


นิยาย


ดวงใจผลิรัก
จู่ๆก็มีชายสวมแว่นหน้าแปลก ดีกรีด๊อกเตอร์จากเมืองนอกโผล่เข้ามาอยู่ร่วมบ้านด้วย แถมยังมารู้ในตอนหลังว่าเป็นคู่หมายตัวเต็งของเธอเสียอีก เรื่องอะไรศศิธิดาจะยอมถูกคลุมถุงชนง่ายๆ ในเมื่อก็รอดมาได้ทุกทีนี่นา ครั้งนี้จะจนมุมหรือไม่มีทางเสียล่ะ แล้วถ้าหากว่าทุกคนรอบตัวเธอพากันจับชายถุงขนาดใหญ่ครอบลงบนหัวเธอพร้อมๆกันเล่า ยังจะหนีรอดได้อีกไหม . บางช่วงบางตอนจาก ‘ดวงใจผลิรัก’ . . . “เวลาคบกับใคร ผมมีธรรมเนียมอยู่อย่าง” “อะไรคะ” “เป็นแฟนกันแล้วต้องรับขวัญให้เธอคนนั้นด้วยน่ะสิครับ” ได้ยินปราชญ์บอกมาอย่างนี้ เข้าทางเธอสิ กอดอกมองเขา เงยหน้าถามยิ้ม “เป็นอะไรไม่ทราบคะคุณด๊อกเตอร์ที่ใช้รับขวัญคนที่คุณเรียกว่าแฟน แหวนเพชร สร้อยสวยๆ เงิน หรือ...” เสียงแจ๋วๆหายไปไหนแล้ว ก็คงตอนที่ถูกปราชญ์เชยคางขึ้นรับจุมพิตแสนอ่อนหวานที่ริมฝีปากอุ่นจัดทาบทับลงหานั่นเองละมัง นี่เขารับขวัญเธออยู่หรอกหรือ อ้าปากจะต่อว่า แต่แล้วก็รู้ตัวเองนั้นพลาดไปถนัดใจ ก่อนจะพริ้มตาหลับลงเพราะเคลิ้มไปกับสัมผัสที่แปลกประหลาดแต่ซาบซ่านที่สุดในชีวิตอย่างที่ไม่เคยได้รับจากใคร แล้วก็น่าตีนักที่ไม่แผลงฤทธิ์ด้วยการผลักอกเขาออก รู้สึกว่ามือของตัวเองยังไต่ขึ้นไปคล้องอยู่ตรงลำคอของเขาอีกด้วย ตอนที่ปราชญ์ผละออก เขาจ้องเข้ามาในดวงตาของเธอด้วยรอยยิ้มชนิดที่เห็นแล้วร้อนฉ่าไปทั่วตัวเลยทีเดียว


ไฟรักบัญชาการ
“กลับไปแล้ว ผมต้องเข้าไปคุยกับเจ้าสัวเรื่องของเราเสียที” พรลักษมีชะงักมือที่กำลังจัดการกับอาหารในจาน ปฏิเสธทันควัน “ไม่นะคะ” “ทำไม!” จักรพรรดิแทบตวาดถามด้วยความไม่พอใจเมื่อได้ยินว่าเธอปฏิเสธ “ฉัน... เรา...เอ่อ...เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วนี่คะ” คนฟังวางช้อนและมีดลงบนจานแทบเป็นกระแทกกระทั้น ยกผ้าซับมุมปากแล้วประสานมือย้อนถามเธอเสียงกร้าวกรุ่นด้วยอารมณ์โกรธ “เป็นแบบนี้? นี่คุณพูดอะไรออกมารู้ตัวบ้างไหม มีแต่ผู้หญิงอย่างว่าเท่านั้นที่คิดอย่างนั้นน่ะ แต่คุณกลับอยากให้เราเป็นแบบนี้?” “ฉันยังไม่อยากผูกมัดตัวเอง คุณเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน จะเดือดร้อนทำไมคะ” ใช่เขาเดือดร้อน เดือดจนร้อนจนไหม้เพราะเธอไม่แคร์ที่จะมีหรือไม่มีเขาก็ได้ เธอถึงได้คิดเช่นนั้น จักรพรรดิไม่ชอบความรู้สึกอึดอัดเช่นนี้ ไม่เคยต้องมาตามต้อนผู้หญิง ไม่เคยอยากลงหลักปักฐานกับใคร และเขากำลังจะบ้าตายเพราะเธอ “ตามใจ อยากเป็นแบบนี้ก็ตามใจ คบแบบเปลืองเนื้อเปลืองตัวแบบนี้สินะที่ชอบ พอเบื่อก็หาเรื่องเลิกกัน … แบบนั้นใช่ไหม” เขาตวาดถามสรุปประชดประชันใส่อารมณ์กับเธอ “ดีไม่ต้องแต่งมันแล้ว อยู่กันแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนแก่จนตายจากกันไปเลยก็ดี!” เขาสรุปส่งท้ายด้วยคำพูดกระแทกแดกดันแบบที่เธอไม่เคยเห็น “ฉันไม่อยากคุยแล้ว คุณใช้แต่อารมณ์ไม่มีเหตุผลเลย” “ใช่! ผมใช้แต่อารมณ์ แบบนี้ก็เหมือนกัน” จักรพรรดิจบประโยคตรงเข้ามาดึงเธอลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารสวมกอดรัดแน่นปล้นจูบเอาแต่ใจ “ปล่อยฉันนะ นี่คุณจะข่มขืนฉันเหรอ” “อยากลองรสชาตินั้นหน่อยไหมล่ะ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีสาวไหนได้รับเกียรตินั้นจากผมเลยสักคน”


จอมขวัญเมียบรรณาการ
จอมขวัญถูกหลอกให้มาทำงานกับภูเบศวร์ หารู้ไม่ว่าเขาต้องการย่ำยีร่างกายและหัวใจของเธอ เพราะอยากแก้แค้นศัตรูคู่อาฆาตของเขาเพียงเท่านั้น


ไร่พสุธาล้อมรัก
อภิยาถูกส่งมาที่ไร่เทียมพสุธา โดยคุณลุงอรรถพลที่เธอเคารพรัก เธอไปที่นั่นเพื่อชดใช้หนี้ของพ่อและแม่ที่ยืมคุณลุงอรรถพลมา ก่อนที่พวกท่านจะลาลับโลกนี้ไป พสุธา เจ้าของไร่เทียมพสุธา บุตรชายคนกลางของอรรถพล เขาอยู่ภายใต้คำสั่งของพ่อมาทั้งชีวิต แต่แล้วก็คิดฝ่าฝืนคำสั่งของพ่อ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อนแม้แต่ครั้งเดียว เมื่อรู้สึกดี ๆ กับสาวน้อยหน้าใสที่มาที่ไร่ของเขาเพื่อชดใช้หนี้ เธอเข้ามาจัดแจงเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาใหม่ จนหัวใจที่เคยแห้งผากค่อย ๆ ชุ่มฉ่ำด้วยความรักที่แสนบริสุทธิ์จากเธอ แล้วทั้งสองคนจะทำอย่างไร เมื่อความรักของพวกเขาแขวนอยู่บนเส้นด้ายแห่งความแค้นที่อัดแน่นของคุณลุงอรรถพล


