บทที่ 4 เริ่มการประมูล
หลายวันต่อมา บ่าวรับใช้ชายที่ทำงานอยู่ในหอหงฮวาก็เริ่มเอาแผ่นป้ายการเปิดประมูลความบริสุทธิ์ของจ้าวซินหยานมาติดตามถนนและเขตชุมชน
แน่นอนว่ามีผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเห็นกฎในการเข้าร่วมการประมูล ชาวบ้านผู้ชายที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไรก็ต้องยอมถอยร่นไป ทองสองหีบไม่ใช่น้อย ๆ หากไม่รวยล้นฟ้า มีหรือจะกล้าเอาสมบัติมากมายขนาดนี้มาเสี่ยง
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนยอมเสี่ยง คนชายจากตระกูลร่ำรวยทั้งหลายต่างให้ความสนใจ และยินดีที่จะรับความเสี่ยงนี้ หากพวกเขาจะได้ครอบครองสาวงามอันมีชื่อลือเลื่องไปทั้งเมือง
รวมถึงจางเฟยเจินก็เช่นกัน
ทันทีที่เห็นป้ายประกาศ คุณชายแห่งตระกูลจางผู้นี้ก็รีบเร่งไปยังหอหงฮวาทันที แม้จะคิดว่าตัวเองมาถึงที่นี่เร็วแล้ว แต่ก็ยังช้ากว่าคุณชายอีกหลายตระกูล
หน้าหอหงฮวา มีคุณชายจากตระกูลผู้ดีหลายสิบคนยืนรอเข้าแถวเพื่อจะรับหีบไปใส่ทอง จางเฟยเจินเข้ามาต่อแถวด้วยจิตใจที่ไม่สดชื่นนัก
แม้จะพอรู้ว่าจ้าวซินหยานเป็นที่หมายปองของคุณชายหลายคน แต่ก็ไม่คิดว่าจะเยอะขนาดนี้ เขาเริ่มเป็นกังวลว่าจะชนะการประมูลหรือเปล่า ถึงแม้เขาจะมีเงินทองมากมาย สามารถทุ่มได้ไม่อั้น แต่คุณชายทั้งหลายเหล่านี้ก็มิต่างกัน
จ้าวซินหยานแอบดูเหล่าบรรดาคุณชายที่ต่อแถวรอรับหีบจากเสี่ยวเอ้ออยุ่ไม่ไกลเท่าไหร่นัก ในใจนางไม่ได้รู้สึกยินดีกับภาพที่เห็นเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังนึกสังเวชใจ เหล่าบุรุษทั้งหลายเหล่านี้กล้าทุ่มสมบัติมากมายเพื่อได้ครอบครองสตรีที่ตนหวังให้มาสนองความใคร่กระหาย บางคนนั้น แต่งงานมีฮูหยินแล้วก็มี
นัยน์ตาหงเหลือบไปเห็นจางเฟยเจินที่ยืนต่อแถวอยู่เกือบหลังสุด ริมฝีปากของนางหยักโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มที่น่าสังเวชใจที่สุด เขาก็ไม่ต่างจากคนอื่น สังเวชใจนักที่คราก่อนได้มอบหัวใจให้คนอย่างเขา
“แม่นางซินหยาน กลับเข้าเรือนเถิดเจ้าค่ะ หากคุณชายท่านใดบังเอิญหันมาเห็นเข้า จะกลายเป็นเรื่องใหญ่นะเจ้าคะ”
อาหลานเอ่ยบอกกับซินหยาน เพราะหากว่ามีเพียงคนเดียวหันมาเห็นสาวงามที่ยืนมองอยู่ตรงนี้ คงได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นในหอหงฮวาเป็นแน่ ต่างคนก็ต่างจะแย่งให้ได้อยู่ใกล้สาวงาม
“อืม ก็ดีเหมือนกัน ข้าเองก็ไม่อยากมองภาพพวกนี้แล้วเช่นกัน” จ้าวซินหยานกล่าวออกมาเพียงแค่นั้น แล้วก็หันหลังเดินกลับไปยังเรือนของตน
******
ฤดูหนาวมาเยือน ในตอนนี้ที่หอหงฮวากำลังชุลมุนวุ่นวาย เพราะต้องเตรียมสถานที่และสิ่งของมากมายสำหรับงานประมูลความบริสุทธิ์ของจ้าวซินหยานในวันพรุ่งนี้
บ่าวรับใช้ทั้งชายหญิงต่างเดินไปเดินมา มองดูแล้วก็น่าเวียนหัว แต่หากไม่เร่งรีบแล้วล่ะก็ เกิดทุกอย่างไม่เรียบร้อยทำให้งานวันพรุ่งนี้ผิดพลาด มีหวังคงถูกจูซิงเยียนลงโทษสถานหนักเป็นแน่
ซินหยานยืนมองอยู่ไม่ไกลนัก ทั้งหมดนี้เป็นนางที่เป็นคนออกแบบและเอ่ยบอกกับจูซิงเยียน ซึ่งผู้เป็นมามาก็ไม่ได้ขัด ตามใจนางทุกอย่าง
ลมหายใจถูกพ่นออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า บางทีก็ไม่แน่ใจว่าตนทำถูกหรือไม่ ในเมื่อรู้เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นแล้ว ทำไมถึงไม่เลือกที่จะหลีกเลี่ยง
แต่หลีกเลี่ยงแล้วได้อันใด คนผู้นั้นก็จะไม่ได้รับบทเรียน ไม่ได้รับรู้ความเจ็บปวดที่เคยเกิดขึ้นกับนางเมื่อคราก่อน ถึงแม้เหมือนเอาตัวเองลงไปเล่นในกองเพลิงให้เผาไหม้ร่างกายและหัวใจ แต่ถ้ามันจะทำให้จางเฟยเจินได้รับบทเรียน ทุกอย่างถือว่าไม่เสียเปล่า
******
ยามดวงตะวันคล้อยลงต่ำ บรรยากาศในหอหงฮวาก็ยิ่งครึกครื้น เดิมทีเหล่าบุรุษทั้งหลายก็แวะเวียนมาเสพสำราญไม่ขาดสาย แต่วันนี้มีงานประมูลเกิดขึ้น ยิ่งทำให้สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย โดยเฉพาะคุณชายจากตระกูลต่าง ๆ
บุรุษหนุ่มผู้ร่ำรวยหลายคนเดินเข้ามายังหอหงฮวา ข้างกายมีบ่าวรับใช้หอบเอาหีบมาคนละสองหีบ บางคนยังมีของพิเศษอย่างอื่นมากำนัลหวังว่าสาวงามอาจจะพึงใจและเลือกตน
จางเฟยเจินนั่งลงบนตั่งที่จัดไว้ให้ ด้านหน้าของเขามีหีบที่ใส่ทองคำจนเต็มสองหีบเช่นเดียวกับคุณชายจากตระกูลอื่น เมื่อมากันครบทุกคน เสี่ยวเอ้อก็มายกหีบทองคำไปเก็บข้างใน
เสียงดนตรีเริ่มบรรเลง มีสาวงามออกมาร่ายรำหลายเพลงเพื่อรอเวลาให้จ้าวซินหยานปรากฎตัว สุราเมรัยถูกยกมาให้กับผู้มาเยือน ข้างกายคุณชายแต่ละท่านก็มีหญิงคณิกานั่งคอยปรนนิบัติอยู่ไม่ห่าง
แต่ดูเหมือนบุรุษทั้งหลายเหล่านี้ จะใจจดจ่อรอคอยผู้ที่พวกเขาเฝ้ารอแต่เพียงผู้เดียว จนแทบไม่ได้สนใจสาวงามที่เฝ้าคลอเคลียอยู่ข้างกาย
“แม่นางซินหยานมาแล้วเจ้าค่ะ” เสียงของอาหลานตะโกนขึ้น พร้อมกับวิ่งมารอด้านหน้า ชั่วครู่ จ้าวซินหยานก็ปรากฏตัวย่างกรายเข้ามาภายในบริเวณจัดงานด้วยท่าทางอ่อนช้อยงดงาม
“ซินหยานขออภัยคุณชายทุกท่านที่ทำให้ต้องรอนานเจ้าค่ะ” เมื่อมาถึงที่นั่ง นางย่อตัวลงพร้อมก้มหัวเล็กน้อยเพื่อแสดงการขอโทษต่อผู้ที่รออยู่
นัยน์ตาหงปรายไปมองยังตำแหน่งที่จางเฟยเจินนั่งอยู่ แล้วริมฝีปากก็หยักโค้งขึ้นคล้ายกำลังยิ้มทักทาย เฟยเจินเมื่อเห็นเช่นนั้นก็พยักหน้าให้นางและยิ้มตอบ
เมื่อเจ้าซินหยานมาถึงแล้ว การแสดงต่าง ๆ ก็หยุดลง ตอนนี้ก็เริ่มเข้าสู่การประมูลความบริสุทธิ์ของนาง
หญิงงามผู้ที่มีใบหน้าสว่างราวกับแสงจันทร์ส่อง ใช้สายตามองไปรอบ ๆ บริเวณแล้วก็โปรยยิ้มให้กับบุรุษที่กำลังรอประมูล เห็นแบบนั้นคุณชายทั้งหลายต่างก็เร่งเร้าให้นางถามคำถามเสียที เพราะแต่ละคน ต่างก็อยากที่จะได้ความบริสุทธิ์ของนางมาครอบครองเต็มทน
“ดูท่าคุณชายทั้งหลายจะรอไม่ไหวเสียแล้ว ถ้าอย่างนั้น ซินหยานถามเลยนะเจ้าคะ” เมื่อได้ยินคำกล่าวของนาง เหล่าคุณชายก็ปรบมือรับด้วยความดีใจ
“คำถามของซินหยานมีเพียงข้อเดียวเท่านั้น ให้คุณชายทุกท่านเขียนคำตอบลงในกระดาษที่เสี่ยวเอ้อได้แจกให้ โดยที่คุณชายจะเขียนได้คนละสามคำตอบ แต่ถ้าหากท่านใดมั่นใจในคำตอบของตัวเอง ก็สามารถเขียนเพียงคำตอบเดียวได้เจ้าค่ะ”
จ้าวซินหยานเริ่มอธิบายกฎในการตอบคำถามของนางช้า ๆ อย่างละเอียด เพื่อให้บุรุษทั้งหลายเข้าใจตรงกัน และเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายหลังจากตัดสินคนชนะแล้ว
“หากมีคนตอบถูกมากกว่าหนึ่งคน ซินหยานจะพิจารณาจากความมั่นใจของคำตอบ หากคุณชายท่านใดเขียนคำตอบที่ถูกต้องเพียงคำตอบเดียว ไม่ได้มีคำตอบอื่นบนกระดาษ ก็จะกลายเป็นผู้ชนะการประมูล และได้ตัวซินหยานในคืนนี้เจ้าค่ะ”
จบการอธิบายอย่างละเอียด เสียงโห่ร้องพร้อมกับเสียงปรบมือก็ดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง ซินหยานหันไปพยักหน้าให้กับอาหลานหยิบซองที่ใส่กระดาษคำถามมาให้
“เพื่อให้คุณชายทุกท่านมั่นใจว่าการประมูลในครั้งนี้ยุติธรรม ไม่มีการเปลี่ยนคำถามกะทันหันเพื่อเข้าข้างใคร ซินหยานได้เก็บซองคำถามไว้อย่างดีเจ้าค่ะ”
จ้าวซินหยานคลี่แผ่นกระดาษที่หยิบออกมาจากซอง แล้วก็ค่อย ๆ อ่านคำถามอย่างช้า ๆ เพื่อให้ทุกคนได้ยินและเข้าใจตรงกัน
“คำถามคือ ขนมหวานที่ซินหยานชอบที่สุดคืออะไรเจ้าค่ะ” เมื่อนางอ่านคำถามจบลง คุณชายจากตระกูลต่าง ๆ ก็รีบก้มหน้าก้มตาเขียนคำตอบ มีเพียงหนึ่งที่ดูจะไม่ได้ตื่นเต้น หรือคิดมากกับคำถามที่ได้ยิน
และคุณชายผู้นั้นก็คือจางเฟยเจิน
เขาก้มลงเขียนคำตอบอย่างประณีตบรรจง ริมฝีปากยกขึ้นเล็กน้อย ในตอนนี้ เขาแทบจะสะกดความยินดีปรีดาในใจไว้ไม่อยู่
“แต่ซินหยานชอบกินขนมกวยแปะมากเลยนะเจ้าคะ”
จางเฟยเจินจำประโยคนี้ของนางได้ดี และมั่นใจว่าคงไม่มีผู้ใดได้รู้เรื่องนี้เป็นแน่
*****************************************
