ตอนที่ 16 สะกดรอยตาม
EP16 สะกดรอยตาม
“…” โยเกิร์ตนิ่งเงียบเธอไม่รู้ว่าคนตรงหน้ากำลังพูดความจริงหรือเพราะเพียงพูดจาหยอกล้อเธอเท่านั้น
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ ผมแค่หยอกเล่นเอง คุณอย่าคิดมากเลยนะ”
“เปล่าค่ะ โยแค่รู้สึกแปลกใจที่อาจารย์เดินเข้ามาทักโย”
“คนเราก็มักจะเข้าหาสิ่งที่ตัวเองสนใจอยู่แล้วนิครับ”
“งั้นก็แปลว่าอาจารย์ สนใจโยแบบนั้นหรอคะ?” โยเกิร์ตหรี่ตาถาม ที่ถามออกไปแบบนั้นเพราะต้องการรู้คำตอบจริงๆ ไม่ได้มีแผนหรือคิดอะไรในหัวเหมือนผู้ชายคนก่อนๆ เธอตั้งใจจะหยุดมันแล้ว
“แล้วคุณคิดว่ายังไง” ฉายตะวันไม่ได้ให้คำตอบ แต่กลับทิ้งคำถามให้เธอสงสัยมากกว่าเดิม ชายหนุ่มหันหลังให้เธอปละเตรียมจะเดินออกมาจากบริเวณที่หญิงสาวยืนอยู่
“เดี๋ยวค่ะอาจารย์”
“ว่าไงครับ?”
“โยขอเวลาสักหน่อยได้มั้ยคะ”
“ได้สิ”
“อาจารย์มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับหน่วย BUC หรอคะ โยเคยเห็นรถของหน่วยงานนี้มาส่งอาจารย์ที่มหาลัยในวันที่เราบังเอิญเจอกันครั้งแรก”
“เพราะอะไรถึงถามแบบนั้นล่ะ”
“หนูแค่มีบางเรื่องสงสัยค่ะ” ฉายตะวันหันหน้ากลับไปมองเธอแล้วเดินเข้าไปหาอีกครั้ง โยเกิร์ตมองคนตรงหน้าอย่างต้องการคำตอบ
“แค่รู้จักกับคนในหน่วยงานหน่ะครับ ไม่ได้มีส่วนอะไรเกี่ยวข้องกัน” ชายหนุ่มเลือกที่จะตอบบ่ายเบี่ยงความจริง เพราะเขาคิดว่าโยเกิร์ตต้องมีอะไรบางอย่างปิดบังเขาอยู่เธอถึงถามเรื่องนี้ออกมา ทั้งที่มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรน่าสนใจเลยสักนิด
“ค่ะ…” เธอพยักหน้าตอบเล็กน้อยอย่างรู้สึกผิดหวัง คิดว่าตนเองพอจะได้ข้อมูลมากกว่านี้จากฉายตะวันแต่มันก็กลับไม่ใช่
“มีอะไรจะถามอีกรึเปล่าครับ”
“ไม่มีแล้วค่ะ โยขอตัวก่อนนะคะ” ตอบเพียงเท่านั้นโยเกิร์ตก็เป็นฝ่ายเดินออกมาแทน ชายหนุ่มได้แต่มองตามแผ่นหลังบางพร้อมกับมีคำถามอะไรบางอย่างเข้ามาในหัว
บริษัทเครือปรเวท
ภายในห้องทำงานของผู้บริหารสูงสุดอย่างปรเวท เขากำลังนั่งมองภรรยาของตนเองและลูกชายเพียงคนเดียวคุยกันอยู่บนโซฟาภายในห้องทำงาน วันนี้ภาคินไม่ได้ไปเรียนเพราะพวกเขานัดลูกชายให้มาคุยเรื่องสำคัญ
“ช่วงนี้สนิทกับหนูฟ้าขึ้นบ้างมั้ย” นิติยาเอ่ยถามลูกชายที่ยืนมองวิวผ่านกระจกใสบนชั้นสูงสุดของตึก
“น้องก็เข้ามาคุยเรื่อยๆครับตอนผมเข้าไปที่คฤหาสน์ใหญ่”
“อีกไม่กี่วันน้องพ่อของน้องก็จะกลับมาจากต่างประเทศแล้ว หนูฟ้าจะไม่ได้อยู่ที่บ้านใหญ่อีกต่อไปแล้วนะ”
“ผมทราบแล้วครับ”
“ได้ยินใช่ไหมว่าคุณย่าของลูกเขาอยากอุ้มเหลนตอนนี้คุณย่าฝากความหวังไว้กับฉายตะวันเป็นอย่างมาก แต่ตานั้นคงไม่มีคนที่ชอบเร็วๆนี้หรอก แม่ว่าลูกยังมีโอกาสนะ รีบสานสัมพันธ์กับหนูฟ้าไว้ก็ดี เรียนจบจะได้หมั้นหมายกัน” นิติยาเกลี่ยกล่อมลูกชาย ที่ยังมีท่าทีเฉยๆกับฟ้าใส ต่างกับฟ้าใสที่ดูชอบเขาเป็นอย่างมาก
“คุณแม่เรียกผมมาอยากจะคุยเรื่องนี้เองหรอครับ”
“มันไม่สำคัญตรงไหนล่ะ คุณย่ารักฉายตะวันพอๆกับลูกเลยนะ อย่าให้ตำแหน่งหลานรักถูกชิงไปแบบนั้นสิ ยิ่งถ้าฉายตะวันมีแฟนขึ้นมาเมื่อไหร่คุณย่ายิ่งจะไม่เห็นหัวลูกเอา”
“แล้วทำไมถึงเป็นฟ้าใสล่ะครับ คนที่คุณพ่อกับคุณแม่อยากให้ผมสานสัมพันธ์” อันที่จริงภาคินก็รู้มาบ้างแล้วแหละว่าการที่ให้ฟ้าใสเข้ามาอยู่ในบ้านด้วยก็เพื่อต้องการให้เขากับฟ้าใสได้มีความสัมพันธ์กัน
“เพราะคุณย่าชอบหนูฟ้า และพ่อของหนูฟ้าก็เป็นเพื่อนของพ่อลูก เหตุผลสองอย่างนี้ก็คงจะพอแล้วนะ มีผลประโยชน์ทั้งในด้านของธุรกิจและการพิชิตใจคุณย่า”
“ไว้ผมจะรับพิจารณานะครับคุณแม่” ภาคินพูดออกมาแค่นั้นก็ส่งยิ้มให้ผู้เป็นแม่ ชายหนุ่มเดินล้วงกระเป๋ากางเกงออกมาจากห้องผู้บริหารสูงสุดและลงมาที่ลิฟท์ และในตอนนั้นเองฉายตะวันที่พึ่งสอนเสร็จก็กำลังจะใช้ลิฟท์พอดี ทั้งสองสบตากันเพียงครู่ก่อนที่ภาคินจะเอ่ยทัก
“แวะมาทำอะไรที่นี้หรอครับ”
“เข้าบริษัทก็มีแค่เรื่องงาน”
“แต่ได้ยินข่าวว่าบริษัทของคุณพ่อ ครอบครัวของพี่ไม่ได้ถือหุ้นเลยนะครับ”
“…” ฉายตะวันไม่ได้ตอบออกไป ชายหนุ่มเดินเข้าไปข้างใน จังหวะนั้นเองภาคินจึงเดินออกมา แล้วส่งยิ้มให้ แล้วลิฟต์ก็ปิดลงเป็นที่เรียบร้อย
ภาคินเดินออกมาจากบริษัทแล้วเดินมุ่งตรงไปที่รถของตนเอง ชายหนุ่มสอดตัวเข้าไปนั่งข้างใน โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีสายตาของใครบางคนคอยจ้องมองอยู่
โยเกิร์ตแอบตามฉายตะวันมาเพราะเธอไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูดเกี่ยวกับหน่วยงาน BUC แต่การแอบสะกดรอยตามมาครั้งนี้มันกลับทำให้เธอได้พบเข้ากับภาคินที่เดินออกมาจากบริษัทพอดี ยิ่งทำให้เธอสงสัยมากยิ่งขึ้นว่าทั้งสองมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกันรึเปล่า หรือแค่บังเอิญแวะมาที่เดียวกัน
คำถามทุกอย่างผุดขึ้นมาเต็มหัว ทำให้โยเกิร์ตตัดสินใจตามภาคินไป โดยที่ไม่รู้จุดหมายเลยว่าเขากำลังไปที่ไหน จนกระทั่งรถของภาคินมาจอดที่หน่วยงาน และคนที่เดินมาต้อนรับเขาคือเจ้าหน้าที่ที่ทำคดีของชานนท์และไดม่อนที่เสียชีวิตไป
“สวัสดีครับคุณคิน”
“สวัสดีครับ”
“เชิญเข้าไปข้างในได้เลยครับ”
โยเกิร์ตได้ยินเพียงบทสนทนาแว่วๆ หญิงสาวตัดสินใจลงจากแท็กซี่แล้วจ่ายตัง เพื่อที่จะเดินเข้าไปภายในหน่วยงาน แต่เธอกลับถูกดักทางเอาไว้เสียก่อนเพราะไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของที่นี้
“เวลานอกทำการคนนอกห้ามเข้านะครับ”
“นอกเวลาทำการหรอคะ?”
“ครับ เชิญคุณออกจากบริเวณหน้าหน่วยงานด้วยนะครับ”
“ขอโทษนะคะ ปกติหน่วยงานของที่นี้ไม่รับทำคดีเกี่ยวกับบุคคลทั่วไปใช่ไหมคะ”
“หน่วยงานของเราทำคดีเกี่ยวกับประเทศและระหว่างประเทศเท่านั้นครับ”
“แล้วผู้ชายคนนั้น…”
“เป็นตระกูลราชวงศ์ที่หน่วยงานของเราดูแลมาตั้งแต่รุ่นทวดของทวดแล้วครับ”
“…” คำตอบของการ์ดที่ทำหน้าที่ยืนควบคุมหน้าทางเข้าหน่วยงานเอ่ยบอก เวลานอกทำการแต่ภาคินกลับมาที่นี้ มันมีเรื่องอะไรแบบนั้นหรอ แล้วเขารู้จักกับเจ้าหน้าที่ที่ทำคดีเกี่ยวกับสองคนนั้นได้ยังไง งานของหน่วยงานนอกเหนือจากที่การ์ดบอกพวกเขายังคอยรับคำสั่งจากคนในตระกูลปรเวทอีกสินะ
สิ่งที่เจ้าหน้าที่คนนั้นบอก ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้เตี้ยมกับการ์ดที่คอยรักษาความปลอดภัยหน้าหน่วยงานเพราะคำตอบมันดูคนละทางเอาซะเลย แสดงว่าคดีของสองคนนั้นมาจากคำสั่งของคนในตระกูลเพื่อปิดบังความจริงจากการตาย และใครเป็นคนสั่ง?
แล้วทำไมเขาต้องทำแบบนั้น หรือทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากคนที่เธอรักมากที่สุดแบบนั้นหรอ…