ดวงใจธรณ์
ธรณ์ อัศวหาญญ์วรกุล เจ้าของแฮชแท็ก #Iamalreadytorn เคยช้ำรักครั้งใหญ่จากไอลดา เขาถูกบอกเลิกในวันที่เตรียมการจะขอเธอแต่งงาน ไม่นานจากนั้นไอลดาเลือกหัสดินทร์ ชายมีสกุลรุนชาติแสนอบอุ่น ผู้ใหญ่ สายเปย์ และใจดี เป็นคู่ครองของเธอ ธรณ์อาจยิ้มแย้ม พูดคุยอย่างคนไม่คิดอะไรมาก แต่หัวใจของเขาช้ำรัก ย่อยยับแทบไม่มีดี และเขาไม่เคยเปิดรับใครใหม่ คล้ายกับจะรอหญิงสาวที่ตีจากเขาไปอยู่ทุกคืนวัน สี่ปีที่เขาเฝ้ารอ ในที่สุดไอลดาก็เริ่มมีปัญหาระหองระแหงกับสามี ความหวังของธรณ์จึงเรืองรองขึ้น แต่แล้วเขาก็ถูกสกัดหนทางเป่าถ่านไฟเก่าจากพรรณวษา หญิงสาวที่เป็นเพื่อนรักของไอลดา เธอไม่เคยชอบหน้าธรณ์ ธรณ์เองก็รู้สึกไม่ต่างจากพรรณวษาเท่าไรนัก ไม่ว่าจะเป็นเมื่อก่อนหรือแม้แต่ตอนนี้ และเมื่อมีเหตุให้ต้องใกล้ชิดกันอีก ได้ปะทะฝีปาก คารม พบหน้ากันบ่อยขึ้น ต่างฝ่ายก็ทำเอาหัวใจของกันและกันสั่นไหวขึ้นมาจนได้ และในวันที่หัวใจของธรณ์เริ่มไม่มั่นคงต่อไอลดา ไอลดาก็แยกทางกับสามีในที่สุด ไอลดาพร้อมจะกลับมาหาเขาแล้ว และสัญญาจะเป็นดวงใจของเขาไปตลอดชีวิต จะไม่ทำให้เขาต้องเจ็บอีกต่อไป แต่แล้วดวงใจของธรณ์เล่า พร้อมจะยกกลับคืนให้ไอลดาได้อีกไหม หรือมีเงาของใครเข้ามาจับจองอยู่ข้างในนั้นแล้ว บางช่วงบางตอนจากเนื้อหา “นี่คุณรู้อะไรไหม ว่าผมมองเห็นตัวเองในอนาคตแล้วนะ ว่าต้องคอยเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้านแน่ ๆ เลย แล้ว...” ธรณ์หยุดแค่นั้นไม่พูดต่อ ปล่อยให้ความเงียบทำหน้าที่ของมันไป จากที่ฟังอย่างเดียว พอเขาหยุดพูด ก็เงยหน้ามอง ถามเพราะถึงเธอจะเงียบ แต่เธอก็ฟังเขาพูดอยู่ “แล้วอะไร” ธรณ์ยิ้ม “แล้วแม่ของลูกผมคงออกไปทำงานทั้งวันทุกวันเลยน่ะสิ” พยักหน้าเบา ๆ “ก็คงแบบนั้นถ้าคุณเลือกผู้หญิงบ้างาน” “คุณเป็นแบบนั้นไหมพรรณวษา” เงยหน้าขึ้นมองเขา ถามอย่างงุนงง “อะไร” “บ้างานไง คุณเป็นพวกบ้างานหรือเปล่า” พอได้คำตอบ พรรณวษาสะดุดลมหายใจของตัวเองช่วงหนึ่ง ก้มหน้าที่ออกร้อนลงมองเจ้าลูกแมว เสียงแข็งใส่เขา “เที่ยวจีบสาวเรี่ยราดแบบนี้ไปทั่วเลยหรือไง” “จีบคนนะคุณ ไม่ได้ปัสสาวะ ถึงจะได้เรี่ยราดได้น่ะ” แล้วเม้มปากเบา ๆ ไม่คุยอะไรกับเขาอีก ป้อนนมเจ้าสามตัวเรียบร้อย ค่อยทยอยเก็บของใช้ที่เหลือต่อจากนั้น ส่วนธรณ์เห็นเดินออกไปด้านหลังบ้าน ได้ยินเสียงเปิดน้ำ รดต้นไม้รอบ ๆ นานเป็นพักใหญ่ ๆ ถึงได้เห็นธรณ์กลับเข้าบ้านมา บอกกับเจ้าลูกแมวทั้งสาม “อยู่กับแม่นะครับ พ่อต้องทำงานก่อน เดี๋ยวมาใหม่” “บ้าแล้ว ใครแม่ใครพ่อ” “คิดอะไรกับผมหรือเปล่า ผมยังไม่ได้พูดชื่อเลย ทึกทักเก่ง”


นพรัตน์ Jg== ณัชชา
“ในเมื่อเราย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ก็อยากจะขอร้องเธอสักสองเรื่อง...จะได้ไหม” คราวนี้เป็นนพรัตน์ที่ใจคอไม่ดีขึ้นมาบ้าง มองแผ่นหลังของเธอ หยั่งเชิงอึดใจเดียว ถามกลับสั้นๆ “อะไร” “คือ...” เอ่ยขึ้นมาคำหนึ่งอย่างลังเล ก่อนจะหันมองข้ามไหล่สบตากับเขาตรงๆ พูดด้วยน้ำเสียงให้ฟังดูกังวลใจอยู่พอประมาณ “คือตอนนี้เรากำลังคบอยู่กับติน เธอจำตินได้ใช่ไหม เอ่อ ธารินทร์ที่เรียนห้องเดียวกันกับพวกเราน่ะ...และเรากับตินก็มีแพลนจะแต่งงานกันปลายปี” จากใบหน้าที่ดูเฉยเมยของชายหนุ่มค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นขมึงบึ้งตึงในทันที ใบหน้าหล่อเหลาบัดเดี๋ยวแดงบัดเดี๋ยวเขียว แววตาที่จ้องตอบดูคุกคามเอาเรื่อง แล้วก็นิ่งอยู่เป็นนาน พูดอะไรไม่ออกราวกับถูกน็อคด้วยหมัดนุ่ม ๆ ที่ซ่อนก้อนเหล็ก ก้อนเล็กๆ แต่ใส่อัดกันจนแน่นที่ปลายนวมนั่น เห็นท่าทีเขาแล้ว ยิ้มบางๆส่งให้ เอ่ยต่ออีกหน่อย “อยากขอร้องแค่ว่าอย่าพูดเรื่องเมื่อคืนนี้ออกไปจะได้ไหม ขอให้มันจบลงที่นี่” หยุดหน่อยหนึ่ง ประเมินท่าทีของเขาเห็นแววตาเหมือนกับมีกองไฟเต้นเร่าๆในนั้น ก็หลุบตาลง ยิ้มน้อยๆ บอกต่ออีกข้อ “และระหว่างเรา มันจะต้องไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก” ย้ำด้วยเสียงหนัก ๆ ในตอนท้าย “ได้ใช่ไหมนพรัตน์” ในอกในใจเขาเดือดพล่านคล้ายมีคนจุดไฟตั้งเตาอยู่ข้างในนั้น นพรัตน์ยืดตัวตรง สูดลมหายใจเข้าอย่างต้องการระงับอารมณ์ที่เดือดปุดๆ หลังจบคำขอร้องของเธอ มีแพลนจะแต่งงานกับธารินทร์อย่างนั้นหรือ อย่าพูดเรื่องระหว่างเขากับเธอเมื่อคืนนี้อีกอย่างนั้นหรือ และ เรื่องแบบเมื่อคืนนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นอีก...อย่างนั้นหรือ นพรัตน์บิดริมฝีปากลง แล้วว่าเสียงหยัน “ไอ้แว่นมันคงดีใจน่าดู ที่เมียมัน มีประสบการณ์เข้าหอมาแล้ว”


เศษเสี้ยวของห้วงหัวใจ
หากไม่ใช่ว่ารักมาก ยึดมั่นกับรักแรกและคำสัญญาจอมปลอมจากปากของรุจิภาส ดรัลรัตน์คงไม่เจ็บช้ำใจหนักถึงขนาดนี้ ดรัลรัตน์กลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ใจเด็ด หิวเงินในสายตาของใครต่อใคร ห้าปีแล้วที่เธอมีแก้วตาดวงใจอย่างเด็กชายสิปปภาสในชีวิต หญิงสาวยอมลาออกจากงาน เพื่อเลี้ยงดูเด็กชายสิปปภาสให้เติบโตเป็นเด็กดี มาวันนี้รุจิภาสขอกลับมาแก้ไขความผิดพลาดเหล่านั้น พร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อจะได้กลับเข้ามาในชีวิตของเธออีก ดรัลรัตน์จะยอมให้เขากลับมาแก้ตัวไหม หรือจะปล่อยให้เขาเป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งในห้วงหัวใจของเธอเท่านั้นก็พอ บางช่วงบางตอนจากเนื้อหา “ห้ามออกไปไหน ตอนที่ผมยังหลับอยู่” เสียงพึมพำที่เหนือศีรษะทำเอาหัวใจของเธอเต้นแรงมากขึ้น แล้วมันเรื่องอะไรที่เธอจะต้องไปฟังเขาด้วย นอนนิ่งให้ไออุ่นจากกายของเขาห่มคลุมอยู่แบบนั้น ปิดตาไว้จนผ่านไปเป็นนาน เห็นว่าเขานิ่ง ไม่ขยับตัว และลมหายใจก็แผ่ว ๆ ราบเรียบเป็นจังหวะเสมอมากขึ้นก็ค่อยผละออกทีละนิด ออกมาทีละนิด จนแขนของเขาหลุดออกจากตัวของเธอในที่สุด ก็ค่อยพลิกตัวไปอีกด้าน มองฝ่าความมืดหาเสื้อผ้าของตัวเอง “บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าคิดไปไหนตอนที่ผมหลับ” เสียงของเขาไม่ได้ดังเลยสักนิด แต่ทำเอาขนกายของเธอลุกชันไปทั้งตัว “คุณไม่มีสิทธิ์” “ต้องให้ผมใช้สิทธิ์ของผัวอีกไหม” ดรัลรัตน์ไม่เถียง เธอเห็นเสื้อผ้าตัวเองแล้ว ก็พุ่งตัวไปหยิบมันแต่ก็ยังช้ากว่าเขา “ไปสิ อยากไปก็ออกไปแบบนั้นเลย” “ได้” ดรัลรัตน์ไม่สน เธอหันหลังทันที แล้วเดินเปลือยไปยังประตูห้อง แต่แล้วความหึงหวงที่ไม่รู้ผุดออกมาจากส่วนไหนของหัวใจ ก็กระตุ้นให้เขาตรงรี่เข้าไปคว้าแขนของเธอเอาไว้เสียก่อน “อย่าบ้าให้มากนักได้ไหม” ดรัลรัตน์เมินหน้า มือก็พยายามยื้อออกจากมือของเขา แต่ไม่หลุด “กลับไปที่เตียง” “ฉันจะกลับห้อง” “จะกลับไปนอนพักผ่อนที่เตียงดี ๆ ไหม หรือจะทำอีก” สิ้นเสียงถามของเขา เลือดหมดทั้งตัวของเธอก็พากันไหลมากองรวมกันที่ใบหน้า ดรัลรัตน์กัดปากแน่น ไม่มองหน้าเขา แล้วเดินกลับไปยังที่นอนอย่างเดิม “นอนลง ถ้ายังต้องให้พูดให้กล่อมกันอีก ผมจะทำต่อจนถึงเย็นวันมะรืนเลย”


ภรรยานิรันดร์
พ่อม่ายสายซึน นิรันดร์ อัศวหาญญ์วรกุล ชายผู้กำพร้าภรรยามากว่าสิบสามปี กำลังประสบปัญหาหนัก เมื่อปลายฝน บุตรสาววัยหัวเลี้ยวหัวต่อ คบเพื่อนต่างเพศ นอกจากจะเขม่นหน้าเพื่อนชายของลูกแล้ว แม่ของเด็กนั่นยังทำนิรันดร์ คันยุบยับในหัวใจอีกด้วย ##### “เราไม่ควรทำแบบนี้กันอีกนะคุณนิรันดร์ แล้วก็ควรถอยออกไปยืนให้ห่างจากฉัน” บอกจบเธอแกะมือของเขาออก แต่นิรันดร์ก็ไม่ยินยอม เขารัดแขนแน่นมากกว่าเดิม แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “คุณอยากต่อว่าผมแบบไหนก็ได้ทั้งนั้นนะ แต่อย่ามาห้ามผม อย่ามาสั่งผมให้อยู่ห่าง ๆ จากคุณ” ในเมื่อสู้แรงเขาไม่ได้ เลยยิ่งหน้าบึ้งตึง ถามเขากลับ “นี่คุณยังไม่สร่างเมาอีกหรือยังไง” “ผมรู้ตัวรู้สติดีทุกขั้นทุกตอนที่เราทำร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นนาทีนั้น หรือแม้แต่ตอนนี้ เบียร์แค่นั้นไม่ทำให้ผมเมาได้หรอกนะ ผมไม่ได้เมา” ได้ยินเขายืนยันเสียงแข็งแบบนั้นแล้วก็ออกร้อนผ่าวที่ใบหน้าไม่น้อย สูดลมหายใจเข้าแรง ๆ ตอกกลับ “แต่ฉันเมา และฉันก็รังเกียจตัวเองมากที่ทำเรื่องไม่ดีไม่งามแบบนั้นลงไป คุณคงคิดว่าฉันนอนกับใครต่อใครแบบนี้เสมอใช่ไหม...” มองแววตาเหมือนเด็กน้อยสำนึกผิดแบบนั้นแล้วก็ส่ายหน้าเบาๆ “ความคิดแบบนั้นไม่ได้อยู่ในหัวผมเลย” นิรันดร์กระชับอ้อมแขนของเขาเพื่อจะกอดรัดเธอให้แนบแน่นกว่าเดิม แต่เธอต้องใจแข็ง จะปล่อยให้เขาทำแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว มันมากเกินพอ รังแต่จะทำให้เธอรังเกียจตัวเองมากขึ้นทุกที ๆ “มันไม่ควรเกิดเรื่องแบบนี้ และคุณรู้ไหมว่าฉันเคยนึกรังเกียจทุกครั้ง ที่ได้ยินเรื่องนอกรีต ผิดประเวณีแบบนี้ ฉันไม่ใช่คนที่พูดอย่างทำอย่าง มือถือสากปากถือศีล และ... ฉันไม่รู้ว่าปล่อยให้มันเลยเถิดแบบนั้นไปได้ยังไง และ...” ขิมแขไม่เคยเป็นแบบนี้ เธอรู้ตัวดีว่ากำลังพูดจาวกวนไปมา แล้วก็ไม่สามารถพาบทสนทนาระหว่างกัน เข้าเนื้อหาหลักได้สักที ถอนใจ รวบรวมสติบอกเขา “และ...” เธอต้องพูดมันออกไปด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะนัก ยิ่งสบกับดวงตาดำทรงอำนาจของนิรันดร์ก็ยิ่งใจหายหนักเข้าไปใหญ่ ทำไมเธอต้องรู้สึกโหยหาเขาขนาดนี้ด้วยนะ ขิมแขเม้มปากแน่น ขืนสบตากับเขา บอกออกไปด้วยเสียงที่พยายามไม่ให้สั่นมากจนเกินไปนัก “...ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ด้วย” พูดจบ เธอเห็นสายตาของเขาที่มองตอบมา มันเหมือนกับว่าเธอเป็นผู้หญิงรักสนุกที่คิดฟันเขาแล้วก็ทิ้งไปอย่างไรอย่างนั้น แต่แล้วเธอไม่ควรต้องสนใจสายตาของเขา คนถูกฟันแล้วทิ้งยืนบดกรามนิ่ง มองเธอด้วยแววตาที่ขิมแขไม่อยากเห็นอีก เขาเค้นเสียงถามออกมา “ถ้าผมไม่ลืม” “นั่นมันก็เป็นปัญหาของคุณแล้วล่ะค่ะ” “ทำไมคุณพูดปัดความรับผิดชอบแบบนี้” “แล้วจะให้ฉันทำยังไง ไปขอหย่าจากสามีแล้วมารับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างนั้นน่ะหรือ” ขิมแขเองก็โกรธจนตัวสั่นปากสั่นเช่นกัน ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับเธอมาก่อน ระรัวออกไปแล้วก็ให้ตกใจในสิ่งที่ตัวเองพูดอยู่ไม่น้อย “ถ้าทำอย่างปากว่าไม่ได้ ก็อย่าพูดมันออกมา”


เจ้าสาวของนักรบ
บุณย์นราถูกฉุดออกมาจากห้องหอในคืนแต่งงาน ซ้ำยังถูกข่มเหงจากชายโฉดจนย่อยยับ หากแค่นั้นเรียกว่าโชคร้ายแล้ว การต้องมาเจอชายคนนั้นอีกครั้ง ในสถานะของประธานบริษัท ที่เธอเพิ่งได้งาน ไม่โชคร้ายยิ่งกว่าหรือ เพราะทันทีที่เห็นหน้าเธอ เขาก็มีคำสั่ง ให้ไล่เธอออก แต่กลับยื่นขอเสนออันสุดแสนร้ายกาจเป็นทางเลือก ราวกับรู้ว่าบุณย์นรากำลังอับจนซึ่งหนทางอยู่ ###### “ตำแหน่งที่เธอทำอยู่ ที่นี่ไม่ได้เปิดรับ” บุณย์นราตากระตุกถี่ยิบขึ้นเหมือนกัน มันมีด้วยหรือ ไม่เปิดรับ แล้วประกาศออกไปแต่แรกทำไมว่ารับคน “ไม่รับพนักงานตำแหน่งที่ว่า แล้วที่นี่รับตำแหน่งอะไร” จบคำถามของเธอปุ๊บ เสียงตอบห้วนสั้นก็ดังขึ้น “แม่บ้าน” ขุนพลเลิกคิ้วมองนายนิด ๆ ส่วนบุณย์นราก็นิ่งไป อันที่จริงไม่ได้รังเกียจงาน แต่ก็ติดเรื่องวุฒิ เรื่องเงินเดือน เธอมาสมัครงานเพราะอยากได้เงิน แล้วไอ้ที่เรียนมาสี่ปีจะมีประโยชน์อะไร ถ้าเรียนมาแทบตาย แล้วให้ไปเป็นแม่บ้าน อีกอย่างแม่บ้านก็ไม่มีโอกาสก้าวหน้าเอาเสียเลย คิดได้อย่างนั้นก็จ้องตาเขานิ่ง ทำอย่างไรดี ตอนนี้เธอจนตรอกแล้ว มีแต่ต้องเดินไปข้างหน้าเท่านั้น แล้วเลยกลั้นใจถามออกไป เสียงอ่อยลงเล็กน้อย “แม่บ้าน เงินเดือนเท่าไร” “ห้าหมื่น” เงินเดือนขนาดนั้น ทำบุณย์นรางันไปราวกับถูกแช่แข็ง นักรบเห็นอาการของคนตรงหน้า ก็ออกแปลกใจอยู่ไม่น้อย ไหนขุนพลบอกเพดานเงินพวกเด็กจบใหม่ไว้ที่หมื่นห้าไงวะ นี่เขาให้ตั้งห้าหมื่น ทำไมยายนี่ได้ยินยังทำเฉยอยู่ เลยกระแอมทีหนึ่ง เสริมเสียงแข็ง ๆ ต่ออีกว่า “อาหารที่พักมี ฟรีไวไฟ แต่ต้องอยู่ประจำที่บ้านตลอด ไม่รับแบบไปเช้าเย็นกลับ” บุณย์นราตัดสินใจได้ตั้งแต่ได้ยินตัวเลขครึ่งแสนนั่นแล้ว อารมณ์เดือดดาลของเธอก็สงบลงเกินครึ่งแล้วด้วย เลยถามเสียงอ่อนกลับไปถึงขอบเขตงาน “แม่บ้านที่ว่านี่ ต้องทำอะไรบ้าง” “ทำอาหารกับงานสวนแค่นั้นมั้ง ห้าหมื่นน่ะ” นักรบถามกลับหน้าตาย บุณย์นรามองอย่างคืบแคลงแล้วถามกลับเหมือนกัน “นั่นสิ แม่บ้านอะไร ทำไมเงินเดือนตั้งห้าหมื่น” “แม่บ้านที่รับก็คือต้องทำงานในบ้านทั้งหมด รวมถึงงาน...บนเตียง” นักรบเน้นคำหลังเป็นการเฉพาะ แววตาของเขาก็วาววับขึ้นเล็กน้อยอีกด้วยบุณย์นราเกือบตอบตกลงอยู่แล้ว หากไม่สะดุดกับคำหลังสุดที่หลุดจากปากเขาเข้าเสียก่อน *** ช่วงต้นเรื่องอาจมีเนื้อหาที่ส่อไปในทางรุนแรง ลองอ่านตัวอย่างดูก่อนนะคะ เผื่อชอบ แนวเรื่องโรมานซ์ ไม่ดราม่ามาก ***


หัวใจกรุ่นไอรัก
อันนากำลังจะเดินตามรอยของแม่อย่างนั้นหรือ ไม่ใช่ซะหน่อย ก็แม่ของเธอหนีจากพ่อไป แล้วค่อยตั้งท้องไม่ใช่หรือ แต่ตัวเธอน่ะ ท้องแล้วค่อยหนีต่างหาก ท้องกับใครไม่ท้อง ดันท้องกับคนที่เห็นกันมาตั้งแต่เด็กอย่างนายแพทย์อาร์เธอร์นี่ยังไงเล่า


ใยรักจอมวายร้าย
ความเข้าใจผิดก่อเกิดเลือดเนื้อเชื้อไขของจอมวายร้ายอย่างปุญญ์ มีหรือที่คนอย่างนั้นจะไม่ทวงคืนไม่ใช่แค่ลูก แต่แม่ของลูกเขาก็จะเอา!


ซาตานจอมบงการรัก
เด็กในอุปการะของปู่ช่างน่าหมั่นไส้นัก เขาจึงต้องหาทางกลั่นแกล้งทุกวิถีทาง และพอปู่เกิดจับคู่ผิด ระหว่างเด็กนั่นกับน้องชาย เบลคจึงถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับเลยเดียว เพราะพี่ชายกับน้องชายจะมีเมียคนเดียวกันได้อย่างไร!


เมียบำเรอฟรีแลนซ์
ปานทิพย์ถูกส่งให้ไปทำเรื่องบางอย่างกับณัฏฐ์ในคืนงานเลี้ยงรุ่น แต่แล้วเขากลับรู้ตัวและตลบหลังเธอด้วยการจับมาเป็นเมียบำเรอแบบลับ ๆ “ปานต้องคอยทำให้ดินสิ ไม่ใช่ให้ดินหากินเองแบบนี้” เสียงเขาตอบคลอเคลียข้างหู เรียกขนอ่อนให้ลุกชันไปทั่วทั้งร่างกาย เบี่ยงตัวหนี แต่ก็ไปไหนไม่พ้น เมื่อแขนกำยำกักเธอเอาไว้ทั้งสองข้างกับขอบผนังตรงนั้น เธอเบี่ยงหน้าหลบลมหายใจร้อน ๆ หลบปาก หลบจมูกของเขาที่อวลไปด้วยกลิ่นเหล้า ที่รู้สึกเหม็นคลุ้งจนอยากอาเจียน “อย่านะดิน” “อย่าอะไรล่ะ” ณัฏฐ์ถามเสียงแตกพร่า อย่างที่คนฟังรู้ว่าเขาคิดจะทำอะไร “ดินบอกแล้วไง ว่าปานต้องพร้อมให้ดินทุกที่ทุกเวลาอย่างที่ดินต้องการ” “แต่ไม่ใช่ตรงนี้” “อย่างนั้นจะเรียกว่าทุกที่ทุกเวลาได้ยังไงล่ะ” คนพูดย่ามใจ ล้วงมือเข้าเสื้อของเธอ คลึงเนื้อนุ่มอย่างมันเขี้ยว “เห็นปานเป็นอะไรเนี่ย” “อ้าว นี่ยังไม่รู้อีกหรือปานทิพย์ว่าเป็นอะไร” ณัฏฐ์ถามกลั้วหัวเราะ แต่เธอไม่นึกขำไปด้วย เค้นเสียงที่บ่งบอกถึงความรู้สึกได้อย่างชัดแจ้ง “ปานอยากเกลียดดินแค่ไหนรู้ไหม” “ก็เกลียดสิ ดินไม่ได้ห้ามนี่” ปานทิพย์ชะงัก มองหน้าชายตรงหน้านิ่ง ต่อว่าเขาด้วยความน้อยอกน้อยใจ “ดินไม่ใช่ลูกผู้ชายเลยที่ทำกับปานแบบนี้” “ปานน่าจะรู้ว่าดินเป็นผู้ชายแค่ไหน ที่ทำให้ปานร้องขอครั้งแล้วครั้งเล่าได้ขนาดนั้นน่ะ”


เมียบำเรอที่ (ไม่) รัก
อรนลินกับจุติมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันก็เพราะความต้องการอยากเอาชนะคะคานในค่ำคืนหนึ่ง แต่แล้วผลของการกระทำในคืนนั้น ก็ทำให้ผู้ใหญ่จับทั้งคู่แต่งงานด้วยเงื่อนไขพิเศษอีกหนึ่งข้อคือเธอต้องมีลูกชายให้เขา แลกกับเงินก้อนใหญ่ “มีอารมณ์ร่วมหน่อยสิ นอนตายด้านแบบนี้จะติดลูกชายได้ยังไง” เขาว่าพร้อมแตะริมฝีปากลงมาแถวๆแอ่งชีพจร อรนลินกัดริมฝีปากแน่น ก่อนจะเค้นเสียงบอกเขา “ฉันไม่มีทางมีอารมณ์ร่วมกับคุณ” “ทำไม ผมมันเป็นยังไงถึงจะมีอารมณ์ร่วมไม่ได้” “คนไม่ได้รักกันนี่” อรนลินว่า แต่เขาแย้งขึ้นก่อนเธอจะพูดจบ “ให้มาผลิตลูกชายนะคุณ ไม่ได้ให้มารักกัน เข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า” จุติประชดประชันใส่ แล้วก้มลงปิดปากของเธอเสีย หงุดหงิดกับคำพูดที่ได้ยินเมื่อครู่นี้ชะมัดยาดเลย ไม่ได้รักกันอย่างนั้นหรือ ฮึ่ม!


มายาพิม
‘อรพิมพ์’ ที่ต้องประสบภาวะซึมเศร้าและพร้อมจะฆ่าตัวตายอยู่ตลอดเวลาเหตุเพราะสามีตีตัวออกห่างไปหาเด็กสาวคนหนึ่งที่ชื่อ 'พิมนารา' ภีม เป็นพี่ชายของ อรพิมพ์ เขาคือคุณหมอหนุ่มนักธุรกิจที่รักน้องมากเกินกว่าจะปล่อยให้ชายโฉดหญิงชั่วคู่นั้นลอยนวลเสวยสุขบนความโศกเศร้าของอรพิมพ์ได้จึงคิดหาทางจัดการกับคนคู่นี้ ภีมดึงพิมนาราเข้ามาอยู่ในวงโคจรของเขาหลอกล่อและล่วงเกินร่างกายและจิตใจของพิมนารา ทั้งๆที่ภีมเองก็มี ‘พิมพา’อยู่ข้างกายของเขา แต่เมื่อความจริงปรากฏ กลับทำให้ภีมถึงกับหัวใจสลายร้าวรานจนไม่เป็นผู้เป็นคน เพราะเข้าใจพิมนาราผิดไป แม้คิดกลับไปแก้ไขก็ดูเหมือนจะสายเกินไปเสียแล้ว เพราะพิมนาราหายไปอย่างลึกลับพร้อมกับร่างกายและหัวใจอันแสนบอบช้ำจากการกระทำของเขาเอง ที่สำคัญกว่านั้นคือเธอเอาลูกของเขาติดท้องไปด้วย!


ร้ายแฝงรัก
ความสัมพันธ์ทางกายเพียงคืนเดียวก่อให้เกิดความรัก ความผูกพัน ความลุ่มหลง อยากครอบครองตามมาหลังจากนั้นได้ไหม คำตอบของแพรไหมอาจไม่ แต่คำตอบของวิษุวัตนั้นตรงข้ามกับเธอโดยสิ้นเชิง ########## แพรไหมที่เผลอไปมีความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนกับวิษุวัต เรื่องจะไม่ยุ่งยากเลย หากเขาจะไม่ใช่ผู้ชายที่พี่สาว(ลูกของป้าสะใภ้)หมายปองเอาไว้ เธอไม่กล้าสู้หน้าเขา แน่ละว่าเพราะความอาย แต่เมื่อได้พบกับวิษุวัตอีกครั้ง เขาก็ยังย้ำเรื่องราวที่เกิดในคืนนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก จนเธอต้องหนีไปให้ห่างจากเขา หารู้ไม่ว่ายิ่งหนีก็ยิ่งปลุกความเป็นนักล่าของวิษุวัตมากเท่านั้น


ซ่อนดวงใจ ใต้รอยรัก
เพราะเหตุใดธรรศและมัฌชิมาจึงหันหลังจากกัน ซ้ำร้ายความสัมพันธ์คืนเดียวยังสร้างดวงใจน้อยๆน่าหลงใหล แต่ถูกซ่อนเร้นภายใต้รอยรักของคนทั้งคู่อีกด้วย “ยัยหนูเป็นลูกของใครกันแน่” มัชฌิมาคงไม่รู้ตัวว่าตนเองหายใจลึกและยาวราวกับต้องการสงบสติอารมณ์ก่อนตอบเขาแบบกำปั้นทุบดิน “จะลูกใครก็ลูกอุ่นสิคะ” “พี่หมายถึงว่าใครคือพ่อของยัยหนู” “...พี่ธรรศลืมไปหรือเปล่าคะว่าอุ่นแต่งงานกับพี่นิล และเราก็มียัยหนู” “อย่างนั้นหรอกเหรอ...อยากรู้ไหมว่าพี่ได้หลักฐานอะไรของพอใจมา” เขาถามด้วยท่าทีคล้ายเป็นต่อ คนเป็นแม่กางปีกป้องทันที นึกกังวลตามหากเป็นอย่างที่เขาพูด เรื่องจะยุ่งไปกันใหญ่ “อย่ายุ่งกับอุ่นและลูกนะคะ” “นี่คือการขอร้อง?” “อุ่น...เปล่า” “งั้นพี่จะได้ให้ใครสักคนช่วยขุดเรื่องนี้เอาให้ชัดๆกันไปเลย ว่าจ้างนักสืบเก่งๆมันคงไม่กี่ตังค์หรอกมัง อุ่นคิดว่าไง” “ไม่นะคะพี่ธรรศ อุ่นขอ...” ธรรศยิ้มกว้างกว่าเก่า วางแก้วเหล้าในมือลงก่อนเดินมาตรงมาหาเธอ จนยืนประจันหน้ากันแล้วค่อยโน้มหน้ามาเสียใกล้ บอกเสียงเบาแต่หนักแน่นเน้นความหมาย“พี่เคยบอกแล้วนี่ ว่าถ้าขอร้องพี่ ต้องแลกกับอะไร” เธอผงะส่ายหน้าน้อยๆ “อุ่นไม่มีทางทำแบบนั้นเด็ดขาด ถ้าทับทิมรู้เข้า…” เขาตามมากระซิบคำพูดใส่หน้าเธอ “อุ่นไม่พูด พี่ไม่พูด ใครจะรู้” ก่อนจะรัดแขนรอบลำตัวอ้อนแอ้น มัชฌิมายกมือขึ้นดันอกแกร่งๆนั่นโดยอัตโนมัติ ต่อว่าเขาปากคอสั่น “ทำไมพี่ธรรศเห็นแก่ตัวแบบนี้คะ” “พี่เรียนรู้มาจากอุ่นไง” ธรรศกระซิบวาจาร้ายกาจเหนือริมฝีปากของเธอ ก่อนจะบดเบียดคลึงเคล้าลงมาอย่างหนักหน่วง


‘ You make my heart skip a beat. Plyfon I Phupha ’
ถูกคน ถูกที่ ถูกเวลา คงเป็นคำที่เหมาะสมที่สุด สำหรับนายแพทย์ภูผาและปลายฝน อัศวหาญญ์วรกุลในช่วงเวลานี้ เมื่อทุกอย่างเหมาะสม ถูกต้องและลงตัวที่จะเริ่มต้นความรักอีกครั้ง ก็มีแต่เดินหน้าอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ถอยหลังกลับอีกต่อไป! บางช่วงบางตอนจากเนื้อเรื่อง “เมื่อไรจะถึงเนี่ย” “รีบหรือ” เสียงถามดังมาจากเขา พอเธอส่งเสียงตอบว่าไปว่า ‘รีบ’ ภูผาก็เร่งฝีเท้าให้ไวขึ้น จนหน้าอกของเธอบดเบียดไปกับแผ่นหลังของเขา ปลายฝนฟาดมือใส่ทันที “หื่นไม่เลือกเพศอีกนะ” “เดี๋ยวถ้ายังเอาแต่ว่าไม่หยุด จะปล้ำตรงนี้จริง ๆ เสียเลย” “ขู่เก่ง แน่จริงก็ปล้ำสิ” ภูผาหยุดเดิน แล้วแหงะมองมาด้านหลัง ปลายฝนซุกหน้าลงกับแผ่นหลังของเขา ตีมือพร้อมใบหน้าแดงซ่าน “ไปได้แล้ว ฝนจะตก”


รักเพียงใจ
“เพียงต้องมางานแต่งของน้ำตาลกับคุณวิชญ์ให้ได้นะ” เพียงใจยิ้มรับเซียวๆก่อนวางสายลง งานแต่งเพื่อนสนิทของเธอกับผู้ชายคนนั้นอีกตั้งหลายเดือน แล้วเธอจะกล้าหอบลูกในท้องที่เริ่มโตขึ้นเรื่อยๆไปงานแต่งของคนเป็นพ่ออย่างเขาได้อย่างไร … *** มีเนื้อหาบางช่วงไม่เหมาะสำหรับบุคคลอายุต่ำกว่า 18 ปี ***


หัวใจป่วนไอรัก
หากนายแพทย์ภวินท์รู้ว่าเธอซุกลูกแฝดของเขาเอาไว้อย่างมิดชิด เขาจะต้องมาพรากลูกไปจากเธอแน่ กระบวนการซ่อนลูกจากพ่อ รอกำหนดการหย่าจึงเกิดขึ้น ##### ฐิตตาใจคอไม่ดี ตั้งแต่ออกจากบ้าน ยิ่งพอรถเลี้ยวกลับเข้ามา ก็ยิ่งใจหายหนักเข้าไปใหญ่ เธอเห็นภวินท์กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวเดิม เหมือนคราวแรกที่เขามา แต่ที่ไม่เหมือนคราวแรกเสียทีเดียว คือเขากำลังนั่งคุยอยู่กับสองแสบของเธอ เจ้าสองแสบวิ่งเข้ามากอดขาแม่ทันที แล้วแย่งกันพูด ชนิดที่ฟังแล้วตัวชาวาบราวกับถูกสาดด้วยน้ำแข็ง “แม่จ๋า มีคนมาหาแม่จ้า เขาบอกว่าชื่อ ‘พ่อ’ ” พี่ชายได้ยินอย่างนั้นรีบแย้ง “เขาไม่ได้ชื่อ ‘พ่อ’ เขาบอกว่า ‘เขาเป็นพ่อ’ ” ฐิตตากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ใจสั่น และมันคงรุนแรงมากพอ พอที่จะทำให้เธอสั่นไปทั้งตัว ใบหน้าของหญิงสาวซีดเผือด เกิดความหวาดกลัวหวาดหวั่นขึ้นในตอนนั้นเล็กน้อย และเธอไม่ได้หันไปทางที่นายแพทย์ภวินท์ยืนอยู่ ไม่อย่างนั้นคงได้เห็นว่าเขามองเธอกับลูกนิ่งเป็นนานสองนานด้วยสายตาเฉียบขาดเฉียบคมมากขนาดไหน


เล่ห์บุรินทร์
ครอบครัวของบุรินทร์เคยผ่านความล้มเหลวทางธุรกิจครั้งใหญ่ จนพ่อและแม่ของเขาต้องจากไปด้วยความสิ้นหวัง บุรินทร์มุ่งมั่น ต่อสู้ จนกลับมาผงาดได้อีกครั้ง แต่กลับถูกสกัดจนเกือบซวนเซ แล้วหญิงสาวที่เขาถูกตาถูกใจตั้งแต่แรกเจอ ที่ดูอย่างไรก็ไร้พิษสงอย่างสาริศาจะใช่หนึ่งในเครื่องมือที่ใช้ทำลายเขาอีกครั้งหรือไม่ เนื้อหาบางช่วงบางตอน “เข้าบ้านไปทำหน้าที่ภรรยาก่อน” ได้ยินอย่างนั้น สาริศาสะดุ้งตกใจ ขยับถอยหนีเขาทันที บุรินทร์หรี่ตามองท่าทีของเธอ *พร้อมหัวคิ้วขมวดเข้าหากันจนดูเกินจริงไปนิด ถามกลับสั้น ๆ ว่า “เป็นอะไร” “หน้าที่ภรรยา หน้าที่อะไรกันคะ” “เก็บกวาด เช็ดถูบ้าน เตรียมอาหารเย็น แล้วก็จัดเตรียมห้องหับไว้นอนคืนนี้ นี่เราคิดอะไรอยู่” “เปล่าสักหน่อย” พึมพำเดินตามหลังเขาเข้าบ้านไป อดบ่นอีกไม่ได้ “ไม่มีแม่บ้านคอยทำให้หรือยังไงนะ ไม่รวยจริงนี่นา” “พี่พูดสักคำหรือยังว่าพี่รวย”


ร้าวรานรัก
‘พี่อยากมีลูก เปรมไม่คุมไม่ได้หรือไง’ เธอยังจำคำพูดของเขาได้ทุกคำ จำสีหน้า แววตาของเขาได้เสมอ แล้วเขาเล่ายังมีเธอหลงเหลืออยู่ในความทรงจำบ้างไหม หรือมีพรรษมนแทนที่เธอจนหมดแล้ว


พ่ายรักพลิน
พลินใจหายวาบเมื่อตื่นมาแล้วเห็นคราบเลือดบนที่นอน สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่การเข้าใจผิด เธอกับว่าที่พี่เขยมีความสัมพันธ์ทางกายกันเมื่อคืนนี้อย่างนั้นหรือ! ###### “หยุดนะ คนหื่นกาม!” บารมีผงะออกไม่ใช่เพราะถูกผลักแต่เพราะใบหน้าตื่นกลัวนั่น พร้อมคำกล่าวหาที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมาต่างหาก ก่อนตวาดกลับเสียงดุดัน “คิดว่าตัวเองน่าพิศวาสมากหรือไงพลิน” พลินเม้มปากแน่น เพราะไม่เคยเห็นเขาพูดจาแบบนี้กับใครมาก่อน “ถ้าไม่ได้พิศวาส คุณก็อย่ามาแตะตัวพลินสิ” ว่าออกไปด้วยเสียงสั่นๆ ตัวก็สั่นไปด้วยตามแรงอารมณ์ที่ถาโถมเข้ามา ดวงตาแดงกล่ำน้ำตาเอ่อคลอไหลพรากอาบแก้มราวกับทำนบกั้นเขื่อนแตก เพราะเจ็บใจ บารมีเห็นแบบนั้นก็ผุดยิ้มร้ายกาจก่อนหยามต่อด้วยการขุดเรื่องในอดีตขึ้นมาถาม “อะไรกันแค่จับๆจูบๆแค่นี้เองทำไมต้องร้องไห้ด้วย ทีเมื่อสี่ปีก่อนทำมากกว่านี้ ยังไม่เห็นจะร้องซักแอะ” “ตอนนั้นพลินเมา คุณเองก็เมา ถึงได้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าตอนนั้นพลินไม่ร้อง” ตาคมดุจมีดคู่นั่นมองเธอราวกับจะเฉือนเนื้อออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ปรากฏแววไหววูบในนั้นครู่เดียวก่อนพ่นคำออกมาหมิ่นอีกฝ่ายต่อราวกับรอเวลามาเนิ่นนาน “แล้วเธอล่ะแน่ใจหรือเปล่าว่าคืนนั้นน่ะเธอเมาจริง ไม่ใช่ว่าที่ดื่มไปสี่ห้าแก้วนั่นเป็นการดื่มย้อมใจเพื่อที่จะได้กล้านอนแบให้ผู้ชายที่ไม่รู้จักเอา แลกกับเงินสามล้านบาทนั่นน่ะ!”


แก้วตาราชสีห์
แก้วตาราชสีห์ เป็นเรื่องราวที่แก้วตาหญ้าอ่อน เด็กน้อยเพิ่งเรียนจบระดับมหาวิทยาลัยต้องมาชดใช้หนี้ที่ลุงกับป้าของเธอถูกกล่าวหาว่าขโมยไปจากไร่ราชสีห์กับเจ้าของเงินที่เป็นโคแก่ๆหื่นๆเถื่อนๆห่ามๆ อย่างราชสีห์ เจ้าหนี้รายนี้ชอบตามไล่บี้เก็บหนี้กับแก้วตาเกือบทั้งเรื่อง พล็อตโดยรวมจะไม่หลุดไปจากแนวเจ้าหนี้ลูกหนี้ทั่วไป เลิฟซีนจัดไปเกือบครึ่งเรื่อง เอะอะถอด เอะอะปล้ำ ทั้งยังมีอะไรกุ๊กๆกิ๊กๆ หยอกล้อกันบ้างพอให้กระชุ่มกระชวย แล้วจะจบแบบไหนนี่ อยากให้ทุกคนลองโหลดอ่านกันดูนะคะ ######### “แก้วแค่ถาม ทำไมต้องพูดอะไรแรงๆแบบนี้ด้วยละคะ” “แล้วมันจริงไหม เธอเป็นใคร ฉันเป็นใคร เธอมีหน้าที่อะไรแก้วตา” แก้วตาตาขวางบอกเสียงเยาะใส่เขาบ้าง “อ้อ แก้วมันแส่เอง ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องมายุ่งกัน คุณโตไม่ต้องมายุ่งกับแก้วอีก แก้วก็จะไม่ยุ่งกับคุณโต” “เดี๋ยว! ไอ้ที่ต้องยุ่งเพราะเธอมีหนี้ต้องใช้ คิดว่าพิศวาสนักหรือไง” “เหรอคะ แก้วตาพยักหน้าน้อยๆถามด้วยแววตาปวดร้าว งั้นก็เอาเงินคืนไปเลยค่ะ” พูดจบควักเช็คออกจากกระเป๋ากางเกงยัดใส่มือเขาแล้วหันหลังขวับทันทีจะกลับห้อง ราชสีห์ตาวาวโรจน์มองกระดาษในมือแล้วก้าวยาวๆมาคว้าแขนเอาไว้ แต่แก้วตาฉุนจนเห็นราชสีห์เป็นเพียงแมวตัวหนึ่งเท่านั้น เธอออกแรงสะบัดมือเขาไม่พอ ยังผลักเขาจนสุดแรง ราชสีห์ไม่ทันตั้งตัวจึงเซถอยหลังไปครึ่งก้าว พอเห็นว่าแก้วตาสู้แรงอย่างไม่เคยทำมาก่อน ราชสีห์ก็มีโทสะจนพุ่งเข้าไปจับตัวเอาไว้พอจับท่อนแขนของเธอได้ข้างหนึ่ง แก้วตาก็ใช้แขนอีกข้างเหวี่ยงใส่หน้าของเขาเข้าเต็มเปา แต่เขากลับไม่หลบ จึงออกแรงทุบเขาซ้ำๆราชสีห์ก็ยังไม่ยอมปล่อยเธอ แก้วตาที่ฮึดสู้ดึงดันแขนตัวเองให้หลุดจากเขาสุดท้ายก็สู้แรงไม่ไหว ราชสีห์ตวัดทีเดียวพลิกร่างเล็กจ้อยแล้วกอดรัดเอวบอบบางทางด้านหลังตั้งท่าจะสั่งสอนให้หลาบจำเสียหน่อย “เก่งแล้วนี่” เขาว่าเสียงเหี้ยมข้างใบหูเธอ ######### “ย่าเจอยัยเด็กที่เราเคยเอามากินมานอนในบ้านเมื่อปีก่อนด้วยนะ” ทั้งห้องพากันเงียบไปทันที “คนไหนครับคุณย่า” เป็นคเชนทร์ที่ถามขึ้นมาแทน เพราะสังเกตเห็นมือพี่ชายที่กระตุกขึ้นมาทันทีเมื่อคนเป็นย่าเพียงเอ่ยออกมาคำเดียว ราวกับว่าในใจของราชสีห์คิดถึงเธอคนนั้นอยู่ตลอดไม่วางวาย “ก็ยัยอะไรล่ะ...แก้วอะไรนั่นน่ะ” “แก้วตา” ราชสีห์บอกชื่อขึ้นมาด้วยเสียงที่บังคับไม่ให้ส่ออารมณ์มากนัก ######### “คุณไม่ควรตามใจแกนะคะ” “ทำไมจะตามใจไม่ได้ ลูกฉันทั้งคน” ราชสีห์ย้อนกลับ ชนิดที่ทำเอาเธอหน้าหงายทันที “เกล้าไม่ใช่…” “ไม่ใช่อะไร ไม่ใช่ลูกของฉันน่ะเหรอ โอเคนะที่เธออาจจะโง่ แต่ฉันไม่ได้โง่เหมือนเธอ” “ดูนี่” เขายื่นอัลบั้มรูปที่ดูเก่าเก็บส่งให้เธอ แก้วตารับมาเปิดออกดู พลันใจหายวาบ ใบหน้าของบุตรชายที่เธอให้กำเนิดเหตุใดจึงดูไม่ได้ผิดแผกไปจากเด็กในรูปเลยแม้แต่นิดเดียว “ในรูปน่ะฉันเอง เหมือนกันไหม” “เอ่อ...คือ ไม่ค่ะ อาจจะคล้ายๆ แต่ไม่เหมือน” “อย่าคิดว่าคนอื่นเขาจะโง่เหมือนตัวเองสิแก้วตา”


ผลาญรัก
คงเจ็บปวดไม่น้อยหากรู้ว่าตนเองถูกใช้เป็นหมากตัวหนึ่ง ในกระดานของเกมแก้แค้นและฟาดฟันห้ำหั่นกับอีกฝ่าย แต่แล้วเมื่อเรื่องราวถึงจุดจบใครกันจะเป็นคนที่เจ็บปวดที่สุด เขา เธอ หรือ ทุกคน ########## “ถ้าคุณทนไม่ไหวจริงๆ ก็ช่วยจบสัญญาของเรา เซ็นชื่อลงในทะเบียนหย่าเถอะค่ะ ในส่วนที่ผิดสัญญาคุณต้องปรับอีกเท่าไร จะหามาใช้คืนให้” ลืมไปเสียสนิทว่าต้องหย่า ธีร์หรี่ตามองคนที่ท้าเหย็งๆก่อนเหยียดยิ้มว่า “ทำไมผมต้องหย่า ในเมื่อมีทั้งคนรับใช้ทั้งนอกห้อง ในห้อง แถมบนเตียง ออลอินวันในคนเดียวแบบนี้คุ้มเกินคุ้มเสียอีก...ว่าไหม” เลือดในกายพุ่งปรี้ดเมื่อได้ยินคำหยามหมิ่นของเขา ไม่เคยสุดทนสุดกลั้นแบบนี้มาก่อนในชีวิต จะให้เข้าไปทำร้ายเขาก็ผิดวิสัยของเธอ ณิชามองเขาด้วยแววตาแบบเดียวกับคำพูด “คุณทำสัญญาไว้ว่าจะหย่าเมื่อครบหนึ่งปี” “แล้วไง ผมไม่หย่า ใครจะมาจับมือผมเซ็นชื่อได้” “ฉันจะฟ้องศาล” “เอาสิ ให้ช่วยหาทนายให้ไหม” “ฉันเกลียดคุณ ได้ยินไหม” ธีร์ยิ้มร้ายกาจเข้ามาตวัดจูบเธออย่างไม่ให้ตั้งตัว รู้สึกได้ว่าปากเริ่มหนาบวมเพราะแรงบดไร้ความปราณีจากเขา ก่อนที่คนใจร้ายจะปล่อยให้เธอได้หายใจเอาอากาศเข้าไปในปอด “ก็ดีแล้วนี่หนูณิช” เขาผละมาโต้เหนือริมฝีปากของเธอ ก่อนสบตาท้าทายบอกอย่างทระนงในความเป็นธีร์ “ผมนึกกลัวแต่ว่าคุณจะเกลียดผมไม่ได้เท่านั้นเอง”


ปราณปริยา
ปราณปริยาถูกชะตาชีวิตบีบรัดให้ต้องจำใจยอมอย่างไม่มีทางเลี่ยงเป็นผู้หญิงของนักธุรกิจผู้ร่ำรวย เขาเลี้ยงดูเธอไว้เพื่อบำรุงบำเรอความสุข แต่แล้วเมื่อเธอตั้งครรภ์เขากลับแสดงท่าทีไม่ยอมรับ เธอจึงต้องจากไปพร้อมลูกในท้องของเขา การจากไปแบบไร้ร่องรอยของหญิงสาวที่ปรานต์เลี้ยงไว้เพื่อบำรุงบำเรอความสุขทำให้ใจของปรานต์แหว่งโหวงถูกกัดกร่อนอย่างที่ไม่เคยเป็น หลายปีให้หลัง ปรานต์พบเธออีกครั้ง ในฐานะผู้หญิงที่ภพ ชายรุ่นพี่ที่เขาเคารพรักมากคนหนึ่งจริงจังถึงขั้นจะแต่งงานด้วย เธอเป็นเมียของเขา แล้วยังเคยท้องลูกของเขาอีก มีสิทธิ์อะไรเอาตัวเองใส่ตะกร้าล้างน้ำไปขายให้คนอื่น! *** มีเนื้อหาบางช่วงไม่เหมาะสำหรับบุคคลอายุต่ำกว่า 18 ปี ***