บท
ตั้งค่า

บทที่4

จนเมื่อใกล้จะถึงท่อนฮุคในทำนองเพลงอีกครั้งฉันจึงค่อยๆ ย่างกายลงมาจากเวทีอย่างช้าๆ ท่ามกลางสายตาลุ้นระทึกของผู้คนมากมายที่ต่างก็งงงันว่าฉันจะทำอะไรอีกกันแน่

จนกระทั่งฉันเดินมาถึงเป้าหมายซึ่งก็คือร่างสูงของผู้ชายประหลาดที่สวมหมวกไหมพรมสีชา และที่สำคัญไปมากกว่านั้น…

เขาคือคนเดียวที่เมินเฉยต่อฉันโดยการนั่งหันหลังให้ คนที่กล้าเมินเชยต่อเอพริลเท่าที่จำได้ไม่เคยมีมาก่อนเลยจริงๆ

“มาสนุกด้วยกันสิคะ” ฉันเก็บความโกรธที่แทบระเบิดของตัวเองเอาไว้ก่อนจะสอดคล้องแขนเข้าหาร่างสูงจากด้านหลังพร้อมลูบไล่ไปมาด้วยท่าทีที่ยั่วยวนแต่สิ่งที่ตอบกลับมาแทบทำให้ฉันผงะเลยทีเดียว

เพราะไอ้บ้านั่น...นอกจากจะทำหูทวนลมเสแสร้งแกล้งไม่ได้ยินในสิ่งที่ฉันพูดเขายังเอื้อมหยิบมือถืออกมาแล้วกดโทรออกหน้าตาเฉยทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ!

เพราะความโมโหที่อะไรก็ฉุดเอาไว้ไม่อยู่ในวินาทีที่ ‘เขา’ กำลังจะทำให้ฉันต้องพ่ายแพ้ เร็วกว่าความคิดที่มือบางของฉันจัดการคว้าเอาโทรศัพท์ในมือของหมอนั่นมาถือเอาไว้พร้อมส่งยิ้มหวานกลับไปให้โดยเร็วในจังหวะที่เขาหันมาเผชิญหน้ากับฉันสักที

ฉันชะงักรอยยิ้ม หยุดการกระทำรวมไปถึงความคิดในทันทีที่สบเข้าให้เต็มๆ กับนัยน์ตาสีดำสนิทที่ดูลึกลับซับซ้อนรวมไปถึงใบหน้าที่หล่อเหลาไม่ฉันคิดว่าชาตินี้ทั้งชาติคงจะไม่มีวันลืมและไม่คาดฝันว่าจะได้สบกับมันอีกเป็นครั้งที่สอง

“นาย!”

“เธอ!” ให้โลกถล่มลงตรงหน้ายังจะดีซะกว่าที่ฉันจะต้องมายอมรับว่าร่างสูงที่ฉันกำลังยืนประจัญหน้าอยู่ตอนนี้เป็นเขา

ไอ้บ้านั่น ผู้ชายที่ฉันสามารถเอาชนะในการแข่งรถด้วยเคล็ดลับกลโกงเพียงเล็กน้อย

ผู้ชายที่บังอาจแตะต้องจูเรียของฉันอย่างไร้มารยาท ไอ้โจรขโมยจูบที่ทำให้ฉันต้องนอนไม่หลับมาสามวันเต็ม

นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!

ผ่านไปหลายนาทีที่ทั้งฉันและหมอนั่นต่างยืนจ้องหน้ากันไปมาอย่างไม่มีใครคิดที่จะยอมอ่อนข้อให้ใครจนฉันเริ่มจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองกำลังจะแพ้ถ้าไม่ลากให้เขาเข้ามาแจมด้วยเดี๋ยวนี้

“เธอกำลังแข่งยั่วอยู่นี่ ถ้าไม่ได้ฉันช่วยคงแย่นะว่าไหม” ฉันกัดฟันแน่นก่อนจะกรีดยิ้มบางเฉียบไปให้เขาเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณที่ช่วยย้ำในสิ่งที่ฉันไม่อยากจำให้

“แล้วยังไง!”

“ถ้าไม่ได้ฉันช่วยเธอคงแพ้ นิสัยร้ายกาจที่เที่ยวเอาส้นสูงไปปาหัวคนอื่นเล่นไปทั่วอย่างเธอคงจะเป็นพวกประเภทไม่ชอบการพ่ายแพ้สิ ฉันเดาถูกไหม” เกลียดหมอนี่ที่สุดในสามโลกเลยบ้าเอ้ย!

ให้ตายๆ ทำไมเขาถึงได้ดูทางฉันออกแบบนี้นะ จะเก่งกาจเกินคนไปแล้วจริงๆ

“ถ้าไม่ช่วยก็ไสหัวไปให้พ้น ฉันหาทางเองได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งคนอย่างนายให้เสียศักศรี ถอยไป!” ฉันกระแทกเสียงดังสนั่นก่อนจะทำทีว่าจะเดินหนีไปแต่ตามที่คิดเอาไว้เพราะหมอนั่นคว้าต้นแขนฉันเอาไว้ก่อนจะกระชากแรงๆ ให้ฉันต้องหันไปเผชิญหน้ากับเขาอีกครั้งก่อนมือหนาจะเริ่มอยู่ไม่สุขลูบไล่ไปทั่วบริเวณเอวบางๆ ของฉันอย่างถือวิสาสะ

เพราะไม่อยากแพ้ยัยโคโยตี้มือสมัครเล่นนั่นฉันเลยจำต้องยอมข่มความเกลียดชังเอาไว้ในอกก่อนจะฉีกยิ้มหวานละลายให้ไอ้บ้านี่ที่จนถึงวินาทีนี้ฉันยังไม่รู้จัดแม้กระทั่งชื่อเสียงเรียงนามพร้อมเริ่มเลื่อนมือบางไปสัมผัสกับแผ่นอกที่เกือบเปลือยของเขาด้วยสายตาเจ้าเล่ห์อย่างแผ่วเบาเรียกเสียงเฮได้ไม่ยากเลยกับท่วงท่าเบาๆ แต่ทว่าแอบซ่อนความเร้าร้อนเอาไว้ในตัวเช่นนี้

มือของหมอนั่นเองก็ใช่ย่อยที่ไหนกัน รอยยิ้มนรกถูกส่งมาให้ก่อนมือหนาจะค่อยๆ เลื่อนมาสัมผัสเรียวขาอ่อนของฉันขึ้นมาเรื่อยๆ ก่อนจะมาหยุดที่ลำคอและให้ตายสิ ใครใช้ให้เขามามองฉันด้วยสายตาหวานเหยิ้มแบบนั้นกัน มันเหมือนขั้วแม่เหล็กหรือพลังอำนาจอะไรบางอย่างที่ทำให้เราต้องเลื่อนใบหน้าเข้าหากันอย่างช้าๆ

มารู้ตัวอีกทีฉันก็ถูกหมอนี่จูบเข้าจนได้ จูบครั้งที่สองไม่ได้หอมหวานอย่างที่คิดแต่ทว่ามันกับเร้าร้อนไปตามแรงอารมณ์ปราถนาที่หยุดไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นฉันหรือเขาก็ตามที มือหนาโอบกระชับให้ร่างเราแนบแน่นกันมากขึ้นจนฉันเริ่มจะหายใจไม่ออก รสขมฝาดของเหล้าที่เขาดื่มเข้าไปกำลังแทรกซึมเข้ามาในหัวของฉันทีละนิดจนฉันเริ่มจะมึนเมาไปกับมันอย่างไม่รู้ตัว

เราทั้งคู่เหมือนถูกสาปด้วยพลังอำนาจอะไรบางอย่างทุกครั้งที่สัมผัสซึ่งกันและกัน ให้ตายสิพระเจ้า ถ้าไม่มีใครมาหยุดเราในวินาทีนี้และเดี๋ยวนี้ล่ะก็…ฉันว่าผับนี้คงได้มอดไหม้ไปพร้อมๆ กับความปราถนาของเราทั้งคู่แน่ๆ

“กรี๊ดดดด! อันซีนคะทำไมคุณถึงได้ทำแบบนี้ แล้วยัยนี่เป็นใคร ทำไมถึง….” เสียงกรีดร้องที่แสบแก้วหูดังขึ้นขัดความรู้สึกบางอย่างที่กำลังอาละวาดในใจของฉันและนั่นทำให้เราทั้งคู่แทบจะผละออกจากกันอัตโนมัติก่อนจะหัวควับไปมองต้นตอของเสียงพร้อมกัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel