
ข้าทะลุมิติมา ได้สามีไร้ค่าคนหนึ่ง
กริ๊งๆ ๆ เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นเป็นรอบที่สามแล้ว ที่หญิงสาวบนที่นอนกดปิดแล้วนอนต่อ หว่านหนิงเธอคงลืมไปเสียสนิทว่าวันนี้เธอมีงานเปิดตัวเสื้อผ้า ปัง ปัง เสียงทุบประตูห้องพร้อมตะโกนเรียกชื่อของเธอเสียงดังลั่นไปทั่วบ้าน “หนิงหนิง หนิงหนิง ตื่นหรือยัง ลูกจะไปไม่ทันงานเอานะ” แม่ของหว่านหนิงร้องเรียกอยู่ที่หน้าห้อง “ห๊า” เธอลุกพรวดขึ้นมาหยิบนาฬิกาข้างหัวเตียงขึ้นมาดู “ตายแล้ว จะทันไหมเนี่ย ตื่นแล้วค่ะแม่” เธอร้องตะโกนบอกผู้เป็นแม่ พร้อมทั้งพุ่งตัวเข้าไปล้างตาล้างตาทันที ต้องบอกเลยว่า เธอไม่ได้อาบน้ำ ถ้าอาบคงไม่ทันแน่ ๆ ไหนจะการจราจรที่ติดขัด และเธอยังต้องไปดูนางแบบใส่ชุดก่อนจะเดินโชว์อีก หว่านหนิงแต่งตัวเสร็จ เธอหยิบกระเป๋าได้ก็พุ่งตัวออกจากห้องวิ่งลงบันไดอย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่ลืมที่จะคว้าขนมปังมากัดไว้ที่ปากและแก้วกาแฟที่ผู้เป็นแม่เตรียมไว้ให้ขึ้นไปบนรถด้วย “ขับรถดีๆ นะลูก” เธอร้องตะโกนบอกลูกสาว เมื่อเห็นว่าหว่านหนิงโบกมือให้อย่างกระตือรือร้นก็อดที่จะส่ายหัวไม่ได้ นิสัยที่นอนตื่นสายของเธอ เมื่อไหร่ถึงจะแก้ได้เสียที หว่านหนิง เกิดในครอบครัวที่มีแต่ช่างปักผ้า ครอบครัวของเธอสืบทอดวิธีการปักโบราณมาได้หลายร้อยปีแล้ว ทั้งยังมีชื่อเสียงในเมืองจีนอยู่ไม่น้อย เธอจึงซึมซับทั้งวิธีการปักและการออกแบบมาตั้งแต่เล็ก เมื่อโตขึ้นเธอจึงเลือกที่จะเรียนศิลปกรรมศาสตร์ การออกแบบเครื่องแต่งกาย ผลงานสร้างชื่อของเธอ คงเป็นเสื้อผ้าที่นำเอกลักษณ์การปักลายโบราณเข้ามาผสมผสานกับยุคใหม่ได้อย่างลงตัว จนทำให้มีบริษัทชั้นนำเชิญตัวไปรวมงานด้วยหลายแห่ง หว่านหนิงที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการแฟชั่นมาหลายปีก็เลือกที่จะเปิดบริษัทเป็นของตัวเอง วันนี้เป็นงานเปิดตัวสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ในปีนี้ของเธอ จึงไม่สมควรที่จะไปสายอย่างยิ่ง “อาเยว่ ฉันใกล้ถึงแล้ว เธอให้นางแบบใส่ชุดไว้ได้เลย” หากจะมีงานแก้ เมื่อไปถึงเธอจะได้ลงมือแก้ไขได้ทัน “ทุกคนแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอไม่ต้องรีบมากก็ได้ ฉันเป็นห่วง”เสียงอาเยว่ปลายสายรีบบอกด้วยความเป็นห่วง เพราะกลัวว่าหว่านหนิงจะเกิดอุบัติเหตุได้ “ขอบใจเธอมาก” หว่านหนิงตัดสายไป หากเธอไม่ได้อาเยว่มาคอยเป็นผู้ช่วยก็ไม่รู้ว่าตัวเธอเพียงผู้เดียวจะตั้งบริษัทขึ้นมาได้ไหม หว่านหลินมาถึงสถานที่จัดงาน เธอรีบเร่งฝีเท้าเข้าไปที่ห้องแต่งตัวของนางแบบทันที เมื่อเข้าไปด้านในก็พบว่าเป็นอย่างที่อาเยว่เธอบอกไว้ นางแบบแต่งตัวพร้อมเรียบร้อยแล้ว งานแก้ก็ไม่ได้มีมากมายอย่างที่คิด เพียงเย็บช่วงเอวเก็บรายละเอียดความยาวชุดให้เข้าที่ทุกอย่างก็เตรียมพร้อมกับการเดินโชว์ “คุณหว่านหนิงคะ นักข่าวขอสัมภาษณ์คุณก่อนงานจะเริ่มค่ะ” ลูกน้องของเธอเดินเข้ามาตามเธอ “ได้ค่ะ ไปอาเยว่” เธอเข้าไปคล่องแขนเพื่อนสาวก่อนจะเดินออกไปส่วนด้านหน้าของงาน การสัมภาษณ์ พูดถึงผลงานของเธอในวันนี้ ทั้งเรื่องแรงบันดาลใจที่ได้รับ ชุดที่เป็นตัวเอกของงาน เกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ของชาวบ้านในยุคโบราณ งานปักที่บรรจงทำมานานหลายเดือน ทุกรายละเอียดที่ออกมาบนเสื้อผ้าดูสมจริง ราวกับผู้คนบนผืนผ้ามีชีวิต และกำลังเล่าเรื่องราวการใช้ชีวิตของพวกเขาบทผืนผ้าที่หว่านหนิงเธอถักทอ ผู้คนที่อยู่ในนาข้าวช่วยกันเก็บเกี่ยวผลผลิต ทั้งป่าเขา แม่น้ำ แม้แต่สายลมและแสงแดด ทำให้ผู้คนที่เข้าร่วมงานในวันนี้ต่างประทับใจ และเป็นที่พูดถึงบนโซเซียลมีเดีย “ขอบคุณทุกคนมากค่ะ วันนี้ฉันเลี้ยงเอง” หว่านหนิงบอกกับทีมงานทุกคนที่ช่วยงานเธอในวันนี้ เธอพาทีมงานทุกคนมากินฉลองที่ห้องอาหารภายในโรงแรมที่จัดการ ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม คาราโอเกะ หว่านหนิงเลี้ยงอย่างใจกว้าง เกือบห้าทุ่มกว่างานเลี้ยงจะเลิก เธอที่ดื่มเข้าไปไม่น้อยก็เริ่มจะเดินทรงตัวไม่ค่อยจะอยู่แล้ว “หนิงหนิง เธอกลับได้แน่นะ” อาเยว่มองเพื่อนสาวอย่างเป็นห่วง “ไม่ต้องห่วง ฉันเรียกรถมารับ เธอวางใจได้” หว่านหนิงโบกมือไล่ให้อาเยว่รีบกลับไปพร้อมแฟนหนุ่มของเธอ “เห้อ ปีหน้าอาเยว่ก็จะแต่งแล้ว แล้วฉันล่ะ สวรรค์ไม่เห็นท่านจะส่งเนื้อคู่มาให้ฉันเลย” เธอเงยหน้าชี้ขึ้นไปบนฟ้าแล้วต่อว่าออกมาเสียงดัง ปี๊ดดดดดด เสียงบีบแตรรถที่ลากยาว ทำให้หว่านหนิงที่กำลังต่อว่าเทพชะตาอยู่หันไปมองอย่างตกใจ เธอเห็นเพียงแสงไฟหน้ารถที่สว่างจนแสบตาส่องมาทางเธอเท่านั้น “กรี๊ดดดดด” เสียงกรีดร้องของหว่านหลินดังเพียงแค่ช่วงสั้นๆ เท่านั้น เธอที่เดินเซไปอยู่ทางเดินรถ หันมาอีกทีก็ไม่อาจจะหลบรถที่พุ่งมาด้วยความเร็วได้ทันแล้ว ร่างของหว่านหนิงที่ถูกรถชนด้วยความแรงตกลงมากระแทกพื้น เธอหมดสติไปแทบจะในทันที เสียงสุดท้ายที่ได้ยินคงเป็นเสียงกรีดร้องเรียกชื่อเธอของอาเยว่ ที่เห็นเหตุการณ์เข้าพอดี “กรี๊ดดด หนิงหนิง”

InBox ร้อนรัก
แชตที่เริ่มจากเกม กลายเป็นไฟรักที่เผาใจ เมื่อแมตช์ออนไลน์เปลี่ยนโลกให้ร้อนแรงเกินต้าน!

นายพลปากร้าย กับดีไซเนอร์ข้ามมิติ
ไหนบอกว่าเกลียดไงล่ะ ทำไมต้องตามจับผิด ก็ในเมื่อเกลียดกัน แต่ทำไมเจอเขาทุกที่เลยล่ะ นายพลปากจัดคนนี้ ต้องการอะไรจากฉันกันแน่! แต่ถึงจะปากร้าย แต่หุ่นแซบเป็นบ้าเลย ตามมาก ๆ เดี๋ยวแม่ก็จับปล้ำเสียนี่!!! "ตงหลินซี" ดีไซเนอร์สาวในยุค 2021 เธอตายในงานประกาศผลรางวัล เมื่อตื่นอีกครั้งก็ตื่นขึ้นมาในร่างของคุณหนูเอาแต่ใจ เจ้าอารมณ์ และบ้าผู้ชายปากร้ายอย่างเขา "กู้หานเซียว" นายพลหนุ่มที่ขึ้นชื่อเรื่องความปากร้าย ดุดัน เด็ดขาดและพูดจาไม่ไว้หน้าคนอื่น เขาเกลียดผุ้หญิงอย่างเธอ ที่ได้ขึ้นชื่อว่า "สวยแต่โง่" อย่างเธอที่สุด ปกติคนที่ข้ามมิติมา จะต้องตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอกลับรู้สึกว่า "นี่แหละที่ฉันอยากลอง" มุ่งหน้าใช้ชีวิต ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ทุกวันคือความท้าทาย นางเอกสายรุก ใครฟาดมา ฉันพร้อมฟาดกลับ อย่ามาเล่นกับ "แม่" ค่ะเบบี๋ทั้งหลาย กระดูกมันคนล่ะเบอร์ อย่าสะเหล่อคิดมาวุ่นวายกับฉันค่ะ ฉันเตือนเธอแล้วนะ... ‘มีโอกาสเมื่อไหร่ ฉันจะต้องจับเขาแก้ผ้า ดูซิกแพคให้ได้เลย กู้หานเซียว ในชาตินี้คุณจะต้องเป็นผู้ชายของฉัน’ ตามไปช่วยลุ้นกัน ว่าเธอจะเปลี่ยนผู้ชายปากร้าย ให้มาคลั่งรักเธอได้ไหม นิยายแนวข้ามมิติ แต่ไม่ได้มีระบบ หรือพลังอะไรติดมาด้วย มีแต่ความสามารถของตัวเองล้วน ๆ จ้า... แอบบอกไว้ก่อนว่า นิยายเน้นการใช้ชีวิต และความสัมพันธ์ของตัวละครที่ค่อยเป็นค่อยไป ไม่เน้นดราม่า พระเอกรักเดียว ไม่มีนอกกายนอกใจ แต่ฉาก NC ยังมีให้สยิวอยู่ระหว่างทาง ตามแบบฉบับของ "ชาไทยเย็น" จ้า....

รอยอาญา [Sign of Love]
ดนุพร ปรีชากุล (คุณดำ) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีความหลังอันสลับซับซ้อน และซ่อนไว้ด้วยความโกรธแค้น เพื่อรอลงอาญา คนที่ทำให้เขากับครอบครัว ต้องพบกับความลำบากยากเข็น ------- ระพีพรรณ (คุณเพลง) หญิงสาวผู้จำต้องชดใช้ให้เขา เพราะรักและกตัญญูต่อผู้ให้กำเนิดอย่างล้นเหลือ -------------------------------------------------------------- "ก็ฉันกำลังจะทำให้พ่อกับพี่เลวๆ ของเธอได้รับรู้ว่า การที่มีลูกกับน้องสาวถูกข่มขืนจนเป็นบ้า มันรู้สึกยังไง น่ะสิ! .และเธอก็จะต้องเป็นสารให้ฉันไง” เขาคว้าข้อมือเธอลากเดินตรงไปที่ห้องทันที “คุณหมายความว่ายังไง ปล่อยฉันนะ ฉันเจ็บ ปล่อย” เธอขัดขืนเขาด้วยแรงที่มี แต่ก็ทานแรงเขาไม่ได้ จนร่างแทบจะปลิวไปตามแรงของเขาก็ว่าได้ เธอรีบเอามืออีกข้างยึดขอบประตูเอาไว้ พร้อมกับพยายามจะสบัดแขนออกจากแรงฉุดของเขา “มานี่!!!” ดนุพรเข้ามาโอบร่างเธอเอาไว้ และแกะมือออกจากประตู “ปล่อยฉันนะ ปล่อย ช่วยด้วย ช่วยด้วย” เธอร้องขอความช่วยเหลือทันทีที่มือถูกเขาฉุดให้หลุดจากการยึดเหนี่ยว “โอ้ย!!!” แขนที่คว้าเธอเอาไว้ ถูกฟันของเธอกัดเข้าเต็มๆ จนต้องร้องออกมาเพราะความเจ็บ และก็ปล่อยร่างเธอให้หลุดมือไป เธอตั้งสติได้ รีบวิ่งหนีออกมาจากห้องและตรงไปยังประตูทันที เพื่อหมายหนีให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของเขา ประตูถูกเปิดออกอย่างง่ายดาย เธอวิ่งออกจากห้องได้สำเร็จ แต่ก็หนีมาได้ไม่กี่ก้าว ก็ถูกเขาวิ่งมาคว้าเอาแขนได้ทัน “จะไปไหน มานี่ เธอหนีไม่พ้นฉันหรอก” “ปล่อยฉันนะ ช่วยด้วย ช่วยด้วยค่ะ ใครก็ได้ช่วยด้วย ช่วยด้วย” เธอร้องขอความช่วยเหลือจากห้องข้างๆ จนแทบจะสุดเสียง แต่ก็เปล่าประโยชน์ ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครอยู่ที่ห้อง หรือได้ยินเสียงเธอเลย ไม่นานตัวเองก็ถูกเขาลากเข้ามาในห้อง และปิดประตูทันที เขารวบมือสองข้างของเธอเอาไว้ พร้อมกับลากเธอไปในห้อง และโยนร่างเธอไปที่เตียงทันที โดยที่เขาไม่รอช้าที่จะตามขึ้นกดแขนเธอเอาไว้ “เธอจะร้องจนคอแตกก็ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอกนะ เธอไม่เคยได้ยินเหรอ ว่าเวรกรรม น่ะมันมีจริง พวกเธอทำกรรมอะไรไว้กับพวกฉัน กรรมนั้นมันก็กำลังจะตอบสนองไง ไม่มีใครมาช่วยได้หรอกนะ” “ฉันไปทำอะไรให้พวกคุณตั้งแต่เมื่อไหร่ ปล่อยฉันนะ คุณมันบ้า ปล่อย” เธอด่าเขาด้วยความรู้สึกโกรธและกลัวระคนกันไป “ใช่เธอไม่ได้ทำ แล้วน้องฉันล่ะ ไปทำอะไรให้พี่เธอตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันบอกแล้วไง ว่าเธอจะต้องเป็นสารให้ฉันส่ง” ไม่ทันที่เธอจะได้ตอบโต้อะไร เรียวปากก็ถูกเขาปิดด้วยริมฝีปากหนานุ่มของเขา หญิงสาวดิ้นรนหาอิสระด้วยแรงที่พอจะเหลืออยู่ พลางมือสองข้างก็ใช้เล็บหยิกไปที่แขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเป็นมัดๆ “โอ้ย!!!” เขาเริ่มโกรธเพราะความเจ็บปวดและตรงแขนก็มีรอยเล็บจากการจิกจนมีเลือดซิบๆ ออกมา “ปล่อยฉันนะ คุณมันบ้า ฉันเกลียดคุณ ปล่อย” เธอร้องออกมาด้วยความโกรธเขา “ปล่อยเหรอ! นี่ไงปล่อย” เขาต่อปากต่อคำกับเธอ พร้อมๆ กับมือก็กระชากชายเสื้อจนกระดุมหลุดออกไปหลายเม็ด แล้วเขาก็ไม่รอช้า รีบทาบร่างลงไปบนร่างเธออีกครั้ง และระดมจูบไปอีกครั้ง เรียวปากเธอถูกบดขยี้อย่างรุนแรงด้วยความโกรธของเขา มืออีกข้างของเขาไม่รอช้าที่จะปลดกระดุมเม็ดที่เหลือออกไป แล้วเขาก็สอดมือเข้าไปใต้บราเพื่อเคล้าคลึงหาความนุ่มจากอกอวบอิ่มของเธอ หญิงสาวรู้สึกได้จากความโกรธของเขา ผ่านความรุนแรงที่บดลงไปบนเรียวปากของเธอ เรี่ยวแรงที่จะเอามาต่อสู้กับเขานั้น มันแทบจะไม่หลงเหลืออีกแล้ว เพราะมืออีกข้างของเขากดข้อมือเธอไว้กับที่นอน ส่วนมืออีกข้างของเธอที่พอจะต่อสู้เขาได้ ก็ยังคงจิกและทุบไปที่หัวไหล่ของเขา แต่มันก็แทบจะไม่ระคายผิวเขาด้วยซ้ำ ไม่นานท่อนล่างของเธอก็ปราศจากอาภรณ์ใดๆ ปกปิดเอาไว้ด้วยมือข้างเดียวของเขา แล้วหญิงสาวก็รับรู้ด้วยสัญชาตญาณว่า คงจะไม่สามารถทานแรงของเขาได้อีกต่อไปแล้ว น้ำตาแห่งความเจ็บปวดมันเริ่มไหลรินออกมาอย่างช่วยไม่ได้ และก็ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายนั้น จะไม่ได้สนใจด้วยซ้ำ จมูกของเขาชอนไช ซอกซอนไปตามคองามระหง แล้วลงมาหยุดที่บัวคู่งามทันทีที่บราตัวน้อยหลุดติดมือเขาและขว้างไปโดยไม่ได้สนใจทิศทาง หญิงสาวหลับตาพริ้มลงด้วยความอาย เมื่อเขาใช้สายตาเชยชมเรือนร่างที่เปล่าเปลือยของเธอ แล้วเรียวปากก็ถูกเขาก้มลงมาดูดดื่มอีกครั้ง แต่ก็ผิดจากครั้งก่อนๆ เพราะสัมผัสเขาแผ่วเบา นุ่มนวล เธอปฏิเสธไม่ได้เลยว่า รู้สึกวาบหวิวกับสัมผัสของเขาไม่น้อย ในเวลาเดียวกันเธอก็สัมผัสได้ว่า ร่างของเขาบัดนี้ ไม่มีอาภรณ์ใดๆ ปกปิดไว้อีกต่อไปแล้ว น้ำตาไหลรินออกมาอีกครั้ง เมื่อความรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่กำลังจะสูญเสียไปให้กับเขา “ได้โปรดเถอะค่ะคุณดำ ปล่อยฉันไปเถอะค่ะ คุณจะต้องเสียใจกับการกระทำของคุณในวันนี้ ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ ฉันขอร้อง” เธอตัดสินใจอ้อนวอนเขาเป็นวาระสุดท้าย เพราะคาดหวังว่าเขาอาจจะเปลี่ยนใจ “เธอกำลังขอร้องไม่ให้ฉันกินน้ำ ทั้งๆ ที่ฉันรู้สึกหิว และมันก็ตั้งอยู่ตรงหน้าฉันอย่างนั้นเหรอ มันไม่มีประโยชน์หรอกนะเพลง มันสายไปแล้ว มันสายไปตั้งแต่วันแรกที่เธอตัดสินใจ เข้ามาทำงานที่บ้านฉันด้วยซ้ำ” แล้วปากหนานุ่มก็ปิดเรียวปากเธออีกครั้ง เพื่อหยุดการร้องขอจากเธอ เขารู้สึกเป็นสุขอย่างบอกไม่ถูกกับความสุขที่ได้รับจากเรือนร่างของเธอ เพราะร่างเปล่าเปลือยของเธอนั้น มันเต็มไปด้วยสิ่งที่หน้าค้นหา และน่าลิ้มลองเหลือเกิน ผิดกับหญิงหลายๆ คน ที่เขาได้ผ่านมือมา หรือมันอาจจะเป็นเพราะเธอมีเลือดของศัตรูที่เขาเกลียดและอยากทำลายอยู่เป็นทุนเดิมแล้วก็เป็นได้ “เธอไม่รู้เหรอ ว่าฉันดีใจแค่ไหน ที่เห็นเธอเดินเข้ามาขอผ่อนผันหนี้ตั้งแต่วันแรก และเธอคงคิดไม่ออกหรอก ว่าฉันรอคอยวันนี้มานานแค่ไหน” นั่นคือคำพูดของเขาที่สื่อไปถึงอะไรหลายๆ อย่างจากความคิดของเขาเพื่อให้เธอรับรู้ แต่เธอก็ไม่สนใจที่จะตีความใดๆ อีกแล้ว เพราะรู้ดีว่ามันหาประโยชน์ไม่ได้เลย มือของเขาลูบไล้ไปแทบทุกสรรภางค์ บัวคู่งามถูกปากนุ่มเขาครอบครองเอาไว้โดยไม่คิดจะคำนึงว่าเจ้าของที่เฝ้าหวงแหนเอาไว้นั้น จะเสียใจแค่ไหน สิ่งที่เธอเก็บรักษามาทั้งชีวิต โดยที่ไม่เคยมีใครเข้ามาแผ้วพาน บัดนี้มันได้ถูกค้นพบและรุกรานจากเขา แล้วก็ดูเหมือนว่าเขาจะยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ ที่เห็นดวงตาเธอปิดลงเพื่อรับสัมผัสที่เขามอบให้ และมันก็ส่งสัญญาณให้เขารู้ว่า เธอกำลังพ่ายแพ้ต่อกฏเกณฑ์ธรรมชาติที่สร้างเอาไว้ เขายกแขนเธอทั้งสองข้างให้มาโอบหลังเขาไว้ และดูเหมือนว่าเธอจะทำตามอย่างว่าง่าย และปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามที่เขาจะสั่งการ ระพีพรรณรู้สึกโกรธตัวเองยิ่งนัก ที่ยอมทำตามที่เขาร้องขอ แต่เธอก็คือมนุษย์ปุถุชน ที่ยากจะต่อต้านกับความสุขที่เขากำลังจะมอบให้นี้ เธอปล่อยให้เขาครอบครองเรือนร่างของเธอเอาไว้ ตามแต่เขาจะปรารถนาที่จะหาความสุขจากมัน

Hot Romance คุณหนูสุดสวาท
เขา ยอมตกลงหมั้นกับลูกสาวของ อา ด้วยเหตุผลทางธุรกิจ ส่วนเธอ.....พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้อีกคนยกเลิกงานหมั้น แต่ดูเหมือนคราวนี้สวรรค์จะไม่เป็นใจ เพราะคู่หมั้นคนที่สี่ของเธอนั้น ช่างดูแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง หลังจากที่ได้เจอ....คุณหนูปรีชญาเป็นครั้งแรก อาชาก็รู้สึกอยากจะ’กำราบ’ คุณหนูสาวให้อยู่หมัด เพราะความดื้อด้ายชองเธอ เขาจึงเปลี่ยนใจจากสถานะ คู่หมั้น กลายไปเป็น คู่แต่งงาน ของเธอซะให้มันหมดเรื่อง!! “เมื่อคืนเราสองคนมีอะไรกันจริงเหรอ“ อาชาได้ยินคำถามก็ยังคงทำหน้านิ่งตอบกลับไป ”ฉันจะโกหกเธอไปทำไม“ เขายังคงเก็บความรู้สึกและโกหกได้แนบเนียนอย่างเคย ”แล้วทำไมมันไม่เห็นมีคราบเลือดเลอะเลยล่ะ“ ”คราบเลือด?“ ”ถามจริง ถ้าเรามีอะไรกันจริงๆมันก็ควรจะมีเลือดซิงของฉันออกมาด้วยสิ แต่ผ้าปูที่นอนของคุณก็ยังดูสะอาดดีอยู่เลยนี่“ ปากเล็กอธิบายออกไปยาวเหยียดพร้อมกับคิดวิเคราะห์ แม้จะไม่เคยมีประสบการณ์ในเรื่องนี้โดยตรง แต่ปรีชญาก็พอจะมีความรู้ในเรื่องพวกนี้อยู่บ้าง อีกฝ่ายที่ได้ยินแบบนั้นก็นิ่งอึ้งไป เพราะเขาไม่คิดว่าคนอย่างปรีชญาจะยังไม่เคยมีอะไรกับใคร หรือว่าเธอกำลังโกหกเพื่อลองใจเขาอยู่กันแน่ “หรือว่าของคุณมันเล็กมากเลยเหรอ ทำไมฉันไม่เห็นรู้สึกเจ็บอะไรเลยล่ะ ถ้าครั้งแรกมันก็ควรจะเจ็บสิ“ (ความในใจพระเอก อยากจะโกนออกไปแทบบ้า ว่าถ้าของฉันเล็ก....บนโลกนี้ก็คงจะไม่มีใครใหญ่!!!)

หญิงซ่อนร้าย ชายซ่อนรัก
ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบทุกกระเบียดนิ้วอย่างเขา ทำไมต้องมาแต่งงานกับผู้หญิงที่เป็นง่อยอย่างเธอด้วยล่ะ.. --------------- เขากอดเธอแน่น จูบหนักหน่วงขึ้น เรียกว่าแทบจะสูบเอาวิญญาณออกมา จูบจนเธอต้องเบือนหน้าหนีเพื่อสูดเอาอากาศเข้าปอด “หายใจไม่ทันเหรอ” ถามเสียงนิ่ง จ้องใบหน้านวลไม่กะพริบ “ตอบผมสิ” คะยั้นคะยอขอคำตอบเมื่อเธอเอาแต่อ้ำอึ้ง ไม่กล้าจะสบตาด้วย “..ค่ะ” ตอบอย่างขัดเขิน “มองหน้าผมให้เต็มตาแล้วค่อยตอบสิหนูเล็ก” ไม่พูดเปล่า แต่ยังเอื้อมมือไปจับปลายคาง รั้งใบหน้าเธอให้หันมามองตน.. แต่ใบหน้าเรียวแดงซ่านช่างน่ารักเหลือเกิน อดใจไม่ได้ต้องโน้มไปหาและจูบเสียอีกที หอมอีกสองฟอด “เด็กเลี้ยงแกะ!” แล้วตำหนิเสียงขรึม แววตาวาว คนถูกดุเหลือบสายตามองโต้ ทั้งเขินทั้งงง ไม่เข้าใจว่าตนกลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะได้อย่างไร

ฮูหยินอุ่นเตียง
"ฮูหยินอุ่นเตียง" นั่นคือถ้อยคำที่สามีอันเป็นที่รักเอ่ยเรียกนางยามที่เขาได้เจอกับคนรักเก่า แต่ความเจ็บปวดที่สตรีผู้นี้ได้รับ มันกลับมิมากเท่ากับสามีของนางในวันข้างหน้า เมื่อฟูหรงจดจำทุกสิ่งอย่างได้

บ่วงบำเรอรัก
“ "ถ้ากำลังทำให้ฉันสนใจบอกเลยว่าวิธีนี้ไม่สำเร็จ" "เป็นบ้าเหรอ?" "ต้องการเท่าไหร่?" "อะไร?" "แลกกับร่างกายของเธอ ต้องใช้เงินเท่าไหร่?" "เก็บเงินไว้ทำศพของพี่ตอนตายเถอะ" ไอมาเฟียโรคจิต ”

ม่านฟ้าพรางตะวัน
เธอหลงรักเขามาตลอด แต่เขาไม่เคยแม้แต่จะเหลียวมอง...แต่นั่นก็ช่างปะไร! วิถีกุลสตรีเชิงรุกอย่างเธอจะไม่ยอมปล่อยให้เขาหลุดมืออีกแล้ว ไม่ว่าจะต้องใช้เล่ห์กลมารยากี่เล่มเกวียน ตะวันจะทำให้พี่พีร์เป็นของตะวันให้ได้!

เพราะรักออกแบบได้ My Architect
ศิวัช ชายหนุ่มผู้มีงานเป็นโลกทั้งใบของเขา ใบหน้าเข้มหล่อเหลาแต่กลับไม่มีสาวยืนเคียงกาย แต่โลกทั้งใบที่แข็งแกร่งของเขา กลับสั่นคลอนเพียงเพราะเด็กหนุ่มหน้าหวานที่เป็นเพียงสถาปนิกฝึกงานเท่านั้น

อ้อมกอดแห่งขุนเขา กรุ่นไอรักใต้ดวงดาว
“ไคล์...ฉันรักคุณค่ะ มายดาร์ลิ้ง” เสียงสาวสวยผมสีทองกระซิบบอกกับชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มที่กำลังจูบและโอบกอดหล่อนเอาไว้ในวงแขนอย่างแนบแน่น จนร่างสองร่างแทบจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันอยู่บนเตียงกว้างใหญ่ด้วยนัยน์ตาหวานซึ้ง “ขอบคุณที่รักผมครับเฮเลน” คีรีมันต์กระซิบบอกกับหญิงสาวในอ้อมกอดด้วยนัยน์ตาหวานซึ้ง พอๆ กับรอยยิ้มละลายใจชวนหลงใหล พลางเริ่มปลดกระดุมเสื้อของหญิงสาวออกทีละเม็ด โดยที่ริมฝีปากได้รูปสวยของเขายังคงคลอเคลียอยู่กับริมฝีปากอวบอิ่มของเจ้าหล่อนตลอดเวลา ทุกอย่างกำลังจะดำเนินไปตามทางที่ชายหนุ่มคิดว่ามันควรจะเป็น ถ้าหากว่าประตูห้องนอนของเขาจะไม่ถูกผลักเข้ามาโดยพลการ “ได้ข่าวว่าพี่ชายสุดที่รักป่วย น้องสาวสุดสวยก็เลยแวะมาเยี่ยม โอ๊ะ!” หญิงสาวร่างบางซึ่งก้าวผ่านประตูห้องเข้ามาพร้อมๆ กับเสียงใสอย่างร่าเริง มีอันต้องชะงักค้างคำพูดก่อนจะจบประโยค แล้วอุทานออกมาเบาๆ พลางเบิกตากว้างอย่างตกใจ เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของห้องกำลังอยู่บนเตียงกับหญิงสาวสวยในสภาพที่เสื้อผ้าไม่เรียบร้อยนัก คีรีมันต์ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างขัดใจ ในขณะที่หญิงสาวสวยในอ้อมกอดของเขารีบตะปบเสื้อผ้ามาปกปิดร่างกายตนเองอย่างรวดเร็ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ไอย์รายาญาติผู้น้องของเขาทำแบบนี้ ชายหนุ่มจึงหันขวับกลับมาทางประตูห้องนอนพลางส่งเสียงดุอีกฝ่ายอย่างหัวเสียว่า “ไอย์รายา พี่บอกกี่ครั้งแล้วว่า...” คีรีมันต์ชะงักค้างคำพูดทั้งหมดที่เตรียมจะต่อว่าญาติผู้น้องกลืนหายลงไปในลำคอทันที เมื่อหันมาเห็นเต็มตาว่าตรงประตูห้องนอนของเขาไม่ได้มีไอย์รายายืนอยู่ตามลำพัง เพราะทางด้านหลังญาติผู้น้องของเขายังมีร่างระหงของหญิงสาวสวยอีกคนยืนอยู่ด้วย และขณะนี้นัยน์ตาของเธอซึ่งจ้องมองมาที่เขากำลังฉายแววรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด

เพลิงสิเน่หาลวง *มีเล่มจำหน่าย
เพลิงสิเน่หามายาลวง ก็เป็นอีกเรื่องที่มั่นใจว่า สายหื่น สายดรามา ก็ต้องชื่นชอบความรัก ในการเริ่มต้นอาจจะไม่สวยงามไปเสียทุกคู่ ป้องณวัฒน์ กับ รินดา ชายหนุ่มพนันกับเพื่อนว่าจะพาเธอขึ้นเตียงให้ได้ สุดท้ายก็ได้จริง ๆ ฟันแล้วทิ้งอีกต่างหาก ทำให้รินดาเกลียดมาก แต่เรื่องมันสนุก เพราะนางดันมีเด็กลูกของเขาติดท้องไปด้วย ทำให้เรื่องมันน่าติดตามตรงนี้ และอีกสามคู่ เอกอนงค์กับอาจารย์อลัน นายกตัญญูกับเพียงอร และคู่ของเกริกเกียรติกับแต่งขวัญ นักเขียนการันตีความฟินระดับ 18 ทำให้คุณซี๊ดซ๊าด และเรื่องราวที่ชวนติดตาม ลุ้นไปกับพวกเขา ไปอ่านกันเถอะค่ะมีหนึ่งเรื่องที่อยากจะบอก คนเราหากเกิดมาเป็นคู่กันแล้วก็คงไม่แคล้วกัน ถึงแม้จะพลัดพราก วันหนึ่งเราก็ต้องวนกลับมาพบกัน มารักกัน และใช้ชีวิตด้วยกันอีกครั้ง วันนี้หากเราเคยมีความรักที่ผิดหวัง ไม่ใช่ทั้งชีวิตต้องดับไปกับมัน แต่เราต้องเดินหน้า สร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง รักตัวเองให้มาก ๆ แล้วคุณจะรู้จักรักคนอื่นได้ขอให้ทุกท่านประสบความโชคดี และคิดสิ่งใดก็ขอให้สมความมุ่งมาดปรารถนาทุกประการ ขอให้สนุกกันนิยายทุกเรื่องของคุณธิดานะคะ สปอยเนื้อหาบางส่วน“นี่ชุดมาทำงานหรือ” เขาเอ่ยถามเธอ ทำให้คนที่ถูกถามหันหน้ากลับมาดังขวับปึก... ร่างของเธอชนเข้ากลับแผงหน้าอก ด้วยส้นของรองเท้าที่สูงทำให้เธอสะดุด ป้องณวัฒน์รับร่างของเธอเอาไว้ทันที ตอนนี้รินดาเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเขาเสียแล้วเธอยกแขนขึ้นกัน แล้วผลักร่างของชายหนุ่มออกไปให้ห่างจากตัวอย่างแรง พลั่ก... ก่อนจะตามไปด้วยฝ่ามืออรหันต์เผียะ เผียะ เผียะดารินฟาดฝ่ามือไปที่ใบหน้าของป้องณวัฒน์ใบหน้าที่ถูกกระทบด้วยฝ่ามือแดงเงยขึ้นมาทันที ป้องณวัฒน์ถึงกับยกมือของตัวเองขึ้นมากุมหน้า “ฉันกับคุณไม่ได้เป็นอะไรกัน จะแต่งตัวยังไง คุณก็ไม่มีสิทธิ์มาวิจารณ์ หรือถามแบบเสียมารยาทแบบนี้” เธอหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธซึ่งทุกสิ่งมันสุมรวมก่อตัวอยู่ก่อนแล้ว“อืม...” ชายหนุ่มทำเสียง ยกมือขึ้นลูบปลายคางของตัวเอง ถามว่าเขาโกรธไหม เขาคิดว่าเขาเข้าใจความรู้สึกของรินดาดีนะ หญิงสาวที่ถูกพรากพรหมจรรย์ แล้วเขาก็ทิ้งเธอทันที ไม่เคยกลับไปพบเจออีกเลย“มีอะไรต้องให้รายละเอียดดิฉันอีกไหมคะ” เธอถามเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่เพิ่งใช้ฝ่ามือตบหน้าเขาไปเมื่อกี้นี้ เมื่อเขาไม่ตอบเธอก็สะบัดตัวหันหลังกลับไปทำงานเหมือนเดิมสวบ... อ้อมแขนใหญ่สวมกอดเข้าไปที่ด้านหลังของเธอทันที รั้งรัดร่างของเธอให้เข้ามาหาแนบชิดกาย ก่อนจะจรดปลายจมูกลงไปบนซอกคอขาวเนียน“อึ...” เธออุทานออกมาด้วยความตกใจ หันหน้ามามองใบหน้าคมเข้มของป้องณวัฒน์ที่อยู่ใกล้ๆ จุ๊บ... เขาจุ๊บปากของเธอทันที“ไอ้คนเลว” เธอด่าทอเขาออกไปทันที หมดความอดทนที่จะมาปั้นสีหน้าใส่ว่าไม่รู้สึกอะไรอีกแล้วรินดากระทืบส้นสูงลงไปบนหลังเท้าของเขาทันที ปึก...ปึก...ปึก...ผลัวะ “โอ๊ย...” ป้องณวัฒน์ร้องลั่นรินดากระทุ้งศอก หันหน้าเข้าหาแล้วจับหัวไหล่ของเขาประเคนเข่า และฟันสันมือของตัวเธอใส่เข้าไปที่ตรงซอกคอของป้องณวัฒน์ดังผลัวะ“อะ... อึก... อุ... โอะ... โอ๊ย...” ดวงดาวขึ้นมาเต็มท้องฟ้า“อย่ามาแตะต้องตัวฉันอีก” เธอผลักร่างของเขาร่วงไปกองที่พื้น ใช้มือตบเข้าหากัน ก่อนจะชี้นิ้วใส่หน้าเขาแบบอารมณ์เสีย ป้องณวัฒน์ตัวงอเป็นกุ้งกองไปอยู่ที่พื้น ร่างกำยำที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ หมดสภาพอยู่ตรงนั้น เขาไม่ทันตั้งตัวต่างหากรินดาถึงได้เล่นงานเขาได้ง่ายๆ“โอ๊ย... ริน...” เขาเรียกชื่อเธอตามหลัง เห็นร่างของหญิงสาวไวๆ หายไปในอีกห้องหนึ่ง เธอไม่สนใจไยดี เดินจ้ำอ้าวๆ ออกไปจากห้องอย่างร้อนระอุในอารมณ์ ‘สันดาน...’ เธอก่นด่าเขาอยู่ในใจ

ลุ้นรักวิวาห์ร้อน
เกิดมาไม่เคยคิดอยากจะมีครอบครัว แต่ทว่าเหมือนฟ้าตั้งใจกลั่นแกล้งฉัน เมื่อจู่ ๆ ต้องมาเสียตัวให้กับคนที่เป็นไม้เบื่อไม้เมามาตั้งแต่เด็กในวันแต่งงานของเพื่อนรัก ที่แย่ไปกว่านั้นป๊าของเราทั้งคู่ยังเป็นคู่อริกันอีกด้วย หากไม่ท้องฉันคงไม่ยอมแต่งงานกับเขาแน่ เพราะนายนั่นเป็นเสื้อผู้หญิงตัวยง แถมยังเป็นผู้ชายที่ไม่เคยเข้าตาฉันเลยสักนิด*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*“จะปล่อยฉันได้หรือยังเนี่ย” เมื่อเดินมาถึงใต้ต้นจามจุรีริมหนองน้ำแล้วฉันจึงแกะมือเขาออก “จะเอายังไงว่ามา” เขายอมปล่อย ยืนกอดอกมองหน้าฉันอย่างเอาเรื่อง “ไม่เอายังไง ตามที่ฉันพูดยังไงก็ไม่มีทางแต่งกับนายแน่นอน” “ทำอย่างกับฉันอยากแต่งกับเธอนักล่ะยัยตัวแสบ” “ไม่อยากแต่งแล้วทำไมต้องพูดอย่างนั้นด้วยล่ะ ชอบสร้างภาพให้ตัวเองดูดีหรือไง ถ้าไม่อยากแต่งก็ไม่ต้องแต่ง ต่างคนต่างอยู่เพราะถึงยังไงบ้านเราก็ไม่ถูกกันอยู่แล้ว ชัดเจนไหม” ทำไมรู้สึกเจ็บจี๊ด ๆ เมื่อรู้ว่าสิ่งที่เขาพูดมันคือเรื่องโกหก “ถึงไม่อยากแต่งแต่ฉันก็มีความรับผิดชอบพอ ยังไงซะตอนนี้เธอก็ท้องลูกของฉันแล้ว ฉันไม่มีทางยอมปล่อยเธอไปง่าย ๆ หรอก” น้ำเสียงเขาจริงจังจนรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว “คิดเหรอว่าฉันจะยอมนายง่าย ๆ” “แล้วคิดเหรอว่าฉันจะยอมง่าย ๆ เหมือนกัน ถ้าไม่เห็นแก่หน้าป๊าม๊าก็นึกถึงลูกบ้าง โตขึ้นมาแล้วไม่มีพ่อเหมือนคนอื่นจะรู้สึกยังไง ถ้าลูกเป็นเด็กมีปัญหารู้ไว้ด้วยนั่นเป็นเพราะเธอคนเดียว” “ฉันจะเลี้ยงเขาให้ดี ไม่ให้เป็นเด็กขาดความอบอุ่น” “ทำไมดื้อจังวะ เกิดมาเคยยอมใครบ้างไหมเธออ่ะ”

คู่แค้นแสนเสน่หา

เกมรักกับดักพิศวาส
“ผมต้องการคุณ และรู้ว่าคุณเองก็ต้องการผม เราสองคนต้องการกันและกัน แต่ต่างคนต่างก็ไม่อยากมีพันธะ เซ็กเฟรนด์มันคือคำตอบที่ดีที่สุด” ชายหนุ่มอธิบายเสียงพร่า จมูกโด่งยังคลอเคลียไม่ห่างจากแก้มแดงระเรื่อ“ดียังไง”บุษบันถามเสียงสั่น ดวงตากลมโตยังฉ่ำปรืออย่างคนที่ยังเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสที่เรียกความร้อนและแรงปรารถนาของเธอให้ตื่นขึ้น“ระหว่างเรามันคือความพอใจในเซ็กส์ของกันและกัน มีอิสระที่จะคบหาคนอื่น ไม่มีการหึงหวงหรือก้าวก่ายล่วงล้ำการเป็นส่วนตัว ของกันและกัน เมื่อใครคนใดคนหนึ่งเจอคนที่ใช่ เรื่องของเราคือจบ และผมคิดว่ามันจะต้องจบด้วยดี”มือใหญ่ประคองใบหน้าสวย ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมองสบดวงตาสีดำกลมโต นานชั่วอึดใจ ก่อนบุษบันจะเป็นคนหลบสายตา เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ปฏิเสธและมีท่าทีเริ่มจะโอนอ่อนผ่อนตาม บอลด์วินจึงรีบเกลี้ยกล่อมต่อ“เราต่างฝ่ายต่างก็เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว การหาความสุขใส่ตัวมันไม่ใช่เรื่องผิดหรอก”บุษบันเหลือบตามองชายหนุ่มรูปงามตรงหน้าอีกครั้งแล้วถอนหายใจ เธอไม่ปฏิเสธหรอกว่าพึงพอใจในตัวของบอลด์วินมากเป็นพิเศษ และเขาก็พูดถูกเธอโตแล้ว จะเป็นอะไรไปเล่าถ้าช่วงเวลาหนึ่งเธอจะทำอะไรตามใจตัวเองแบบสุดๆ บ้าง“ตกลง”

สองเราร้าวรัก
"วัฒน์อยู่ไหนคะ ทำไมรับสายพิณช้า"พิณนาราถามเสียงสั่นทั้งๆที่หล่อนกำลังยืนมองเขาอยู่จากมุมมืดมุมหนึ่ง หล่อนแค่อยากจะรู้ว่าเขาจะตอบหล่อนว่ายังไง"พอดีรถติดน่ะ อาจจะถึงช้าหน่อย ผมไม่อยากคุยโทรศัพท์ตอนขับรถคุณก็รู้""เหรอคะ"หล่อนถามออกไปด้วยน้ำเสียงสั่น ขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมาทันที"พิณคุณเป็นอะไรหรือเปล่า คุณ…"ไม่ทันที่ศิวัฒน์ได้ถามต่อภรรยาก็กดตัดสายไป"พิณ!""บอสคะ กวางขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม"เกวลินที่นิ่งเงียบพูดขึ้น ใช่ตอนนี้หล่อนเห็นพิณนาราแล้ว "อืม ได้สิ"ศิวัฒน์ที่กำลังจะเปิดประตูฝั่งคนขับหยุดการกระทำนั้นก่อนจะหันมาทางสาวเจ้า"บอสไม่ต้องมารับผิดชอบกวางแล้วนะคะ ลูกคนเดียวกวางเลี้ยงเองได้ค่ะ กวางไม่อยากให้ใครมานินทาว่ากวางเป็นเมียน้อยคนอื่น""ทำไมคิดแบบนั้น หรือใครมาว่าคุณ""ไม่มีใครว่าหรอกค่ะ"หล่อนว่าพร้อมกับหลุบสายตามองต่ำลงเหมือนคนปกปิดความผิดทำให้ศิวัฒน์ยิ่งเข้าใจว่าหล่อนต้องโดนใครว่ามาแน่นอน"ใครว่าคุณบอกผมสิ ผมจะไล่มันออก""คุณส้มโอค่ะ คนของคุณพิณ"ชื่อนั้นทำให้ทั้งร่างกายเขาชาวาบ พิณนารารู้เรื่องนี้แล้วงั้นเหรอ"ตอแหลเก่งสมกับตำแหน่งเมียน้อยจริงๆ""พิณ…"น้ำเสียงที่คุ้นหูนั้นทำให้ใจเขากระตุกวูบ "อยากรู้จริงๆว่าหน้าจะหนาสมตำแหน่งหรือเปล่า"เจ้าหล่อนว่าพร้อมกับเข้าไปกระชากผมของอีกฝ่ายก่อนจะฟาดฝ่ามือลงไปบนใบหน้าสาวเจ้าอย่างจัง "เพียะ! " "โอ๊ย…" "ชอบนักใช่ไหม ผัวคนอื่นน่ะ"มือเรียวกำผมหญิงสาวตรงหน้าแน่น "พิณพอได้แล้ว! "ศิวัฒน์รีบเข้าไปห้ามปรามภรรยา "ฮึก…ช่วยกวางด้วยค่ะบอส กวางกลัว" "ทีแบบนี้มาร้องห่มร้องไห้ ทำไมตอนแบไม่ใช้สมองกลวงของแกคิดบ้างล่ะ"ยิ่งเห็นสามีเข้าข้างมันเพลิงโทสะในใจสาวเจ้ายิ่งลุกโชนขึ้น สาวเจ้าพุ่งเข้าไปหมายจะทำร้ายคนที่หลบอยู่ข้างหลังสามี "พิณ! ผมบอกให้พอได้แล้ว" "บอกให้พอไงวะ! "ร่างบางทั้งสองที่ล้มคะมำลงไปนั้นทำให้ศิวัฒน์ชะงักนิ่ง "พ…พิณ.. " "อ…โอ๊ย.. กวางปวดท้องค่ะบอส"เกวลินที่ล้มลงโดยไม่ทันตั้งตัวนั้นทำให้ก้นกระแทกพื้นอย่างจังศิวัฒน์ที่กำลังจ้องภรรยาอยู่นั้นรีบหันไปทางต้นเสียงก่อนจะพบว่าเรียวขางามของสาวเจ้านั้นมีเลือดสีแดงสดไหลลงมา ศิวัฒน์เห็นดังนั้นจึงรีบช้อนร่างบางขึ้นรถ "กลับไปคุยกันที่บ้าน"เขาบอกเพียงเท่านั้นก่อนจะขับรถออกไปด้วยความเร็วสูง พิณนารามองภาพตรงหน้าพร้อมกับกำมือเข้าหากันแน่น ก่อนที่หยดน้ำตาจะไหลลงมาอาบแก้มนวลทั้งสองข้าง

ใจช้ำรัก
"โอ๊ย"กวินตาอุทานออกมาด้วยความเจ็บ "หวา! ทำบ้าอะไรเนี่ย"เขาว่าพร้อมกับบีบแขนเรียวแน่นด้วยแรงโทสะ วริษฐาสะบัดลำแขนออกจากมือแกร่งก่อนจะฟาดลงบนใบหน้าคมเต็มแรงทำให้ใบหน้าคมนั้นหันไปตามแรงตบ น่าแปลกใจที่ตอนนี้หล่อนไม่มีน้ำตาเลยสักหยด เพิ่งเข้าใจวันนี้นี่เองว่าเจ็บจนจุกมันเป็นยังไง "หนีงานแต่งมากกอยู่กับแฟนเก่า ดีจริงๆเลย สุภาพบุรุษที่สุด"หล่อนว่าพร้อมกับแค่นหัวเราะออกมา "มันไม่ใช่อย่างนั้นหวา"เขาพยายามระงับอารมณ์ที่เดือดพล่านไว้ "ก็อธิบายมาสิคะ บอกหวามาสิว่าเพราะอะไร เพราะมันใช่ไหม"หล่อนขึ้นเสียง "กลับไปก่อน"เขาเอ่ยบอกเสียงเหนื่อย เพราะยังไงวันนี้ก็คุยกันไม่รู้เรื่องแน่ถ้าวริษฐายังใช้อารมณ์เหนือเหตุผลแบบนี้ "มดพาเกรซขึ้นไปที"พชรพลเอ่ยบอกสาวใช้ สาวใช้คนนั้นก็ค่อยๆเข้ามาพยุงกวินตาโดยมีพชรพลช่วยอยู่ห่างๆ ภาพที่เขาดูเป็นห่วงเป็นใยผู้หญิงคนนั้นมันยิ่งทำให้เพลิงโทสะของวริษฐาลุกโชน เจ้าหล่อนจึงเข้าไปดึงแขนพชรพลออกมา "พี่ต้องคุยกับหวาให้รูเรื่องก่อนนะ" "กลับไประงับสติอารมณ์ก่อนแล้วเราค่อยคุยกัน"เขาว่าก่อนจะเข้าไปช่วยสาวใช้พยุงกวินตา "ถ้าพี่ไม่กลับมาเราไม่ต้องมาคุยกันอีก"หล่อนยื่นคำขาดทำให้คนตัวโตหยุดชะงัก แต่มันก็เป็นแค่เพียงเสี้ยวนาทีเดียวเท่านั้นเพราะเขาเลือกที่จะไม่สนใจหล่อนและพากวินตาขึ้นไปยังชั้นบนต่อ "พี่เพชร!"วริษฐาตะโกนตามหลัง ตอนนี้หล่อนไม่สามารถกักเก็บความเสียใจไว้ได้อีกต่อไป เพราะมันถูกระบายออกมาในรูปของหยดน้ำตาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

กุหลาบสีน้ำเงิน
เบล เป็นเฟรชชี่ในสถาบันการศึกษาเอกชนแห่งหนึ่งที่มีค่าเทอมเกินฐานะทางบ้าน เธอใฝ่ฝันอยากจะเป็นดีไซน์เนอร์ เพราะฉะนั้นเธอต้องมีงานพิเศษในบ้านของเศรษฐีใจดีแต่ความโชคดีไม่ได้เกิดขึ้นกับเธอเสมอไป เมื่อเธอดันไปพบเห็นคุณแป้งภรรยาสาวคนสวยของเศรษฐีใจดี ว่าคุณแป้งกำลังเริงสวาทชนิดที่ทำให้เธอหญิงสาวเวอร์จิ้นถึงกับตาค้างจนไม่อาจละสายตาจากภาพที่อยากรู้อยากเห็นนั้นไม่ได้ และเธอดันไปสบตากับคุณแป้งอย่างช่วยไมไ่ด้ในเวลาแบบนั้น ความซวยสะท้านต่อมหญิงก็มาบังเกิดกับเธอ ซึ่งมันเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตเธอไปอย่างสิ้นเชิง “ฉันจะกลับก็ต่อเมื่อเบลกลับไปด้วยกันเท่านั้น” “คุณกลางต้องการอะไร!” “เธอ” “เบลไม่ได้เป็นโสเภณีประจำตัวคุณอีกแล้วนะคะ” “แน่ใจเหรอ” กลางยิ้มเยาะ เบลบอกตัวเองว่าเธอจะไม่เสียน้ำตา เธอจะไม่เสียใจให้กับเขาอีกแล้ว “ก็ได้ค่ะ เบลยอมแพ้ คุณกลางอยากจะทำอะไรก็ตามใจเถอะค่ะ” กลางยิ้มอย่างผู้ชนะ “ไปบนเตียง” เบลทำตามนั้น และเขาไม่ต้องพูดต่อเมื่อสายตาเขาบอกชัดเจนว่าให้เธอถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมด คืนนี้เขาไม่ปล่อยเธอแล้ว

เล่ห์มายา สกุณาที่รัก
หล่อนเสิร์ฟความเสน่หาให้เขาไม่อั้น ผู้หญิงหน้าสวยแต่ใจดำ หลอกล่อผู้ชายให้ติดกับแล้วเขี่ยทิ้งอย่างไม่ไยดี สาวเซ็กซี่แต่บริสุทธิ์กำลังจะถูกเขาขยี้เชยชม อยากรู้นักว่าบุปผาช่องามที่ไม่เคยมั่นใจในรักแท้ช่อนี้ จะมีลีลาร้อนยวนใจขนาดไหน…กุหลาบดำที่หล่อนหยิบโปรยให้บรรดาหนุ่มๆอาจหมายถึงความไม่เชื่อในรักอันฝันเฟื่อง ไม่ศรัทธาในรักแท้ แต่เขานี่แหละ…เทโรนี่ ดีน มอนดาโดรี่ จะเป็นคนเปลี่ยนความหมายของกุหลาบสีดำให้กลายเป็น…รักนิรันดร์ที่จะไม่มีวันสิ้นสุด

เล่ห์กลกามเทพ
ขึ้นชื่อว่า ‘ความรัก’ ยิ่งหลีกหนีเท่ากับวิ่งชน เช่นสาวสวยอย่าง ‘วรกาล’ สาวสวยที่ดันอกหักรักคุดจนต้องวิ่งหนีหัวใจบอบช้ำของตนจากแฟนเจ้าชู้ที่ดันไปมีความสัมพันกับหญิงอื่นเป็นสาเหตุทำให้งานแต่งานล่มไม่เป็นท่าตั้งแต่นั้นหญิงสาวเกลียดกลัวผู้ชายเข้าชู้เข้ากระดูกดำ แต่แล้วหญิงสาวก็ต้องพบกับคนเจ้าชู้ขั้นสูงสุดอย่าง ‘พงษ์ระพี’ โดยไร้ข้อกังขา เมื่อเขาพยายามวางแผนเข้าใกล้เธอทุกเวลา หวังได้งาบ จ้องจะฟัดทุกครั้งที่มีโอกาส แล้วอย่างนี้คนที่พยายามหลีกหนีจะพ้นบ่วงเล่ห์ที่ชายหนุ่มมากอุบายวางหมากลวงไว้ได้หรือไม่...
