บทที่ 2
ตอนที่2 มีอะไรกับฉันไหมคะ
ณ บาร์แห่งหนึ่ง
"เรื่องมันเป็นแบบนี้แหละ" โรสเล่าให้เพื่อนสาวทั้งสองของเขาฟัง
"แต่ฌอนเขาก็ไม่เคยโกรธเธอขนาดนั้นนะ" โมน่าพูดด้วยความสงสัย
"หรือว่าเขาจะเป็นแฟนกันจริงๆ " ผักบุ้งพูด
"ไม่จริงถึงฌอนจะเป็นสุภาพบุรุษแต่ก็ใช่ว่าจะไม่เลือกสักหน่อย ที่ฌอนโกรธฉันก็เพราะว่าฉันตบเขาต่างหาก" โรสแย้ง
"ก็จริง"
"ถึงจะยังไงก็เถอะ มาดื่มกันดีกว่าอย่าเครียดเลยเรามาปาร์ตี้กันนะ"
"มาๆ เอ้าชน"
เพล้ง!
07:00 น.
กริ้งงงงงงงงงง
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นในยามเช้าที่มีแสงแดดสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างกระจกใส แสงของดวงอาทิตย์ขึ้นพ้นเขตขอบฟ้าแล้วจึงทำให้คนที่อยู่บนเตียง ตื่นขึ้นมากดปุ่มเพื่อหยุดเสียงนาฬิกาปลุกหมูน้อย
"โอ๊ยเช้าแล้วหรอเนี่ยะ ห๊าวววววว" หล่อนพูดก่อนที่จะเหลือบไปมองนาฬิกาใหญ่ที่ผนังห้อง
"ฮะ! จ..เจ็ดโมง ตายแล้ว ได้งานวันแรกก็จะสายแล้วหรอเนี่ยะ" หล่อนพูด แล้ววิ่งไปคว้าผ้าขนหนูสีขาวผืนใหญ่เข้าห้องไปแอบน้ำอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ปาไป 7:36 น. แล้ว จากนั้นเธอก็วิ่งออกจากบ้านจัดสรรหลังเล็กๆของเธอล็อคประตูบ้านให้เรียบร้อยพร้อมกับเรียกพี่วินมอเตอร์ไซค์ไปส่งที่ทำงาน
ณ บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง
"เธอมาสาย"หัวหน้าเบบี้มาดักรอฉันที่หน้าบริษัท
"แค่แปดโมงสามนาทีเองค่ะคุณเบบี้"
"แค่ที่ไหน ตั้งแปดโมงสามนาทีต่างหาก อ้อ แล้วก็เลิกเรียกฉันว่าเบบี้ได้แล้วเรียกหัวหน้าก็พอเข้าใจไหม"
"ค่ะ คุณเบบี้เอ่อ..หัวหน้า" อายทำไมนะชื่อน่ารักออก
"ตามฉันมาได้แล้ว"
"ค่า" เมื่อฉันตอบลากเสียงยาวจบก็ตามหัวหน้าไปทันที
เขาพาฉันเดินรอบๆ บริษัทซึ่งเป็นบริษัทที่ใหญ่มากๆ เป็นกระจกเกือบทั้งหมดนี่สินะที่ของคนรวย ยิ่งมองไปเรื่อยๆ ยิ่งมองเห็นอะไรบางอย่างไม่ว่าจะเป็นพนักงานหรือหัวหน้าถ้าไม่มีที่นี่เขาจะเป็นยังไงถ้าบริษัทล้มละลายจะอยู่ได้ไหม แล้วฉันจะได้ประธานเป็นสามีไหม (เดี๋ยวๆ นางเอก เธอคือนางเอกนะ) จากนั้นเขาก็สอนงานฉันไปเรื่อยๆ จนถึงเที่ยงฉันบิดขี้เกียจ บิดมือ บิดแขน บิดคอ บิดทุกอย่างก่อนที่จะมีร่างอ้วนๆ ขาวๆ ยังกะหิมะจะมาถล่มฉัน แล้วพูดว่า
"ไปกินข้าวได้แล้วไป ตอนบ่ายฉันจะสอนงานเพิ่มให้เธอ" เย้! ถึงเวลาที่รอคอยสักที จากนั้นฉันก็ทำการเก็บกระเป๋าเรียบร้อยเตรียมจะออกไปกินข้าวข้างนอกแต่ทว่า
"ใช่คุณชนัญธิดาไหมคะ" อะไรอีกละทีนี้
"ค่ะ"
"ท่านประธานเรียกคุณให้เข้าพบค่ะ" ฮะ! ฉันหูฝาดหรือเปล่าเนี่ยอีตาประธานสุดหล่อเรียกฉันหรือว่าเขาจะหลงเสน่ห์ฉันจริงๆ เอาสิ แม่จะปล้ำเอาเลย
"เรียกฉัน?"
"ค่ะ" พอเรียกเสร็จคุณเลขาท่านประธานก็เดินไป
"อะไรอีกละคนยิ่งหิวๆอยู่ อย่าให้โมโหหิวนะเดี๋ยวกินประธานแทนข้าวเลย"
" งั้นก็กินเลยสิ"เจ้าของเสียงทุ้มเอ่ยออกมา ก่อนที่เจ้าของน้ำเสียงนั้นจะเดินมาหาฉันที่โต๊ะทำงาน
"ท่านประธาน.." อายชมัดเลยมาตอนไหนก็ไม่รู้
"มัวแต่นินทาฉัน ถึงว่าทำไมไม่มาสักที" พูดไงดีล่ะเขาได้ยินหมดแล้วนี่น่าอายชะมัดเลย จะถูกไล่ออกไหมเนี่ย
"ขอโทษค่ะคราวหน้าฉันจะไปให้เร็วกว่านี้ค่ะ"ฉันก้มหัวเล็กน้อย
"ก็ได้ ครั้งนี้ฉันให้อภัย" โอ้โหอะไรจะขนาดนั้นยะ
"ว่าแต่มีอะไรกับฉันไหมคะ"
"มีอะไรกับฉันไหมคะ? ของเธอหมายความว่าไง คือฟังจากเธอนินทาฉันเมื่อกี้นี้ฉันก็อดคิดลึกไม่ได้"
โอ๊ย! อีตาประธานบ้าสุดหล่อนี่ก็ทะลึ่งเหมือนกันนะเนี่ยว่าจะไม่คิดแล้วยังวนมาอีก แต่นี่แกเป็นอะไรของแกทำไมรู้สึกร้อนๆที่หน้าล่ะ
"ก..ก็หมายถึงมีธุระอะไร ข้าวไม่ได้คิดเป็นอย่างอื่นนะคะ"หรือจะคิดก็เถอะ
"จริงหรอ?"
กรี๊ด! ไอ้บ้า เอาหน้าเข้ามาใกล้ฉันทำไม หน้าฉันกับหน้าเขาห่างกันแค่ห้าซม.เท่านั้นจะจูบแล้วพ่อคู๊น!
ตึกตึก ตึกตึก ตึกตึก ตึกตึก
"ค..ค่ะ"
"จริงๆ ฉันก็ไม่มีธุระอะไรหรอกนะแค่วันนี้ไม่มีสาวๆ กินข้าวด้วยก็เลยจะชวนเธอ"
แหม แค่จะชวนกินข้าวนี่เป็นทางการเชียวไม่ต้องเอาสาวๆมาอ้างหรอกคะประธาน ชอบเขาก็บอก แต่ใครจ่ายละ
"แต่!"
"ฉันเลี้ยงเองไม่ต้องห่วง ตามมาได้แล้ว"
"ค่ะ" จากนั้นฉันก็รีบเดินตามหลังเขาไปต้อยๆเพราะถ้าเกิดว่าเขาไม่เอาข้าวฟรีมาอ้าง จ้างฉันก็ไม่ไปด้วยหรอกนะ แหะๆ กินข้าวกับคนหล่อและฟรีมันดีจริงๆ มีแต่คุ้มกับคุ้ม
ในระหว่างทางเราสองคนไม่ได้คุยอะไรกันเลยมีแต่ความเงียบจนได้ยินเสียงหัวใจตัวเอง
ตึกตึก ตึกตึก ตึกตึก ตึกตึก
พอคิดถึงเรื่องเมื่อกี้ที่เขาเอาหน้ามาใกล้ทำไมหัวใจของเราถึงเต้นแรงขนาดนี้นะ
"จริงหรอ"
"คะ ค่ะ"
"จริงๆ ฉันก็ไม่มีธุระอะไรหรอกนะแค่วันนี้ไม่มีสาวๆ กินข้าวด้วยก็เลยจะชวนเธอ")
บ้าไปแล้วหัวใจสุดเซ็กซี่ของฉัน เลิกคิดเลิกเพ้อเจ้อได้แล้ว
ณ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
"เอาสปาเกตตี้ขี้เมาทะเล2และน้ำส้ม2ครับ" มาถึงก็สั่งเลย จะไม่ถามฉันเลยใช่ไหมถ้าเลือกได้ฉันอยากกินก๋วยเตี๋ยวเรือมากกว่า ก็นะเขารวยนิ จานแค่นี้ก็เท่าค่าแรงของฉันทั้งวันละ
"รอสักครู่นะคะ" พนักงานบอกด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลและก็ไม่ลืมที่จะยิ้มให้อย่างเป็นมิตรก่อนที่จะเดินจากไป
"คุณกล้ามากนะที่ว่าโรสแบบนั้น" อะไรอีกละทีนี้
"คะ?"
"ก็เมื่อวานที่คุณพูดว่าใส่เขาไร้มารยาทไง"
"ก็จริงนิหัวหน้าแก่กว่าเขาตั้งเยอะเขาไม่ควรพูดแบบนั้น"
"แต่โรสเขาก็แก่กว่าคุณ แล้วทำไมคุณถึงพูดแบบนั้น"
"ก็ฉันทนไม่ได้นี่ งั้นฝากขอโทษแฟนคุณด้วยละกัน ที่ชวนมากินข้าวเพราะว่าแฟนงอนละสิ"
"ชนัญธิดา!"
"อาหารมาแล้วค่ะลูกค้า"มาตรงเวลาพอดีอย่างรู้ใจ มาตรงเวลาพอดีอย่างกะนัดกันไว้ พี่พนักงานน่ารักมาก ถ้ามาช้าอีกนิดเดียวฉันถูกเขาจับฉีกก่อนแน่ๆ
"ขอบคุณค่ะ" ฉันกำลังจะกินแต่เขาพูดขึ้นมาก่อน
"เอาโทรศัพท์มา" ฮะ บ้าไปแล้วแน่ๆ หมอนี่โรคจิตหรือเปล่าเนี่ยอยู่ก็สั่งให้เอาโทรศัพท์ให้เขาเฉยเลย
"จะเอาไปทำอะไรคะ?"
"เอามาเถอะน่า จะถามทำไม "
ฉันชะงักแล้วมองหน้าเขาอย่างลังเลเพราะกลัวว่าเขาจะแอบดูความหลับของฉัน แต่ดูจากหน้าตาแล้วก็คงจะไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกมั้งอาจจะยืมเพื้อโทรหาใครบางคนก็ได้ จากนั้นฉันก็หยิบโทรศัพท์ยื่นให้เขาโดยไม่เต็มใจ เมื่อเขารับไปแล้วเขาก็กดอะไรไม่รู้ประมาณสามนาทีแล้วก็ยื่นให้แล้วก็เก็บลงในประเป๋าตามเคย ฉันไม่ได้ดูอะไรในโทรศัพท์เลย
"โรสเขาไม่ใช่แฟนฉันหรอกนะ"
ตึกตึก ตึกตึก ตึกตึก ตึกตึก
"ค่ะ..."
เขาพูดแค่นี้ แต่..แต่ทำไมหัวใจฉันมันถึงเต้นแรงแบบนี้นะ
"คุณกินกุ้งหรือเปล่า"
"กินสิคะคุณจะแย่งฉันหรอ" คนรวยอะไรจะแย่งกุ้งคนอื่นเหอะ
"เปล่าสักหน่อย"เขาตักกุ้งในจานเขาสามตัวหรือทั้งหมดในจานมาให้ฉัน
"คุณแพ้กุ้งหรอ"
"จะว่างั้นก็ได้ แต่ผมฟังมานานแล้วคุณเรียกผมว่าคุณไม่เรียกท่านประธานแล้วหรอ" นั่นสินะลืมตัวจนได้
"ขอโทษค่ะฉันลืมตัว"
"ไม่เป็นไรเรียกคุณนั้นแหละ แต่ถ้าเรียกคุณฌอนจะดีมาก"
"ค่ะคุณฌอน" OMG ความฝันที่จะจับมาเป็นสามีคงไม่ไกลแล้วสินะ (เปลี่ยนนางเอกดีไหม)
พอเรากินข้าวเสร็จก็กำลังจะกลับบริษัทแต่ทว่าเจอนางร้านในละครหลังข่าวกับผองเพื่อน
"อ้าวฌอน พาน้องพนักงานไปไหนหรอคะ" กรี๊ด! อยากจะจบสักฉากจริงๆ หล่อนเน้นคำว่าพนักงานได้เจ็บปวดมาก
"เราไปกินข้าวมาค่ะคุณไฮโซ " ฉันเน้นคำว่าไฮโซ แต่คงไม่เจ็บหรอกเพราะเขาเป็นไฮโซจริงๆนี่
" ฉันชื่อโรส ไม่ได้ชื่อไฮโซกรุณาเรียกให้ถูกด้วยเป็นแค่พนักงานต๊อกต๋อยเงินเดือนไม่กี่หมื่นอย่ามาสะเออะเทียบฉัน"โอ้ยเจ็บไปทั้งหัวใจ ทำไมยังทน แม่งแสบนะยัยนี่
"โรสผมขอร้องละ กรุณาให้เกียรติแฟนของผมด้วย " แฟนของผมด้วยงั้นหรอ กรี๊ด! แต่งค่ะคุณฌอน (เขายังไม่ขอจ่ะคุณนางเอก)
"ทีมันว่าโรสละ ใส่แต่ชุดนักศึกษาไม่มีปัญญาซื้อชุดสวยๆ หรือไง แถมคุณยังบอกมันเป็นแฟนคุณอีก " อ้าว แล้วใส่ชุดนักศึกษามันเกี่ยวกับไม่มีปัญญาซื้อชุดตรงไหนวะ
"แต่ต้นข้าวเขายังไม่ได้ว่าคุณสักคำ ส่วนเสื้อผ้าผมบอกให้เขาใส่เอง ถึงเขาไม่มีปัญญาซื้อ แต่ผมก็มีปัญญาพอที่จะซื้อให้แฟนตัวเอง"ฉันควรดีใจไหมเนี่ยที่ได้ยินแบบนี้
"พอเถอะฌอน บุ้งขอโทษแทนโรสด้วยนะโรสเธอไม่ได้ตั้งใจหรอก พี่ขอโทษนะน้องต้นข้าว"ผักบุ้งเอ่ย
"ไปเถอะต้นข้าว"ปรบมือ
พอละจากพวกนั้นเขาก็พาฉันมาสปาร์ผิวกาย ผิวหน้า ทำเล็บ ทำผมทำทุกอย่างจนตอนนี้สองทุ่มสี่สิบ แล้วเดินไปร้านเสื้อผ้าผู้หญิง
"สวัสดีค่ะคุณฌอนมีอะไรให้เนตรรับใช้คะ" พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใสต้อนรับเขาเป็นอย่างดีตามประสาคนคุ้นเคย คงสนิทกันน่าดูพาผู้หญิงมาบ่อยละสิ
"จัดเสื้อผ้าสวยๆ ให้เธอที"เขาพูดแล้วชี้มาทางฉัน
"ได้ค่ะ ทางร้านมีเสื้อผ้านำเข้าจากอเมริกาสดๆ ร้อนเลยค่ะเอาตัวไหนค่ะ"
"งั้นฉันเอาตัวนี้ละกันค่ะ" ฉันชี้ไปที่ชุดเดรสสีขาวลายดอกไม้
"ลองได้เลยค่ะลูกค้า" ฉันเข้าไปลองแต่โดยดีเมื่อเห็นสายตาคู่สวยคู่นั้นมองมาอย่างกะจะกินเลือดกินเนื้อ พอฉันออกมาก็นึกว่าเขาจะตะลึงในความสวยของฉันเหมือนในละคร แต่ไม่เขามองฉันด้วยความพิจารณาอะไรอยู่
"แล้วรองเท้าละ"
"อ่อ ทางนี้ค่ะ เอาคู่ไหนคะ"
"คู่นี้ละกันละ"ฉันชี้เอาไปที่รองเอาเบอร์สามสิบแปดสีขาวส้นสูง
"ผมขอ เสื้อผ้าที่อยู่ในราวนี้ กระเป๋าทั้งหมด รองเท้าแตะรองเท้าผ้าใบรองเท้าส้นสูงเบอร์นี้ ชุดนอน ชุดชั้นในกางเกง เสื้อยืด เสื้อกล้าม อย่างละยี่สิบชิ้นครับ" จ..จะบ้าไปแล้วหรือไง!
"ค่ะ รอสักครู่นะคะ"
"นี่คุณ! จะบ้าไปกันใหญ่แล้ว" ฉันพูดด้วยความโกรธ
"เงียบไปเถอะน่า" เชื่อเขาเลย
" ทั้งหมดหนึ่งล้านสองหมื่นบาทค่ะ" ฮะ หนึ่ง ล..ล้าน หนึ่งล้านหรอ บ้าไปแล้วแน่ๆ แบบนี้ฉันจะไปขายเครื่องในที่ไหนมาใช้หนี้เขาล่ะ แง๊ๆ
"ของทั้งหมดจะส่งไปบ้านของคุณผู้หญิงพรุ่งนี้นะคะ กรุณากรอกข้อมูลด้วยค่ะ"ฉันทำตามแต่โดยดีเพราะกลัวคนข้างๆ ดุ
" ขอบคุณมากนะครับคุณเนตร"
@บ้านแสนสวยแต่ไม่ถูกหวยสักที
"คุณทำแบบนี้ทำไม" ฉันเอ่ยถามเขาด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดทันทีที่รถจอดอยู่หน้าบ้าน แต่ใบหน้าของเขากับเรียบนิ่งไร้อารมณ์เหมือนเดิมตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน ฉันล่ะอยากจะซัดหน้าเขาจริงๆเลย
"ทำอะไร"
"ก็ที่ซื้อเสื้อผ้ามากมายมหาศาลให้ฉันไง"
"ทำไมคุณคิดว่าผมพิศวาสคุณหรอ"
"เปล่าสักหน่อยแค่สงสัย"
"ก็ได้ผมพิศวาสคุณพอใจมั้ยถ้าพอใจแล้วก็ลงได้แล้ว มาทำงานแต่เช้าด้วยละ" ฉันลงจากรถทันทีเมื่อเขาพูดจบเพราะฉันขี้เกียจฟัง จากนั้นเขาก็ขับรถออกไป พอกำลังจะเปิดประตูบ้าน ความคิดก็วิ่งด้วยความเร็วแสงเข้ามา
"ฉันไม่ได้บอกเขาว่าบ้านฉันอยู่ตรงนี้นิแล้วเขารู้ได้ไง อ..หรือ หรือว่า!"
