กลลวงแพทย์

81.0K · จบแล้ว
ลั่นทมสีเลือด
36
บท
12.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ก้องภัทร ศัลยกรรมแพทย์มือหนึ่ง เพราะถูกคนรักหักหลัง เขาจึงประชดแฟนสาวด้วยการแอบมีความสัมพันธ์กับหญิงสาวอีกคน โดยที่เขาไม่ได้รู้สึกรักเธอ เพียงแค่ต้องการใช้เธอเป็นเครื่องมือเท่านั้น เอิงเอย พนักงานบัญชี ถูกเขาหลอกใช้เป็นเครื่องมือในการแก้แค้นแฟนสาว โดยที่ชายหนุ่มไม่เคยรับรู้มาก่อนว่าเขา คือรักแรกของเธอ "สองขีด!!!" เสียงทุ้มตะโกนอย่างตกใจ "ฮึก ฮื้อ เอยขอโทษ" หญิงสาวรู้สึกเสียใจ ปล่อยโฮออกมา ป่นเสียงร้องสะอึกสะอื้นอย่างน่าสงสาร "ที่ผ่านมาเธอไม่เคยป้องกันเลยใช่ไหม" มือหนาคว้าแขนเรียวมาบีบอย่างแรง แทบแหลกคามือ "ไม่เคย ฮื้อๆ" คนตัวเล็กส่ายศีรษะอย่างเบาๆ น้ำตาจากเบ้าตายังคงหลั่งไหลไม่หยุด "โง่สิ้นดี!! ปล่อยให้ตัวเองท้องกับผู้ชายที่มีคนรักแล้ว ไปเอาเด็กออกซะ!!!" คำพูดแสนเย็นชาถูกเปล่งออกมาจากปากก้องภัทร เอิงเอยไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะใจร้ายกับเธอถึงเพียงนี้ แม้แต่เลือดเนื้อเชื้อไขของตนเอง เขาคิดจะฆ่าได้ หมดสิ้นแล้ว กว่าจะรู้ตัวว่ารักเธอ ก็ตอนที่เธอจากไปพร้อมกับความจริงบางอย่างแสนเจ็บปวด..

หมอ18+เจ้าเล่ห์หักหลังหลอกลวง

บทที่ 1 ความทรงจำที่ไม่เคยลืม

“ฮือ ฮือ อย่าเข้ามานะ ไปให้พ้น!!” สาวน้อยวัยห้าขวบพยายามปัดป้องตนเองจากการโดนเพื่อนรุ่นเดียวต่างรุมทำร้าย และต่อว่า เพียงเพราะเธอมีรูปร่างที่อ้วน ดำ แถมยังขี้เหร่

“ฮ่า ฮ่า นังดำ แกมันอ้วน” เด็กน้อยในกลุ่มคนหนึ่งพูดขึ้นพร้อมทั้งใช้ไม้ขนาดเล็กฟาดลงบริเวณลำตัวสาวน้อยวัยห้าขวบ

“อย่าทำร้ายเอยเลย เอยเจ็บ ฮือ ฮือ” เอิงเอยพนมมือทั้งสองร้องขออย่างน่าสงสาร เธอเจ็บเหลือเกิน ตอนนี้ตามร่างกายเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ

“แกล้งแกสนุกจะตาย ใครมันจะหยุดง่ายๆ” เด็กชายอีกคนพูดขึ้นพร้อมปาก้อนหินโดนศีรษะเอิงเอย กระทั่งเด็กน้อยวัยห้าขวบรับรู้ถึงกลิ่นคาวเลือดค่อยๆไหลลงมาบริเวณหน้า

“เฮ้ยเลือด!! หัวนังอ้วนดำมันมีเลือดไหล”

“หยุดเดี๋ยวนี้!!!”

