บท
ตั้งค่า

หวนคืนอีกครั้ง

บทที่ 3

หวนคืนอีกครั้ง

พรึบ!

ดวงตาคู่งามของหลินซูเม่ยเปิดขึ้นช้า ๆ สิ่งแรกที่ปรากฏสู่ครรลองสายตา คือเตียงปาปู้ หลังใหญ่ที่ตกแต่งอย่างหรูหราอันแสนคุ้นตา กลิ่นหอมของเทียนสงบจิตลอยอบอวลในอากาศ ทำให้นางมึนงงสับสนอยู่บ้าง แต่หลังจากที่ดึงสติกลับมาได้ นางก็ค่อย ๆ ใช้สายตากวาดมองไปรอบ ๆ

“ทำไมช้ามาอยู่ที่นี่ นี่ไม่ใช่แดนสวรรค์ที่มีหมอกเย็นลอยวน ไม่ใช่ตำหนักของพญายมที่มีกลิ่นอายความตายหรอกหรือ”

นางกวาด สายตาไปเห็นเพียงแค่ห้องนอนห้องหนึ่งเท่านั้น แต่ก็เป็นห้องที่แสนจะคุ้นเคย แม้จะคุ้นเคยแต่มันก็นานมากแล้ว ราวกับถูกกลบฝังอยู่ในซอกหลืบของความทรงจำ

นางค่อย ๆ ค้นความทรงจำของตัวเอง พลันนึกได้ในทันทีว่าที่แห่งนี้คือห้องนอนของนางที่บ้านเดิมสกุลหลิน แล้วเหตุใดนางถึงมาอยู่ที่นี่? นางแต่งเข้าจวนของจวนขององค์ชายรองแล้วมิใช่หรือ

หลินซูเม่ยรู้สึกมึนงงสับสนจับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่ใช่ว่านางตายไปแล้วหรอกหรือ กระทั่งความรู้สึกตอนที่ถูกรัดคอก่อนจะหมดสติ ก็ยังเด่นชัดในความทรงจำ นางจับไปที่ลำคอของตัวเอง ที่ในตอนนี้ไม่ได้รู้สึกอะไรอีกแล้ว จากนั้นค่อย ๆ ก้มลงมามองที่ข้อมือ ยามนี้ที่ข้อมือเองก็ไม่ได้มีร่องรอยบาดแผลจากการถูกกรีดแล้วเช่นกัน

“หรือข้าตายครบเจ็ดวัน แล้วดวงจิตเลยหวนคืนสู่แดนมนุษย์ แล้วก็มายังสถานที่ที่ข้าปรารถนาเอาไว้ก่อนตาย?”

นางก็เคยได้ยินมาเหมือนกันว่ามนุษย์จะมีสามจิตเจ็ดวิญญาณ พอตายครบเจ็ดวันวิญญาณจะหวนกลับคืนสู่โลกหยางอีกครั้ง

“แต่หากสวรรค์ให้ข้าได้กลับมาทั้งที แต่เหตุใดถึงกลับมาบ้านเดิมของตัวเองเล่า น่าจะกลับไปที่จวนขององค์ชายรองมากกว่า จะได้หลอกอีกฝ่ายให้ตกใจตายไปเลย จะได้ลากลงนรกภูมิไปพร้อม ๆ กัน เดรัจฉานพรรค์นั้น ก็ไม่ควรมีอายุยืนยาว” นางคิดแค้นไปถึงคนที่เป็นต้นเหตุให้ตระกูลหลินล่มสลาย

“แต่เอาเถิด ในเมื่อมาอยู่ที่นี่แล้วก็ช่วยไม่ได้”

หลินซูเม่ยค่อย ๆ ยันกายลุกขึ้นตั้งใจจะเดินสำรวจให้ทั่วห้องนี้เสียหน่อย นานแล้วที่นางไม่ได้มาที่นี่ ครั้งสุดท้ายคือตอนที่นางถูกองค์ชายรองหลอกให้มาขโมยตำราพิชัยสงคราม จากในห้องหนังสือของพี่ชายนาง และด้วยเหตุนี้ทำให้ครอบครัวของนางเกิดหายนะจนถึงขั้นล่มสลายไป

หญิงสาวขยับเท้าเปลือยเปล่าก้าวลงจากเตียงช้า ๆ สัมผัสยามที่ฝ่าเท้าของนางแตะลงบนพื้นเย็น ๆ นี่ช่างสมจริงมาก สมจริงเสียจนนางคิดว่า นี่ไม่ใช่ร่างวิญญาณ

นางแตะไปที่ข้าวของเครื่องใช้ ซึ่งทุกอย่างก็ยังคงวางอยู่ที่เดิม ก่อนจะหยิบขวดเครื่องแก้วที่พี่ชายของนางเอามาเป็นของฝากจากต่างแดน ยามกลับจากสู้ศึก

แม้ตระกูลของนางจะเป็นตระกูลขุนนางฝ่ายบุ๋น บิดาเป็นถึงท่านราชครู แต่พี่ชายของนางกลับไม่คิดสอบเค่อจี่ แต่กลับไปสมัครเป็นทหารแทน ซึ่งตอนนี้เขาก็ยังดำรงตำแหน่งเป็นรองแม่ทัพ ทำให้ค่อนข้างสนิทสนมกับตระกูลเสวี่ย ซึ่งเป็นตระกูลแม่ทัพมาหลายรุ่นตั้งแต่สมัยอดีตฮ่องเต้ และเพราะพี่ชายของนางกับเสวี่ยลู่หยางสหายของเขา ต่างก็สวามิภักดิ์ต่อองค์รัชทายาท นั่นเป็นเหตุให้พวกเขาถูกองค์ชายรองกำจัด

คิดมาถึงตรงนี้หลินซูเม่ยได้แต่นึกสะท้อนใจ เป็นนางไม่ดีเองที่ไปหลงเชื่อคนผิด นางวางขวดเครื่องแก้วลงอย่างเชื่องช้าใจลอย ก่อนจะทำท่าเอื้อมมือไปหยิบกล่องไม้ซึ่งวางอยู่ใกล้ ๆ กันขึ้นมาดูอีกอัน

ไม่ถูกสิ เหตุใดนางถึงสัมผัสข้าวของทุกอย่างได้ละ?

หลินซูเม่ยยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาตรวจดู และเห็นว่าข้อนิ้วและฝ่ามือเรียวเล็กไปสักหน่อย คล้ายว่าร่างกายนี้เพิ่งจะอายุสิบสามสิบสี่ น่าจะยังไม่ถึงวัยปักปิ่นกระมัง นางลองกำมือและแบออกทำซ้ำ ๆ สองสามครั้ง จากนั้นก็ลองตบ ๆ ใบหน้าของตัวเอง สุดท้ายก็ลองหยิกดู

“ซี๊ด โอ๊ย!”

“เจ็บนี่นา เหตุใดเป็นวิญญาณถึงได้รู้สึกเจ็บได้ล่ะ ไม่ใช่ว่ามันไร้ความเจ็บปวดแล้วหรอกหรือ จริงสิ หากเป็นร่างวิญญาณก็ต้องไม่มีเงาสิ แบบนี้ต้องพิสูจน์” นางพูดกับตัวเองเบา ๆ

ว่าแล้วหลินซูเม่ยก็เดินตรงไปยังหน้ากระจกบานใหญ่ ซึ่งติดอยู่กับโต๊ะเครื่องแป้ง มองเห็นเงาร่างของนางที่สะท้อนอยู่ในกระจก ความอ่อนเยาว์ฉายชัดอยู่บนใบหน้า เป็นอย่างที่นางคิด ตอนนี้นางอยู่ในร่างของตัวเองที่ยังไม่พ้นวัยปักปิ่นจริง ๆ ด้วย และที่สำคัญคือนางมีเงา?!

เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่วิญญาณแต่เป็นร่างจริง ๆ ของนาง ถ้าเช่นนั้นแล้ว นางมาอยู่ในร่างนี้ได้อย่างไร จะบอกว่าสวรรค์เมตตานางก็เลยส่งนางย้อนกลับมาเกิดใหม่อย่างนั้นหรือ หลินซูเม่ยอึ้งงันลูบใบหน้าของตัวเองอย่างไม่อยากเชื่ออยู่บ้าง หรือว่านี่นางก็แค่ฝันไป?

ทว่าภาพเหตุการณ์ตอนที่บิดามารดาและคนในตระกูลหลินทั้งตระกูลถูกประหาร เลือดที่ไหลนองสาดกระจายเต็มพื้นค่อย ๆ ฉายเข้ามาในความทรงจำของนาง ทำเอานางแทบจะเป็นลมหมดสติไปอีกครั้ง แต่ก็ยังพยายามประคองสติของตัวเองกลับมาที่เตียง

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า!” เมื่อแน่ใจว่าเรื่องทุกอย่างนี้ไม่ใช่ความฝัน นางก็ยกมือขึ้นกุมขมับ แล้วหัวเราะเสียงเย็นเยียบราวกับถูกภูตผีเข้าสิง

“ดียิ่ง ดียิ่งนัก! สวรรค์ไม่ได้ทอดทิ้งข้าจริง ๆ ตอนนี้สวรรค์คงอยากให้ข้ากลับมาแก้เจ้าคนชั่วช้านั่นใช่หรือไม่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” หลินซูเม่ยเอ่ยออกมาอย่างพึงพอใจพร้อมกับหัวเราะเสียงดังอย่างบ้าคลั่ง

และเพราะเสียงที่ดังขึ้นในห้องของนาง ไม่นานนักด้านนอกก็มีสาวใช้ประจำเรือนนอนผลักประตูเข้ามา

“คุณหนู ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel