บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 หนุ่มสาว

ตอนที่ 3

หนุ่มสาว

 

แปดปีต่อมา

วันนี้นี้หมู่บ้านเทียนหมิงจัดงานรื่นรมย์ หลังจากเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตรเสร็จหมดเรียบร้อย โดยในช่วงกลางวัน จะมีการละเล่นต่าง ๆ ของหนุ่มสาว แต่ที่ได้รับความสนใจมากที่สุด คือการแข่งว่ายน้ำข้ามไปยังอีกฟากฝั่งของแม่น้ำ ซึ่งแม่น้ำสายนี้เป็นเส้นแบ่งระหว่างเมืองสองเมือง

เนื่องจากกระแสน้ำที่ค่อนข้างไหลเชี่ยวกราก ผู้ที่เข้าร่วมแข่งขันจึงเป็นบุรุษเสียส่วนมาก ส่วนบรรดาหญิงสาวมักจะพากันยืนชมอยู่ริมขอบแม่น้ำ เพื่อส่งกำลังใจไปให้ชายหนุ่มที่พวกนางหมายปอง

“อาหยางสู้ ๆ ว่ายเร็วเข้า” มือเรียวป้องปากส่งเสียงตะโกนให้กำลังใจสหายสนิท ที่ปีนี้เสนอตัวเป็นผู้เข้าแข่งขันชิงรางวัลเป็นขนมประจำถิ่น ที่หนึ่งปี บรรดาหญิงสูงวัยในหมู่บ้านจะรวมตัวกันทำขึ้นมา เนื่องจากวัตถุดิบสำคัญจะออกผลเพียงปีละครั้งเท่านั้น

“อย่าเสียงดังนักซิ เดี๋ยวคนอื่นจะเข้าใจผิดเอาได้”

โจวไห่หลงปรามหญิงสาวที่ผ่านพ้นพิธีปักปิ่นมาได้หนึ่งเดือนแล้ว ใบหน้าหล่อเหลาเหลียวมองรอบกาย กลัวว่าจะมีคนได้ยินแล้วพากันคิดไปไกล

“เข้าใจผิด...เข้าใจผิดเรื่องอะไร”

หลันเยี่ยนหงไม่ได้หันมาสนใจชายหนุ่มที่ยืนอยู่เคียงข้าง เพราะกำลังมองตามแผ่นหลังเปลือยของสหายที่ว่ายน้ำออกห่างจากฝั่งนี้ไปเรื่อย ๆ หากไม่มีสิ่งใดผิดพลาด สหายของนางจะต้องนำชัยชนะมาฝากแน่

“เจ้าก็รู้นี้ ว่าส่วนใหญ่หญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับเจ้า จะส่งเสียงให้กำลังใจชายหนุ่มที่พวกนางหมายปองเพียงเท่านั้น” หัวคิ้วเข้มเริ่มขมวดมุ่นเข้าหากัน เมื่อหญิงสาวยังคงให้ความสนใจชายหนุ่มอีกคนมากกว่า

“โธ่เอ๊ย!...ก็นึกว่าเรื่องอะไร ใครจะคิดอะไรก็ช่างเขาปะไร ในเมื่อข้ากับอาหยางเป็นสหายรักกัน ให้กำลังใจกันก็ไม่เห็นจะแปลก”

เยี่ยนหง มองคำพูดนี้เป็นเรื่องที่ไร้สาระที่สุด คนอื่นจะมารู้ดีถึงความรู้สึกของนางได้อย่างไร และนางก็ไม่สนว่าคนอื่นจะคิดหรือมองนางเช่นใดด้วย

ทางด้านร่างกำยำที่ขัดเคืองใจในตอนแรก พอได้ยินว่าหญิงสาวคิดกับหมิงหยางเพียงแค่เพื่อน ก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาเป็นกอง ทำตัวผ่อนคลายลงไปมาก หันไปจดจ่อเฝ้ารอชมชัยชนะของสหายเซียวบ้าง

แล้วเซียวหมิงหยางก็ไม่ทำให้พวกเขาผิดหวัง เมื่อเขาสามารถว่ายไปแตะขอบตลิ่งของแม่น้ำฟากนั้นได้เป็นคนแรก แล้วว่ายย้อนกลับมา ยังเขตฝั่งของหมู่บ้านเทียนหมิงได้ก่อนชายหนุ่มคนอื่น ๆ

