บท
ตั้งค่า

บทที่3

หน้าตาหล่อขนาดนั้นแต่นิสัยกลับตรงกันข้ามสุดขั้ว

เฮ้อ~ พูดถึงออกัสแล้วฉันยิ่งสับสน จะทำยังไงให้เขาทำดีกับฉันบ้างนะ ถ้าต้องถูกถอนหมั้นตอนนี้ฉันจะทำยังไง ในเมื่อพ่อกับแม่ก็หอบเอาเงินสินสอดไปจนหมดแล้ว

จะหาเงินที่ไหนไปคืนเขากัน

ไทจิเดินนำฉันมาจนถึงพุ้มไม้ที่ลับตาคนก่อนที่เขาจะแหวกหญ้าให้อ้าออกเผยให้เห็นทางลับเข้าโรงเรียนที่บอกเอาไว้

“ขอบคุณนะ ถ้าไม่ได้นายช่วยฉันคงแย่แน่”ฉันโค้งให้คนตรงหน้าก่อนจะกล่าวขอบคุณเขาทันทีที่เราทั้งคู่เข้ามาในโรงเรียนได้สำเร็จ

“เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นกินข้าวกลางวันกับฉันได้ไหม”เพราะคำพูดตรงๆ ของไทจิเริ่มทำให้ฉันคิดหนัก แต่แค่กินข้าวกับเขาเป็นการขอบคุณมันคงไม่มีอะไรร้ายแรงหรอกจริงไหม

“ได้สิ”

“เธออยู่ห้องไหนเดี๋ยวตอนเที่ยงฉันไปรับ”

“ฉันอยู่ห้อง B น่ะ”ฉันตอบพลางยกตารางสอนของตัวเองขึ้นมาดู

“งั้นพักเที่ยงเจอกัน...นาริม”

ไทจิพูดก่อนจะเดินล้วงกระเป๋าจากไปเงียบๆ ทิ้งให้ฉันได้แต่ยืนมองเขาที่ค่อยๆ เดินหายไปเรื่อยๆ ตามลำพัง

ไทจินิสัยดีจัง...ถ้าออกัสดีกับฉันบ้างแบบนี้ฉันคงรู้สึกดีไม่น้อยเลย อย่างน้อยๆ เขาน่าจะพูดดีกับฉันบ้างสักนิด เย็นชากับฉันน้อยลงสักหน่อย ถ้าเป็นแบบนั้นได้ฉันคงมีความสุขมากเลยล่ะ

เลิกฝันเรื่องที่ไม่มีวันเป็นไปได้แล้วไปเข้าห้องเรียนเถอะนาริม!

“นาริม ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”ฉันกล่าวทักทายเพื่อนร่วมชั้นด้วยรอยยิ้มพร้อมกับยกมือขึ้นปาดเหงื่อบนใบหน้าออกอย่างลวกๆ เพราะความเหนื่อย

ก็กว่าจะหาห้องเรียนเจอก็แทบแย่อยู่แล้ว โชคดีที่เจอลุงคนสวนใจดีบอกทางให้เลยไม่ต้องหลงอยู่ในโรงเรียนที่แสนกว้างใหญ่ไพศาลนี้แต่เพียงลำพังเป็นแน่

“เอาล่ะ ไปนั่งข้างๆ มินามิก็แล้วกันนะจ๊ะ เป็นนักเรียนที่ย้ายมาจากญี่ปุ่นเหมือนกันคงจะเข้ากันได้” อาจารย์ผู้ใจดีพูดพร้อมทั้งชี้ไปที่โต๊ะข้างหน้าต่างที่มีผู้หญิงใบหน้ายิ้มแย้มนั่งโบกมือรออยู่ก่อนแล้ว ดูท่าว่าฉันจะหาเพื่อนใหม่แล้วนะเนี่ย

“หวัดดี ฉันมินามิ เรียกนามิเฉยๆ ก็ได้นะ ยินดีที่ได้รู้จักนาริม”เธอคงจะเป็นคนเดียวที่ยิ้มต้อนรับให้กับฉันแบบนี้ ค่อยอุ่นใจขึ้นมาหน่อยแล้วล่ะงานนี้ ฉันได้เพื่อนแล้ว

“ชี้แนะด้วยนะนามิ ฉันเพิ่งมาที่นี้เลยไม่รู้อะไรเท่าไหร่”ฉันพูดก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เพื่อนใหม่คนแรกและคาดว่าน่าจะเป็นคนสุดท้ายเช่นกัน

“ไม่มีปัญหาจ๊ะ” อย่างน้อยๆ ในตอนนี้ฉันก็ยังมีเพื่อนและไม่ได้อยู่คนเดียวเหมือนอย่างที่คิดเอาไว้ตอนแรก เรื่องอื่นคงต้องคิดกันอีกทีก็แล้วกัน

การเรียนในคาบเช้าผ่านพ้นไปอย่างสบายๆ โดยที่ฉันถูกจ้องมองโดยสายตามากมายอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ไม่เข้าใจเลยว่าตัวเองเผลอไปทำอะไรที่ไม่ดีไว้ตั้งแต่ตอนไหนกันแน่

“นี่ๆ นาริม กลางวันนี้ฉันต้องไปสอบซ่อมวิชาที่ตก คงไปกินข้าวกับเธอไม่ได้แล้วล่ะ”นามิพูดขึ้นทันทีที่คาบสุดท้ายหมดลงสร้างความตื่นตระหนกกับฉันมากเลยทีเดียว

“ไม่เป็นไรหรอก เอาไว้เจอกันคาบบ่ายนะ”แต่ก็อย่างงั้นฉันก็จำใจต้องเดินคอตกออกจากห้องเรียนคนเดียวจนได้ น่าเบื่อชะมัด!

ผลัก!!

แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวเดินออกไปโรงอาหารได้อย่างใจคิด ร่างของใครบางคนก็เดินมาขวางทางฉันเข้าให้ซะก่อนทำให้ฉนต้องหยุดนิ่งก่อนจะเงยหน้ามองคนตรงหน้าด้วยความสงสัย

“ไง...เธอคงจะเป็นนาริมสินะ ไม่เห็นเหมือนที่ไอ้กัสมันว่าเลย ยัยนี่สวยจะตาย ไหนแกบอกว่าคู่หมั้นของแกขี้เหร่ยังไงวะ!” ผู้ชายที่เดินมาขวางหน้าฉันโพล่งขึ้นก่อนจะหันไปอีกทางทำให้ฉันต้องมองตามเขาไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ก่อนจะพบกับร่างสูงของใครบางคนที่กำลังยืนพิงกำแพงสายตามองมาที่ฉันอย่างหงุดหงิด

อะ...ออกัส!

“แกตาถั่วรึไงมากิ! หรือสายตามีปัญหาแยกไม่ออกว่าอะไรสวยอะไรขี้เหร่”คำพูดของออกัสทำให้ฉันรู้สึกตัวเองเริ่มจะทำตัวไม่ถูก ไหนจะผู้ชายอีกสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาและกำลังมองมาที่ฉันนั่นอีก

“มินจูรู้เรื่องนี้รึยังวะ” ผู้ชายผมสีดำที่มีท่าทางเงียบขรึมเอ่ยถามพร้อมทั้งเดินเข้ามาหาฉัน

“ยัง” ออกัสตอบกลับไปในทันทีก่อนจะชักสีหน้าไม่สบอารมณ์ส่งตรงมาให้ฉันทันทีที่พูดจบ

มินจูงั้นเหรอ...

มันคือชื่อของผู้หญิงสินะ หรือว่ามินจูคนนั้นจะเป็นคนรักของออกัสงั้นเหรอ ต้องใช่แน่ๆ ถ้าฉันเดาไม่ผิดเขาคงจะมีคนรักอยู่แล้วสินะ แล้วพอถูกบังคับให้ต้องหมั้นกับฉัน...เขาก็เลยเกลียดฉันงั้นสิ!

“นะ...นายมีอะไรกับฉันรึเปล่าออกัส พอดีว่าฉันกำลังจะไปกินข้าวถ้านายไม่มีอะไรฉันขอ...”

“จะรีบไปไหนล่ะสาวน้อย เรายังไม่รู้จักกันเลย”ผู้ชายอีกคนพูดขึ้นพร้อมกับเดินมาดักหน้าฉันที่กำลังจะเดินออกไปจากสถานการณ์ที่ตรึงเครียกตรงหน้า

“ฉัน....” จะพูดออกไปได้ยังไงนะว่าฉันไม่อยากรู้จักพวกเขาเลยสักนิด พูดออกไปแบบนั้นมีหวังถูกฆ่าแน่ๆ

“ดีเลย งั้นไปกินข้าวด้วยกันสิ เธอเป็นคู่หมั้นของไอ้กัส ยังไงอีกหน่อยก็ต้องเจอกันบ่อยๆ อยู่แล้ว” เท่าที่ฟังๆ มาผู้ชายที่เดินมาขวางหน้าฉันคนแรกนี้ดูเหมือนจะน่าคบที่สุดแล้วนะเนี่ย

“ก็ตามใจแกไอ้โซล” เพราะคำพูดของออกัสที่พูดเหมือนไม่ได้คิดอะไรเลยทำให้ฉันต้องถูกผู้ชายที่เหลืออีกสามคนลากติดมาด้วยจนกระทั่งถึงโรงอาหาร

ให้ตายสิ!

ทำไมต้องหนีบฉันมาด้วยนะ น่าจะถามความสมัครใจของฉันบ้างสักนิด แต่เพราะไม่มีทางเลือกในตอนนี้ร่างฉันเลยถูกผู้ชายที่ชื่อโซลกดให้นั่งลงข้างๆ ออกัสอย่างเลี่ยงไม่ได้ซะแล้ว

“แม่แกนี่เข้าใจหาคู่หมั้นให้แกวะเพื่อน...”

“แกอยากตายรึไงไอ้โทรุ!” ออกัสหันไปแยกเขี้ยวให้นายหัวดำที่ในที่สุดฉันก็รู้ชื่อเขาเข้าจนได้

“ถ้ามินจูรู้ยัยนั่นจะทำหน้ายังไงนะอยากเห็นจริงๆ ทั้งๆ ที่แกไปขอหมั้นแต่กลับปฏิเสธ ไม่รู้ยัยนั่นคิดอะไรอยู่กันแน่” เพราะคำพูดของผู้ชายอีกคนที่ฉันยังไม่รู้ชื่อมันทำให้ทุกอย่างที่ฉันกำลังสงสัยกระจ่างขึ้นทันตาเห็น

เรื่องมันเป็นแบบนี้เองสินะ

เพราะรู้ตัวว่าต้องเข้าพิธีหมั้นกับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้อย่างฉัน ออกัสเลยชิงไปขอคนที่เขาหลงรักหมั้นแต่กลับถูกเธอปฏิเสธ ให้ตายสิรู้สึกเหมือนฉันมายืนอยู่ในที่ที่ไม่สมควรจะอยู่ซะแล้วล่ะ

“หุบปากของแกไปซะไอ้ซัน!” ออกัสตะคอกเพื่อนตัวเองก่อนจะยกมือขึ้นมาขาดไหล่ของฉันไปพลางๆ

“...แกก็รู้ว่าพ่อฉันเป็นคนอันตรายแค่ไหน ไหนฉันที่เป็นลูกชายคนเดียวที่ต้องระวังภัยอยู่ทุกวันนั่นอีก แกคิดว่าฉันอยากจะให้คนพิเศษต้องมามีอันตรายไปด้วยรึไง”

“……”

“....ยังไงซะจนกว่าพ่อฉันจะเคลียปัญหากับศัตรูที่เหลืออยู่แค่คนเดียว มินจูก็จะปลอดภัยในขณะที่มียัยนี่เป็นตัวตายตัวแทน”คำพูดของออกัสทำให้น้ำตาของฉันจู่ๆ ก็ไหลออกมาจนได้

มันเจ็บซะจนจุกพูดอะไรไม่ออกไปเลยจริงๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel