2 วิถีมาเฟีย[4]
“ใจเย็นนะครับคุณเจสซี่”นับหนึ่งถึงสิบในใจครูซรู้ว่าผู้เป็นนายต้องเปิดประตูออกมาแน่ บอดี้การ์ดมือซ้ายเริ่มนับในใจเพราะถึงแม้ว่าภายในห้องจะมีอาเธอร์ที่สามารถออกมาจัดการสถานการณ์ด้านนอกได้แต่เขารู้ว่าจุดประสงค์ของผู้เป็นนายนั้นคืออะไร
หนึ่ง สอง สาม สี่ หะ...
“เสียงดังเอะอะอะไรกัน”นับยังไม่ถึงห้าเสียงแข็งกระด่างของมาเฟียหนุ่มก็ดังมาจากทางด้านหลัง ส่งผลทำให้ครูซเบี่ยงตัวเพื่อให้ผู้เป็นนายได้เห็นถึงสาเหตุที่เกิดเสียงดังหน้าห้องวีไอพี
“ฉะ...ฉันต้องการคุยกับคุณ”พยายามน้ำเสียงสั่นเครือให้เป็นปกติ แวบแรกที่สายตาเด็ดเดี่ยวของเจสสิก้าจ้องมองไปนัยน์ตาสีน้ำตาลอมเหลืองของเขา เธอก็ต้องหลบนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม
“แต่ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับเธอ”
“เดี๋ยวสิคุณจะเดินหนีฉันแบบนี้ไม่ได้นะ ฉันจะมาเอาเอกสารของพ่อฉันคืน!”เมื่อได้ยินคำตอบไม่ยีระหรือสนใจของร่างสูง และเขาก็เตรียมหมุนตัวกลับเข้าไปในห้องวีไอพี น้ำเสียงแหลมเล็กจึงแผดใส่ด้วยความเกรี้ยวกราดที่ถูกหักหน้าเช่นนี้
“เอกสารอะไรมิทราบ!?”
“เอกสารอสังหาริมทรัพย์ในกรุงบาร์เซโรน่าที่คุณโกงพ่อฉันไงล่ะ”
“หืม~ คนอย่างฉันไม่เคยโกงใคร”คำสบประมาทจากปากสวยๆ ของเธอทำให้ราจีฟเลือดขึ้นหน้า คนอย่างเขาน่ะเหรอจะโกงใครและเขาก็ประจักษ์แจ้งแก่ใจว่าเจสสิก้ามาที่นี่เพื่อเหตุผลอะไร ทว่าชายหนุ่มไม่คาดคิดว่าเธอจะกล้าใช้ถ้อยคำที่ไม่น่าฟังเสียจนเขาอยากจะบีบคอเล็กๆ นั่นให้หักคามือนัก
“กะ...ก็ใช่น่ะสิ!”เจสสิก้าที่คราแรกมาในมาดนางพญา เธอถึงขึ้นกับทำตัวไม่ถูกยิ่งร่างสูงค่อยๆ ย่างสามขุมเข้ามาอย่างช้าๆ ทั้งที่อยู่ใกล้กันไม่ถึงสามก้าว หญิงสาวก็ถอยหลังกรูดด้วยความหวาดหวั่นก่อนที่ราจีฟจะตวัดเอวคอดกิ่วเอาไว้ไม่ให้เธอหนีไปไหนได้อีกต่อไป
“ถ้ากล่าวหามั่วซั่วเหมือนผีเจาะปากมาพูดอีกล่ะก็เธอเจอดีแน่สาวน้อย”คำเตือนที่เป็นเหมือนการปล่อยสุนัขออกจากปากทำให้เจสสิก้าอยากจะใช้เล็บสวยตะบันหน้าหนวดของเขาให้เสียโฉมนัก
“อร๊าย! นี่ตามาเฟียหน้าหนวดมีสิทธิ์อะไรมาบอกว่าผีเจาะปากมาพูดย่ะ”เจสสิก้ากรี๊ดแสกหน้ามาเฟียหนึ่งทีด้วยความฉุนเฉียว เท้าเล็กกระทืบลงพื้นรัวๆ พร้อมกับกำมือแน่นระงับความโกรธเอาไว้
“เธอก็ไม่มีสิทธิ์มากล่าวหาคนอย่างฉันได้เหมือนกัน”หึ...ไม่แปลกใจหรอกว่าทำไมยอมรับว่าอีกไม่นานเจ้าหล่อนคงจะหมดตัว เพราะพ่อของเธอดันกอบโกยหุ้นบางส่วนที่เป็นของพ่อเขาไปมากพอสมควร แต่สิ่งที่น่าแปลกใจทำไมบิดาของเขาจึงปล่อยปละละเลยมานานหลายปีโดยไม่ทำอะไรสักอย่าง
“ทำไมจะไม่ได้ก็คุณโกงพ่อ อื้อ!!”ปากหยักกระแทกลงปิดปากที่กำลังสาดคำพูดที่เขาเพิ่งโพล่งเป็นคำเตือนว่าอย่าได้กล่าวหาว่าคนอย่างราจีฟโกงพ่อของเธอ
ดวงตากลมโตถึงกับเบิกกว้างด้วยความตกใจ ปากบางยังคงปิดสนิทไม่ให้เขาได้ลุกล้ำปลายลิ้นเข้ามากวาดชิมรสชาติหอมหวานภายในอุ้งปาก มือน้อยทั้งสองข้างพยายามดันแผงอกกว้างให้ออกห่างเพื่อจะได้หลุดพ้นจากการกระทำอันจาบจ้วงของผู้ชายกักขฬะ คนที่เธอตราหน้าว่าโกงบิดาที่นอนป่วยอยู่โรงพยาบาลจนเกือบล้มละลาย
“ถ้าเธอยังกล่าวหาและยังก้าวร้าวกับคนอย่างฉันอีกคราวหน้าไม่โดนแค่นี้แน่”
“ไอ้บ้ากล้าดียังไงมาจูบฉัน!!”ไม่ทันได้ประทับฝ่ามือลงบนใบหน้าหล่อเหลาของเขา
“ถ้าเธอตบฉัน ฉันจะจับเธอกระแทกตรงนี้ลองดูสิ...อ้อ เมื่อกี้ไม่ได้เรียกว่าจูบแบบนี้ต่างหาก...”ราจีฟจึงพูดดักคอแม่สาวน้อยขี้วีนไว้ได้ก่อนที่เธอจะทำร้ายเขา
“ยะ...อย่านะ อืม...”ไม่พูดให้เธอได้จำแต่จะทำให้ดูว่าจูบที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร ไม่สามารถเอาสิ่งใดมาบรรยายความรู้สึกของเจ้าพ่อมาเฟียใหญ่แห่งกรุงมาดริดได้ มีวิธีปราบพยศคนที่กล้าท้าทายอำนาจและก้าวร้าวกับเขาเยอะแยะ แต่สำหรับร่างบางที่เขากำลังรัดเอวคอดกิ่วไว้แน่นนั้นเขาอยากจะสั่งสอนให้ได้หลาบจำว่าอย่ามากระตุกหนวดเสืออย่างเขา
ลูกน้องต่างพร้อมใจกันก้มหน้าเมื่อเห็นฉากบาดตาบาดใจอย่างไม่เคยเห็นผู้เป็นนายทำกับผู้หญิงคนไหนต่อหน้าต่อตาของพวกเขาเลยสักครั้ง
เจสสิก้าพยายามเลื่อนใบหน้าให้ออกห่าง ทว่าฝ่ามือหยาบกับสอดเข้าไปขยุ้มเรือนผมสลวยให้ลำคอเล็กแหงนเงยรับจุมพิตที่เขากำลังมอบให้ ไร้ความปรานีเพราะเธอดันกล้าดีล้ำเส้นคำเตือนที่เขาย้ำถึงสองครั้งสองครา
ฟันคมขบลงกลีบปากล่างเพื่อเป็นการเปิดทางให้เจสสิก้าต้อนรับเขาเข้าไปใช้ลิ้นหนาควานหาความหอมที่ซุกซ่อนอยู่ภายในอุ้งปากน้อย คราแรกแปลกใจไม่น้อยว่าทำไมจูบของเธอช่างห่วยได้โล่ได้ขนาดนี้เพราะเธอยังแน่นิ่งไม่ตอบสนองใดๆ จนกระทั่ง...
อร๊ากกก!!!
“กล้ากัดฉันเหรอ!!”ลิ้นของเขาถึงกับชาวาบเมื่อถูกฟันเล็กขบเข้าอย่างจังโดยที่เจ้าตัวตระเตรียมจะวิ่งหนี ทว่ารองเท้าส้นสูงไม่เอื้ออำนวยในการพาให้เจสสิก้าได้รอดพ้นจากกรงเล็บมัจจุราชไปได้ แขนเล็กถูกกระชากกลับสู่อ้อมกอดก่อนที่ชายหนุ่มจะอุ้มเธอพาดบ่าจนเดรสผ้าพลิ้วเปิดเผยให้เห็นบราลูกไม้สีดำ
“ปล่อยฉันนะไอ้บ้า!”ดีดดิ้นอยู่บนบ่าแกร่งกำปั้นน้อยก็ระดมทุบไปยังแผ่นหลังบึกบึนที่ดูเหมือนเขาจะไม่สะทกสะท้านกับแรงปะทุร้ายกับแรงอันน้อยนิดของเธอสักนิด
“เตรียมรับผลของการกระทำของเธอได้เลย!”ขายาวก้าวอย่างกระฉับกระเฉงเขาไม่สนใจแขกที่กำลังเจรจาเรื่องการค้าอาวุธเถื่อนอีกต่อไป กี่ครั้งกี่หนที่เขาปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้มาก้าวร้าวและเย่อหยิ่งไร้มารยาทโดยที่ราจีฟไม่เคยทำให้เจ้าหล่อนเกรงกลัวเลย คราวนี้แหละเขาจะทำให้เธอหลาบจำสะบ้างว่าไม่ควรมาทำให้คนอย่างราจีฟเกี้ยวกราด
“จะพาฉันไปไหนปล่อยนะ!...”ไม่อยากจะเสวนากับคนตัวเล็กให้เสียเวลามือหนาเพียงดึงเดรสสั้นลงมาปิดที่สะโพกมน ก่อนจะสาวเท้าก้าวเดินยาวๆ ออกจากผับ โดยมีครูซและลูกน้องอีกสองคนเดินตามมาติดๆ
มาถึงยังลานจอดรถโซนวไอพีลูกน้องของเขาก็ทำหน้าที่เปิดประตูรถตู้ที่ภายในดีไซน์ออกแบบเป็นห้องนั่งเล่นขนาดพอเหมาะ ชายหนุ่มยัดร่างเล็กที่ยังดีดดิ้นเข้าไปภายในโดยไม่ส่งให้ถึงโซฟานุ่ม ทว่ากลับวางเธอไว้บนพื้นหนังที่ปูทับด้วยพรหมหนา
“ฉะ...ฉันจะกลับบ้าน”เสียงสั่นเครือบวกกับอาการหวาดหวั่น หนทางที่จะก้าวลงจากรถตู้ช่างริบหรี่เหลือเกินเมื่อร่างบึกบึนของมาเฟียหนุ่มยืนขวางประตู โดยมีลูกน้องที่ตัวขนาดไล่เลี่ยกันยืนหันหลังขนาบเคียงข้างกับเขาปิดกั้นทางออกเอาไว้
“หึๆ ตราบใดที่ฉันยังปราบพยศเด็กนิสัยเสียอย่างเธอไม่ได้...อย่ามาเรียกฉันว่าราจีฟก็แล้วกัน!”ไม่ว่าเปล่ายังก้าวขึ้นรถนั่งลงบนโซฟาและไม่ลืมจะรวบร่างเล็กที่เบาราวกับปุยนุ่นขึ้นมาข้างๆ
“นี่! อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ อุ้ย! อีตาบ้าเอามือออกจากหน้าอกฉันนะ!!”หน้าอกด้านขวาถูกมือหนากอบกุมอย่างอุกอาจจนคนตัวเล็กสะบัดเสียงใส่พร้อมกับทำตาเขียวปัด
“ไม่อยากให้ฉันทำมากกว่านี้ก็หุบปากซะ!!”โอ้วพระเจ้าหน้าอกของเธอใหญ่ชะมัดนึกว่าจับลูกมะพร้าวครึ่งซีกสะอีก! ด้วยความที่ไม่ได้ตั้งใจจะจับตั้งแต่คราแรกแต่เห็นเจ้าหล่อนปากดีมือหนาจึงพลั้งเผลอจนตอนนี้อยากจะบีบขย้ำให้หนำใจนัก
“คุณจะพาฉันไปไหน...ฉันอยากกลับแล้ว”
“คิดว่าง่ายขนาดนั้นเชียวหรือ เธอกัดลิ้นของฉันจนเจ็บแสบไปหมด มิหนำซ้ำยังตราหน้าว่าฉันโกงพ่อของเธออีกต่างหาก”เข้าถ้ำเสือมาขนาดนี้มีหรือที่จะปล่อยให้เหยื่อหลุดมือไปง่ายๆ และแน่นอนว่าเธอจะต้องได้รับบทเรียนอันสาสมจนต้องร้องขอชีวิต มีอย่างที่ไหนมากล่าวหาว่ามาเฟียอย่างเขาสารพัดอย่างโดยไร้ซึ่งความจริงทั้งหมดทั้งมวล
“ฉันจะไม่ยอมไปไหนกับคุณเด็ดขาด!!”ไม่มีความจำเป็นที่เจสสิก้าต้องไปกับคนอย่างเขา ทว่าไม่ทันได้ขยับสะโพกไปไหนก็ถูกรวบให้ขึ้นไปนั่งบนตักแกร่งโดยที่เจ้าหล่อนไม่ทันตั้งตัวเสียด้วยซ้ำ
การกระทำของมาเฟียหนุ่มสร้างความตกใจให้แก่เจสสิก้าไม่ใช่น้อย เธออยากจะกรีดร้องออกมาจนสุดเสียงทว่าถูกห้ามปรามด้วยการกระซิบเตือนเสียงต่ำลึกจนหญิงสาวทำได้เพียงกำมือบอบบางแน่นด้วยความคับแค้นใจที่ทำอะไรเขาไม่ได้เลย
“ถ้าเธอเป็นเด็กดีไม่โวยวาย เราจะคุยกันแบบผู้ใหญ่สองคนคุยกันตกลงไหม?”ราจีฟไม่เคยอยากจะทำข้อตกลงกับใครมาก่อนโดยเฉพาะคนที่คิดจะตลบหลังพ่อของเขาหรือแม้กระทั่งตัวเขาเองก็เช่นกัน นี่น่ะหรือคุณหนูผู้สูงศักดิ์ที่ในแวดวงนักธุรกิจกระเป๋าหนักอยากจะลากเจ้าหล่อนขึ้นเตียงนักหนา
“คุณต้องสัญญาก่อนสิว่าถ้าฉันไม่ดื้อคุณจะคืนทุกอย่างให้พ่อของฉัน...”ด้วยความอ่อนต่อโลกว่าชั้นเชิงการทำธุรกิจไม่มีผู้ใดไม่หวังผลประโยชน์ ทุกอย่างเป็นของเขาตั้งแต่แรกอย่างไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ที่ราจีฟจะต้องเจรจาและยอมคืนอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดคืนแก่โฆเซ่พ่อของเธอเลยสักนิด
กลิ่นหอมอ่อนๆ จากกายสาวตีตลบอบอวลในโสตประสาทน่าแปลกใจที่มันไม่ใช่กลิ่นปรุงแต่งจากน้ำหอม ราจีฟเผลอสูดดมความเย้ายวนเข้าอย่างเต็มปอดด้วยความไม่ตั้งใจ
ปกติแล้วคู่นอนชั่วคราวของเขามักใช้สิ่งปรุงแต่งแต่เขาไม่เคยคิดเลยว่ากลิ่นที่ธรรมชาติสรรค์สร้างมาสำหรับเด็กสาวแรกรุ่นจะหอมขนาดนี้ ราจีฟถึงขั้นกับกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เขาเคยลั่นวาจาอย่างชัดเจนว่าเขาจะไม่เขมือบเด็กแรกรุ่นลงท้อง
ให้ตายห่าสิวะ! เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ทั้งที่เจสสิก้าไม่ได้แตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นที่เขาเคยลากขึ้นเตียงสักเท่าไร จะมีดีก็แค่หน้าอกของแท้แม่ให้มา ส่วนหน้าตาก็เหมือนเป็นลูกรักพระเจ้าที่ปั้นโครงหน้าขึ้นมาให้สวยสะพรั่งราวกับตั้งใจประทานความหวานละมุนให้เธอเพียงผู้เดียว ไม่แปลกใจว่าทำไมเจ้าหล่อนถึงได้รับฉายานางฟ้าในแวดวงเหล่าไฮโซและนักธุรกิจที่อยากจะเดทกับเธอสักครั้ง
“อยู่ที่ว่าเธอจะทำให้ฉันพอใจหรือเปล่า”
“พอใจอะไรกัน!? ฉันไม่ยอมคนแบบคุณหรอกนะจำเอาไว้เถอะ”
“ก็ไม่แน่ว่าหลังจากนี้เธอจะจำคำพูดของตัวเองได้หรือเปล่า”ทิ้งท้ายประโยคไว้เพียงเท่านั้น แน่นอนว่าเรื่องที่เธอกล่าวหาเขามิหนำซ้ำยังกัดลิ้นสากจนชาวาบไปหมด ปล่อยเอาไว้ไม่ได้เธอจะต้องได้รับบทเรียนที่สาสมและเขาอยากจะรู้นักว่าหากเหลือแค่ตัว ไร้ทรัพย์สินหรือของมีค่าติดตัวจะยิ่งผยองได้แค่ไหนกัน
นั่งอยู่บนตักเขาประมาณสิบห้านาที รถตู้ก็จอดนิ่งโดยยังไม่ดับเครื่องยนต์ ก่อนที่ต่อมาประตูจะเปิดอัตโนมัติโดยมีลูกน้องของเขาอีกสี่คนยืนอยู่ด้านล่าง
“คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม!?”ทันทีที่เห็นสถานที่ตรงหน้าที่ชายหนุ่มพามาใจดวงน้อยก็เต้นระส่ำ ในย่านนี้เธอรู้ดีว่าเป็นเซฟเฮ้าส์ที่มีความปลอดภัยสูง และแน่นอนว่าไม่คิดว่าจะมีเพียงหลังเดียวมองไปรอบๆ เห็นเพียงป่าสูง
“อยากได้อสังหาริมทรัพย์คืนไม่ใช่เหรอ...ที่นี่เป็นเซฟเฮ้าส์ที่ฉันไว้เก็บเอกสารการส่งมอบอาวุธสงครามและเอกสารสำคัญไว้ที่นี่”
“แล้วทำไมต้องพาฉันมาที่นี่ด้วย”
“ถ้าเธออยากได้ก็เข้าไปหาเอาเอง และฉันจะเซ็นยกให้พ่อเธอคืน”ราจีฟมองเห็นความสับสนนัยน์ดวงตากลมโตของเธอแต่เพียงแวบเดียวเท่านั้น และเขาอ่านความคิดเจสสิก้าขาดแน่นอนเธอยอมเสี่ยงเพื่อก้าวขาเข้าไปในนั้นแน่นอน แต่เจ้าหล่อนมิสามารถล่วงรู้ได้ว่าหากก้าวเท้าลงจากรถจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง
...เพราะนั่นหมายความว่าเธอหลงวนเวียนในกลลวงของมาเฟีย
“ฉะ...ฉันจะเชื่อคุณได้ยังไงกัน”เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกระตุกกระตัก เธอยังคงนั่งอยู่บนตักของเขาจนราจีฟรู้ถึงอาการสั่นเทิ้มด้วยความหวาดหวั่น
“ไม่รู้สิ อยู่ที่เธอไม่ใช่ฉัน”เพิ่มความกดดันก่อนจะค่อยๆ ขยับฝ่ามือหนาออกจากเอวคอดกิ่ว เขาใช้จังหวะที่เธอใช้ตรรกะในการไตร่ตรองเพื่อวัดขนาดว่ามันเล็กมากเพียงใดกัน
ทำไมตัวเธอเล็กนิดเดียวทั้งที่พ่อเธอก็ออกจะเลี้ยงดูปูเสื่อไม่ให้อดยาก ไม่อยากจะนึกว่าหากเธอถูกร่างกายกำยำกระทำชำเรากระดูกเจ้าหล่อนจะหักเป็นท่อนๆ ไหมนะ
“ฉันอยากได้ของที่เป็นของพ่อฉันคืน”ราจีฟแสยะยิ้มที่มุมปากด้วยความขบขัน เธอกำลังหลอกตัวเองจนกู้กลับมาไม่ได้ ก็เข้าใจว่าเจ้าหล่อนเคยเพียบพร้อมทุกอย่าง ทว่าหากบิดาของเจสสิก้าไม่โกงเงินปันผลตลาดหลักทรัพย์ของพ่อเขามากจนเกินไปคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้
รองเท้าส้นสูงที่สวมใส่มาถูกถอดวางไว้บนพื้น สาบานได้ว่าถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลเธอจะวิ่งหนีให้สุดชีวิต
“หึๆ”มาเฟียหนุ่มหัวเราะกับการกระทำของเธอ
“ฉันต้องเข้าไปเอาแผ่นกระดาษนั้นได้ที่ไหน”
“ตามฉันมา”ร่างสูงเลือกที่จะก้าวเท้าลงจากรถก่อนโดยไม่สนใจคนที่เดินเท้าเปล่าลงมาจากรถตู้ และเดินไปแสกนนิ้วที่ประตูสีดำเพื่อเข้าไปภายใน
“เธอออยากได้เอกสารแผ่นนั้นใช่ไหม เดินเข้าไปในห้องนั้นสิ”เจสสิก้ามองตามนิ้วของชายหนุ่มที่ชี้ไปยังห้องๆ นึง หญิงสาวได้แต่เม้มปากเป็นเส้นตรงเธอจะรู้ได้อย่างไรกันว่าจะไม่ถูกเขาฆ่าหรือทำมิดีมิร้าย
“คุณจะไม่ทำอะไรฉันใช่ไหม!?”ถามย้ำด้วยความประหม่าอีกครั้งด้วยความแน่ใจว่ามาเฟียหนุ่มจะไม่ทำอะไรเธอ
“...”ราจีฟเพียงยักไหล่อย่างไม่สนใจในคำถามของเธอก่อนที่ชายหนุ่มจะตรงไปยังบาร์ขนาดกลาง หยิบขวดไวน์ราคาแพงมารินใส่แก้วแชมเปญและหมุนควงเป็นวงกลม
“นี่คุณ!”
“ฉันบอกเธอไปหมดแล้ว ไปหาเอาเองในห้องนั้น”บอกด้วยเสียงราบเรียบทว่าเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม มาเฟียหนุ่มยกแก้วไวน์จิบเบาๆ อย่างสบายใจ
“หรือเธอจะดื่มไวน์สักแก้วก่อนไหมล่ะหืม...?”