“เย้ ๆ ชนะแล้ว”

“มันต้องอย่างนี้สิอาหยาง”

สองหนุ่มสาวดีใจกระโดดโลดเต้นจนตัวลอย จับมือกันอย่างลืมตัว พอต่างคนต่างนึกขึ้นมาได้ รีบพากันปล่อยมือแล้วเบือนหน้าหนี ไม่กล้าสู้สายตากัน โดยเฉพาะกับเยี่ยนหง ที่พวงแก้มแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

“อาหลง หงเอ๋อร์ พวกเจ้าเห็นหรือไม่ ปีนี้ข้าคือชายที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่บ้าน”

ทางด้านผู้ชนะพอขึ้นมาจากแม่น้ำได้ ก็วิ่งตรงมาหาสหายรักทั้งสองคนด้วยความดีใจ แต่พอมาถึงเห็นท่าทางแปลก ๆ ของทั้งสอง จึงบังเกิดความสงสัย อดที่จะเอ่ยถามขึ้นมาไม่ได้

“มีอะไรกันหรือ”

“ไม่มี” สองเสียงพร้อมใจกันตอบขึ้นมา ก่อนจะหันหน้าหนีไปมองทางอื่นอีก

“ช่างเถอะไม่มีก็ไม่มี พวกเราไปรับรางวัลแล้วกลับบ้านกันเถอะ ข้าปวดเมื่อยตัวเต็มทนแล้ว อาหลงเจ้าช่วยนวดให้ข้าด้วยได้หรือไม่” หมิงหยางเลิกใส่ใจกับกิริยาของคนทั้งสอง เอ่ยชวนพวกเขาไปรับรางวัลของผู้ชนะแทน

“ได้ ๆ” ไห่หลงรับคำแบบส่ง ๆ จิตใจยามนี้ไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัว มัวแต่คิดถึงสัมผัสนุ่มจากฝ่ามือที่เล็กกว่า

หลันเยี่ยนหงเอง ก็ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเช่นเดียวกัน ถึงแม้จะใกล้ชิดกับไห่หลงและหมิงหยางมาตลอด พึ่งจะมีก็แต่ครั้งนี้ ที่รู้สึกใจสั่น เต้นแรงผิดปกติ โดยที่นางก็ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร และไม่รู้ด้วยว่า หากนางจับมือกับหมิงหยางบ้าง จะรู้สึกเหมือนที่รู้สึกกับไห่หลงหรือไม่

“อ๊ะ!”

เพราะมัวแต่เดินใจลอย ทำให้เยี่ยนหงไม่ทันสังเกตเห็นหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันสามคน เดินเข้ามาใกล้แล้วค่อย ๆ เดินเบียดจนนางไปอยู่ชิดกับริมแม่น้ำ จนทำให้นางเสียหลักเซถลาตกลงไปในกระแสน้ำเชี่ยวกรากในที่สุด

...ตู้ม!...

“เสี่ยวหง...หงเอ๋อร์”

ชายหนุ่มทั้งสองเห็นเหตุการณ์ แต่เข้ามาช่วยหญิงสาวเอาไว้ไม่ทัน พากันตะโกนก้องสุดเสียง ก่อนที่ร่างสูงโปร่งของหมิงหยาง จะรีบกระโดดตามร่างบาง ที่กำลังถูกกระแสน้ำพัดออกห่างจากฝั่ง โดยที่ไม่สนใจอาการเหนื่อยล้าของตนเองเลยแม้แต่น้อย

“ไอ้หนุ่มนั้นมันบ้าไปแล้ว พึ่งจะว่ายไปกลับข้ามแม่น้ำกว้างขนาดนี้ ยังจะฝืนร่างกายกระโดดลงไปช่วยอีก” เสียงชายชราผู้หนึ่งกล่าวขึ้น ขณะยืนลุ้นว่าจะมีใครตามลงไปช่วยหญิงสาวบ้าง

โจวไห่หลง ที่ยังยืนลังเล เพราะรู้ดีว่าตนเองว่ายน้ำไม่ค่อยเก่ง แล้วยิ่งกระแสน้ำไหลเชี่ยวเช่นนี้ด้วยแล้ว เกรงว่ายังไม่ทันช่วยเยี่ยนหง ตัวเขานั่นแหละที่จะจมน้ำตายก่อน

