พิศวาสรักเมียแต่ง

103.0K·violet

"ผัวเมียก็ต้องคอยช่วยเหลือกันและตอนนี้ฉันอยากให้เธอช่วย มันแข็งจนนอนไม่หลับ"

โรงแรม/มหาลัยจบแล้ว

เมียเสือ

110.0K·เวย์นิส

คาไลน์ มือขวามาเฟียใหญ่ ลูกน้องผู้ซื่อสัตย์ ทั้งชีวิตไม่เคยมีความรักมาก่อน เพลลิน ลูกสาวมาเฟีย ฉลาด เอาแต่ใจ ไม่ยอมคน ----------------------------------- "งั้นก่อนที่คุณหนูจะเล่นกับเสือก็ควรต้องรู้ก่อนว่าเมื่อไหร่ที่เสือมันกินอิ่มมันไม่สนใจซากเหยื่อที่มันเคยกินแล้วหรอก เพราะงั้นอย่าทำแบบนี้อีก อย่าใกล้ชิดผมมากเกินไป" "..." "เพราะไม่งั้นจากคุณหนูจะกลายเป็นเหยื่อแทน" "ถ้าคาไลน์เป็นเสือหนูยอมเป็นเหยื่อก็ได้"

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

เกิดมาร่าน

90.0K·Beefy Cat

ใครจะคิดว่าสาวน้อยที่เขาเลี้ยงดูมาอย่างทะนุถนอม โตขึ้นมาจะทั้งสวยแถมยังร่านสวาทได้ถึงขนาดนี้! เขาพยายามห้ามความคิดอกุศลของตัวเองเอาไว้ แม้จะไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ แต่เขาก็ไม่ควรที่จะคิดเกินเลยแบบนั้น และที่ผ่านมาเขาหักห้ามหัวใจของตัวเองได้ดีมาโดยตลอด... แต่พอเธอแตกเนื้อสาวแล้วเริ่มเนื้อหอมมากขึ้นเรื่อยๆ เขาก็ชักจะไม่มั่นใจแล้วว่าจะทนไปได้ถึงเมื่อไหร่! -ตัวอย่างความแซ่บ- “เสียงอะไรน่ะ...” ลูกแพรพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะหมุนตัวไปตรงต้นเสียงทางด้านห้องน้ำ ค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ แล้วเงี่ยหูฟังอย่างสงสัย “อ่าส์...ซี้ดดด หนูแพร...อูววว” เสียงครางแหบพร่าของทรงพลเล็ดลอดออกมาจากห้องน้ำ ทำให้คนที่กำลังยืนแอบฟังอยู่ถึงกับหน้าแดงเถือกไปหมด นี่มันอะไรกัน... “อึก...” หัวใจของลูกแพรเต้นถี่รัวกับสิ่งที่ตัวเองกำลังได้ยินอยู่ตอนนี้ เธอไม่ได้ใสซื่อถึงขนาดว่าไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่... คุณป๋าของเธอกำลังช่วยตัวเองอยู่ แถมยังครางชื่อของเธอเสียด้วย! _____________________________________________ เรื่องนี้นางเอกร่านสมชื่อ ไม่ได้มีอะไรกับพระเอกแค่คนเดียว แต่ว่าตอนจบก็แฮปปี้เอนดิ้งนะคะ

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

Love My Boss

57.0K·Phat_sara

“ฉันจะไปฝึกงานที่เชียงใหม่นะแก” “ฮะ?” “จริง ๆ” “บ้า~ ที่ฝึกงานไม่มีที่เชียงใหม่ซะหน่อย” “เดี๋ยวก็มี” ขวัญเอยเพื่อนสนิทของฉันพูดขึ้นแล้วยิ้มบาง ๆ แต่ทำไมยัยเอยยิ้มเศร้าจังเลย มีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า ทั้งคำพูดทั้งสีหน้าทุกอย่างดูแปลกไปหมด “มีอะไรรึเปล่าแก” “...” “เอย แกเป็นไร” ฉันย้ำถามเพราะเพื่อนไม่ตอบแต่เพื่อนมองฉันแล้วน้ำตาคลอแทนทำฉันใจคอไม่ดีทันที “...ฉันท้อง” “อะไรนะ!” “ฮึก!” “เฮ้ย ๆๆ ใจเย็น ๆ เอยอย่าเพิ่งร้อง” ตอนแรกตกใจนึกว่าอำเล่นแต่ร้องแบบนี้ไม่อำแล้วล่ะเรื่องจริงแน่นอน แค่ได้ยินเรื่องเล่าที่ไม่มีรายละเอียดก็รู้สึกมวนท้องขึ้นมาทันทีเลยมิ้งค์เอ้ย~ “...อย่าเพิ่งบอกใครนะแก ฮึก!” “ไม่บอก ๆ ฉันไม่บอกใครแน่นอน” จะไปบอกใครได้ยังไงเรื่องใหญ่ขนาดนี้ อย่าว่าแต่จะไปบอกใครเลยลำพังตอนนี้แค่ตั้งสติของตัวเองยังทำไม่ได้ เกิดเรื่องใหญ่กับเพื่อนรักแถมตอนนี้เพื่อนรักของฉันก็เลิกกับแฟนไปแล้วด้วย ตายห่าคุณมิ้งค์คนนี้จะช่วยอะไรได้มากกว่าปลอบใจไหมเนี่ย! -สองอาทิตย์ต่อมา- “แม่คะ” “จ้ะ” “มิ้งค์จะฝึกงานแล้วนะ” “รู้จ้ะ แล้วที่ฝึกงานไกลไหมแม่ว่าจะถามก็ลืมตลอดเลย” “ไกลค่ะ” “เดินทางไหวไหมล่ะลูก ฝึกงานตั้งหลายเดือนไปหาหอใกล้ ๆ อยู่ระหว่างฝึกงานไหม” “ค่ะ ก็ต้องเอาแบบนั้นล่ะค่ะแม่เพราะว่าที่ฝึกงานของมิ้งค์ไกลมาก~” ฉันเน้นคำว่าไกลมากเป็นพิเศษ “มิ้งค์ดูที่พักรึยังล่ะหรือจะให้แม่พาไปดู” “ไม่ต้องดูค่ะแม่ ที่ฝึกงานมีที่พักให้ค่ะ” “จริงเหรอจ้ะถ้างั้นก็ดีสิ ว่าแต่หนูฝึกที่ไหนทำไมสวัสดิการดีจังเลย” “ฝึกที่ไร่สิริภัคดิ์ค่ะ” “ไร่? สำนักงานของไร่เหรอ ชื่อไร่คุ้น ๆ นะเหมือนเคยได้ยิน” แม่ขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินชื่อบริษัทที่ฉันจะไปฝึกงาน “ไร่สิริภัคดิ์ที่เป็นไร่ชาที่ใหญ่ที่สุดของไทยไงคะ มีโรงแรมแล้วก็โรงงานผลิตชาส่งออกแม่น่าจะรู้จักนะคะ เหมือนแม่เคยแท็กมิ้งค์ด้วยนะว่าอยากไปเที่ยวที่ไร่เขา” “อ้อก็ว่าอยู่ชื่อคุ้น ๆ ฝึกที่สำนักงานใช่ไหม ตั้งใจนะยัยมิ้งค์อย่าไปโก๊ะเด็ดขาด” “ค่า~ มิ้งค์ไม่ปล่อยโก๊ะหรอกค่ะแม่สบายใจได้เลย” “แล้วว่าแต่ที่ฝึกงานอยู่แถวไหนล่ะลูก” “...เชียงใหม่ค่ะ” “อะไรนะ?” “เชียงใหม่ค่ะแม่ มิ้งค์จะไปฝึกงานที่เชียงใหม่ค่ะ” “อำแม่เหรอยัยมิ้งค์” แม่ทำหน้าไม่เชื่อแต่ฉันก็ยังมีสีหน้ามุ่งมั่นแน่วแน่เหมือนเดิม จะไม่ให้แน่วแน่ได้ไงก็มิ้งค์มีความฝันที่ทำให้อยากไปมากพอมีโอกาสก็ต้องรีบคว้าไว้แล้วไปให้ได้ “ไม่อำค่ะแม่มิ้งค์จะไปฝึกงานที่เชียงใหม่กับเอยค่ะ” “...ไกลเลยนะลูก” ยิ่งย้ำแม่ก็ยิ่งอึ้งแต่ฉันก็เข้าใจนะใครจะคิดว่าลูกสาวจะไปฝึกงานไกลถึงเชียงใหม่จริงไหม กรุงเทพ-เชียงใหม่ ไม่ใกล้เลยนะคะ “ค่ะแม่แต่มิ้งค์อยากไป มีโอกาสก็เลยไปดีกว่า แม่ไม่โกรธใช่ไหมคะ” “ไม่โกรธหรอกจะโกรธทำไมมิ้งค์ไปฝึกงานนี่จ้ะไม่ได้ไปตามผู้ชายซะหน่อย” “...” เจอคำนี้ของแม่เข้าไปแอบสะอึกไปเหมือนกันนะมิ้งค์ “แม่แค่ตกใจแค่นั้น แล้วจะไปเมื่อไหร่ล่ะลูก” “...วันจันทร์หน้าค่ะ” “ฮะ!” -หลายวันต่อมา- “เป็นไรแก” ขวัญเอยเพื่อนรักหันมามองฉันที่ขยับตัวหยุกหยิกไม่หยุดมาสักพักแล้ว “ฉันตื่นเต้น” “ตื่นเต้น? ไม่ต้องกลัวหรอกน่าวันนี้ยังไม่ได้เริ่มฝึกงานสักหน่อย” “อื้อ” เพื่อนจะคิดแบบนั้นก็ให้เพื่อนคิดไปเลยดีกว่าค่ะสบายใจทั้งสองฝ่ายดี แต่มันใช่แบบนั้นหรอกค่ะ มิ้งค์ไม่ได้ตื่นเต้นเพราะเรื่องฝึกงานเลยสักนิด “เดี๋ยวไปถึงไร่รับรองว่าความสวยของที่นั่นจะทำแกลืมความตื่นเต้นไปเลยเชื่อฉัน” “นั่นสิเนอะฉันดูรีวิวมาไร่สิริภัคดิ์สวยมากเลยนี่นา” “ใช่แต่ในรูปไม่สวยเท่าของจริงหรอกของจริงสวยกว่ามาก ๆ” ขวัญเอยเพื่อนฉันเป็นหลานสาวของเจ้าของไร่ค่ะ ที่เรามาที่นี่ก็เพราะเหตุผลก่อนหน้านี้นั่นแหละ ยัยเอยจะท้องโตขึ้นทุกวันเลยเลือกมาฝึกงานในบริษัทของบ้านตัวเองแล้วที่เลือกมาที่นี่เพราะยัยเอยอยากหนีอะไรบางอย่างมา ซึ่งอะไรบางอย่างก็คงไม่ต้องเดาให้ยากหรอกค่ะก็หนีพ่อของลูกมานั่นแหละ ส่วนฉันเป็นห่วงเพื่อนเลยตามมาฝึกงานที่นี่ด้วย แต่นั่นก็แค่หนึ่งเหตุผลนะคะเพราะฉันยังมีอีกหนึ่งเหตุผลที่ขอไม่บอกดีกว่า มันเป็นเหตุผลฟลุ๊ค ๆ ที่ทำให้ฉันแอบมีความสุขมากเหมือนกัน “แก” “ว่า” “พี่ชายแกดุไหม” “พี่แทนน่ะเหรอ ไม่ดุหรอกพี่แทนใจดี” “อื้อ” “ทำไมจ้ะกลัวว่าที่เจ้านายเหรอ” “อื้อ ก็ต้องกลัวไหมล่ะแกเล่นจะให้อยู่บ้านเดียวกันกับเจ้านายเลย ถ้าดุฉันอยู่ลำบากแน่ ๆ” “ฮ่า ๆๆ ไม่ต้องกลัวหรอกเพราะพี่แทนใจดีมาก~ ที่สำคัญหล่อมากด้วยนะจ้ะ” “โม้รึเปล่า” “ไม่โม้ รับรองถ้าแกเห็นพี่แทนแกจะต้องอยากยื่นใบสมัครเป็นพี่สะใภ้ฉันแน่นอนจ้ะยัยมิ้งค์คนสวยเพราะพี่แทนทั้งหล่อรวยนิสัยดีทุกอย่างดีหมดเลย ดีมากเหมาะเป็นแฟนเพื่อนมาก~” ฉันฟังคำพูดของยัยเอยแล้วก็เบ้ปากใส่เพื่อนที่พรีเซ้นส์พี่ชายตัวเองเต็มที่มาก แต่ฉันก็ไม่เถียงคะนะเพราะใคร ๆ ก็รู้ว่าคุณแทนคุณรองประธานกรรมการของสิริภัคดิ์ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้ไม่นานหลังจากที่กลับมาจากอเมริกาหล่อมากเกินคำว่าหล่อด้วยซ้ำ พูดแล้วอยากเห็นตัวเป็น ๆ เลยแต่ถึงเห็นก็คงไม่รู้สึกอะไรเพราะฉันเคยเห็นคนที่หล่อมากเกินคำว่าหล่อมาแล้ว แฟนขวัญเอยไง รายนั้นก็หล่อมากเกินคำว่าหล่อเช่นกัน แต่หล่อให้ตายยังไงก็ทำได้แค่มองเพราะนั่นคือแฟนเพื่อน แหะ ๆ “อันนี้ไร่อะไรเหรอยัยเอย” ฉันชี้ไปที่ด้านหนึ่งที่เป็นทางเข้าไร่แต่อ่านป้ายได้ไม่ชัดเท่าไหร่ “นี่เหรอ ไร่ชาเหมือนกันนี่แหละแต่ไม่ได้เน้นชาเป็นพิเศษเท่าไร่เรา ทำหลายอย่างข้างในสวยนะเคยเข้าไปตอนเด็ก ๆ ตามคุณลุงไปทำอะไรไม่รู้จำไม่ได้เหมือนกัน” “อ้อ~” ฉันพยักหน้ารับแล้วมองไปที่ป้ายชื่อขนาดใหญ่ของไร่ ...สวยเหรอ เดี๋ยวต้องหาโอกาสเข้าไปดูไร่นี้สักครั้งแล้วล่ะค่ะ อยากรู้เหมือนกันว่าจะสวยอย่างที่เขาบอกไหม ^^ รถขับผ่านไร่นั้นได้ไม่กี่ร้อยเมตรก็เลี้ยวเข้าจุดมุ่งหมายของเรา ไร่สิริภัคดิ์ ไร่ชาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยแล้วก็มีโรงแรมที่สวยอลังกาลมาก ๆ อยู่ในนี้ด้วย ที่ที่ฉันต้องฝึกงานและใช้ชีวิตที่นี่ไปอีกสี่เดือน “สวัสดีค่ะคุณเอย” “สวัสดีค่ะคุณมิลิน” พอลงรถหน้าส่วนที่ยัยเอยบอกว่าเป็นออฟฟิตก็มีผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยมาก ๆ มาต้อนรับ ใส่ชุดทำงานแสดงว่าเป็นพนักงานที่นี่สินะ เห็นยัยเอยไหว้ฉันก็ไหว้ด้วย “นี่มิ้งค์เพื่อนเอยที่จะมาฝึกงานด้วยกันค่ะ” “ค่ะ ยินดีต้อนรับนะจ้ะ คุณเอยกับเพื่อนไปพักผ่อนที่บ้านดีกว่านะคะวันนี้ยังไม่ต้องรายงานตัว” “พี่แทนล่ะคะ” “ไปธุระค่ะ” “อ้อ ค่ะ ถ้างั้นเอยไปบ้านเลยดีกว่า ไปกันแก” ยัยเอยพยักหน้ารับแล้วก็หันมาชวนฉันจากนั้นเพื่อนฉันก็ขึ้นรถเลยส่วนฉันก็งง ๆ แต่แว๊บหนึ่งฉันเห็นผู้หญิงคนนี้แอบทำหน้าไม่สบอารมณ์ไล่หลังยัยเอยนะ “แก” พอรถปิดสนิทฉันก็สะกิดเพื่อนรักทันที “ฉันรู้นะว่าแกจะถามอะไร” “ฮ่า ๆๆ นี่สิเพื่อนรัก แค่มองตาก็รู้ว่าจะนินทาใคร” “เดี๋ยวเถอะยัยมิ้งค์นี่ ไม่ได้จะนินทาสักหน่อย เมื่อกี้คุณมิลินเป็นผู้จัดการทั่วไปของที่นี่” “อ้อเป็นผู้จัดการนี่เองไม่น่าล่ะจัดการให้เสร็จสรรพเลย” ตอนที่เห็นแว็บแรกก็ว่าสวยนะคะแต่พูดออกมาไม่กี่ประโยคก็รู้เลยว่ายัยเจ้นั่นฤทธิ์เยอะแน่นอน แล้ว! ที่สำคัญ! สิ่งที่ฉันรู้สึกไม่เข้าตาที่สุดคือการที่น้องสาวของเจ้าของไร่ถามหาพี่ชายแล้วเจ้แกตอบว่า ไปธุระค่ะ ฮัลโหล~ ไม่ได้จะเบ่งนะแต่ยัยเอยเป็นหลานสาวของเมียประธานบริษัทนะเว้ยเฮ้ย! บอกตรง ๆ นะคะว่าคำตอบของยัยเจ้นั่นทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองพบเจอคนหวงก้างแล้วหนึ่ง ท่าทางพี่ชายเพื่อนจะฮอตแล้วก็เป็นที่หมายปองของสาว ๆ ในไร่เอาเรื่องเหมือนกันนะเนี่ย แล้วเด็กฝึกงานสวย ๆ อย่างมิ้งค์ที่อยู่บ้านเดียวกันกับคุณแทนคุณจะโดนเพ่งเล็งจากสาว ๆ มากแค่ไหนกันนะไม่อยากจะคิดเลย -_-! “เสียดายเนอะเลยไม่ได้แนะนำให้ว่าที่พี่สะใภ้เจอพี่ชายเลย” “หืม~ เรียกซะ เดี๋ยวเจ้มิลินอะไรนั่นก็มาแหกอกเพื่อนหรอก” “ฮ่า ๆๆ ไม่ใช่แค่คุณมิลินหรอกที่จะแหกอกแกแกเชื่อฉันสิ” “ฉันก็ว่างั้นเพราะฉะนั้นมิ้งค์ขอบายจ้ะเพื่อนรัก” “อย่าเพิ่งพูดแบบนี้รอเจอพี่แทนก่อนสิ” “ฉันไม่ได้คลั่งคนหล่อนะแก ฉันคลั่งคนดีจ้ะคนสวย” “พี่ชายฉันก็ดีไง” “เชียร์เก่งจัง เป็นไรเนี่ยพี่ชายแกหล่อมากจนหาแฟนไม่ได้รึยังไง” “เปล่า~ แค่เห็นแกสวยเลยอยากได้มาเป็นพี่สะใภ้ อิอิ” “ฮ่า ๆๆ เจ้มิลินนั่นก็สวยไม่เชียร์เหรอจ้ะ” “ไม่เอาอ่ะ ละไว้ในฐานที่เข้าใจเนอะ เจอหน้าไม่กี่ครั้งก็รู้แล้วว่าเป็นยังไง” ขวัญเอยยิ้มแห้งฉันเลยขำเบา ๆ จากนั้นรถก็พาเราไปหยุดที่บ้านหลังใหญ่ที่...สวยมาก~ อ้อ! ไร่ก็สวยนะคะ โคตรสวยเลย สวยมาก ๆ เหมือนอยู่ในวิมานไม่มีผิดคิดไม่ผิดเลยที่มาฝึกงานที่นี่ เราสองคนเข้าไปในบ้านแม่บ้านก็พาฉันไปที่ห้องพัก ห้องสวยค่ะแต่เปิดไปที่ระเบียงสวยมากกว่าเพราะเห็นวิวที่มองไปเห็นไร่ตรงหน้าได้ชัดเจน บ้านอยู่บนเนินเขานี่สวยจริง ๆ เลยนะ อิจฉาเจ้าของบ้านจังที่มีบ้านสวยขนาดนี้ส่วนฉันคงได้แค่ฝัน สิบปีคงไม่มีแม้แต่ปัญญาจะซื้อที่ตรงตีนเขา แหะ ๆๆ “อยู่ตรงไหนนะ” ฉันพึมพำออกมาคนเดียวตรงริมระเบียงหลังจากที่ยืนกวาดสายตามองวิวตรงหน้าแล้วหาอะไรบางอย่าง “ตรงนั้นรึเปล่า” น่าจะใช่รึเปล่านะเพิ่งมาถึงเลยยังไม่ค่อยรู้ทิศรู้ทางเท่าไหร่ แต่ไม่เป็นไรหรอกมิ้งค์อีกสักพักเดี๋ยวก็รู้เอง ฉันนอนพักผ่อนเพราะเพิ่งมาถึงไม่ได้มีอะไรให้ทำจนถึงช่วงบ่ายคล้อยเลยออกมาเดินเล่นส่วนยัยเอยน่าจะนอนอยู่นะคะเลยไม่ได้กวนเพื่อน “สวยจัง” ฉันเดินเล่นมาเรื่อย ๆ ออกจากตัวบ้านเดินลัดเลาะมาตามเนินเขาด้านหลังแล้วมองวิวที่หาซื้อไม่ได้ ธรรมชาตินี่สวยมากเลยเนอะมองตอนไหนก็เพลินตาไปหมด “คิดถึงมากเลยค่ะ” “...” หือ ใครคุยโทรศัพท์กับแฟนแถวนี้? “เมื่อเช้าก็เจอกันแล้วไง” อ้าว! ไม่ใช่เสียงคุยโทรศัพท์นี่คะมีเสียงผู้ชายด้วย “แต่มันไม่เหมือนกันนี่คะ” “เหมือนกันนั่นแหละ” “คุณจะไปรู้อะไร แล้วนี่ยังไงคะไปที่บ้านไม่ได้เลยเหรอ” “ไม่ได้ วันนี้ไม่ได้อยู่คนเดียว” “ก็แค่น้องสาวรึเปล่า พี่ชายจะพาผู้หญิงเข้าบ้านก็ไม่เห็นเป็นอะไรสักหน่อย” ฉันไม่ได้แอบฟังนะคะแต่บังเอิญว่าสองคนนี้คุยกันเข้าหูฉันเอง “บอกว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้อย่าเซ้าซี้” เสียงผู้ชายเริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมาฉันว่าฉันพาตัวเองไปจากตรงนี้ดีกว่ามันดูเสียมารยาทยังไงก็ไม่รู้ ฉันรีบขยับตัวมองซ้ายมองขวาหาทางที่จะเดินไปต่อให้พ้นจากตรงนี้ทันที “อย่าเข้าใจผิดสิคะไม่ได้เซ้าซี้ซะหน่อย ไม่เอาค่ะไม่อารมณ์เสียนะทำงานมาเหนื่อย ๆ อุตส่าห์มาเจอกันตรงนี้ทั้งที มาค่ะเดี๋ยวทำให้หายเหนื่อยดีกว่า~” ทำไมผู้หญิงต้องทำเสียงเซ็กซี่ด้วย ที่นี่มีคนงานในไร่มาพลอดรักกันแบบนี้บ่อย ๆ รึเปล่าเนี่ยไม่อายเจ้าป่าเจ้าเขาก็ช่วยเกรงใจเจ้าของไร่ไม่ได้รึ...ไง แกร็บ~ ขวับ! “ว้าย!” “เอ่อ...” “เธอเป็นใคร!” “คือ...สวัสดีค่ะพี่แทน” “ใครเป็นพี่เธอ? ลงไปก่อน” เขาถามฉันเสียงไม่สบอารมณ์แต่ยังไม่ได้คำตอบจากฉันก็หันไปบอกผู้หญิงคนนั้นที่ฉันจำได้ว่าคือยัยเจ้มิลินให้ลงไปจากการนั่งคร่อมตักเขา “มาทำอะไรของเธอ คิดว่าจะเดินเล่นตรงไหนก็ได้รึไง” ยัยเจ้มิลินขยับตัวลงพร้อมกับต่อว่าฉันด้วยเสียงที่เหวี่ยงมาก อารมณ์เหมือนเจ้านายด่าลูกน้องไม่มีผิด แต่ก็คงจะอย่างนั้นไม่แปลกใจแล้วล่ะว่าทำไมถึงกล้าสั่งให้ยัยเอยไปพักที่บ้านแล้วตอบคำถามของยัยเอยแบบเมื่อกลางวันก็เพราะว่ายัยเจ้นี่ท่าทางจะเป็นว่าที่แม่เลี้ยงของไร่สิริภัคดิ์นี่ไง “ขอโทษค่ะ” ฉันได้แต่ก้มหน้าหลบสายตาแล้วขอโทษนี่ล่ะ ถึงจะเป็นเพื่อนของยัยเอยแต่จะไปมีเพาเวอร์สู้แฟนเจ้าของไร่ได้ยังไงจริงไหมคะ เป็นทั้งผู้จัดการเป็นทั้งแฟนเจ้าของไร่ กินรวบหมดเลยโชคดีเป็นบ้า “ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร” เสียงเจ้าของที่นี่ถามขึ้นฉันก็ยิ่งก้มหน้า หล่อเกินคำว่าหล่อจริง ๆ นั่นแหละแต่น้ำเสียงไม่น่าสบตาคนหล่ออย่างเขาเลย “เพื่อนคุณขวัญเอยที่จะมาฝึกงานที่นี่ไงคะ เด็กเส้นของท่านประธาน” ฉันแค่เด็กติดสอยห้อยตามเถอะไม่ได้เป็นเด็กเส้นอย่ามาแอบแขวะ! “ไปก่อนไป” “...” “ไปสิ” เสียงแข็งจากยัยเจ้นั่นพูดออกมาเหมือนฉันฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องทำให้ฉันได้แต่ก้าวขาแล้วเก็บความโกรธไว้ในใจ นี่สินะชีวิตจริงของการเป็นผู้ใหญ่ ชีวิตของการเป็นผู้น้อย! “ขอผมคุยกับเด็กคนนี้แบบส่วนตัว” ฉันก้าวขาได้ขาเดียวเสียงเขาก็พูดขึ้นทำเอาฉันแทบหลุดขำ นี่เขาบอกให้ยัยเจ้มิลินแฟนเขาไปหรอกเหรอ ฮ่า ๆๆ แอบสะใจมากเหมือนกันนะที่ยัยเจ้นั่นหน้าแตก “คะ?” นี่ยังต้องทำหน้างงอีกเหรอคะเจ้ขา~ “คุณกลับบ้านพักได้แล้ว” “แต่...ก็ได้ค่ะ พรุ่งนี้เจอกันนะคะ” ยัยเจ้มิลินอะไรนี่พูดจบก็เขย่งปลายเท้าทำท่าจะหอมแก้มแฟนเพื่อประกาศความเป็นเจ้าของแต่อีกฝ่ายมองหน้าเธอนิ่ง สายตาเย็นชาพอสมควรทำให้อีกคนชะงัก ยัยเจ้มิลินหน้าเสียแต่สุดท้ายก็ยิ้มให้เขาแล้วไม่วายหันมามองจิกฉันแล้วเดินไปทางที่ฉันเพิ่งเดินมาพอยัยเจ้นั่นเดินห่างไปไกลฉันก็รีบปรับสีหน้าให้ดีขึ้นแล้วยกมือไหว้เจ้าของที่นี่ให้เป็นทางการ “สวัสดีค่ะ หนูชื่อมิ้งค์ค่ะเป็นเพื่อนของยัย... / ห้ามบอกเอยเด็ดขาด” “คะ?” ยังพูดไม่จบเลยมือก็ยกไหว้ค้างอยู่เลยเนี่ยแต่เขาก็พูดแทรกซะก่อน น้ำเสียงเต็มไปด้วยคำสั่งแกมข่มขู่ทำฉันใจไม่ดีขึ้นมา First Impression ของฉันกับเขาโคตรแย่เลยสินะ -_-! “ห้ามบอกเรื่องที่เธอเห็นให้เอยรู้เด็ดขาดไม่งั้นเธอฝึกงานไม่ผ่านแน่นอน” เขาไม่เป็นมิตรกับฉันเลย เพราะอะไรแค่เพราะฉันบังเอิญมาเห็นเขากำลังจะพลอดรักกับแฟนของเขาเนี่ยนะ? แฟน รึเปล่านะ? ไม่หรอกไม่ใช่แน่นอน อาการแบบนี้แอบแซ่บกันชัวร์ “หนู...มิ้งค์ไม่เอาเรื่องใครไปพูดหรอกค่ะโดยเฉพาะเรื่องส่วนตัว” “ก็ดี อย่าให้รู้ว่าเอยรู้เรื่องนี้ก็แล้วกัน” เขาทิ้งท้ายไว้แค่นี้แล้วเดินผ่านหน้าฉันไปอีกทางทิ้งไว้แค่ฉันที่ยืนงงเป็นไก่ตาแตก ก็เห็นยัยเอยเชียร์ฉันอยู่นะ คุยเรื่องพี่ชายก็คุยปกติไม่เห็นจะมีท่าทางเหมือนน้องสาวที่หวงไม่อยากให้พี่ชายมีแฟนเลยแล้วจะต้องกลัวยัยเอยรู้เรื่องนี้จนถึงขั้นขู่จะให้ฉันฝึกงานไม่ผ่านเลยเหรอ? ไม่เวิร์คว่ะมิ้งค์ การฝึกงานที่นี่แม่งไม่เวิร์คแน่ ๆ เพราะมาวันแรกแกก็ไม่เข้าตาคนที่มีอำนาจในนี้ซะแล้วทั้งยัยผู้จัดการตัวร้ายกับเจ้าของไร่หน้าหล่อ “เฮ้อ! เจ้าป่าเจ้าเขาเจ้าที่เจ้าทางเจ้าขา หนูแค่ตั้งใจมาฝึกงานแล้วก็มาดูแลเพื่อนของหนูเท่านั้นหนูไม่ได้มีเจตนาจะมารับรู้เรื่องส่วนตัวของใคร ขอให้การฝึกงานของหนูผ่านไปอย่างราบรื่นด้วยเถอะนะคะ หนูมาไกลหนูไม่มีที่พึ่งทางไหนเลยได้โปรดเมตตาหนูด้วยนะคะ” #MING END #TANKUN TALK “เฮ้อ! เจ้าป่าเจ้าเขาเจ้าที่เจ้าทางเจ้าขา หนูแค่ตั้งใจมาฝึกงานแล้วก็มาดูแลเพื่อนของหนูเท่านั้นหนูไม่ได้มีเจตนาจะมารับรู้เรื่องส่วนตัวของใคร ขอให้การฝึกงานของหนูผ่านไปอย่างราบรื่นด้วยเถอะนะคะ หนูมาไกลหนูไม่มีที่พึ่งทางไหนเลยได้โปรดเมตตาหนูด้วยนะคะ” ...ประสาท ผมไม่ได้จะแอบฟังเด็กคนนี้ยกมือไหว้สวดมนต์ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรอกแต่ผมแค่บังเอิญได้ยินเพราะเด็กคนนี้เปล่งเสียงพูดออกมาเองต่างหาก โคตรบ้าเลยว่ะแต่เห็นแบบนี้ก็อดขำไม่ได้ ไม่ได้ตั้งใจอยู่รอหรอกครับแค่เมื่อกี้เดินไปอีกทางแล้วกลัวว่ามิลินจะแอบดักรอขู่อะไรเธอเพราะผมพอจะรู้นิสัยของผู้จัดการของที่นี่ก็เลยเดินย้อนกลับมา ว่าจะเดินนำไปก่อนไปดูให้แน่ใจว่ามิลินไปแล้วแค่นั้นเอง ผมหยุดยืนมองท่าทางของเด็กคนนี้แล้วก็เผลอยิ้มขำแต่แทนที่จะกลับบ้านเธอกลับนั่งลงตรงม้านั่งที่มิลินเพิ่งนั่งคร่อมผมแล้วมองดูวิวจากภูเขาตรงหน้า “คิดถึงแม่มากเลยค่ะ อยากให้มาด้วยจัง” ยัยเด็กนี่ชอบพูดคนเดียวเหรอวะ? มันก็ไม่แปลกที่คนเราจะคุยกับตัวเองแต่ยัยนี่แม่งเล่นพูดออกมาเลยมันก็เลยแปลกกว่าคนปกติทั่วไปที่เขาจะคุยกับตัวเองในใจ “แต่ดีแล้วค่ะที่แม่ไม่ได้มาด้วย เพราะถ้าแม่มาด้วยแล้วมาเห็นภาพบัดสีแบบเมื่อกี้แม่เป็นลมแน่เลย” ??? นี่ผมโดนแอบเหน็บสินะ หึ ๆๆ ท่าทางจะแสบไม่ใช่เล่นแล้วล่ะเพื่อนขวัญเอยคนนี้ ผมปล่อยให้เธอนั่งเล่นต่อแล้วก็เดินอ้อมไปอีกหน่อยจากนั้นก็เดินกลับบ้าน ระหว่างที่เดินกลับก็โทรหามิลินเพื่อเช็คถึงได้แน่ใจว่าเธอถึงบ้านพักของเธอแล้ว “ไงคะพี่แทน” กำลังจะเดินเข้าบ้านก็เห็นคนคนหนึ่ง คนที่อยู่ในใจผมตลอดมาเดินมาทักทายพอดี “ไงเรา เดินทางเหนื่อยไหม” “นั่งเครื่องชั่วโมงเดียวคิดว่าจะเหนื่อยไหมคะ” ขวัญเอยแกล้งถามผมเลยได้แค่ยิ้มก่อนจะมองที่หน้าท้องของเธอที่ตอนนี้เริ่มนูนขึ้นมานิดหน่อย “รู้ว่านั่งเครื่องแป๊บเดียวแต่ห่วงหลานของลุงไง” ผมพูดจริง ๆ ผมเป็นห่วงหลานในท้อง ตอนที่รู้ว่าขวัญเอยท้องผมทั้งช็อคทั้งเสียใจมากแต่พอเวลาผ่านไปสักพักก็เริ่มทำใจได้ ก็จะให้ทำใจยังไงในเมื่ออีกคนไม่คิดที่จะกลับมาผมก็คงทำได้แค่ทำใจต่อให้ไม่อยากทำเลยก็ตามแล้วจากนี้ไปก็คงทำหน้าที่พี่ชายคิดไม่ซื่อคอยดูแลเธอกับหลานให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ “ขอบคุณนะคะแต่ไม่ต้องห่วงเลยหลานคุณลุงแทนแข็งแรงดีค่ะ” “หึ ๆๆ เก่งทั้งแม่ทั้งลูกนั่นแหละ โทษทีนะที่พี่ไม่ได้ไปรับวันนี้มีประชุมด่วนน่ะ” “ไม่เป็นไรค่ะแต่จะว่าไปก็เป็นนั่นล่ะค่ะ” ขวัญเอยพูดแล้วแอบทำหน้าเซ็งนิดหน่อย “เป็นอะไร มีอะไรเหรอ” “ก็พี่แทนพลาดการไปรับคนสวยน่ะสิคะ เซ็งมาก ๆ น่าจะได้เจอกันตั้งแต่แรกที่มาถึง” “เราหมายถึงเพื่อนเรา?” ผมถามตรง ๆ ขวัญเอยก็ยิ้มจนตาหยีแล้วพยักหน้า “ใช่ค่ะ เอยเซ็งมากที่พี่แทนไม่ได้ไปรับเพราะอะไรรู้ไหมคะ เพราะว่าเพื่อนเอยสวยมาก~ รับรองว่าถ้าเห็นแล้วพี่แทนต้องอยากจองมาเป็นพี่สะใภ้เอยแน่นอน” “หึ ๆๆ พูดอย่างกับพี่เจอคนสวยแล้วต้องอยากได้มาเป็นเมียทันที” ผมหัวเราะส่ายหน้าเบา ๆ แต่ก็สวยมากอย่างที่ขวัญเอยบอกนั่นแหละผมไม่เถียงหรอก “รู้ค่ะว่าเจอคนสวยมาเยอะแต่เพื่อนเอยมีมากกว่าความสวยนะคะ ทั้งสวยแล้วก็น่ารักที่สำคัญนิสัยดีมาก ๆ เลยนะ” “อื้ม” ผมพยักหน้ารับแล้วก็ยิ้ม สงสัยจะนิสัยดีจริง ๆ ล่ะมั้งเพิ่งพูดคนเดียวแล้วแอบเหน็บผมอยู่เลย “ไม่เชื่อเหรอคะ” “คนเรามีหลายมุมอยู่ที่ว่าอยู่กับใคร อยู่กับเราอาจจะเป็นเพื่อนที่ดีแต่ถ้าอยู่กับคนอื่นอาจจะไม่ดีก็ได้” “อะไรคะทำไมพูดแบบนี้ล่ะ ไม่ชอบเพื่อนเอยรึเปล่าเนี่ย” “เปล่า พี่แค่พูดไปงั้นไม่ได้ไม่ชอบอะไรสักหน่อยคนยังไม่เจอกันจะไม่ชอบได้ยังไง พี่แค่จะบอกว่าเรื่องนิสัยมันต้องดูเอง จะให้เชื่อคำพูดคนอื่นเลยมันก็ไม่ได้จริงไหมล่ะ” “ก็จริงค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงค่ะเพราะเดี๋ยวพี่แทนก็เชื่อคำพูดเอยเพราะเพื่อนเอยเป็นอย่างที่เอยอวยทุกอย่าง นั่นไงมาแล้ว ค่อย ๆ หันไปมองนะคะแล้วอย่าตะลึงในความสวยล่ะ อิอิ” หึ ๆๆ ตลกขวัญเอยว่ะแต่ผมก็ทำตามนะครับ หันไปมองเด็กคนนั้นที่กำลังเดินกลับมาที่บ้านแต่ก็ไม่ได้ตะลึงหรอกจะตะลึงได้ยังไงในเมื่อเพิ่งคุยกันได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เธอสวยมากอย่างที่ขวัญเอยบอกแต่ชื่ออะไรผมจำไม่ได้แล้วตอนนั้นมัวแต่โมโหที่มีคนไปเห็นแล้วก็กลัวว่าเรื่องจะถึงหูขวัญเอยผมเลยลืมสนใจความสวยกับชื่อของเธอไปเลย “เป็นไงคะ สวยใช่ไหมล้า~” เสียงสดใสจากคนข้างหลังทำให้ผมยิ้ม ดีนะที่ขวัญเอยยืนอยู่ข้างหลังเลยไม่เห็นหน้าผมไม่งั้นเธอคงผิดหวังน่าดูที่ผมไม่ตะลึงอย่างที่เธอคิด “อื้ม” “อะไรอ่ะ ตอบแค่นี้เองเหรอพี่แทน” “ก็สวยไงจะให้พูดอะไรล่ะ” ผมหันกลับมามองขวัญเอยส่วนเด็กคนนั้นเมื่อกี้ก็ทำหน้าลำบากใจนิดหน่อยตอนที่เห็นหน้าผม “ชิส์! มิ้งค์จ๋า~ มานี่เร็วมารู้จักคุณแทนคุณพี่ชายเพื่อนเลย~” ขวัญเอยเรียกเพื่อนของเธอด้วยท่าทางตื่นเต้น นี่คงอยากจับคู่ให้ผมกับเพื่อนรักของตัวเองสินะ หึ ๆๆ ความหวังที่มีแค่ริบหรี่ในใจไอ้แทนดับมอดลงไปแล้วล่ะครับ “สวัสดีค่ะ” ยัยเด็กคนนี้เดินเข้ามาแล้วยกมือไหว้ผมอีกครั้ง ก็ดีที่ทำเหมือนเราเพิ่งเจอกันไม่งั้นขวัญเอยถามต่อแน่ว่าเจอกันเมื่อไหร่แล้วคุยอะไรกันบ้าง บอกตรง ๆ ว่าไม่อยากโกหกคนท้อง “ครับ” ผมยกมือรับไหว้ทำให้คนที่ไหว้ผมเผลอทำหน้ากระอักกระอ่วนใจออกมา อ่าส์! ฉันก็ไม่อยากแกล้งทำเป็นมีมารยาททั้งที่เพิ่งขู่เธอไปเมื่อกี้เหมือนกันนั่นล่ะวะ “พี่แทนคะนี่มิ้งค์คนสวยของเอยเองค่ะ ดูแลดี ๆ นะคะไม่งั้นร้องไห้กลับบ้านตั้งแต่ยังฝึกงานไม่เสร็จแน่เลย” “ครับ ตามสบายนะที่นี่อยู่กันเหมือนพี่น้องอยู่กันแบบครอบครัวไม่ต้องเกร็ง ทำตัวตามสบายเหมือนอยู่บ้านตัวเองได้เลย” “...ค่ะ ขอบคุณนะคะคุณแทนคุณ” “แก~ ไม่ได้อยู่ที่ออฟฟิตเรียกธรรมดาก็ได้คุณเคินอะไร” “ไม่ดีกว่าแกเดี๋ยวไม่ชินขอเรียกแบบนี้ดีกว่า” “แต่... / อย่าบังคับเพื่อนเลยเอยเอาตามที่เพื่อนสะดวกดีกว่า หิวรึยังแม่บ้านน่าจะทำอาหารเสร็จแล้วมั้ง” ผมก็ไม่อยากให้เด็กคนนี้เรียกผมว่าพี่เหมือนกัน ไม่รู้ว่ะ ไม่ใช่ไม่ชอบหน้าแต่ไม่อยากให้เรียกเฉย ๆ หรือถ้าจะเรียกก็คงไม่ใช่ตอนนี้แน่นอน “โอเคค่ะถ้างั้นไปกินข้าวกันดีกว่าเอยก็เริ่มหิวแล้ว ไปกันแกแม่ครัวที่นี่ทำอาหารเหนืออร่อยมาก~” ขวัญเอยเดินผ่านผมไปเกาะแขนเพื่อนแล้วพาเพื่อนของเธอเดินเข้าไปในบ้านพร้อมกับโม้เรื่องอาหารไปด้วย ผมได้แต่ยืนมองผู้หญิงสองคนที่จะมาอยู่ด้วยอีกหลายเดือน สวยเหมือนกันทั้งคู่แต่นิสัยจะเหมือนกันไหมผมไม่รู้หรอก แต่ต่อให้เหมือนก็ไม่มีทางมีใครมาแทนที่เธอได้เพราะขวัญเอยก็คือขวัญเอย #TANKUN END #MING TALK ...ตามสบายนะที่นี่อยู่กันเหมือนพี่น้องอยู่กันแบบครอบครัวไม่ต้องเกร็ง ครอบครัวแบบไหนเหรอ ครอบครัวเลือดข้นคนจางเหรอ? ใช่แน่นอนเพราะดูจากยัยเจ้มิลินของเขาแล้วก็น่าจะเป็นแบบนั้นจริง ๆ ...ทำตัวตามสบายเหมือนอยู่บ้านตัวเองได้เลย ใครจะไปทำตัวตามสบายได้ถามจริงในเมื่อเจ้าของบ้านเพิ่งขู่คนที่มาขออาศัยไปหยก ๆ ที่พูดเมื่อกี้แค่เอาใจน้องสาวตัวเองเท่านั้นแหละ ท่าทางอีตาแทนคุณอะไรนี่จะเกรงใจน้องสาวตัวเองมากน่าดู เฮ้อ! ท่าไม่ดีตั้งแต่วันแรกแต่ก็ทนหน่อยนะมิ้งค์เอ้ยมาถึงขนาดนี้แล้ว อย่างน้อยยัยเอยก็น่าจะคุ้มกะลาหัวแกได้บ้างไม่มากก็น้อยล่ะวะ “แก” ฉันบอกเพื่อนดีไหมนะ “ว่า~” เห็นเพื่อนมีความสุขฉันก็ไม่กล้าพูดอะไรเลยค่ะ ฉันรู้นะว่ายัยเอยชอบไปแอบร้องไห้เวลาอยู่คนเดียวเพราะฉะนั้นเรื่องที่อึดอัดใจเก็บไว้ก่อนก็ได้มั้งมิ้งค์ อย่างน้อยก็ช่วยให้คนท้องมีสุขภาพจิตดีตอนที่อยู่กับแกเถอะนะ “ไม่มีอะไรแค่จะบอกว่าหิว” “อ้อ ถ้างั้นรีบมาเลยจ้ะมิ้งค์เดี๋ยวเพื่อนพาไปกิน” ขวัญเอยลากฉันให้เดินเร็วกว่าเดิมจนต้องห้ามให้เดินช้าลงเผื่อเพื่อนลืมว่าตัวเองท้องอยู่ พอมาถึงโต๊ะอาหารเจ้าของบ้านก็เดินตามมาฉันถูกจัดให้นั่งตรงข้ามยัยเอย แน่นอนว่าเจ้าของบ้านนั่งหัวโต๊ะและใช่ค่ะฉันกับยัยเอยนั่งขนาบเขาซ้ายขวา เกร็งเป็นบ้าเลยอาหารที่จัดไว้บนโต๊ะน่ากินแต่ไม่รู้ว่าตัวเองจะกล้ากินเยอะรึเปล่า “น่ากินมาก~ อาหารของที่นี่เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้เอยเลือกมาฝึกงานที่นี่เลยนะคะ” “หึ ๆๆ ถ้างั้นก็กินเยอะ ๆ ทั้งคุณแม่แล้วก็คุณลูกล่ะ” “ค่า~” ฉันนั่งฟังสองพี่น้องที่ไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือดแต่ดูสนิทสนมกันดีแล้วก็เกร็งไปอีกเพราะรู้สึกเหมือนตัวเองจมหายไปจากโต๊ะอาหารในชั่วขณะหนึ่ง ชิส์! คนก็อุตส่าห์คิดว่ามาแล้วจะต้อนรับกันแบบน้องนุ่งที่ไหนได้ไม่ใกล้เคียงเลยสักนิด ก็อุตส่าห์จะฝากตัวเป็นน้องสาวเพราะเห็นเป็นพี่ชายของเพื่อนรักแต่บอกตรง ๆ นะคะตอนนี้ในสายตาฉันเขาเป็นแค่เจ้าของบริษัทที่ฉันมาฝึกงานแล้วฉันก็ต้องวางตัวให้นอบน้อมที่สุดก็เท่านั้น ถ้าคลานเข่าเป็นทาสในเรือนเบี้ยได้ก็คงทำไปแล้ว -เวลาต่อมา- “มาทำอะไรทำไมไม่เข้านอน” “อุ้ย!” ฉันสะดุ้งแล้วรีบหันไปตามเสียงที่ดังมาจากข้างหลัง “ว่าไงทำไมไม่เข้านอน” เสียงเจ้าของบ้านโคตรดุเลย นี่เพิ่งสี่ทุ่มเองนะจะรีบไล่ไปนอนถึงไหน “พอดีเห็นตรงนี้วิวดีค่ะเลยออกมานั่งเล่น” “นี่ไม่ใช่เวลามานั่งเล่น” ฉันพยายามจะสร้างมิตรภาพเพื่อให้ตัวเองอยู่ที่นี่ได้อย่างไม่ยากลำบากแต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่ชอบเท่าไหร่ -_-! “...ทราบค่ะ” “ขึ้นนอนซะแล้วคราวหลังอย่าทำอะไรตามใจตัวเองอยากออกไปไหนทำอะไรก็ทำแบบนี้อีก มันไม่ใช่บ้านของเธอ” โห~ อาการออกขนาดนี้ทำไมไม่ให้ฉันไปนอนบ้านพักคนงานล่ะยะไปได้นะแบบนั้นน่าจะสบายใจกว่า “ค่ะ!” ฉันรับคำแล้วเดินหนีเขาทันที เผลอแสดงกิริยาไม่เหมาะสมใส่เขาด้วยนะ ฉันกระแทกเสียงใส่แล้วสะบัดหน้าหันหลังให้เขาทันที “เหอะ! กลัวฉันจะไปเห็นว่าแอบพลอดรักกับผู้จัดการอีกรึไงยะ!”

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

เด็กป๋ามาเฟีย

82.0K·Naya Solene

เพราะคิดว่าพ่อต้องไปทำงานเธอเลยต้องมาอยู่กับตาลุงหน้าโหดแถมขี้เก๊กคนนี้ ลัวร์ มาเฟียหนุ่มน่าเกรงขาม อายุ 33 ปี มาดเข้ม ดุดัน และไม่กลัวใคร ทว่าความโหดร้ายถูกทำลายไปจนสิ้นเมื่อเขาต้องมาสะพายกระเป๋าลายคิตตี้ให้เด็กไม่ยอมโตอย่างเธอ "อายุ20ละนะ ยังสะพายกระเป๋าแบบนี้อยู่อีก!" หนูดี เด็กสาววัยแรกแย้ม อายุ 20 ปี นิสัยน่ารัก ขี้เล่น มองโลกในแง่ดีเสมอ ยกเว้นกับคุณลุงหน้าโหดคนนี้ "ก็มันน่ารักดี เหมาะสมกับหนู"

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

เล่ห์รักภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่)

48.0K·yochita-uri

“น้องไวน์! มาพอดีเลยลูก ยายกำลังจะเอาช็อกโกแลตไปให้” กังศมาในวัย 65 ปี เจ้าของสวนส้มไปรยาเวศ ส่งยิ้มหวานไปให้เด็กสาวที่รักและเอ็นดูประหนึ่งลูกหลานแท้ๆ “ว้าว! ไวน์รักคุณมาร์ที่สุดเลยค่ะ” วรันยายิ้มอย่างดีใจเตรียมจะเดินเข้าไปหา แต่ร่างสูงที่เดินตามออกมาก็ทำให้เธอรีบหยุดชะงักฝีเท้าแทบไม่ทัน “เอ่อ...เอาไว้ไวน์ค่อยมาใหม่นะคะคุณมาร์ สวัสดีค่ะ” สาวเจ้ายกมือไหว้ แล้วหันหลังกลับทันทีอย่างไม่สบอารมณ์ “อะไรกันน้องไวน์? พอเห็นหน้าพี่ก็จะกลับแล้วงั้นเหรอ” ภาคินวัย 25 ปี ที่หน้าตาหล่อเหลาคมคาย สูง 183 ซม. ฉีกยิ้มกว้าง เมื่อเห็นใบหน้างามที่ไม่ได้เจอมาเกือบปี ดูบูดบึ้งขึ้นมานิดๆ “ใช่ค่ะ!” วรันยาตอบโดยไม่หันไปมอง ถึงแม้ว่าภาคินกับภัคคินัยจะหน้าตาเหมือนกันจนแทบจะแยกไม่ออก แต่เธอก็จำได้! เพราะภาคินมีรอยสักที่แขน และมี ขี้แมลงวันเม็ดเล็กๆ ที่ต้นคอ แต่ภัคคินัยไม่มี ส่วนนิสัยก็ต่างกันสุดขั้วราวฟ้ากับดิน เพราะภัคคินัยเป็นคนสุภาพ ใจดีและอบอุ่น แต่ภาคินนิสัย บ้าๆ บอๆ ชอบแกล้งเธอสารพัด ทั้งเปิดกระโปรงดูกางเกงใน แอบหอมแก้มตอนเผลอ แกล้งเป็นผีมาหลอก และอีกเยอะแยะมากมายกับวีรกรรมสุดเพี้ยนที่ทำให้เธอรู้สึกเกลียดจนเข้าไส้ “น้องไวน์” หิรัญ วัย 30 ปี รีบเอ่ยเรียกคนที่มาไม่ถึงสามวิก็จะกลับ “สวัสดีค่ะพี่รัญ พี่นัย” วรันยายกมือไหว้สองหนุ่มที่เดินตามกันมาอย่างดีใจ เตรียมจะวิ่งเข้าไปกอดเหมือนเช่นทุกๆ ครั้ง แต่กลับถูกมือหนาของใครบางคนรั้งแขนไว้ซะก่อน “จะไปไหน?” ภาคินถามด้วยน้ำเสียงตึงๆ พร้อมกับส่งสายตาดุๆ ไปให้คนที่ทำท่าระริกระรี้อย่างไม่พอใจ ‘หึ! ทีเห็นหน้าเราจะกลับบ้าน แต่พอเห็นหน้าพี่รัญกับไอ้นัย ยิ้มซะปากเกือบฉีกแน่ะ’ “ปล่อย!” วรันยาสะบัดแขนออกจากมือหนา แต่อีกฝ่ายกลับบีบแรงขึ้นกว่าเดิมอีกเท่าตัว “เห็นผู้ชายเข้าหน่อยไม่ได้ ผีแรดเข้าสิงร่างเลยนะ” ภาคินต่อว่าอย่างลืมตัว แต่พอเงยหน้าขึ้นมาแล้วเห็นสายตาของทุกคน ก็ทำให้ต้องรีบปล่อยมือออกจากแขนของสาวเจ้า “คนบ้า!” วรันยาถลึงตาใส่ แล้วเดินเข้าไปกอดกังศมาแทนการเข้าไปกอดสองหนุ่ม “ก็เพราะปากแบบนี้ไงน้องถึงได้เกลียด” หิรัญส่ายหน้าอย่างรู้สึกเหนื่อยใจ ‘ทีกับสาวๆ คนอื่นทำเป็นปากหวาน ทีกับน้องไวน์ทำไมชอบปากเสียใส่จังวะ?’ “ใช่ครับ” คนที่อ้าแขนรอเก้อ เอ่ยสมทบตามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด “ขอโทษน้องเดี๋ยวนี้นะคิน” กังศมาสั่งหลานชายที่ชอบทำตัวเป็นไม้เบื่อไม้เมากับวรันยามาตั้งแต่เด็ก ทั้งชอบแย่งขนมกิน ชอบวิ่งไล่กอดไล่หอมแก้มประหนึ่งคนบ้า ทำเอาเด็กสาวที่มักจะมานอนค้างกับตน ถึงกับผวา! นอนละเมอ กรีดร้องกลางดึกอยู่หลายครั้ง

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)

42.0K·yochita-uri

ช่อเอื้อง...เด็กสาวที่ชีวิตสุดแสนจะอาภัพ ถูกว่าจ้างให้ไปนอนแก้ผ้าอยู่บนเตียงกับชายแปลกหน้า เพื่อแกล้งให้เขาตกใจ แต่ทว่า...เหตุการณ์กลับเลวร้าย! เพราะคนที่ว่าจ้างไม่ยอมโทร. เข้ามาเคลียร์สถานการณ์ และคนถูกแกล้งก็โกรธจน... ไม่ยอมฟังคำแก้ตัวใดๆ ของเธอ --------------------------- “กริ๊ดดดด” ช่อเอื้องกรีดร้องขึ้นอย่างตกใจ เมื่ออีกฝ่ายดึงผ้าห่มที่คลุมเนื้อตัวอันเปลือยเปล่าของเธอและเขาอยู่ โยนทิ้งลงข้างๆ เตียง ทำให้เห็นอะไรบางอย่างเข้าเต็มๆ ตา “จะอายทำไม เธอมาที่นี่เพราะอยากเป็นเมียฉันไม่ใช่เหรอ?” แม่ทัพมองสำรวจเรือนร่างอันแสนจะเย้ายวนอย่างรู้สึกอึ้ง ‘ให้ตายสิ! หน้าตาอย่างกับเด็กมัธยม แต่หุ่นอย่างกับท็อปโมเดล’ “ยะ...อย่าทำอะไรหนูนะ พะ...เพื่อนคุณเขา...” คนที่อ่อนต่อโลก รีบหลับตาลงและยกมือไหว้อย่างหวาดกับขนาดอลังการของผู้ชาย ที่เพิ่งจะเคยจะเป็นครั้งแรก “หึ! แสดงละครเก่งนะเรา” แม่ทัพยกยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะจับข้อมือบางออกให้พ้นทาง แล้วก้มลงจูบริมฝีปากอวบอิ่มของสาวตรงหน้าอย่างให้รางวัลที่อีกฝ่ายแสดงบทเด็กสาวไม่ประสีประสาได้แตกกระจาย

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

อุ้มรักอสูรเถื่อน (ซีรีส์ หลอกเด็ก)

48.0K·yochita-uri

สิบนาทีต่อมา...หลังจากที่เธอถอดเสื้อผ้าของเขาออกจนเหลือแต่กางเกงชั้นในสีขาว ก็รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้า รีบหยิบผ้าชุบน้ำมาเช็ดตามเนื้อตัวที่แสนจะเพอร์เฟกต์ไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นๆ “อืม...จะทำอะไรพี่” คนเมาครางเบาๆ พร้อมกับลืมตาขึ้นมอง “ชะ...เช็ดตัวค่ะ” จีอาน่าบอกเสียงสั่นอย่างรู้สึกอาย “ไม่รักพี่ ก็ไม่ต้องมาทำเป็นห่วงพี่หรอก” จอมพลบอกด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ ก่อนจะเบือนหน้าหนี ‘ชิ! ก็ถ้าไม่ห่วงพี่แล้วจะให้ห่วงหมาที่ไหนล่ะ คนบ้า!’ จีอาน่าต่อว่าในใจ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเช็ดตัวให้อีกฝ่ายต่อ จอมพลกลอกตาที่สาวเจ้าไม่ยอมหยุดจึงพลิกตัวนอนคว่ำหน้า เพราะไม่อยากให้เธอรู้ว่าบางของเขามันกำลังดีดตัวลุกขึ้นมาประกาศศักดาพร้อมรบ จีอาน่าถอนหายใจกับการกระทำของอีกฝ่าย แต่ก็ยังคงเอาผ้าขนหนูเช็ดตามแผ่นหลังกว้างให้ พอเช็ดเสร็จก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป คลิก! ทันทีที่จอมพลได้ยินเสียงประตูห้องนอนปิดลง ก็รีบลุกขึ้นมองอย่างมึนๆ งงๆ “อะไรกันวะ! ง้อเราแค่นี้เนี่ยนะ?” ด้านจีอาน่ากลับเข้ามาในห้องนอนของตัวเองเสร็จ ก็รีบตรงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาที เพราะกลัวว่าหากอาบนานๆ แล้วเกิดไฟดับเหมือนเมื่อคืน คราวนี้เธอคงจะสติแตกจนเป็นบ้าไปเลยแน่ๆ ห้านาทีต่อมา...คนแกล้งเมานอนรออย่างกระสับกระส่ายก็ไม่เห็นสาวเจ้ากลับมาสักที จึงลุกเดินไปที่ประตูเพื่อจะแอบดูว่าสาวเจ้ากำลังทำอะไรอยู่ แต่พอได้ยินเสียงเปิดประตูที่ห้องนอนฝั่งตรงข้าม และเสียงฝีเท้าที่เดินตรงมายังประตูห้องนอนของตน ก็รีบหันหลังกระโดดม้วนตัวบิดเกลียวสามตลบ ประหนึ่งแชมป์นักกีฬากระโดดสูง ทิ้งตัวลงบนเตียงในท่าคว่ำหน้า โดยหลงลืมไปว่าบางอย่างของตนนั้น ผงาดง้ำทำมุม 90 องศามาตั้งแต่ตอนที่สาวเจ้าเช็ดตัวให้ ปลั๊ก! ‘ซี้ดดดดด...หักหรือเปล่าวะ?’ คนลงผิดท่าครางเบาๆ ขณะที่หยดน้ำตาเริ่มเอ่อล้นออกมา ทั้งเจ็บและจุกจนอยากจะลุกไปถลกกางเกงลง แล้วควักของรักของหวงออกมาดูและปลอบใจ จีอาน่าเปิดประตูเข้ามา ก็เห็นอีกฝ่ายนอนนิ่งอยู่ คิดว่าคงจะเมาหลับไปแล้ว จึงดึงผ้าห่มมาคลุมตัวให้ แล้วเดินไปเปิดไฟในห้องน้ำทิ้งไว้ และแง้มประตูให้พอมีแสงไฟสาดส่องเข้ามาในห้องนอนนิดๆ จากนั้นก็ปิดไฟในห้องนอน แล้วขยับขึ้นไปนอนบนเตียงกับหนุ่มขี้งอน พร้อมกับสอดมือเข้าไปกอดเอวหนาของอีกฝ่ายเอาไว้แน่น “อื้อ!” จอมพลครางเสียงขัดใจ ก่อนจะจับข้อมือบางของสาวเจ้าออก “ขอกอดหน่อย” คนขี้กลัวผีอ้อนและขยับตามเข้าไปกอดเช่นเดิม “ไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่ต้องมากอด” จอมพลบอกจุดยืนเสียงแข็ง “เป็นสิ พี่จอมเป็น...เอ่อ...” จีอาน่าเอ่ยค้างไว้อย่างรู้สึกเขินอาย “เป็นอะไร?” จอมพลถามย้ำ ต้องการให้สาวเจ้าระบุสถานะของตนให้ชัดเจน “เป็นคนที่จีอาชอบค่ะ” จีอาน่ากัดฟันง้อหนุ่มขี้งอน “ปล่อย!” คนที่ยังไม่ได้คำตอบที่ใช่ ดึงมือของสาวเจ้าออกจากเอวทันที “พี่จอม!” จีอาน่าเริ่มจะไม่พอใจกับการกระทำของอีกฝ่าย ที่เอาแต่ผลักไสเธอ ทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่ว่าค่ำๆ มืดๆ แบบนี้เธออยู่คนเดียวไม่ได้ “จะกอดพี่ได้ ก็ต้องยอมรับมาก่อนว่าพี่เป็นผัวของจีอา ไม่งั้นก็นอนแยกห้องกันไปเลย” จอมพลยื่นคำขาด “...” จีอาน่าได้ฟังก็ถึงกับสตั๊นไปทันใด ‘สรุป! อีตาบ้านี่เมาจริงๆ หรือว่าแกล้งเมากันแน่เนี่ย? คิดยังไงถึงมาถามคาดคั้นเอาคำตอบกับเธอตอนนี้’ “โอเค! ถ้ามันยากนัก เดี๋ยวพี่จะไปนอนอีกห้องแล้วกัน” คนที่ถือไพ่เหนือกว่า บอกพร้อมกับลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็ว “พี่จอม” จีอาน่ารีบขยับลุกตามเข้าไปกอดเอวของอีกฝ่ายเอาไว้มั่น “สรุปพี่เป็นอะไร?” คนเจ้าเล่ห์ยกยิ้มที่มุมปากขึ้นนิดๆ

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

มาเฟียคลั่งรัก

103.0K·So Nonny

ประธานจบแล้ว

จะหยุดเสือเหยื่อต้องเด็ด

57.0K·ชะนีติดมันส์

"ทำไมเธอถึงไม่กิน" ยาคุมกำเนิดแผงนั้นถูกยิ่งไป ให้คนตัวเล็กตรงหน้าได้เห็นว่าเขาหมายถึงอะไร  "ฉันลืม" "ลืมหรือจงใจที่จะไม่กิน" "คุณไม่ต้องกลัวเรื่องนั้นหรอกค่ะ ถ้าฉันท้องฉันก็ไม่ให้คุณรับผิดชอบหรอก" "เธอ!"  "โอ๊ย" หญิงสาวร้องเจ็บออกมาเบาๆ ตอนที่ถูกเขากระชากตัว "อย่าหาเรื่องใส่ตัว" ชั้นล่างในเวลาต่อมา.. "พี่ใหญ่ยังไม่ให้คำตอบเพื่อนเลยนี่คะ ทั้งเรื่องยาคุมกำเนิดและก็เรื่องนามบัตรของคนที่ชื่อม่านฟ้าอะไรนั่น" พะเพื่อนน้องสาวของพันฤทธิ์ เธอถูกไหว้วานให้ไปเอาของที่บ้านอีกหลัง  นามบัตรของคนที่ชื่อม่านฟ้างั้นเหรอ ส่วนของเราคือยาคุมกำเนิด มันช่างแตกต่างกันเหลือเกิน แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเขาจะเอานามบัตรมาโทรหาผู้หญิงคนนั้น แล้วตอนนี้เธอต้องรู้สึกยังไง..  _____________________ "ร้องไห้ทำไม อย่าร้องเลยนะ"  "ครั้งนี้ฉันจะให้คุณเป็นครั้งสุดท้าย" "ไม่นะวันจันทร์ เราจะกลับปางไม้ด้วยกัน"  "ปล่อยฉันไปเถอะค่ะ ถือว่าทำบุญสักครั้ง ปล่อยนกปล่อยปลาเขายังได้บุญเลย"  "ทำไมถึงพูดแบบนี้" "ถ้าฉันกลับไปก็คงมีแต่ความช้ำใจ เมียเอกเมียรองเมียสาม คุณจะให้ฉันเป็นเมียคนที่เท่าไรล่ะคะ"

พ่อเลี้ยงจบแล้ว

เมียทาสสวาท [Forbidden Love]

37.0K·กันเกรา

พิรุณญาผู้ไม่มีที่พึ่งพา ต้องถูกเพชรกล้ารังแกครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็จำต้องทนเพราะความกตัญญูที่มีต่อพ่อแม่เขา ทว่าความอดทนก็จำต้องหมดไปเมื่อเขาทำลายทุกอย่างที่เธอมีจนพังพินาศลง จึงต้องพาตัวเองหนีจากเขาไปและไม่คิดจะหวนกลับคืนมา --------------------------- “โผล่หัวออกมาแล้วเหรอ! ไม่เห็นรึไงว่าฉันกลับมาแล้ว ทำไมไม่หาเบียร์เย็นๆ มาให้ ฉันเพิ่งจะกลับจากไปทำงานหาเงินมาให้เธอใช้นะ อย่าลืมสิว่าไอ้ที่ได้กินได้ใช้อย่างสบายๆ น่ะมันเป็นเงินของใคร” “เบียร์หมดค่ะ พี่เพ็ญกำลังไปซื้อ รบกวนคุณเพชรรอสักครู่นะคะ” “ฉันไม่รอ! ฉันจะเอาเดี๋ยวนี้ไปหามาให้ฉัน ไม่งั้นได้เห็นดีกันแน่” เพชรกล้าตะคอกใส่หน้าหญิงสาวทันที ขณะเดินเข้าไปหาใกล้ๆ แล้วจ้องมองคนตรงหน้าด้วยสายตาเอาเรื่อง จนพิรุณญาต้องถอยออกห่างไปสองสามก้าว แล้วก็ทำใจดีสู้เสืออธิบายให้เขาฟังอีกครั้ง “อีกหน่อยพี่เพ็ญคงจะมาค่ะ ในตู้เย็นไม่มีเหลือแล้วจริงๆ” “ไม่มีเธอก็ออกไปหาซื้อมาสิ! ฉันบอกแล้วไงว่าไม่รอ น้ำยาคนเป็นแม่บ้านใหญ่อย่างเธอทำได้แค่นี้เองเหรอ หรือจะเก็บแรงเอาไว้ทำอย่างอื่น หรือถ้าคนที่ยืนตรงหน้าเธอไม่ใช่คุณพ่อ เธอก็จะไม่สนใจดูแลอย่างนั้นใช่มั้ย” “คุณพูดอะไรของคุณฉันไม่เข้าใจ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอไปทำงานต่อนะคะ” พิรุณญาเริ่มไม่พอใจในน้ำคำของเขามากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็พยัยามจะหลีกเลี่ยง เพื่อไม่ให้มีปัญหาเหมือนครั้งก่อนอีก เธอจึงหันหลังเดินกลับไปเข้าครัว แต่ก็ยังไม่ทันได้ก้าวไปไหน ก็ถูกเพชรกล้าคว้าแขนเอาไว้ก่อน “ปล่อยนะคุณเพชร!” พิรุณญาพยัยามสบัดแขนออกจากมือเขา แต่ไม่อาจสู้แรงได้ “เธอจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น ถ้าฉันยังคุยธุระไม่เสร็จ เธอนี่มันเป็นผู้หญิงประเภทไหนกันนะ ถึงได้ทำตัวไร้เดียงสาซะเหลือเกิน ไม่รู้จริงๆ เหรอว่าที่ฉันพูดหมายความว่ายังไง อย่ามาเสแสร้งให้ฉันสมเพชเธอมากไปกว่านี้นักเลย เมื่อคืนไปออดอ้อนอะไรพ่อฉันล่ะ วันนี้แจ็คพ็อตถึงได้มาลงที่ฉันได้ ฉันล่ะเกลียดผู้หญิงขี้ฟ้องอย่างเธอจริงๆ เมื่อไหร่คนหน้าด้านหน้าทนอย่างเธอ จะไปจากชีวิตพวกฉันซักที เพราะในบ้านนี้มีแต่คนที่เกลียดเธอทั้งนั้น รวมทั้งฉันด้วย ได้ยินมั้ยว่าฉันเกลียดเธอ เกลียด! เกลียด! เลียด!” สิ้นคำแขนที่มีแรงมหาศาลก็สบัดจนร่างผอมบาง จนถลาล้มหน้าผากฟาดกับเหลี่ยมตู้โชว์อย่างแรง “โอ๊ย!” พิรุณญาทันได้ร้องออกมาแค่นั้น ก็เกิดอาการมึนขึ้นมาจนต้องนั่งอยู่กับพื้นนิ่งๆ

นิยายปัจจุบันจบแล้ว

รวมเรื่องแซ่บ SS2

105.0K·Beefy Cat

รวมเรื่องสั้นสุดแซ่บ ที่จะทำให้คุณเสพติดจนถอนตัวไม่ขึ้น! SS2 จำนวนตอนต่อเรื่องประมาณ 6-9 ตอนค่ะ -คำเตือน- รวมเรื่องสั้นเรื่องนี้แต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้นนะคะ มีฉากการใช้ความรุนแรง การใช้ภาษา เซ็กส์ และเรื่องผิดศีลธรรม ไม่ได้มีเจตนาแต่งขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมในเรื่องไม่ดีแต่อย่างใด เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โปรดใช้วิจารณญานในการอ่านนะคะ ขอให้ทุกคนสนุกกับการอ่านค่ะ^^

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

คลั่งรักเมียเด็ก.

29.0K·NaLa.Sri

เมื่อมีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เธอตัดสินใจเป็นเด็กเลี้ยงของเขาโดยค่าตอบแทนต่อเดือนสูงลิ่ว แต่เมื่ออยู่ด้วยกันความสัมพันธ์ของเธอและเขากับไม่ใช่ความสัมพันธ์ระหว่างเด็กเลี้ยงแต่เหมือนคู่รักเสียมากกว่า ทั้งคู่ไม่เคยรู้เลยว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้กำลังเริ่มก่อตัวขึ้นเป็นความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและกลายเป็นครอบครัว ภูผา อายุ 26 ปี หนุ่มหล่อเจ้าของผับ "เจ้าของรอยสักรูปมังกรที่ผู้หญิงอยากลูบไล้มากที่สุด มีนา อายุ 19 ปี "เอาว่ะ!!ชีวิตมันก็แค่นี้แหละ" เธอตัดสินใจหนีออกจากบ้านด้วยเหตุบางอย่าง จึงต้องออกมาดิ้นรนหาเลี้ยงตัวเองด้วยความลำบาก คำโปรย “เชี้ยอะไรวะเนี้ย ร้อน” “เฮ้ย!!คุณอย่าเอาน้ำราด เดี๋ยวมันจะพอง” “ทำไมเดินไม่ดูวะ” “อ้าวคุณ ถ้าฉันเห็นฉันจะเดินชนคุณเหรอ” “เธอ!!” “เฮีย หนูใส่ชุดนักศึกษาเป็นไงบ้างคะ” “กระโปรงสั้นไป” “สั้นอะไรเฮีย นี่ถูกกฏระเบียบแล้วนะ” “แต่เฮียว่าสั้นไป” “เฮีย!!” ผลั๊วะ ผลั๊ะ ผลั๊วะ "ผมมาตามเมียผมกลับ ต่อให้ผมต้องตายอยู่ที่นี่ ผมก็ไม่กลัว" "ไอ้นี่!!"

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

ไร่รัก ลวงแค้น

24.0K·Pepper Pine

เธอ นางแบบสาวแสนอาภัพ เขา เจ้าของไร่หนุ่มผู้ที่มีอดีตอันแสนเจ็บปวดไม่ต่างกัน แต่เขาจะมาลงทัณฑ์เธอ ขวัญ ขวัญข้าว นางแบบสาวชื่อดังเธอกำลังไปได้ดีกับเส้นทางชีวิตใหม่ แต่แล้วทุกอย่างมันกับพังไปเพราะเขา ชีวิตเธอดิ่งลงเหวครั้งแล้วครั้งเล่าไม่จบไม่สิ้น จนบางครั้งเธออยากที่จะตายไปให้มันรู้แล้วรู้รอด แต่ทว่ากลับทีอีกหนึ่งชีวิตบริสุทธิ์ที่ไม่รู้เรื่องราว เธอจึงจำเป็นต้องรักษาชีวิตตัวเองไว้เพื่อเขา วินท์ วายุ แม่ของเธอเป็นต้นเหตุต้องทำให้แม่เขาต้องตรอมใจตาย เธอในฐานะลูกต้องชดใช้!!! “เธอต้องชดใช้!!!” “ฮึก แค่นี้มันยังไม่สาแก่ใจคุณอีกหรอ ถ้าฉันตายคุณจะพอใจใช่ไหม” “ฮือ ตอบฉันมาสิ ฉันต้องตายไปเลยรึเปล่าคุณถึงจะพอใจ”

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

กลลวงพรหมจารีย์

17.0K·รริศา

เธอ...เลือกที่จะอยู่โดยไม่มีเขา แต่เขา...เลือกที่จะใช้กลลวงหลอกล่อให้เธออยู่ ทางเลือกที่แตกต่าง บนกรอบของคำว่า "พรหมจรรย์" Vs1 รอดูฤทธิ์คุณหนูรษาเสียก่อนนะลุง อย่ากระดูกพรุนขยับเอวไม่ไหวเสียก่อนละ คุณหนูฟันน้ำนมที่รัก เผลอเมื่อไรพ่อจะจับเคี้ยวให้ไม่เหลือกระดูกเลย Vs2 “เราไปปั๊มลูกกันปะ” ชายหนุ่มแกล้งชวนดื้อๆ คนเอียงอายเมื่อครู่ค้อนขวับทันที “บ้า รษาคิดอยู่แล้วเชียว” ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเสียงดังกับความไร้เดียงสาของภรรยา “อ้าว! คุณก็คิดเหมือนผมด้วยเหรอ เราใจตรงกันดีนะ เราไปกันเลยมั้ย” “เปล่าซะหน่อย อย่ามาตีเนียน” หญิงสาวตอบกลับ “ผมคิดจริง ทำจริง” เขายังไม่หยุด “หื่นกาม” ปรินทรเชิดคางของหญิงสาวขึ้นมา "หื่นกับเมียคนเดียว" Vs3 “นะคร้าบ รับรองว่าวันนี้จะไม่โอ้เอ้ให้เมียต้องนอนดึกไปมากกว่านี้อีก แค่คุณรอผมกลับมาทำการบ้านก็เกรงใจจะแย่” คนอุ้มอ้อนเสียงนุ่ม ไม่วายแหย่ต่อพร้อมกับจรดปลายจมูกหากำไรจากคนตัวเล็กไปตลอดทาง “ใครว่ารอกัน” หญิงสาวบอกอย่างกระเง้ากระงอดที่โดนล้อเลียน เรียกเสียงหัวเราะของคนอุ้ม “อ้าวหรอ! ผมคิดไปแล้ว ฮ่าๆ” หญิงสาวส่งค้อนวงใหญ่ “พรุ่งนี้ไม่ต้องรอนะ ผมจะรีบกลับมาทำการบ้านแต่หัววัน” เขายังเย้าเธอไม่หยุด หญิงสาวรัวทุบหน้าอกเขาอย่างหมั่นไส้ แต่เขาก็ไม่สะเทือนสักนิด กลับหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

