
“ทำไมล่ะจ๊ะลุง”
“มานี่พ่อหนุ่ม ไหนๆ ก็เล่าแล้ว ตาแก้ว! ไปเฝ้าหน้าไว้ พ่อหนุ่มมานี่สิ ป้าจะเล่าให้ฟัง”
ป้าแม่ค้ากวักมือเรียกเขาไปนั่งด้านหลังร้าน มองซ้ายขวาเหมือนจะมีใครมาได้ยิน ทั้งที่ลูกค้าส่วนใหญ่ก็พุ่งตรงไปยังแผงแม่ค้านวล ไม่มีสักคนที่จะสนใจมองมาทางฝั่งนี้
‘ก็อีนวลน่ะมันอาภัพ พ่อแม่มันน่ะก็ถูกฟ้าผ่าตาย เหลือมันกับไอ้กล้าน้องชายเท่านั้นแหละ แทนที่มันจะได้ทำนาดูแลบ้านเรือนและเตรียมตัวมีผัวมีลูก มันก็ต้องมาเป็นแม่ค้าเร่ขายปลากุ้งหอย และต้องขายให้ได้สตางค์มากสุดในแต่ละวันด้วยนะ เพราะคนของกำนันก็จะมาเก็บดอกเบี้ยทุกวัน’
‘ดอกเบี้ยจากอะไรจ๊ะป้า แม่นวลไปเอาเงินกำนันมาเรอะ’
‘มันน่ะไม่ได้เอามาหรอก แต่เป็นพ่อแม่มันน่ะสิ สร้างหนี้ เอาที่นาไปจำนองไว้กับกำนันก่อนตาย อีนวลมันเลยต้องรับใช้หนี้ แล้วหน้าตาอย่างมันนะ เงินต้นไม่มี ถ้าดอกเบี้ยให้น้อยอีก ไม่พ้นที่มันต้องไปเป็นนางขัดดอกของกำนันแน่ นี่เพราะป้ามีผัวแล้วหรอกนะ ไม่งั้นขี้คร้านจะได้ไปขัดดอกกับเขาเหมือนกัน’
‘มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือจ๊ะ’
‘น้อยไปน่ะสิพ่อ ขัดดอกน่ะมันไม่เลือกอายุหรอกนะ รุ่นราวคราวเดียวกับป้าถ้ายังไม่มีผัว กำนันท่านก็เรียกใช้เหมือนกัน ก็อย่างว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกัน อิอิ...’
‘ไม่ใช่เรื่องนั้นจ้ะป้า ฉันหมายถึงว่าแม่นวลต้องขายของให้หมดเพื่อเอาสตางค์ไปส่งดอกเบี้ยกำนัน ถ้าไม่พอก็ต้องไปเป็นนางขัดดอกจริงๆ หรือจ๊ะป้า’