ขณะเด็กในกลุ่มต่างพากันตกใจ จู่ๆก็มีเด็กชายวัยสิบสองขวบเดินเข้ามายังจุดเกิดเหตุ ก่อนที่พวกเด็กทั้งหลายจะพากันวิ่งหนี ทิ้งเพียงเอิงเอยนั่งร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด

“น้องเป็นอะไรมากไหมครับ” ก้องภัทรเดินมาหาสาวน้อยวัยห้าขวบกำลังนั่งร้องไห้ด้วยความเจ็บ เดิมทีก้องภัทรตั้งใจออกมาเดินเล่นสนามเด็กเล่น จู่ๆก็เห็นเด็กกลุ่มหนึ่งต่างพากันรังแกสาวน้อยตรงหน้า ก่อนที่เขาจะเข้ามาช่วยเหลือพวกเด็กเหล่านั้นต่างก็วิ่งหนีไปหมด

“พี่ไม่กลัวหนูจะทำให้พี่เปื้อนคราบสกปรกจากตัวหนูเหรอคะ” สาวน้อยวัยห้าขวบไม่ตอบคำถามชายหนุ่ม แต่เธอกลับย้อนเด็กชายตรงหน้า ทุกคนต่างก็รังเกียจเธอเพียงเพราะเธอ อ้วน ดำ ทั้งยังขี้เหร่

“ไม่ครับ น้องออกจะน่ารักไม่เห็นต้องกลัว รอพี่เดี๋ยวนะครับ” ก้องภัทรลูบศีรษะเด็กน้อยวัยห้าขวบก่อนจะลุกออกจากบริเวณนั้น ผ่านไปประมาณสักพักเขาก็กลับมาพร้อมถุงยาในมือ

“อะไรเหรอคะ”

“ยาครับ เดี๋ยวพี่ทำแผลให้นะครับ”เอิงเอยมองการกระทำของเด็กหนุ่มตรงหน้า กำลังทำแผลบริเวณศีรษะตนเองอย่างอ่อนโยน

นับตั้งแต่วันนั้นมาเด็กทั้งสองมักจะมาพบเจอกันบ่อยครั้งที่สนามเด็กเล่น เด็กหนุ่มไม่เคยนึกรังเกียจสาวน้อยวัยห้าขวบเลยที่เธออ้วนและดำ ทุกครั้งเอิงเอยโดนรังแกจากกลุ่มเด็กอันธพาล ก้องภัทรจะเป็นฝ่ายเข้ามาช่วยเหลือเสมอ กระทั่งช่วงหลังที่ผ่านมาไม่มีใครกล้ามากลั่นแกล้งเอิงเอยอีกเลย

“ฮือ ฮือ พี่ภัทรจะไปจริงๆเหรอคะ”

“ครับ!! พี่จำเป็นต้องไป”

“แต่เอยไม่อยากให้พี่ภัทรไปเลย ถ้ามีคนมารังแกเอย ใครจะช่วยเอย อย่าไปเลยได้ไหม ฮือๆ”

ก้องภัทรดึงตัวเด็กน้อยเข้ามากอดพร้อมลูบเส้นผมอย่างแผ่วเบา ตัวเขาเองก็ไม่ได้อยากจากที่นี่ไปเหมือนกัน แต่ครอบครัวเขาจำเป็นต้องย้ายไปทำธุรกิจต่างประเทศ ส่วนตัวเขาเองก็ต้องย้ายตามครอบครัว เพื่อไปเรียนต่อต่างประเทศ

“เอยต้องหัดเข้มแข็งไว้บ้างนะครับ พี่ต้องไปก่อนล่ะ” เด็กหนุ่มพูดเพียงเท่านั้น ก่อนจะผละจากอ้อมกอดเด็กน้อยวัยห้าขวบ และมอบของบางอย่างก่อนเดินจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมา

“พี่ภัทร อย่าไป!!! ฮือๆ”

ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด

ร่างบางสะดุ้งตื่นก่อนจะเอื้อมมือไปปิดนาฬิกาปลุกบนหัวเตียง ใบหน้างามบัดนี้เปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา หญิงสาวเช็ดคราบน้ำตาตนเองออกจนหมดเกลี้ยง หยิบของบางอย่างในลิ้นชักข้างเตียงขึ้นมาดู

“ฝันอีกแล้วเหรอ” เอิงเอยมองของในมือที่หยิบออกจากลิ้นชักหัวเตียงเมื่อสักครู่ มันคือสร้อยคอจี้รูปหัวใจข้างในเป็นรูปเด็กหนุ่มคนหนึ่ง หญิงสาวมองคนในภาพด้วยความคิดถึง

เอิงเอย สาวสวยสุดน่ารักในวัย 24 ปี นักศึกษาสาวบัญชีจบใหม่ด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยชื่อดัง เข้ามาทำงานตำแหน่งเจ้าหน้าที่บัญชีโรงพยาบาลย่านกรุงเทพ

“ยัยเอย เหม่ออีกแล้วนะ” ขวัญเนตรเข้ามาสะกิดเอิงเอยที่มัวแต่เหม่อลอยโดยไม่สนใจคนรอบข้าง

ขวัญเนตรสาวสวยสุดเซ็กซี่ ลูกสาวเจ้าของหุ้นส่วนโรงพยาบาล มีนิสัยค่อนข้างโผงผางและเป็นคนเฟรนด์ลี่เข้ากับคนได้ง่าย แตกต่างจากเอิงเอยโดนสิ้นเชิงเป็นคนเงียบและเก็บตัว

เอิงเอยกับขวัญเนตรเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลายจนถึงมหาวิทยาลัย และจบมาก็ทำงานที่เดียวกัน

“อ้าวขวัญ มาตั้งแต่เมื่อไรเหรอ”

“ขวัญก็มาได้สักพักแล้ว เรียกเอยตั้งนานไม่ยอมหันมาสักที ขวัญก็เลยลุกขึ้นมาสะกิดเอยนี่แหละ”

“อ๋อ ว่าแต่ขวัญมีอะไรหรือเปล่า”

“ขวัญจะถามเรื่องงาน คือขวัญกระทบยอดมันไม่ลงตัวสักที จะให้เอยช่วยไปดูให้หน่อย”

“ได้ เดี๋ยวเอยไปดูให้” เอิงเอยพูดจบ เธอก็ลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานตนเองไปยังโต๊ะทำงานของขวัญเนตร ซึ่งอยู่ถัดกันเพียงไม่กี่ก้าว

ขวัญเนตรมองตามหลังร่างบางของเพื่อน ใช่ว่าเธอไม่รู้ว่าเอิงเอยเป็นอะไร เพราะตั้งแต่คบเอิงเอยเป็นเพื่อนกันมาเกือบแปดปี ไม่มีเรื่องไหนที่เกี่ยวกับเอิงเอยแล้วตนเองจะไม่รู้ หากไม่ใช่เรื่องพี่ชายในวัยเด็กของเอิงเอยที่ทำให้หญิงสาวเป็นแบบนี้

“เอยยังไม่ลืมพี่เขาอีกเหรอ” ขวัญเนตรพูดขึ้นหลังจากเดินกลับมายังโต๊ะทำงานตนเอง

“เสร็จแล้วนะขวัญ”

“ห๊ะ!! เสร็จแล้วเหรอ” ขวัญเนตรจ้องไปยังหน้าจอมคอมที่เพื่อนกำลังกดบันทึกข้อมูลใส่ลงในตารางกระทบยอดเสร็จเรียบร้อย

“เอยลืมรักแรกไม่ได้หรอก” เอิงเอยพูดขณะหันมาส่งยิ้มให้เพื่อน ก่อนจะลุกกลับไปโต๊ะทำงานตนเอง

เราทุกคนไม่มีใครสามารถลืมรักแรกได้หรอก แม้ว่ามันจะผ่านมานานแค่ไหนก็ตาม ทุกเรื่องราวทุกความรู้สึกต่างก็ยังตรึงตราในใจอย่างไม่มีวันลืมเลือน เฉกเช่นเดียวกับเอิงเอย

“คุณหมอภัทร มีวิธีดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง อายุเลขสามแล้วยังดูดีเหมือนคนอายุยี่สิบต้นๆอยู่เลย” นักข่าวท่านหนึ่งเอ่ยถามแพทย์หนุ่มขณะกำลังยืนให้สัมภาษณ์

“ความรักครับ”ชายหนุ่มพูดเพียงเท่านั้น เสียงเฮฮาของนักข่าวหลายคน ต่างก็ส่งเสียงดังมาด้วยความอิจฉากับสิ่งที่ได้ยิน

ก้องภัทรหรือหมอภัทร ศัลยกรรมแพทย์มือหนึ่งของโรงพยาบาลกำลังให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน ชายหนุ่มจ้องมองไปยังนักข่าวคนดังกล่าว ก่อนจะส่งยิ้มหวานไปยังสาวคนรักตรงหน้าซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมาก

“ภัทรค่ะ ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ” พริมาหรือหมอพริมเดินไปหาชายหนุ่มพร้อมส่งช่อดอกไม้แก่ชายคนรัก

“ขอบคุณครับ”

“ว้าว อิจฉาจังนะคะ แล้วแบบนี้จะมีข่าวดีเมื่อไรคะ” นักข่าวคนเดิมยังคงถามต่อ

“เร็วๆนี้ค่ะ”พริมาตอบอย่างรวดเร็ว

“อย่าลืมเชิญพวกเราไปร่วมแสดงความยินดีด้วยนะคะ”

“ยินดีครับ”ก้องภัทรตอบนักข่าวตรงหน้าตนเอง ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็โอบเอวร่างเพรียวแฟนสาวอย่างหวงแหน ทั้งสองคนคบกันมานานตั้งแต่สมัยเรียนแพทย์ด้วยกัน เกือบสิบปีที่คบกันมา ความรักของคนทั้งสองแน่นแฟ้นยิ่งกว่าสิ่งใด ชายหนุ่มรักและให้เกียรติแฟนสาวเสมอ

“ขวัญ ตรงนั้นเขาทำอะไรกันนะ” เอิงเอยถามเพื่อนขณะเดินไปโรงอาหาร

“อ๋อ ตรงนั้นเหรอ เขามีสัมภาษณ์ศัลยกรรมแพทย์มือหนึ่งของโรงพยาบาล”

“ใครเหรอ”

“โอ๊ย!! ยัยเอยไม่รู้จักหมอภัทรเหรอ”

“หมอภัทรเหรอ”หญิงสาวเอ่ยอย่างแผ่วเบา เมื่อได้ยินชื่อนั้นกระทบเข้าหู กลับทำให้หญิงสาวโหวงเหวงในใจอย่างบอกไม่ถูก ราวกับแพทย์หนุ่มคนนั้นจะเป็นคนเดียวกันกับรักแรกของตนเอง

“ใช่ หมอภัทรนะ เขาดังมากเลยในโรงพยาบาลนี้ไม่มีใครไม่รู้จักหมอภัทรและอีกอย่างเขาหล่อมากด้วย เสียดายเขามีแฟนแล้ว”

“อืม”

“โอ๊ย...ยัยเอยจะทำตัวเย็นชากับความหล่อของหมอภัทรไม่ได้นะ ใครๆก็อยากได้หมอภัทรมาเป็นพ่อของลูกทั้งนั้นแหละ ขวัญยังอยากได้เลย”

“ขวัญก็อยากได้ทุกคนนั่นแหละ อีกอย่างเอยไม่สนใจใครทั้งนั้น เอยมีคนที่ชอบแล้ว”

“จ้า...แม่คนรักเดียวใจเดียว ไม่แน่เขาอาจจะมีแฟนหรือแต่งงานไปแล้วก็ได้”

“ไปกินข้าวกันเถอะ เอยหิวแล้ว” เอิงเอยตัดบทสนทนา เธอไม่อยากยืดเยื้อไปมากกว่านี้ แต่ในใจก็แอบรู้สึกหวั่นกับคำพูดของขวัญเนตรเล็กน้อย

ตั้งแต่จากกันเมื่อสิบเก้าปีเขาก็ไม่เคยติดต่อกลับมาเลย มีเพียงสร้อยเส้นเดียวที่เขามอบให้