รักเถื่อน ของเราสามคน BDSM25+

42.0K·MUSICLAND

“เก่งมากเลยครับ ที่รัก” ชายหนุ่มเอ่ยปากชมหญิงสาวผู้เป็นคนรัก เมื่อเขาสามารถสอดแทรกสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในตัวเธอได้สำเร็จ “ อ้า…ซี๊ด…ดอนคะ…อื้อ…แน่นมากเลย” ริมฝีปากบางเผยอออกเปล่งเสียงร้องครวญคราง เพื่อระบายความเสียวซ่าน และความคับแน่นที่อยู่ภายใน “อีกลูกเดียวครับ จะเข้าหมดแล้ว” “อ้า จะ... เจ็บ อื้อ” เสียงร้องโอดครวญดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะโพกบางส่ายไปมาเพื่อหลีกหนีความเสียวซ่านและความวาบหวามที่ได้รับ หญิงสาวรับรู้ได้ถึงการขยายตัวของกลีบปากทางร่องเสียวของเธอ “กรี๊ด…อื้อ…แหกหมดแล้ว รูเสียว ไอร่าแหกหมดแล้วดอน…ซี๊ดด” เสียงกรีดร้องดังขึ้น เมื่อแตงกวาลูกที่สามถูกกดเข้ามาภายในพรวดเดียวจนสุด เบียดเสียดอัดแน่นกับแตงกวาสองลูกที่ถูกยัดเข้าไปก่อนหน้านั้น ชายหนุ่มยกยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นช่องทางเบื้องล่างของเธอ สามารถกลืนกินแตงกวาลูกใหญ่ทั้งสามเข้าไปจนหมด เหลือโผล่พ้นออกมาจากกลีบปากทางเพียงแค่ส่วนท้าย “เข้าหมดแล้ว เก่งมากเลยรับคนดี ให้มันแหก ดีแล้ว เสียวไหม” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มละมุน ก่อนจะก้มลงประทับจูบที่ริมฝีปากบางอย่างแผ่วเบา เพื่อเป็นรางวัลแก่คนเก่งที่สามารถกลืนกินแตงลูกใหญ่ได้ทั้งลูก “ซี๊ด…ไอร่าเสียว”หญิงสาวซูดปากแรงๆบรรเทาความคับแน่นและความเสียวซ่านวาบหวามที่ได้รับในตอนนี้ มันทั้งเจ็บทั้งเสียว ทั้งแน่น หลายๆความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เธอไม่สามารถบรรยายออกมาได้เลย และพูดไม่ได้เลยว่าไม่รู้สึกดี ในเมื่อมันรู้สึกดีเอามากๆ “เก่งมากครับ ยัดไว้แบบนี้ นอนขมิบรูไว้นะครับ ตอนเย็นๆ ค่อยเอาออก” เขาออกคำสั่งแก่เธอ “ซี๊ดด ถ้ารอเอาออกตอนเย็น รูเสียว ไอร่าต้องเป็นรูบานแน่ๆเลย” หญิงสาวส่ายหน้าเป็นการปฏิเสธ ถ้าแช่เอาไว้แบบนี้ มีหวังช่องทางคับแคบของเธอ ได้กลายเป็ช่องทางที่กลวงโบ๋อย่างแน่นอน “ก็ดีนะสิครับ ยิ่งบานเท่าไหร่ก็ยิ่งสวย ต่อไปนี้ดอนจะเล่นกับรูเสียวของไอร่าทุกวันเลย ไอร่าชอบไหม” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น นัยต์ตาเป็นประกาย เธออดไม่ได้ที่จะต้องพยักหน้ารับ

ประธานจบแล้ว

เมียรักพ่อเลี้ยง

33.0K·Naya Solene

นาย​ อธิบดินทร์​ หรือ​ พ่อเลี้ยงดิน​ อายุ​ 35ปี​ เป็นเจ้าของไร่​ ภูผาตะวัน​ ไร่องุ่นที่ใหญ่ที่สุดของทางภาคเหนือ​ เค้าทำธุรกิจหลายอย่าง​ แต่เค้าชอบงานในไร่มากกว่าสิ่งใหน พ่อเลี้ยงดินเป็นคนที่รักสงบ​ ชอบความเงียบสงบ​ ชอบเสียงดังเวลาครางเท่านั้น รูปร่างดี​ สีผิวคล้ำๆตามสไตล์​ของชาวไร่ชาวสวน​ เพราะเค้าต้องทำงานตากแดด นิสัย​ หื่น​ กาม​ เอาได้ทุกที่​ จะโหดเฉพาะบางเวลา​ เป็นคนดี​ รักใครรักจริง​ ไม่ชอบคนขี้โกง​ เกลียดการโกหกที่สุด​ หวาน ๆ ให้​  ลลิน หรือ​ ลิน​ อายุ33​ปี​ มีลูกชาย1คน​ ชื่อ​ พากร​ อายุ16​ ปี​ ฟังไม่ผิดหรอก​ ฉันพลาดมีลูกตั้งแต่อายุ17​ ส่วนพ่อพากรทิ้งฉันไปตั้งแต่รู้ว่าฉันท้อง​ ฉันต้องออกจากโรงเรียนแล้วมาทำงาน​ แล้วก็เรียน​ กศน​. ไปด้วย​ กว่าจะมา​เป็น​ ลลิน​ ทุกวันนี้ได้เหนื่อยสายตัวแทบขาด​ เพราะบ้านฉันไม่ได้ร่ำรวยอะไร​ ฉันเลยต้องดิ้นรนหนัก​ ทำงานหนักส่งลูกเรียนในโรงเรียน​ที่ดี ๆ  

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

อุ้มท้องหนีพ่อสามีทรราช

25.0K·เขมปัณณ์

ในคืนแต่งงานคนรักถูกสังหาร และนางถูกจับเป็นเชลยแขวนป้ายรับแขก ชีวิตนับจากนี้ของแพทย์หญิงซึ่งย้อนเวลามาอยู่ในร่างสตรีแสนอาภัพ ต้องหลบหนีให้พ้นเงื้อมมือทรราช ผู้เป็นทั้งบิดาเด็กในครรภ์ และพ่อสามี!

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

My heart คุณหมอที่รัก

24.0K·Plernwalee

"หนู พรุ่งนี้เช้าเราไปจดทะเบียนสมรสกันนะ" เสียงทุ้มเอ่ยบอกคนบนอกพร้อมกับลูบหัวเบา ๆ "ฮะ!" "เฮียพูดว่า พรุ่งนี้เราไปจดทะเบียนสมรสกันนะ " "ขอเหตุผลที่เฮียคิดจะทำแบบนั้นได้มั้ยคะ" หญิงสาวเงยหน้าขึ้นถาม "...เพราะเฮียมั่นใจหนูไง เฮียเลยอยากให้หนูมั่นใจเฮียด้วย" "แล้วถ้าพีชไม่มั่นใจล่ะ??..

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

โคแก่

21.0K·เนื้อนวล/baiboau

สำหรับเธอ ภาวิน... เขาคือเจ้านายของพี่ชาย สำหรับเขา ปั้นหยา... เธอคือน้องสาวน่าฟัดของลูกน้องคนสนิทผู้ล่วงลับ ภาวินรับปั้นหยามาอุปการะตั้งแต่อายุสิบสอง หลังจากที่พี่ชายของหล่อนเสียชีวิต ตลอดเวลาก็พยายามห้ามมือห้ามไม้ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับเด็กหญิงปั้นหยา แต่ให้ตายเถอะ ยิ่งเธอเติบโต ปั้นหยาก็ยิ่งสวยสะพรั่ง อวบอัดไปทั้งตัว จนเขาแอบเก็บเธอไปจินตนาการเร่าร้อนทุกค่ำคืน เขาจินตนาการเอาไว้ว่า ปั้นหยาจะต้องมีเนินอูมอวบ และขาวเนียน หล่อนไม่น่าจะมีขนมากนัก เพราะเนื้อตัวของหล่อนไม่ค่อยมีเส้นขนสักเท่าไหร่ และภายในร่องสาวก็จะต้องมีสีสันที่สดสวย บางทีมันอาจจะเป็นสีเดียวกับริมฝีปากอวบๆ ของเจ้าหล่อนก็เป็นได้ “โอ้ว... เสียวววว เสียวววหัว โอ้ว...” เขาจะเลีย... จะเอาลิ้นตวัดเลียให้ทั่ว จะเลียจะดูด จะขบเม้ม ดอมดมกลิ่นสาวของปั้นหยาจนอิ่มเอมให้สมกับที่เฝ้ารอมาหลายปี และเขาก็มั่นใจว่าลิ้นของเขาจะทำให้ปั้นหยาเสียว น้ำของหล่อนจะต้องไหลออกมา พระเจ้า... เขาแทบจะทนรอไม่ไหวอยู่แล้ว มือใหญ่ซอยยิกๆ กับดุ้นเอ็นชาย เขาอยากเลีย อยากดูด อยากกลืนกินน้ำเสียวของปั้นหยา มันจะต้องหวาน จะต้องอร่อยลิ้นมากแน่ๆ “โอ้ว... โอ้ว... เสียวววว หยา... ปั้นหยา... เธอทำให้ฉันคลั่ง โอ้ว... อูววววว” ภาวินชักว่าวถี่ยิบ ใบหน้าหล่อจัดบิดเบี้ยวเหยเก และเพียงไม่นานน้ำเสียวสีขาวขุ่นคลั่กก็แตกกระฉูดออกมา “อ๊ากกกก อูววววว โอ้ว.... ฉันแตก... แตกใส่รูเธอแล้ว ปั้นหยา”

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว