ตอนที่ 4 หนี
EP04 หนี
หยางเก่อพูดจบก็ปรายตามองมาที่โยเกิร์ตทำให้ขนอ่อนทั่วร่างกายเธอมันลุกชัน หญิงสาวหลบสายตาแล้วจิกมือลงบนกระโปรงสีขาวแน่น
"ผมทราบแล้วครับ เดินทางกลับอย่างปลอดภัยนะครับคุณเก่อ"
"…" หยางเก่อพยักหน้าตอบแล้วแสยะยิ้มพอใจกับการคุยธุรกิจครั้งนี้ หยางเก่อและมือขวาเดินออกจากห้องไปแล้วทำให้ภายในห้องเหลือเพียงเอ็มเจ โยเกิร์ตและผู้ช่วยของเขาอีกคน
"หมดงานของฉันแล้วขอตัวก่อนนะคะ" โยเกิร์ตพูดขึ้นมาเสียงสั่นเล็กน้อยเพราะเมื่อกี้เธอได้ยินที่ทั้งสองพูดกันแล้ว ปิดปากก็แปลว่าเก็บเธอนั้นแหละ
"เดี๋ยวสิ เธอหน้าคุ้นดีนะ" ร่างสวยที่กำลังจะลุกขึ้นหยุดชะงัก เธอมองไปที่เอ็มเจ เขากำลังหยิบมวลบุหรี่สีดำออกมาจุดสูบอย่างใจเย็นพร้อมกับถอดหน้ากากออกจากใบหน้าหล่อ
"คุณคงจำผิดแล้วค่ะ พนักงานหรือทุกตำแหน่งของที่นี้เวลาทำงานล้วนสวมหน้ากากกันหมด คุณไม่เคยเห็นหน้าจริงของฉันจะคุ้นได้ยังไง" ทุกตำแหน่งของร้านนี้หรือแม้แต่กระทั่งพยักงานเสิร์ฟล้วนสวมหน้ากากกันหมดจะถอดก็ต่อเมื่อลูกค้าต้องการหลังไมค์เท่านั้น ส่วนในด้านของลูกค้าจะถอดยกเว้นเสียแต่แขกVVIPที่ต้องการปิดบังตัวตนอย่างงานของวันนี้ที่โยเกิร์ตกำลังทำ
"เธอชื่ออะไร"
"นิโคลค่ะ"
"แต่ฉันว่าชื่อเธอคือโยเกิร์ตนะ"
"…" คำพูดของเอ็มเจทำให้ใบหน้าหวานภายใต้หน้ากากซีดเผือด เธออุตส่าห์ปิดบังความลับนี้มาตั้งนานมันจะถูกเปิดเผยวันนี้แบบนั้นหรอ
"ถอดหน้ากากออกสิ ทำตามความต้องการของลูกค้าหน่อย"
"…" ในเมื่อถูกจับได้แล้ว โยเกิร์ตก็ต้องรับความจริงอีกทั้งมันเป็นกฎของร้าน ถึงจะถอดหรือไม่ถอดเปอร์เซ็นต์รอดของเธอตอนนี้มันก็เท่ากัน
"ใช่จริงๆด้วย"
"ค่ะ"
"เพื่อนของขวัญเด็กไอ้เมฆา ทำไมฉันจะจำไม่ได้ มีอะไรอยากพูดก่อนตายมั้ย?" คิ้วหนาหรี่ถาม เขาหยิบปืนออกมาจากหลังเข็มขัดแล้วเล็งมาที่เธอ โยเกิร์ตยืนมองด้วยแววตาที่รู้ชะตากรรมของตนเอง คนของเขายืนขวางประตูเอาไว้ขนาดนั้นจะมีทางไหนที่จะวิ่งหนีออกไปได้ ปืนมันไวกว่าร่างกายของเธอแต่แล้วเธอพลาดเองที่รับงานนี้
"ไม่มีค่ะ เพราะยังไงก็ต้องตาย" เธอปิดเปลือกตาลงแล้วลูกกระสุนก็เฉียดข้างแก้มไปลงที่ผนังแทน ลืมตาขึ้นมาอีกทีร่างกายก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บหรือมีบาดแผลจากการถูกยิงเลย
"เห็นว่าเราคนใกล้ชิดกันฉันให้โอกาสเธอเอาตัวรอดนับตั้งแต่ตอนนี้ยี่สิบสี่ชั่วโมงฉันจะล่าเธอหนี รอดก็รอด ตายก็ตาย" พูดจบเอ็มเจก็เก็บปืนเอาไว้แล้วพ่นควันบุหรี่สีขาวลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ชายหนุ่มหว่านเงินสดสีเทาหลายใบลงพื้นแล้วเดินออกจากห้องไปพร้อมผู้ช่วย
โยเกิร์ตถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอ กถึงแม้เมื่อกี้จะพูดออกไปแบบนั้นแต่เธอก็ยังไม่อยากตายอยู่ดี มันยังมีหนึ่งอย่างสำคัญที่ต้องทำ ถ้าไม่ติดสิ่งนี้โยเกิร์ตคว้าปืนมายิงตนเองตายไปแล้ว
หญิงสาวรีบก้มหยิบเงินแบงก์พันจากพื้นขึ้นมายัดใส่กระเป๋าพลันดวงตากลมโตก็เหลือบมองเห็นเครื่องจับเวลาที่กำลังนับถอยหลังอยู่มุมประตู พอรู้ตัวว่าต้องรีบหนีร่างกายมันก็เร่งรีบโดยอัตโนมัติ
"นั้นเธอจะรีบไปไหน" ไม่ทันที่โยเกิร์ตจะได้ก้าวขาออกจากห้องเสียงของโซเฟียก็ทักท้วงขึ้น
"วันนี้โยลานะคะ มีธุระด่วนต้องรีบไปทำ"
"เดี๋ยวสิ โย!" เธอไม่ฟังอะไรรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งเพื่อออกจากผับแห่งนี้ ไม่เพียงต้องหนีพวกที่ตามฆ่าซึ่งเป็นคนของเอ็มเจ แต่เธอต้องมาหนีเพราะโซเฟียคงสั่งการ์ดของที่นี้ตามออกมาอีกแน่ๆ
คฤหาสน์ใหญ่ ตระกูลปรเวท
"ไปไหนมาล่ะภาคิน" ทันใดที่ร่างสูงย่างกรายผ่านประตูบานใหญ่เข้ามาภายในคฤหาสน์เสียงของคุณหญิงย่าอย่างโสภาก็เอ่ยทักขึ้น หญิงชราวัยย่างเจ็ดสิบปีผู้อาวุโสสุดของตระกูลในขณะนี้ เธอกำลังนั่งอยู่บนโซฟาชั้นดีพร้อมกับคนดูแลคู่ใจอย่างสายใจทั้งสองกำลังนั่งถักไหมพรหมพร้อมกับนั่งดูรายการทีวีจอใหญ่
"ผมมาจากคฤหาสน์เล็กครับคุณย่า ไม่ได้ไปไหนเลย"
"อย่างนั้นหรือ มีคนบอกบอกว่าย่าว่าภาคิณของย่าออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า"
"ผมแวะไปเอาเลคเชอร์ที่คณะครับ"
"เป็นแบบนั้นก็ดี"
"แล้วดึกป่านนี้คุณย่าไม่ง่วงหรอครับ" ภาคิณเอ่ยถามด้วยนํ้าเสียงนุ่มนวลใบหน้าหล่อละมุนไร้ที่ติสวมแว่นตากรอบสีดำยามเขาอ่านหนังสือ ในมือมีสมุดเลคเชอร์อย่างที่พูด ความจริงแล้วภาคิณไม่ได้ไปเอาสมุดเลคเชอร์ที่มหาลัยหรอกเขาไปหาโยเกิร์ตต่างเพียงพูดให้คุณย่าสบายใจ ถึงจะเป็นผู้ชายแต่เขาก็คือทายาทคนเดียวของตระกูลที่เหลืออยู่
"ย่ารอหลานกลับคฤหาสน์ใหญ่ ช่วงนี้หลานย่าไม่ค่อยเข้ามาที่บ้านใหญ่เลยนะ"
"ผมไม่ค่อยว่างเลยครับคุณย่า แถมช่วงนี้ยังต้องช่วยคุณพ่อเข้าไปดูธุรกิจในบริษัทอีกด้วย" ปากพูดร่างกายก็เดินอ้อมมาหยุดอยู่ฝั่งด้านหลังของคุณย่า ชายหนุ่มสวมกอดผู้อาวุโสด้วยความรักใคร่
"เอาเถอะ ย่าได้เจอหลานก็พอดีใจขึ้นมาบ้าง แล้วทำไมถึงเข้ามาคฤหาสน์ยามดึกแบบนี้ล่ะ"
"ผมเข้ามาดูน้องแมวที่กำลังล้มป่วย แมวตัวนั้นเป็นยังไงบ้างครับ"
"อยู่หลังสวน คงจะไม่รอดแล้ว อีกวันสองวันคงไป"
"ถ้าอย่างนั้นผมแวะไปดูน้องก่อนนะครับ จะได้กลับคฤหาสน์เล็กเลย ฝันดีก่อนนะครับคุณย่า" สิ้นเสียงพูดภาคิณก็หอมแก้มผู้เป็นย่าเข้าฟอดใหญ่ก่อนจะเดินมาที่หลังสวนเพื่อดูลูกแมวที่กำลังล้มป่วย ชายหนุ่มย่อตัวลงตรงหน้าแล้วยกมือขึ้นลูบหัวแมวตัวน้อยที่ถูกแม่มาคลอดทิ้งไว้ ตัวอื่นปลอดภัยทุกอย่างมีเพียงตัวนี้ที่ล้มป่วย
"ไม่เป็นไรนะหนูน้อย ถึงเวลาที่ต้องตอบแทนฉันแล้วนะ" ว่าแล้วก็ใช้ผ้าผืนเล็กห่อเอาลูกแมวที่กำลังใกล้ตายขึ้นมาในอ้อมกอดแล้วเดินผ่านความมืดเพื่อกลับคฤหาสน์เล็ก ตลอดการเดินทางภาคิณก็ฮำเพลงไปด้วยจนกระทั่งมาถึงห้องห้องหนึ่ง
เขาผลักประตูเข้าไปแล้ววางลูกแมวลงบนถาด ชายหนุ่มสวมถุงมือพร้อมกับหน้ากากใส ก่อนจะหยิบเข็มขึ้นมาแล้วฉีดยาสลบให้ลูกแมวทุกอย่างเสร็จสับก็หยิบมีดปลายแหลมเล่มเล็กเฉือนเข้าลำคอจนเลือดกระเด็นออกก็ใช้โถใบเล็กรองรับเลือดเอาไว้ เลือดของสัตว์ชนิดเดียวกันมันเป็นเลือดชั้นดีที่สุดแล้ว
