ซ่งไป๋เหลียนเเห่งตำหนักฟ่งเฉียว
ทางเดินเข้าตำหนักใหญ่ นภาสวรรค์
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้ากำลังวิ่งเข้ามาด้วยความรีบร้อนมุ่งสู่ตัวตำหนักใหญ่
ผู้ที่กำลังวิ่งอยู่นั้นเป็นบุรุษหนุ่มผู้หนึ่งหน้าตาสกปรกมอมเเมม สวมเสื้อศิษย์สำนักนภาสวรรค์ ข้างเอวห้อยไว้ด้วยฝักกระบี่เล่มหนึ่ง
เขาผู้นั้นก็คือ หวงเฉินฟง นั่นเอง!!!
ยามนี้หวงเฉินฟงเหงื่อเเตกไหลพราก บ่งบอกว่าเขานั้นกำลังรีบร้อนที่จำไปทำอะไรบางอย่าง
"ช้าก่อน"
สุ้มเสียงหนึ่งตวาดดังขึ้นที่ด้านข้างทางเดินเข้าตำหนักใหญ่
หวงเฉินฟงได้เเต่งงงันเเละได้เเต่หยุดเดิน หันหน้าไปยังเจ้าของเสียงนั้น
เจ้าของเสียงเป็นบุรุษหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา อายุประมาณ20-21ปี สวมชุดศิษย์ของสำนักเช่นกัน เพียงเเต่ใบหน้าของบุรุษหนุ่มผู้นี้เเฝงไว้ด้วยความเย็นชาเเละเย่อหยิ่งอยู่พอสมควร
"ท่านคือ" หวงเฉินฟงถามไถ่ก่อน
"เจ้าเป็นศิษย์สังกัดไหนกัน เเม้เเต่ข้าก็ยังไม่รู้จัก" บุรุษหนุ่มผู้นั้นเเค่นเสียงอย่างไม่พอใจ
"ข้าหวงเฉินฟงจากตำหนักยินหลุน หลายปีมานี้ข้าไม่ได้ออกจากตำหนักยินหลุนมาก่อน ข้าต้องขออภัยท่านจริงๆ ไม่ทราบท่านพอจะบอกชื่อเสียงเรียงนามของท่านได้หรือไม่" หวงเฉินฟงข่มใจอธิบายอย่างใจเย็น
"ข้าเจิ้งเซียวเหอ ศิษย์เอกของเจ้าสำนักตู้กูเหิง" บุรุษหนุ่มผู้นั้นกล่าวอย่างลำพองพร้อมกับเหยียดตามองหวงเฉินฟงอย่างดูเเคลน
"อ้อที่เเท้เป็นศิษย์พี่เจิ้งนี่เอง ขออภัยๆ" หวงเฉินฟงพยายามทำตัวอย่างเป็นมิตร
"เเล้วเจ้ามาที่นี่ทำไม อาจารย์ข้าไม่มีทางให้คนอย่างเจ้าเข้าพบหรอก ไสหัวไปซะ" เจิ้งเซียวเหอกล่าวอย่างรำคาญ
"ศิษย์พี่เจิ้ง ท่านเข้าใจข้าผิดเเล้ว ข้าไม่ได้มาหาท่านเจ้าสำนัก ข้าเพียงเเค่มาหาศิษย์พี่ตู้กู"
พริบตานั้น เเววตาของเจิ้งเซียวเหอพลันลุกเป็นไฟ เเผ่รังสีอำมหิตออกมา โดยที่หวงเฉินฟงก็รู้สึกตัวได้
"เจ้าจะไปหานางทำไม เจ้าเกี่ยวข้องอะไรกับนาง" เจิ้งเซียวเหอกล่าวถามด้วยน้ำเสียงที่กดดัน
พริบตานั้นหวงเฉินฟงรับรู้ได้ทันทีถึงความไม่เป็นมิตรของเจิ้งเซียวเหอที่อยู่เบื้องหน้าเขาผู้นี้ หวงเฉินฟงจึงคิดที่จะหลีกเลี่ยงปฏิเสธที่จะพูดคุยกับเขาอีกต่อไป
"อ่อ พอดีว่า หลายวันก่อนนางได้ช่วยข้าไว้จากฝูงหมาป่า ดังนั้นวันนี้ข้าจึงมาเพื่อขอบคุณนาง" หวงเฉินฟงปั้นเรื่องขึ้นมา เนื่องจากเขาไม่คิดจะเผยรายละเอียดให้ศิษย์พี่ต่างสังกัดผู้ที่ดูไม่เป็นมิตรนี้ให้ล่วงรู้
"หึ ถ้าเเค่ขอบคุณเจ้าไม่ต้องไปบอกนางด้วยตัวเองหรอก เดี๋ยวข้าไปบอกให้ เจ้ากลับไปซะ" เจิ้งเซียวเหอกล่าวอย่างรังเกียจเเละไม่พอใจ
"ได้ๆ ศิษย์พี่นั้นข้าฝากท่านบอกนางด้วยนะ งั้นข้าขอตัวก่อน"
หวงเฉินฟงเห็นเช่นนั้น จึงรู้ดีว่าเขานั้นคงจะเข้าไปหาตู้กูหงในตำหนักใหญ่ไม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงได้เเต่ล่าถอยออกมาอย่างไม่มีทางเลือก
จุดประสงค์ที่หวงเฉินฟงรีบร้อนมาหาตู้กูหงในวันนี้ก็เพื่อจะบอกนางเกี่ยวกับเรื่องที่ตนจะได้เข้าร่วมประลองในครั้งนี้ด้วย โดยตนคิดว่าตู้กูหงจะต้องตื่นเต้นตกใจกับเรื่องนี้อย่างเเน่นอน
หวงเฉินฟงยังไงวันนี้ไม่เจอตู้กูหงไม่ยอมเลิกราเเน่ เขาได้วิ่งไปหลบเเอบหลังรูปปั้นสัตว์ประหลาดที่อยู่ข้างทางเดินเข้าสู่ตัวตำหนัก เวลานี้ เจิ้งเซียวเหอได้จากไปเเล้ว เเต่ว่าเขาก็ยังไม่เเน่ใจ กลัวว่าหากบุ่มบ่ามไปอีกคราวนี้อาจจะโดนเจิ้งเซียวเหอเอาเรื่องได้
ภายใต้เเสดงเเดดสาดส่อง หวงเฉินฟงอดทนยืนเเบบหลังรูปปั้นอยู่นาน จนในที่สุดเขาก็เริ่มพบหนทางเเล้ว
เมื่อที่ทางเดินเบื้องหน้าเขา มีหญิงรับใช้คนหนึ่งกำลังเดินถือตะกร้าผลไม้ผ่านหน้าเขาไป
"เเม่นาง เเม่นาง" หวงเฉินฟงรีบเรียกสาวใช้รายนั้น
"ฮะ ท่านเป็นใครกัน" หญิงรับใช้รายนั้นตกใจต่อการปรากฏตัวของหวงเฉินฟง จนตะกร้าผลไม้ที่ถืออยู่ในมือเเทบหลุดออกจากมือ
"ใจเย็นเเม่นาง ข้าไม่ใช่คนไม่ดี ข้าก็เป็นศิษย์นภาสวรรค์เหมือนกัน
"เเล้วท่าน ท่านต้องการอะไร" หญิงรับใช้รายนั้นยังคงระเเวงหวงเฉินฟง
"ข้ามาหาศิษย์พี่ตู้กูหง ข้ากับนางเป็นเพื่อนกัน นางบอกว่าวันนี้ให้ข้ามาหานางที่ตำหนักใหญ่ เเต่เหตุใดข้าจึงไม่พบนาง"
"งั้นที่เเท้ท่านก็เป็นเพื่อนกับคุณหนู" หญิงรับใช้คนนั้นกล่าวอย่างโล่งอก
"งั้นท่านมาเสียเที่ยวเเล้วหล่ะ ตอนนี้คุณหนูอยู่ที่ตำหนักฟ่งเฉียว"
"ว่าไงนะ ศิษย์พี่ไม่ได้อยู่ที่นี่งั้นเหรอ" หวงเฉินฟงอุทาน
ตำหนักฟ่งเฉียว
ตำหนักฟ่งเฉียวเป็นตำหนักของฟางจื่อหลาน ซึ่งรับสอนเฉพาะศิษย์ที่เป็นอิสตรีเท่านั้น ตำหนักฟ่งเฉียวอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือจากทางตำหนักใหญ่ บรรยากาศภายในตำหนักร่มรื่นเย็นสบาย ดูไปเหมาะกับการเป็นสถานที่ฝึกวิชาเซียนจริงๆ ตู้กูหงจะอยู่ที่นี่จริงเหรอ
เวลานี้หวงเฉินฟงกำลังเเอบอยู่ที่ประตูทางเข้าหน้าตำหนัก ในเมื่อที่นี่เป็นสถานที่สำหรับสตรี สำหรับตัวเขานั้นหากเข้าไปอย่างโจ่งเเจ้งโดยที่ไม่มีเทียบเชิญจากเจ้าสังกัด ตัวเขานั้นอาจจะโดนลงโทษได้ ไม่เพียงเฉพาะตำหนักฟ่งเฉียวจะลงโทษเขา หยางกาเซิงเองก็พาลจะลงโทษเขาด้วยที่ทำให้ตำหนักยินหลุนเสียชื่อเสียง
{ศิษย์พี่ตู้กูหง นางจะอยู่ที่นี่จริงๆเหรอ} หวงเฉินฟงมองลาดเลาพลางครุ่นคิดในใจ
สิ่งที่เห็นภายในเบื้องหน้าสายตาเขาที่อยู่ถัดจากประตูตำหนักเข้าไปนั้น เป็นลานกว้างสีเขา ที่ดูไว้เหมือนลานฝึกกระบี่เช่นเดียวกับตำหนักยินหลุนของตน เเต่เวลานี้ ที่ลานฝึกของตำหนักฟ่งเฉียวกลับไม่มีศิษย์สตรีคนไหนกำลังฝึกกระบี่อยู่เลย
{ขืนข้ารออยู่ที่นี่ต่อไปคงไม่ได้อะไรเเน่ ยังไงซะนางก็คงจะอยู่ข้างในนั้น} หวงเฉินฟงเริ่มหงุดหงิดที่ตัวเองรออยู่เนิ่นนานก็ยังไม่เห็นเเม้เเต่เงาของตู้กูหง เขาเลยคิดที่จะเเอบเข้าตำหนักฟ่งเฉียวไปตามหา
ในที่สุด หวงเฉินฟงก็ได้เดินเข้าไปในทางเข้าตัวตำหนักฟ่งเฉียวเเล้ว
หวงเฉินฟงเหลียวซ้ายเเลขวา ก็ยังไม่พบร่องรอยของตู้กูหง ครั้นจะเข้าไปในตัวตำหนักตรงๆก็ไม่ได้อีก เนื่องจากว่าฟางจื่อหลานเจ้าสังกัดฟ่งเฉียวนั้นจะต้องเอาเรื่องเขาเเน่ หวงเฉินฟงจึงได้เเต่เเอบเดินลัดเลาะตามทางเล็กทางน้อยของภายในตำหนักนั้น สืบหาร่องรอยตู้กูหง
"เห้ย"
พริบตานั้น ในขณะที่หวงเฉินฟงกำลังเหลียวซ้ายเเลขวานั้น เท้าของเขาพลันเกิดลื่นขึ้นมา เนื่องจากทางเดินที่เขากำลังเดินผ่านนั้นเต็มไปด้วยน้ำขัง หวงเฉินฟงไม่ทันมอง ตัวจึงลื่นเซถลาไปทางเบื้องหน้า อย่างไม่อาจควบคุมได้
โครม
หวงเฉินฟงรู้สึกว่าตัวเขาได้ชนกับคนผู้หนึ่งเข้าอย่างจัง คนผู้นั้นก็เหมือนไม่ทันรับรู้การมาของหวงเฉินฟง ทั้งคู่จึงพากันล้มคะมำกันไปกับพื้น
หลังจากหวงเฉินฟงชนกับคนผู้นั้นล้มลงไปกับพื้นเเล้ว เขารู้สึกว่าตัวเขานั้นกำลังนอนทับร่างของบุคคลผู้นั้นอยู่ เเต่เหนือสิ่งอื่นใดริมฝีปากของเขากำลังประกบริมฝีปากกับบุคคลผู้นั้นอยู่
บุคคลที่เบื้องหน้าเป็นสตรีเเน่นอน!!! หวงเฉินฟงสามารถรับรู้ได้ถึงเเม้ว่าเขาจะยังไม่ได้ลืมตาขึ้นมาก็ตาม ความรู้สึกนั้นถ่ายทอดมาจากริมฝีปากคู่นั้นที่เขาประกบอยู่
เวลาในช่วงนี้ของเขาคล้ายกับรูปถ่ายที่ถูกหยุดภาพเอาไว้ นี่เป็นครั้งเเรกที่เขาได้รู้สึกความรู้สึกที่พิเศษเช่นนี้
เพี้ยะ!!!!!
เสียงฝ่ามือตบลงบนใบหน้าหวงเฉินฟงดังสนั่นหวั่นไหว ทำลายกาลเวลาที่ถูกหยุดเมื่อครู่ลงไว้อย่างสิ้นเชิง
"โอ๊ย"
หวงเฉินฟงรีบลุกขึ้นถอยหลังไปพร้อมกับกุมมือไปยังเเก้มขวาที่โดนสตรีนางนั้นตบอย่างกระทันหัน
"เจ้า เจ้ากล้าลวนลามข้า...... ข้าจะฆ่าเจ้า!!!" สุ้มเสียงสดใสเเต่เเฝงเเววเคียดเเค้นดังออกมาจากปากสตรีนางนั้น
เวลานี้หวงเฉินฟงจึงได้ลืมตามองไปยังบุคคลผู้นั้นอย่างชัดเจน บุคคลที่ใช้ฝ่ามือตบใส่ใบหน้าของเขาเมื่อครู่
บุคคลผู้นั้นเป็นสตรีโดยไม่ต้องสงสัย นางเป็นสตรี วัยประมาณ 18-19ปี ใบหน้าน่ารักงดงาม สวมใส่เสื้อผ้าของศิษย์สำนักนภาสวรรค์ ดูๆไปเเล้วความงามของนางไม่ได้ด้อยไปกว่าตู้กูหงเลย เวลานี้ใบหน้าที่น่ารักงดงามของสตรีนางนั้นกลับกลายเป็นใบหน้าที่ขุ่นเคืองโกรธเเค้นต่อการกระทำของหวงเฉินฟง
"เเม่นาง ท่าน..ท่าน ใจเย็นก่อน ข้าไม่ได้ตั้งใจจะ...."
ฟิ้ว
หวงเฉินฟงยังไม่ทันพูดจบประโยค สตรีนางนั้นก็ชักกระบี่พุ่งเข้าหาหวงเฉินฟงดั่งพายุ
"นี่...ท่าน" หวงเฉินฟงอุทานอย่างตกใจ
หวงเฉินฟงเห็นดังนั้นจึงได้เเต่กลิ้งตัวหลบไปยังพุ่มไม้ด้านข้าง เมื่อเขากลิ้งตัวหลบเสร็จเเล้ว เขาก็กำลังจะวิ่งหนีทันที เนื่องเพราะเขาคิดว่าเรื่องในวันนี้คงไม่จบเเค่นี้เเน่
เพียงเเต่เขาคิดไม่ถึงว่า ทันทีที่เขาหันหลังให้ รังสีกระบี่ของสตรีนางนั้นกลับกดทับโถมเขาจนเขาเเทบจะหายใจไม่ออก หวงเฉินฟงไม่มีทางเลือกเเล้ว
เคร้ง
หวงเฉินฟงได้เเต่ชักกระบี่ตวัดย้อนกลับ ต้านกระบี่ที่ถาโถมเข้ามาของสตรีนางนั้นไว้
สะเก็ดกระบี่เเลบเเปรบปราด ต้นไม้ใบหญ้ารอบข้างทั้งสองคนเจอกับรังสีกระบี่ของทั้งคู่จนสั่นไหวอย่างน่ากลัว
"วิเศษนี่เจ้าโจรราคะ เจ้าหันมาสู้เเล้ว" สตรีนางนั้นตวาดใส่อย่างโกรธเเค้น
"เเม่นาง ท่านกำลังเข้าใจข้าผิด" หวงเฉินฟงก็พยายามอธิบายเรื่องเมื่อครู่ต่อไป
"วันนี้ถ้าหากข้าไม่ฆ่าโจรราคะอย่างเจ้า ก็อย่าเรียกข้าว่าซ่งไป๋เหลียนเลย" สตรีนางนั้นเเววตาเริ่มประสานอย่างเเน่วนิ่ง
{ซ่งไป๋เหลียนเหรอ} ไม่รู้เพราะเหตุใด หวงเฉินฟงจึงได้ทวนชื่อของสตรีผู้ที่กำลังจะมุ่งหมายเอาชีวิตของเขาอย่างไม่รู้เหตุผล
พริบตาที่หวงเฉินฟงกำลังต้านทานกระบี่ของซ่งไป๋เหลียนอยู่นั้น เขารู้สึกว่า กระบี่ของซ่งไป๋เหลียนยิ่งมายิ่งหนักอึ้งกว่าเดิม เเละเริ่มถาโถมกดดันเขาจนเเทบจะต้านทานไม่ไหว
"นภากระบี่!!!!" เสียงตวาดจากซ่งไป๋เหลียนดังขึ้น
หวงเฉินฟงเริ่มรู้ชะตากรรมของตัวเองเเล้ว ทันใดนั้นกระบี่ของซ่งไป๋เหลียนที่เบื้องหน้าเขานั้นพลันเปล่งประกายเเสงสีฟ้าอย่างน่าประหลาด พร้อมกับลำเเสงสีฟ้าสาดส่องมีพลังที่จับต้องไม่ได้กลุ่มหนึ่งกำลังพุ่งมาทางเขา
ตูม
เเสงสีฟ้าส่องประกายไปทั่วพื้นที่บริเวณ พร้อมกับเเรงระเบิดพลังจากนภากระบี่
หวงเฉินฟงที่มีวิชากระบี่เเมวสามขาอย่างเขาไหนเลยจะต้านทานนภากระบี่ของซ่งไป๋เหลียนได้ หวงเฉินฟงได้ถูกพลังกระบี่ของลำเเสงสีฟ้า กระเเทกจนเขากลิ้งกระดอนฟุบลงกับพื้น กระบี่เมื่อครู่ของเขาที่ใช้ต้านทานกระบี่ของซ่งไป๋เหลียนก็พลอยกระเด็นหลุดมือไปด้วย
หวงเฉินฟงรู้สึกปวดเเน่นที่หน้าอก เขาเอามือกุมลงที่หน้าอกของเขา เเต่เขาก็ลงสึกมีอะไรก็ไม่รู้ติดขัดอยู่ที่ลำคอ เขาจึงบ้วนมันออกมา
เเผละ
เลือด!!! ที่เเท้นภากระบี่เมื่อครู่ถึงกับมีอานุภาพรุนเเรงถึงเพียงนี้
หวงเฉินฟงยังไม่ทันเงยหน้าขึ้น กระบี่ที่เปล่งประกายสีฟ้าของซ่งไป๋เหลียนก็จ่ออยู่ที่เบื้องหน้าเขาเเล้ว
{ดูท่า นางคงจะไม่ยอมฟังเราอธิบายเเล้ว} หวงเฉินฟงคิดในใจอย่างยอมรับชะตากรรม
ซ่งไป๋เหลียนเหลือบมองดูหวงเฉินฟงอย่างเขม็ง บุรุษผู้ที่หน้าตาสกปรกมอมเเมมผู้ที่อยู่เบื้องหน้านี้ เเววตาของเขาเหมือนกลับว่าได้รับความทุกเข็ญของโชคชะตามาอย่างมากมาย นั่นไม่คล้ายจะเป็นโจรราคะที่ฉวยโอกาสอย่างไงอย่างงั้นเลย
ซ่งไป๋เหลียนเริ่มบังเกิดความลังเล เพียงเเค่นางนั้นตวัดกระบี่ ก็จะสามารถปลิดชีพโจรราคะที่ลวนลามนางเมื่อครู่นี้ได้ทันที
เเต่ไม่รู้เพราะเหตุใดกระบี่ในมือของซ่งไป๋เหลียนพลันสั่นไหวขึ้นมา ลำเเสงสีฟ้าจากวิชานภากระบี่ก็มอดลงไปอย่างช้าๆ
"ศิษย์น้องไป๋เหลียน ศิษย์น้องไป๋เหลียน " เสียงเหล่าศิษย์พี่ต่างๆของซ่งไป๋เหลียนร้องเรียกอย่างตกใจ เเละกรูกันเข้ามาหาซ่งไป๋เหลียนอย่างเนืองเเน่น
"ศิษย์น้องไป๋เหลียน เกิดอะไรขึ้น เจ้าอย่าพึ่งฆ่าคน" ศิษย์สตรีคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาดึงกระบี่จากมือของซ่งไป๋เหลียนไป
ศิษย์สตรีนางนั้นเหมือนจะเป็นศิษย์พี่ของซ่งไป๋เหลียน นางมีใบหน้ากลมไข่ เเม้ไม่จัดว่าเป็นสตรีที่สวยงดงาม เเต่ก็จัดว่าไม่น่าเกลียดเลยทีเดียว
"ศิษย์พี่ถงอิง ข้ากำลังจะจัดการกับโจรราคะ" ซ่งไป๋เหลียนหันไปกล่าวกับศิษย์พี่ของนางฮัวถงอิงอย่างเย็นชา
ฮัวถงอิงได้ฟังดังนั้นจึงรู้ว่าเกิดเรื่องใหญ่เเล้ว ตนเองคงอาจจะไม่สามารถคลี่คลายเรื่องราวนี้ได้
"อาจารย์ท่านรีบมาดู ศิษย์น้องไป๋เหลียนเกิดเรื่องเเล้ว" ฮัวถงอิงรีบตะโกนบอก
ทันใดนั้นกลุ่มศิษย์สตรีที่ยืนมุงดูวิจารย์กันอยู่ ก็ยืนเเยกเเหวกให้คนเดินเข้ามา
ผู้ที่เดินเข้ามายังสถานที่เกิดเหตุนั้นก็คือฟางจื่อหลานอาจารย์ของพวกนางนั่นเอง เเต่ที่น่าเเปลกก็คือนางกลับเดินมาพร้อมตู้กูหง
ตู้กูหงเมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เบื้องหน้า ก็ร้องอย่างตกใจ เเละวิ่งเข้าไปหาหวงเฉินฟงทันที
"เฉินฟง"
หวงเฉินฟงในสภาพร่อเเร่ เมื่อเห็นตู้กูหงกำลังวิ่งเข้ามาหาเขาเเล้ว จึงยิ้มมุมปากด้วยความยินดีก่อนที่จะสลบไป
ซ่งไป๋เหลียนเหลือบมองตู้กูหงเเวบหนึ่ง จากนั้นนางก็มองไปยังหวงเฉินฟง
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด นางในตอนนี้ไม่ได้มีความเคียดเเค้นต่อหวงเฉินฟงอีกเเล้ว.....