แต่พอได้ยินเสียงชาวบ้านพึมพำบ้างก็เอ่ยปากชมในความไม่ห่วงตนเองของหมิงหยาง ก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะได้หน้าไปคนเดียว แล้วที่สำคัญเลย เยี่ยนหงอาจจะซาบซึ้งใจที่หมิงหยางช่วยชีวิต จนก่อเกิดเป็นความรักได้ ซึ่งเขาจะไม่ปล่อยให้เป็นเช่นนั้นเป็นอันขาด

...ตู้ม!... เขาจึงตัดสินใจกระโดดตามหมิงหยาง ว่ายน้ำสู้กับกระแสน้ำ แม้ในใจจะมีความรู้สึกกลัวตายอยู่มากก็ตาม

เซียวหมิงหยาง ว่ายตามร่างบอบบางอีกเพียงนิดเดียวก็จะถึงตัวของหญิงสาวอยู่แล้ว แต่ขาข้างหนึ่งเกิดเจ็บจี๊ด ปวดเกร็งจนขยับขาไม่ค่อยได้ ทำให้เขาไม่สามารถว่ายน้ำไปต่อได้ ทำได้แค่ประคองตัวไม่ให้จมลงไปเท่านั้น

“อาหลง รีบไปช่วงหงเอ๋อร์”

นาทีแห่งความเป็นความตายนั้น หมิงหยางก็ไม่ได้คิดห่วงชีวิตของตนเองเลย ตะโกนบอกสหายที่กำลังว่ายตามหลังเขามา ให้ไปช่วยเยี่ยนหงแทนเขา ซึ่งพอเห็นสหายว่ายผ่านหน้าตนเองไป จนสามารถคว้าตัวของหญิงสาวเอาไว้ได้ เขาก็โล่งใจหายห่วงแล้ว

โจวไห่หลงคว้าร่างบางพาว่ายน้ำกลับขึ้นฝั่งได้สำเร็จ ส่วนหมิงหยางมีชาวบ้านหนึ่งคนกระโดดลงไปช่วยพาเขากลับเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัยเช่นเดียวกัน

“เสี่ยวหง รู้สึกอย่างไรบ้าง”

ไห่หลงยังคงประคองร่างบางเอาไว้ในอ้อมแขน มองสำรวจเรือนกายของอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วง

“ไม่เป็นอะไรแล้ว ขอบใจเจ้ามาก”

หลันเยี่ยนหงกล่าวขอบคุณชายหนุ่มที่ประคองร่างของนางอยู่ แววตาที่ช้อนสบสายตากับเขา เต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ ที่อีกฝ่ายช่วยชีวิตของนางเอาไว้ สองดวงตาจ้องประสานกันอยู่เนิ่นนาน จนชายหนุ่มที่ตัวเปียกปอนค่อย ๆ คลานเข้ามาหา ทั้งสองจึงรีบถอนสายตาหันไปสนใจสหายอีกคน

“อาหยาง เป็นอย่างไรบ้าง โทษทีข้ามัวแต่เป็นห่วงเสี่ยวหง จนลืมลงไปช่วยเจ้า” ไห่หลงขออภัยสหายรัก

“ไม่เป็นไร ขอแค่หงเอ๋อร์ปลอดภัยก็ดีแล้ว” เซียวหมิงหยางตอบกลับสหายแบบไม่ใส่ใจ รีบมองสำรวจว่าหญิงสาวตรงหน้าปลอดภัยดีทุกอย่าง “หงเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง” น้ำเสียงของเขาแสดงออกชัด ว่าเป็นห่วงอีกฝ่ายมากแค่ไหน

“ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ขอบใจเจ้าเช่นกันนะอาหยาง”

ถึงแม้อีกฝ่ายจะไปช่วยนางไม่ทัน แต่หมิงหยางก็เป็นคนที่กระโดดลงมาเป็นคนแรก เยี่ยนหงก็รู้สึกซึ้งใจอยู่ไม่ใช่น้อย เพียงแต่ความรู้สึกบางอย่าง ที่รู้สึกกับไห่หลง นางไม่ได้รู้สึกกับหมิงหยางด้วย

“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” หมิงหยางผ่อนลมหายใจยาวออกมา หากเยี่ยนหงเป็นอะไรไป เขาคงไม่สามารถให้อภัยตนเองได้แน่ นี้ยังดีที่ไห่หลงตามลงไปด้วยอีกคน หญิงสาวถึงได้ปลอดภัย...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel