


นิยาย


หลงรักลูกสาวมาเฟีย
"ตึกๆ...ตึกๆ...ตึกๆ" เสียงหัวใจสาวน้อยเต้นระส่ำ ราวกับใครกำลังรัวกลองอยู่ภายในอกของเธอ...ความตื่นเต้น ผสมความใคร่อยากรู้อยากลองที่แล่นไปทั่วร่างกายสาววัยขบเผาะ เพียงเพราะเสน่ห์ของชายหนุ่มตรงหน้า ทำเอาเธอศูนย์เสียความเป็นตัวเองไปได้มากขนาดนี้เชียวหรือ อายุอานามเขาก็มากกว่าเธอถึงยี่สิบปี ซึ่งดูแล้วเปรียบดั่งรุ่นพ่อเลยก็ว่าได้ แต่ใยเล่า...เจ้าหัวใจช่างไม่รักดีกลับตกหลุมรักเขาจนได้...Love at first sight ที่เคยได้ยิน วันนี้เธอได้ประจักษ์ถ่องแท้ในความหมายของมันเรียบร้อยแล้ว "แน่ใจแล้วใช่ไหม ที่จะทำแบบนี้" เสียงทุ้มต่ำของชายวัยสามสิบห้า กล่าวย้ำเตือนสติเธออีกครั้ง เขาและเธออยู่ภายในห้องนอนใหญ่เพียงสองต่อสอง ซูลี่สาวน้อยวัยสิบห้านั่งตัวสั่นเทิ้มอยู่บนปลายเตียง ทั้งที่เธอเป็นฝ่ายเชิญชวนเขา แต่ตอนนี้กลับหวั่นกลัวเสียเองดื้อๆ "เอ่อ...แน่ใจค่ะ...ซูลี่ไม่เคยแน่ใจอะไรแบบนี้มาก่อน" "เฮ้อ...คุณอายุแค่สิบห้า ทำไมถึงอยากรู้อยากลองเรื่องแบบนี้" "ถ้าคุณไม่อยากทำ งั้น...ซูลี่จะไปหาคนอื่นมาทำแทนละกันค่ะ" ขณะที่ฉันตั้งท่ากำลังจะลุกขึ้น เพราะเริ่มสมเพชกับการกระทำของตัวเอง ทันใดนั้น... "หยุด!!! นั่งลง อย่าได้คิดจะลุกหนีไปไหน" เสียงตวาดกร้าว ทำเอาฉันตกใจสั่นด้วยความกลัว สายตาราบเรียบจ้องมองมาที่ฉันโดยไม่ละไปไหน ภายในดวงตาคู่นั้นมิอาจคาดเดาอะไรได้เลย มันว่างเปล่าดั่งท้องทะเลในมหาสมุทร...เขารักฉันบ้างไหม หรือเห็นฉันเป็นตัวแทนของแม่เพียงเท่านั้น "ถ้าคิดมาดีแล้ว งั้นผมจะไม่หยุด แม้ว่าคุณจะร้องขอให้ผมหยุดก็ตาม" นิ้วมือใหญ่ยื่นมาจับที่พวงแก้มนวลเนียนของฉัน เขาค่อยๆ ไล่ปลายนิ้วสลับสัมผัสพวงแก้มอีกข้างอย่างเบามือ เรียวนิ้วยาวเกลี่ยอย่างแผ่วเบาที่ริมฝีปากบาง และไม่นานใบหน้าหล่อเหลาคมคายก็เริ่มเขยิบเข้ามาใกล้ มันใกล้เสียจนฉันกังวลว่าเขาจะได้ยินเสียงหัวใจดวงน้อยกำลังเต้นสั่นระรัว เพราะตอนนี้ตัวฉันเองไม่สามารถควบคุมอาการประหม่าได้อีกต่อไป "อืม..." รสจุมพิตของชายหนุ่มที่บรรจงมอบให้ มันช่างแสนหวานราวกับน้ำผึ้งเดือนห้า เรียวลิ้นร้อนเกี่ยวตวัดไปทั่วโพรงปาก เฝ้าหยอกเย้าเรียวลิ้นเล็กของฉันจนแทบหลอมละลาย สัมผัสวาบหวามที่แสนโรแมนติกถูกป้อนให้ซ้ำแล้วซ้ำเล่ามิรู้จบ และเพียงไม่นานใบหน้าเขาก็ค่อยๆ ผละออก "ถอดเสื้อผ้าสิ" เขาเดินถอยหลังไปสองก้าว ขณะริมฝีปากเอื้อนเอ่ยบอกฉันด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ฉันทำใจดีสู้เสือ ลุกขึ้นยืนและเริ่มถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้น เริ่มจากส่วนบนจนไล่มาถึงส่วนล่าง และไม่นาน...ร่างกายของสาววัยสิบห้าก็เปลือยเปล่าต่อหน้าเขาทันที "หึ" เสียงของเขาที่ดังอยู่ในลำคอ ทำเอาใจฉันกระตุกหล่นวูบ นี่เขารู้สึกเย้ยหยันในความใจกล้าหน้าด้านของสาวรุ่นลูกคนนี้หรืออย่างไร ขอร้องเถอะ...เลิกจ้องมองฉันด้วยสายตาแบบนี้ หากไม่ได้รู้สึกต้องการ โปรดพูดอะไรออกมาสักอย่าง ให้ฉันเลิกหน้าด้าuและพาตัวเองเดินหนีออกไปจากตรงนี้สักที...ความคิดของฉันเริ่มตีกัน นี่สิ่งที่ฉันกำลังทำ มันถูกต้องแล้วใช่ไหม "ร่างกายคุณ...โตเกินวัยจนน่าตกใจ" และแล้วเขาก็พูดออกมา ขณะที่สายตายังคงจ้องมองมาที่ฉัน คล้ายกับว่าเขากำลังกลืนกินฉันทั้งตัว "ถ้าคุณไม่ต้องการ...งั้นฉันขอตัว" "ใครบอกคุณ ว่าผมไม่ต้องการ" "ว้ายยยย" ฉันร้องตกใจทันทีที่คนตัวใหญ่เข้าประชิด และผลักร่างของฉันล้มนอuหงายลงบนเตียง "ทำขนาดนี้ ผู้ชายคนไหนจะอดใจไหว" ขณะที่เขากำลังพูด สองมือใหญ่ก็เร่งปลดเปลื้องเสื้อผ้าตัวเองออก ไม่นานนักชายตรงหน้าก็ยืนร่ายกายเปลือvเปล่าต่อหน้าฉัน ทั้งแผงอก หน้าท้อง เต็มไปด้วยกล้ามที่แน่นขนัด และตอนนี้...ลำรักที่ใหญ่โตก็ตั้งผงาดชี้ตรงมาที่ฉันเรียบร้อยแล้ว "ตัวสั่นเทิ้มขนาดนี้ ยังจะทำเป็นใจดีสู้เสืออีกนะ" “เปล่าสักหน่อย ฉันไม่ได้สั่น...ฉันก็แค่...ก็แค่ตกใจนิดหน่อย" "ปากเก่งให้ได้ตลอด เพราะเมื่อไหร่ที่ตัวตนผมเข้าไปข้างในตัวคุณ ผมจะไม่มีวันหยุดรัวกระแทกแน่นอน" นี่คือคำขู่ใช่ไหม...ฉันควรต้องกลัวแล้วรีบวิ่งหนีออกไปหรือเปล่า แต่ร่างกายเจ้ากรรมกลับโดนตรึงให้นอนนิ่ง ขยับลุกไปไหนไม่ได้ สาวใจกล้าคนนั้นหายไปไหน ฉันรับรู้ได้ชัดเจนทันทีว่าร่างกายตัวเองสั่นมากเหลือเกิน ทันใดนั้นคนตัวใหญ่ขยับฝีเท้าก้าวขึ้นเตียงแล้วคร่อมฉัน ร่างกายเราต่างสัมผัสเสียดสี จนฉันแทบหลอมละลายตายอยู่ภายใต้ร่างเขา "อืมม...ซูลี่" ริมฝีปากหนาสัมผัสที่พวงแก้ม ขณะที่เสียงของเขากระซิบแผ่วเบาข้างๆ หู "คะ" "ผม...ผมไม่อยากฉวยโอกาสกับคุณ" "ทำไมคะ คุณรังเกียจฉันหรอ" "เปล่า คุณกำลังเมา...ลุกขึ้นเถอะ แล้วไปแต่งตัว ผมจะพาคุณไปส่งที่บ้านป้าของคุณตอนนี้เลย" เหมือนฟ้าผ่าลงกลางหัวใจ...นี่คือคำปฏิเสธที่แสนเจ็บปวดรวดร้าวเกินที่ฉันจะทนรับฟังไหว ไม่ว่ายังไง...ฉันก็ไม่มีทางเป็นผู้หญิงที่เขาจะรักได้ หัวใจของเขายังคงรักแม่ของฉันอยู่เต็มทั้งใจ "ค่ะ ขอโทษนะคะ ที่ซูลี่ทำตัวหน้าเกลียดเหมือนเด็กใจแตก" "อย่าพูดแบบนี้ ไปแต่งตัวเถอะ" สิ้นเสียงของเขา เขาลุกขึ้นและรีบเร่งใส่เสื้อผ้าทันที และนี่คือการบอกลาทางอ้อมดีดีนี่เอง "ค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะที่มารบกวนคุณ" ฉันลุกขึ้นและรีบหยิบสวมผ้ามาสวมใส่ ฉันพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้รินไหล แม้ข้างในจะแตกสลายแล้วก็ตาม วินาทีนั้นฉันตั้งมั่นและบอกกับตัวเองว่า...ต่อให้ฉันรักเขามากแค่ไหน แต่เวลานี้ควรต้องตัดใจและปล่อยให้ตัวเองเดินออกมาจากความเจ็บปวดทรมานนี้เสียที "ซูลี่...ผมขออะไรอย่าง อย่าทำแบบนี้กับใครอีก หากคุณเจอคนไม่ดี เรื่องจะไม่ลงเอยแบบนี้ คุณจะถูกรังแกเอาง่ายๆ" แม้คำพูดดูห่วงใย แต่ยังไงฉันก็รู้อยู่เต็มอก เขาจะนอนกับฉันได้อย่างไร ในเมื่อฉันคือลูกสาวของซีซวน หญิงสาวที่เป็นรักแรกและรักเดียวของเขาเมื่อสิบเจ็ดปีก่อน...


TBT วันวานที่เคยหวาน (อ่านฟรี)
เมื่อความตายไม่ใช่จุดจบ เธอได้รับโอกาสให้กลับมายังโลกมนุษย์อีกครั้ง เธอจะเลือกแก้ไขอดีตหรือปล่อยให้มันเป็นไปตามเดิมอย่างที่เคยเป็น ในเมื่ออดีตที่ผ่านมา...ทำร้ายเธอมาก จนทำให้เธอเกือบสิ้นลมหายใจ


The legend of Wang 王
ค่ำคืนมืดมิดแม้ดวงจันทร์เพียงเสี้ยวจะลอยอยู่บนท้องฟ้า แต่ก็มิอาจส่องแสงพอให้เห็นสิ่งใดใดได้ ผมลุกขึ้นตื่นอย่างงัวเงีย คงเพราะก่อนนอนคงดื่มน้ำมากไปหน่อย ถึงต้องสะดุ้งตื่นเพราะอยากฉี่ตอนตีสอง ผมมองไปยังเตียงข้างๆ ที่มีน้องชายคนรองนอนอยู่ จางเหว่ยน้องชายวัยหกขวบของผม นอนหลับอย่างสบายอารมณ์ ผมจึงลุกขึ้นและรีบเดินออกจากห้องนอนไป และเมื่อผมทำธุระในห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว ผมก็ได้ยินเสียงจากชั้นล่างดังขึ้น คล้ายเป็นเสียงคนกำลังต่อสู้กัน ด้วยความอยากใคร่รู้ ผมจึงเดินลงไปตามเสียง ซึ่งเสียงนั่นดังมาจากห้องประชุม ผมหรี่ตามองไปตามทางที่ไฟปิดมืดดับสนิท "ตึงงงง" เสียงคล้ายกับมีอะไรบางอย่างกระแทกลงที่พื้น เสียงมันดังสนั่นหวั่นไหวจนผมรีบเร่งฝีเท้าเข้าไปใกล้ๆ หน้าประตู "ปล่อย...ปล่อย...ฉัน....ฉัน...ยังไม่...อยากตาย" เสียงขาดๆ หายๆ ของผู้หญิง ซึ่งเสียงนั่นฟังคุ้นหูผมมาก เหมือนโชคเข้าข้างผม ประตูห้องปิดไม่สนิท ทำให้ผมสามารถแอบดูได้ ผมเดินไปประชิดประตูและแอบมองไปยังด้านใน...และภาพที่ผมเห็นก็ทำให้ผมแทบช็อก ม๊าาาาา...ใจผมร้องเรียกผู้หญิงที่อยู่ภายในห้อง ดวงตาของม๊าเบิกโพลงเพราะเชือกที่รัดอยู่ที่คอเริ่มรัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ ร่างของม๊านั่งอยู่บนโซฟา เท้าของม๊าเหยียดเกร็งจนยืดตรง สองมือของม๊าพยายามแกะเชือกที่รัดคอม๊าออก แต่คนตัวใหญ่ร่างสูงที่ยืนอยู่ด้านหลังม๊า กลับดึงเชือกนั่นให้แน่นขึ้นและแน่นขึ้น ผมไม่รู้ว่าคนๆ นั้นคือใคร เพราะไฟในห้องมืดจนแทบมองไม่เห็น มีเพียงแสงจันทราที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่าง เผยให้เห็นเพียงร่างรางๆ ของคนตัวใหญ่ ซึ่งผมพอเดาออกว่าน่าจะเป็นผู้ชาย "เฮีย ทำอะไรครับ ทำไมทิ้งผมไปนาน พาผมขึ้นไปนอนหน่อยครับ" เสียงน้องชายคนรองตะโกนเรียกผมตรงทางขึ้นบันได และนั่นทำให้ร่างของผมถูกกระชาก ออกจากประตูอย่างแรงทันที


สัญญาพันธะรักมาเฟีย
ฉันรีบเข้าห้องน้ำชำระล้างร่างกายที่เปื้อนเลือด ฉันเร่งอาบน้ำและออกมาแต่งตัว ขณะที่ฉันยืนอยู่หน้ากระจกด้วยร่างกายที่เปลือยเปล่า เมื่อฉันกำลังหยิบเสื้อผ้าเพื่อที่จะสวมเสื้อใส่ หางตาของฉันก็ชำเลืองเหลือบมองไปเห็นคนบนเตียง ลืมตาโพลงมองตรงมาที่ฉัน อย่างไม่กระพริบตา "กรี๊ดดด!!!!" ฉันตกใจมาก รีบคว้าผ้าเช็ดตัวมาพันตัวไว้ และฉันก็ถามเขาด้วยความโกรธเคืองทันที "นี่นาย!!! เสียมารยาท ทำไมมองฉันแบบนี้" เป็นคำถามซึ่งไร้คำตอบ เขาค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง และยังไม่ตอบอะไรฉันกลับมา "ขอบคุณ" นี่คือคำตอบของเขา "ฉันต้องไปแล้ว คุณกำลังทำให้ฉันเดือดร้อน" ฉันรีบหยิบเสื้อผ้าเข้าไปใส่ในห้องน้ำ ซึ่งฉันใช้เวลาแต่งตัวแค่สองนาทีเท่านั้น จากนั้นฉันก็เดินออกมา ชายแปลกหน้ายังคงนั่งอยู่บนเตียง เขาคงเจ็บแผลที่ฉันเพิ่งเย็บให้แหละ ก็เล่นนั่งไม่กระดิกตัวเลย ฉันจึงเร่งเก็บข้าวของของตัวเองลงกระเป๋า ที่จริงฉันมาเที่ยวภูเก็ตก่อนเปิดเทอม และฉันก็มาเที่ยวแบบ backpack คนเดียว กำหนดกลับของฉันคือพรุ่งนี้บ่าย แต่ตอนนี้ฉันคงต้องชิ่งแล้วล่ะ เมื่อฉันเก็บข้าวของลงกระเป๋าเรียบร้อย ฉันก็เอ่ยลาเขาทันที "ฉันต้องไปแล้ว ลาก่อน" "เดี๋ยวก่อน คุณชื่ออะไร" เขาถามชื่อฉัน และพยายามจะลุกเดินมาหาฉันที่หน้าประตู "ฉันไม่จำเป็นต้องบอก" เมื่อฉันกำลังจะเปิดประตู เขาก็พุ่งตัวมาหาฉันทันที ตอนนี้หน้าของเราห่างกันเพียงแค่คืบ ฉันรีบยื่นสองมือดันไปที่หน้าอกของเขา เพื่อให้เขาเว้นระยะห่างจากฉัน "อย่าเพิ่งทิ้งผมไป" เสียงอ้อนวอนของเขาที่เอ่ยบอกฉัน "ไม่ได้ เหตุการณ์วันนี้ อาจทำให้ฉันเสียอนาคตได้ ฉันต้องไปแล้วจริงๆ โชคดีนะ" แม้ใจฉันอยากจะอยู่เป็นเพื่อนเขา แต่ฉันก็นึกถึงอนาคตตัวเอง หากตำรวจตามมาเจอ อนาคตของฉันพังแน่นอน และแม่กับพี่สาวฉันล่ะ พวกเขาจะทำยังไง ฉันจึงเปิดประตูและเดินจากเขาออกมา ฉันรีบขึ้นรถและสตาร์ทรถ จากนั้นก็มองตรงไปที่เขา ซึ่งเขายังคงยืนอยู่หน้าประตู และมองฉันกลับมาด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์ "ลาก่อนนะชายแปลกหน้า" ฉันเอ่ยลาเขาอีกครั้งจากในรถ และฉันก็ขับรถจากเขาไป จนตอนนี้ฉันมองผ่านกระจกหลัง ก็เห็นเขาไกลออกไปเรื่อยๆ ไม่นานนักเขาก็ค่อยๆ ลับไปจากสายตาฉัน จนสุดท้าย…เราสองคนก็ไกลกันจนมองไม่เห็นกันอีกแล้ว


OMG แฟนหนูเป็นมาเฟีย
เขาประกบริมฝีปากของเขามาที่ริมฝีปากฉันอีกครั้ง มันเป็นจูบที่บอกแทนทุกความรู้สึก เขาและฉันเราต่างคลั่งไคล้ในกันและกันมาก และเมื่อมือของเขากำลังจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าของฉันออก มันก็ทำให้ฉันสะดุ้งตกใจหนีเขาทันที "เอวารีนเป็นอะไรครับ" ฉันไม่ได้ตอบอะไรเขากลับไป ตอนนี้ไม่ใช่ฉันไม่มีอารมณ์นะ ฉันอยากตกเป็นของเขา แต่ว่า...ร่างกายของฉันมันไม่ได้งดงามเลย ร่างกายที่ถูกแม่ตีด้วยไม้เรียวตั้งแต่เด็ก มันทำให้ฉันมีบาดแผลมาจนถึงทุกวันนี้ ฉันชะงักกับบทรักที่กำลังจะเกิดขึ้นในทันที เมื่อฉันนึกถึงเรือนร่างที่มีตำหนิของตัวเอง และฉันก็ต้องเอื้อนเอ่ยบอกเขาไป "เอวารีนอยากกลับบ้านแล้วค่ะ" เสียงของฉันดูสิ้นหวังมาก "เกิดอะไรขึ้นครับ เอวารีนเป็นอะไร" พี่เฟยหลงตกใจที่อยู่ๆ ฉันก็หยุดชะงักทุกอย่าง "เอวารีนแค่...แค่ไม่อยากทำแล้วค่ะ" "รังเกียจพี่หรอครับ" "ไม่เลยค่ะ ไม่ได้รังเกียจพี่เลยค่ะ" "แล้วเกิดอะไรขึ้น บอกพี่ได้ไหมครับ" "พี่อย่ารู้เลยค่ะ พาเอวารีนกลับบ้านเถอะค่ะ" พี่เฟยหลงเดินมาจับมือฉัน เขายกมือฉันขึ้นมาจับ และนำไปสัมผัสที่ใบหน้าของเขา "เอวารีนไว้ใจผู้ชายคนนี้ไหมครับ" น้ำเสียงของเขาฟัง แล้วดูจริงใจมาก "เอวารีนไว้ใจพี่ค่ะ แต่..." "บอกพี่มาเถอะครับ พี่รับได้ทุกอย่าง" "แต่ร่างกายของเอวารีนมันไม่ได้สวยอย่างที่เห็นนะคะ" "เอวารีนสวยขนาดนี้ จะมีตรงไหนที่ไม่น่ามองอีกหรอครับ แค่เท่าที่พี่เห็นตอนนี้ ก็ทำให้พี่แทบคลั่งตายแล้ว" พี่เฟยหลงดึงมือของฉันไปจูบ เขามองมายังนัยน์ตาของฉัน คล้ายกับกำลังบอกว่าเขายังอยู่ตรงนี้ ไม่ว่าอะไรที่ฉันเป็นมา เขาจะรับมันได้ทุกอย่าง ฉันจึงค่อยๆ เดินไปที่มุมห้องด้านหลัง ฉันยืนหันหลังให้เขา จากนั้นฉันก็ค่อยๆ ปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกทีละชิ้นๆ จนตอนนี้ร่างกายของฉันไร้ซึ่งอาภรณ์ใดๆ และมันทำให้เขาต้องตกใจกับภาพที่ได้เห็น ร่างกายของฉันตั้งแต่ก้นจนถึงต้นขาด้านหลังเป็นรอยถูกตีอย่างเห็นได้ชัด มันเป็นรอยแผลเป็นที่เกิดขึ้นตั้งแต่ฉันยังเด็ก แต่แล้วเสียงของฉันก็ทำให้เขาหลุดออกจากภวังค์ "รังเกียจเอวารีนไหมคะ" "ไม่ครับ ร่างกายของเอวารีนสวยที่สุดแล้ว"


My superstar
"คุณต้องการให้พลอยเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าตัวนี้ของคุณหรือคะ" ฉันเอื้อนเอ่ยถามเขาด้วยน้ำเสียงหวานๆ ชวนให้คนฟังเคลิบเคลิ้ม "ถ้าผมต้องการมากกว่าให้คุณมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ล่ะ" เฉิน เฟยเจิน ชายหนุ่มนักธุรกิจฮ่องกงตรงหน้าฉัน กระตุกยิ้มที่มุมปากขณะตอบกลับมา "หมายถึงอะไรคะ" ฉันถามเขากลับไปอย่างงุนงง ฉันอายุเพียงแค่ยี่สิบปี เข้าเดบิวต์ตั้งแต่อายุสิบห้า และได้เป็นศิลปินตอนอายุสิบแปด ฉันแทบไม่มีเวลาส่วนตัวและแทบไม่รู้จักผู้ชายเลย เรื่องเซ็กยิ่งห่างไกล "ไม่มีอะไรหรอก เอาเป็นว่าคุณกินข้าวก่อนเถอะ อาหารเย็นหมดแล้ว" เฟยเจินเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง เขาทำธุรกิจมากมาย และขยายธุรกิจไปหลายๆ ประเทศในแถบเอเชีย รวมถึงประเทศไทยด้วย ซึ่งอายุของเขาเพียงแค่ยี่สิบแปดปีเท่านั้น แต่เขากลับประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ฉันนั่งทานอาหารกับเขามาร่วมหนึ่งชั่วโมงแล้ว ขณะที่พนักงานนำไวน์มาเสริฟให้เราทั้งคู่อยู่เรื่อยๆ ฉันจำใจต้องดื่มบ้าง ด้วยเขากำลังจะจ้างให้ฉันเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าของเขา และเขาก็รวยมาก มีอำนาจล้นมือ ผู้จัดการและเจ้าของค่ายเพลง ให้ฉันเข้าพบเขาแบบส่วนตัวและทำตัวให้น่ารักที่สุด เพื่อให้เขาประทับใจและฉันก็จะได้งานนี้ ซึ่งมันจะทำให้ฉันมีรายได้และชื่อเสียงอีกมาก แม้ใจของฉันไม่ได้อยากทำ เพราะฉันคิดว่า...ตอนนี้สิ่งที่ฉันได้รับ มันเพียงพออยู่แล้ว แต่ฉันก็ขัดอะไรผู้ใหญ่ไม่ได้ เพราะฉันยังมีสัญญาอยู่กับทางค่าย ฉันจึงต้องเข้าพบเขาในวันนี้ ฉันดื่มไวน์ไปเรื่อยๆ จนตอนนี้หัวเริ่มมึน เมื่อสายตาของฉันมองตรงไปที่เขา ก็พบว่าสายตาของเขาคอยจับจ้องมองดูปฏิกิริยาฉันอยู่ตลอด จนตอนนี้เปลือกตาของฉันคล้ายกำลังจะปิด และเขาก็คงจะรู้แล้วว่าฉันกำลังจะเมา "พลอยขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ" ฉันลุกขึ้นยืน และพยายามพาร่างตัวเองเดินไปยังห้องน้ำ แต่สุดท้ายฉันเดินไปได้แค่สองก้าว ก็รู้สึกคล้ายกำลังจะล้ม ทันใดนั้นเขาก็รีบลุกขึ้นและเข้าประคองฉันทันที "คุณไหวไหม เดี๋ยวผมพาไป" เขาประคองฉันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงหน้าห้องน้ำ "คุณรอตรงนี้แหละ" ฉันเดินโซซัดโซเซเข้าห้องน้ำอย่างยากลำบากเพื่อเข้าไปทำธุระส่วนตัว และเมื่อฉันทำทุกอย่างจนเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมา ฉันเดินตรงไปยังอ่างล้างมือ ขณะที่ตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึกพะอืดพะอม และทันใดนั้น...ฉันก็อาเจียนออกมาทันที "โอ้ก...แหวะ" "เฮ้ยคุณ!!! ไหวไหม" เขารีบพุ่งตัวเข้ามาในห้องน้ำ และลูบหลังฉันทันที "ไม่ไหวค่ะ พลอยมึนหัวมาก เดินแทบไม่ไหวแล้ว พลอย...อยาก...จะ....นอน" ฉันตอบเสียงยืดยาวออกไป และเริ่มเข้าสู่สภาวะทิ้งตัว "เฮ้ย!!! พลอย" เขาตกใจกับภาพที่เห็น เพราะฉันได้ทิ้งน้ำหนักตัวลงสู่พื้นเย็นๆ ในห้องน้ำ ราวกับว่าพื้นกระเบื้องนี้ คือเตียงนุ่มๆ ในห้องนอน และนั่นทำให้เขารีบยื่นมือมาคว้าเข้าที่เอวฉันไว้ ก่อนที่ฉันจะล้มหัวฟาดพื้นไปเสียก่อน