บทที่ 12
มาร์คัสเร่งฝีเท้าลงจากบันไดอย่างเร่งรีบ โดยมีเทวาตามลงมาติดๆ แต่เมื่อกำลังจะก้าวพ้นห้องโถงชั้นล่างสุดของคฤหาสน์แวนเดอคอร์ฟ สายตาคมกล้าก็บังเอิญหันไปพบแขกผู้มาเยือนเข้าเสียก่อน มาร์คัสชะงักฝีเท้าลงเพียงเท่านั้น ก่อนจะหมุนตัวกลับมายืนจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างไร้ความเป็นมิตร
“กล้าดียังไงถึงมาที่นี่อีก” เจ้าของคฤหาสน์เอ่ยขึ้นก่อน แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับทำเหมือนว่าไม่ได้ยินในสิ่งที่เขากำลังพูดอยู่ นรุตม์ลุกขึ้นจากโซฟาสีทองเหลืองราคาแพงอย่างช้าๆ พร้อมกับเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้ามาร์คัส
“นายเอาน้องสาวฉันไปไว้ที่ไหน”
“น้องสาวนายก็ต้องอยู่ในที่ของพวกนายสิ มาถามหาอะไรในที่ของฉันกันล่ะ... รีบกลับไปซะนรุตม์ อย่าลืมสิว่าที่นี่ไม่ได้ต้อนรับนายอีกแล้ว”
มาร์คัสเอ่ยเสียงเรียบอย่างข่มอารมณ์ ก่อนจะหันไปบอกเทวาให้ออกไปก่อนเมื่อเห็นว่านรุตม์ยังไม่ยอมเคลื่อนกายออกไปจากคฤหาสน์แวนเดอคอร์ฟเสียที
“ออกไปรอที่รถก่อนเถอะเทวา อีกสักครู่ผมจะตามออกไป” เทวาพยักหน้ารับคำและเดินออกจากห้องโถงไปอย่างไม่อิดออด
เมื่อเทวาเดินจากไปจนพ้นบริเวณห้องโถงเรียบร้อยแล้ว มาร์คัสก็ปรี่เข้าไปกระชากคอเสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลอ่อนของนรุตม์ไว้แน่นทันที ดวงตาสีเขียวมรกตจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายอย่างเกลียดชัง ร่างกายทุกส่วนสั่นระริกเมื่อภาพความเลวของนรุตม์ผุดขึ้นมาอีกครั้งเพื่อย้ำเตือนให้เขาเจ็บปวด
“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายทำแบบนั้นกับเดลได้ลงคอ!... รู้ไหมว่าบางทีฉันก็อยากจะทำแบบนั้นกับน้องสาวของนายบ้างเหมือนกัน”
“นายใช่ไหมที่ลักพาตัวน้องฉันมา ปล่อยเธอไปเถอะมาร์คัส... ยัยน้ำเหนือไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้” นรุตม์ขอร้องทั้งที่รู้ว่าเขาไม่มีทางได้รับโอกาสนั้น
มาร์คัสแสยะยิ้มทันทีที่นรุตม์พูดจบ เขาหันหลังเดินกลับไปสองก้าว ก่อนจะเปลี่ยนใจหันกลับมาปล่อยหมัดหนักๆ กระแทกเข้าที่ใบหน้าของอีกฝ่ายเต็มแรง นรุตม์ล้มไปกองบนพื้นทันทีเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว มาร์คัสจึงถือโอกาสนั้นใช้เท้าเหยียบลงบนอกของเขา
“นายบอกว่าน้องสาวนายไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ถ้าอย่างนั้นน้องสาวฉันไปเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องเมื่อสองปีก่อนล่ะ... เดลไปทำอะไรให้แก!” มาร์คัสตะโกนก้องพร้อมกับออกแรงกดฝ่าเท้าลงบนแผงอกของอีกฝ่ายให้หนักขึ้น นรุตม์ไม่ได้ดิ้นรนต่อสู้อะไรเพราะรู้ดีว่าเขาเป็นคนผิด
“อย่าทำอะไรน้องฉันเลยมาร์คัส ถ้าแค้นนักก็ฆ่าฉันเลยสิ ฆ่าฉันให้ตายๆ ไปซะ!” นรุตม์ท้าทายอย่างเหลืออด แต่ทว่าผู้นำแห่งเอกรัฐกลับไม่ได้คิดที่จะสนองความต้องการของเขา
สิ่งเดียวที่มาร์คัสต้องการก็คือได้เห็นนรุตม์และครอบครัวทุกข์ทรมานอย่างที่เขาเป็นมาตลอดสองปี และนรุตม์ก็จะต้องเจ็บยิ่งกว่าที่น้องสาวของเขาเคยเจ็บ สำหรับนลินเองก็เช่นกัน แม้ว่าเธอจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่บิดาและพี่ชายของตัวเองได้ก่อเอาไว้ แต่เธอก็คือสายเลือดแท้ๆ ของพวกวิชญะการุณ
ผู้นำหนุ่มจ้องมองใบหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาเคียดแค้นชิงชัง วันนี้นรุตม์กล้าเหยียบเข้ามาในถิ่นของเขาทั้งที่รู้ดีว่าคงไม่ได้กลับออกไปง่ายๆ เพราะฉะนั้นมาร์คัสเองก็ไม่คิดที่จะปฏิเสธความโง่เขลานั้น เรื่องที่จะยอมปล่อยให้คนที่ทำร้ายน้องสาวตัวเองได้เดินกลับออกไปจากที่นี่ง่ายๆ มันไม่มีทางได้เกิดขึ้นแน่นอนอยู่แล้ว
ชายหนุ่มหันไปพยักหน้าน้อยๆ เป็นเชิงเรียกให้บอดี้การ์ดสองคนที่ยืนประจำตำแหน่งอยู่ตรงบริเวณใกล้ๆ ให้เข้ามาหา หลังจากนั้นก็กระชากร่างที่นอนแผ่หลาอยู่บนพื้นให้ลุกขึ้นยืน
มาร์คัสดึงด้ามปืนที่เหน็บอยู่ตรงเอวกางเกงทางด้านหลังออกมาจ่อที่ปลายคางนรุตม์ ใจจริงเขาอยากจะกดลั่นไกเพื่อทำให้อีกฝ่ายดับดิ้นลงเสียที แต่ในเมื่อไม่อาจทำอย่างนั้นได้ ชายหนุ่มจึงใช้ด้ามปืนกระแทกเข้าที่ศีรษะนรุตม์อย่างแรงจนล้มลงไปกองกับพื้นอีกครั้ง
นรุตม์รู้สึกเจ็บปวดจนแทบคลั่ง แต่รู้ดีว่าสิ่งที่มาร์คัสทำกับเขานั้นยังนับว่าน้อยไป ถ้าเทียบกับสิ่งที่เขาเคยทำไว้กับเดซี่ในอดีต เลือดสีแดงสดหลั่งรินออกจากรอยแผลบริเวณขมับจนเรือนผมเปียกชุ่ม แต่ทว่าสายตาของผู้นำหนุ่มแห่งเมืองเอกรัฐนั้นกลับไม่ได้มีความสงสารเห็นใจเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามเขากลับรู้สึกพึงพอใจเสียมากกว่าที่ได้เห็นสภาพน่าสมเพชของศัตรู
“จัดการสั่งสอนไอ้ชั่วนี่อย่างสาสม โทษฐานที่มันกล้าเข้ามาเหยียบที่นี่โดยที่ฉันไม่อนุญาต!” มาร์คัสสั่งให้สองบอดี้การ์ดลงมือจัดการกับนรุตม์ ดวงตาสีเขียวมรกตดูวาวโรจน์อย่างน่ากลัว
“นายจะทำอะไรฉันก็ได้มาร์คัส! แต่ฉันขอร้องให้นายปล่อยน้องฉันไปซะ” นรุตม์รีบเอ่ยก่อนที่จะไม่มีโอกาสอีก
“คราวนี้แกไม่มีสิทธิ์ร้องขออะไรแล้วนรุตม์... ฉันต่างหากล่ะที่กำลังเป็นคนคุมเกมส์ที่แกเป็นคนเริ่มเล่นขึ้นเอง”
“นี่หมายความว่านายเอาตัวน้องสาวฉันไปจริงๆ ใช่ไหม!... ตอบฉันมาสิมาร์คัส!”
มาร์คัสไม่พูดอะไรอีกเพราะอยากให้ความกระวนกระวายกัดกินใจนรุตม์ต่อไป ชายหนุ่มยิ้มเหยียดและพยักหน้าให้สองบอดี้การ์ดจัดการทำหน้าที่ของตัวเอง ก่อนจะพาร่างสูงโปร่งออกจากคฤหาสน์แวนเดอคอร์ฟมาทันทีความคิดที่จะเข้าไปประชุมด่วนในกระทรวงจำต้องถูกพักเอาก่อน มาร์คัสบอกเทวาให้ขับรถมุ่งหน้าไปยังไร่อัปสรแทน และสายลับหนุ่มเองก็รู้ดีว่าผู้นำหนุ่มแห่งเอกรัฐนั้นต้องการไปที่นั่นเพื่ออะไร...
