บทที่ 7
หญิงสาวส่งยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน ก่อนจะวิ่งตรงไปที่บ้านพักหลังเล็กๆ ที่อยู่ห่างออกไปอย่างกระตือรือร้น และการกระทำนั้นยิ่งทำให้นรุตม์คิดหนักกับสิ่งที่จำเป็นต้องทำกับเธอมากขึ้นไปอีก
เดซี่วิ่งกลับมาหาเขาหลังจากที่หายหน้าไปเพียงครู่เดียว เธอหอบหายใจอย่างหนักเพราะมัววิ่งตามหาครูฝึกขี่ม้าของตัวเองเสียทั่วบริเวณ แต่ถึงอย่างนั้นก็กลับไม่พบ
‘ครูฝึกไม่อยู่ที่บ้านพักค่ะ ฉันตามหาเท่าไหร่ก็ไม่พบเสียที’ หญิงสาวบอกขณะที่เหงื่อเม็ดเล็กๆเริ่มผุดพรายขึ้นตามใบหน้า
‘ทำไมถึงต้องตามหาเขาด้วยล่ะเดล คุณมีผมอยู่ทั้งคนนี่นา ผมไม่มีทางปล่อยให้คุณตกม้าบาดเจ็บแน่นอนอยู่แล้วล่ะครับ’ นรุตม์เป็นฝ่ายถามขึ้นบ้าง เขาจ้องมองคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาประหลาด และเดซี่เองก็รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งใบหน้าเพราะปฏิกิริยาของเขาเช่นกัน
‘ฉันรู้ค่ะว่าคุณไม่ปล่อยให้ฉันลำบากแน่ๆ แต่ว่าม้าตัวโปรดของฉันถูกแยกเก็บไว้ในที่พิเศษ ไม่ได้อยู่ในคอกธรรมดาเหมือนม้าตัวอื่นๆหรอกค่ะ’ เดซี่อธิบายให้นรุตม์ฟังอย่างละเอียด ความจริงเขารู้ทุกอย่างมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็ยังจำเป็นต้องพึ่งพาความใสซื่อบริสุทธิ์ของเธอต่อไป
‘พาผมไปหน่อยได้ไหมครับ’
‘มันไม่มีประโยชน์หรอกค่ะนรุตม์ โรงม้าหลังนั้นถูกล็อคเอาไว้ด้วยแม่กุญแจ และคนเดียวที่มีลูกกุญแจก็คือครูฝึกคนเดียวเท่านั้นค่ะ’ หญิงสาวยังคงอธิบายต่อไป แต่ก็ไม่อาจเลิกล้มความตั้งใจของอีกฝ่ายได้
‘บางทีครูฝึกอาจจะอยู่ที่นั่นก็ได้นี่ครับ คุณลองไปหาดูแล้วหรือยังล่ะ’ นรุตม์เสนอ และเขาก็มองเห็นเค้าความสมปรารถนาลางๆ เมื่อริมฝีปากบางเผยยิ้มกว้างส่งให้
‘จริงสิคะ ฉันยังไม่ได้ไปดูที่นั่นเลย’
‘ถ้าอย่างนั้นก็รีบนำทางไปเถอะครับ ผมอยากเห็นคุณขี่ม้าจะแย่อยู่แล้ว’ นรุตม์ว่าพลางส่งยิ้มจริงใจ เดซี่เองก็รีบพยักหน้าตอบตกลง แล้วเดินนำทางไปยังโรงม้าที่อยู่อีกฝั่งของไร่อัปสรทันที
เธอพูดคุยสนุกสนานกับเขาไปตลอดทาง โดยไม่ได้คาดคิดเลยว่าเวลาแห่งความสุขในชีวิตกำลังจะจบสิ้นลงแล้ว คนตัวสูงที่เดินเคียงข้างกายลอบถอนใจหลายครั้งหลายครา แต่เมื่อนึกถึงความจำเป็นที่บีบบังคับและคำสั่งของบิดาขึ้นมาได้ นรุตม์ก็จำต้องทิ้งความเป็นคนดีไว้เบื้องหลัง
‘ม้าตัวโปรดของฉันอยู่ข้างในนี้ค่ะ แล้วมันก็เป็นม้าประจำตระกูลด้วยนะคะ’ หญิงสาวชี้ไปยังโรงม้าขนาดกลางที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าด้วยรอยยิ้มสดใส ลืมไปเสียสนิทว่ามาที่นี่เพื่อตามหาครูฝึกสอนขี่ม้า
นรุตม์คว้าข้อมือบอบบางเดินตรงไปยังประตูทางเข้าโดยไม่รีรออีก ก่อนจะดึงปืนเก็บเสียงที่เหน็บอยู่บริเวณเอวกางเกงออกมาแล้วยิงไปที่แม่กุญแจทันที และด้วยกระสุนเพียงนัดเดียว เขาก็สามารถพาตัวหญิงสาวเข้าไปในโรงม้าได้อย่างง่ายดาย
โรงม้าแห่งนี้เป็นที่ที่นรุตม์ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้เห็นในเอกรัฐ วัสดุและการออกแบบอย่างดีบ่งบอกได้ชัดเจนว่าม้าพันธุ์ท่าทางปราดเปรียวที่ยืนคู่กันอยู่นั้นเป็นสิ่งที่เจ้าของโปรดปรานมาก ถึงได้ลงทุนสร้างโรงม้าให้เป็นสัดส่วนถึงขนาดนี้ หญ้าแพงโกล่าสีเขียวขจีวางรวมกันอยู่เป็นที่ อีกทั้งยังมีบ่อปูนขนาดกลางที่ใช้สร้างเป็นแอ่งน้ำเล็กๆ ไว้สำหรับม้าสองตัวนั้นอีก
‘นรุตม์! คุณยิ่งปืนแบบนั้นมันทำให้ม้าของฉันตกใจนะคะ’ เดซี่ร้องบอกขณะพยายามบิดข้อมือให้หลุดพ้นจากการเกาะกุมของเขา สายตายังคงจ้องมองไปที่ม้าเพศผู้และเพศเมียที่เริ่มพยศอย่างนึกห่วงใย
‘เลิกทำเป็นใสซื่อได้แล้วเดซี่... คุณน่าจะรู้นะว่าผมกำลังคิดจะทำอะไร!’ ชายหนุ่มตวาดลั่นพร้อมกับยกปืนเล็งไปที่ศีรษะของเธอ สายตาแข็งกร้าวของนรุตม์ทำให้หญิงสาวรู้ดีว่านี่ไม่ใช่การล้อเล่น
‘ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะใจร้ายแบบนี้’ เดซี่เอ่ยเสียงแผ่วเบาราวกับกระซิบ หยาดน้ำสีใสร่วงหล่นออกมาจากดวงตาคู่สวยไม่ขาดสาย แข็งขาอ่อนแรงจนต้องทิ้งตัวลงนั่งอยู่บนพื้นดิน
มาร์คัสเคยเตือนเธอหลายครั้งแล้วว่าไม่ควรไว้ใจนรุตม์มากเกินไป เพราะเขามีหลายสิ่งหลายอย่างที่บ่งบอกว่าอาจเป็นอันตรายสำหรับตัวเธอ แต่ถึงอย่างนั้นเดซี่ก็ยังคงไม่ยอมรับฟังมาร์คัสอยู่ดี
เธอเชื่อเสมอว่านรุตม์รักเธอด้วยใจจริง หนำซ้ำวันนี้ก็ยังอาจหาญแอบหนีออกมากับเขาตามลำพังโดยไม่มีใครล่วงรู้อีก ต่อให้ตอนนี้โชคชะตาจะเข้าข้างเพียงใด ก็คงไม่มีใครยื่นมือมาช่วยเธอให้รอดพ้นจากความตายที่กำลังคืบคลานเข้ามาได้ทันเวลาแน่ๆ
‘ถ้าคุณอยากตอบแทนความรักของฉันแบบนี้ก็เชิญได้เลยนรุตม์! ฉันจะไม่อ้อนวอนขอร้องคุณเลยสักคำ ยิงสิคะ... ยิงฉันให้ตายไปเดี๋ยวนี้เลย!’ เดซี่ตะโกนลั่นอย่างคับแค้นใจ ดวงตาของเธอจ้องมองใบหน้าเขาอย่างไม่รู้สึกเกรงกลัวสักนิด
นรุตม์ได้แต่ยืนกำปืนในมือแน่น รู้สึกปวดรวดร้าวสุดกำลังที่ต้องจ้องมองหญิงสาวที่ตัวเองรักสุดหัวใจนั่งร้องไห้คร่ำครวญ โดยไม่อาจเข้าไปปลอบโยนได้เช่นทุกครั้ง แต่ถ้าหากว่าวันนี้เขากลับไปทั้งที่ไม่ได้จัดการกับเธอ เขาก็จะต้องสูญเสียสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งในชีวิตไปแน่ๆ
นรุตม์หลับตาลงช้าๆพร้อมกับการตัดสินใจครั้งใหญ่ ตอนนี้สิ่งที่เขารับรู้ได้มีเพียงเสียงร้องของม้า และเสียงสะอื้นปานจะขาดใจของหญิงสาวอันเป็นที่รักเท่านั้น ทุกอย่างรอบกายเย็นยะเยือกจนเขาต้องกระชับปืนในมือให้แน่นขึ้นอีก ฉับพลันดวงตาคมกล้าที่เพิ่งปิดลงก็เปิดขึ้นครั้ง ชายหนุ่มสบถกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะตัดสินใจเหนี่ยวไกปืนเพื่อสาดกระสุนสีเงินตรงไปยังเป้าหมายเบื้องหน้าทันที!
