love never die สัญญาณลับดักจับหัวใจคุณชายเย็นชา

61.0K · จบแล้ว
พวงชมพู
31
บท
7.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“อะ...เอ่อ คือว่าฉันเห็นว่านายเมามาก แล้วก็...ว๊าย!!”ฉันที่กำลังหาข้อแก้ตัวกลับถูกมือหนากระชากให้ล้มลงไปนอนบนเตียงโดยร่างสูงตวัดตัวขึ้นมาคร่อมฉันเอาไว้อย่างรวดเร็ว เหตุการณ์มันเกิดขึ้นไวมากซะจนฉันเองก็ตกใจจนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ “นะ...นาย!” “ฉันต้องการเธอ”คำพูดง่ายๆ แต่เล่นสั่นไหวไปทั่วทั้งหัวใจ บ้าบอสิ้นดี. มาพูดกันง่ายๆ แบบนี้เห็นฉันเป็นอะไร คู่หมั้นโสเภณีรึไง! “มะ...ไม่นะ!” ฉันร้องลั่นทันทีที่ใบหน้าหล่อเหลาโน้มต่ำลงมาซุกไซ้อยู่ในซอกคอขาวของเขาอย่างบ้าคลั้ง โมเดลกำลังเมาและไร้สติ ผิดเองที่ฉันน่าจะกลับเข้าห้องน้ำไปซะตั้งแต่ตอนแรก “กลับบ้านเดี๋ยวนี้!” ร่างสูงตวาดพร้อมทั้งกระชากฉันออกจากอ้อมอกของไทจิอย่างแรง จนฉันรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่าง ทำไมถึงได้เป็นคนที่มีจิตใจชั่วร้ายแบบนี้นะ บ้าชะมัด! “ฉันเจ็บนะออกัส!”ฉันว่าพร้อมทั้งพยายามสะบัดแขนตัวเองให้หลุดออกโดยด่วนแต่ก็ทำได้เพียงสะบัดเบาๆ เท่านั้น “อย่ามาปากดีกับฉันนะ เธออย่าลืมไปสิว่าเธออยู่ในฐานะอะไร!” ฐานะอะไรอย่างงั้นเหรอ จริงสินะ! ความจริงแล้วที่ผ่านมานั้นฉันอยู่กับคนๆ นี้ในฐานะคู่หมั้นที่เขาไม่ต้องการเท่านั้น ฉันคงจะหวังมากไปว่าสักวันเขาคงยอมรับฉันได้ แต่มันไม่จริงเลยสักนิด “ใจเย็นน่าออกัส...นายเป็นคนผิดนะ พวกนายก็ด้วยโชล ถ้าไม่ให้ฉันโทรไปแกล้งเดลเรื่องแบบนี้มันคงจะไม่เกิดขึ้น ปล่อยเธอก่อนเถอะดูสิแขนขาวๆ ช้ำหมดแล้ว” เพราะคำพูดของผู้หญิงอีกคนที่คาดว่าน่าจะเป็นมินจูอะไรนั่นเลยทำให้ออกัสค่อยๆ ใจเย็นลงอย่างไม่น่าเชื่อแต่ก็ไม่ยอมปล่อยแขนของฉันอยู่ดี แค่คำพูดเพียงไม่กี่คำของเธอคนนี้ มันมีอิทธิกับเขามากขนาดนี้เลยอย่างงั้นเหรอ น่าอิจฉาเป็นบ้า ตั้งแต่หัวจรดเท้าเธอมีดีกว่าฉันทุกอย่าง สวยกว่า น่ารักกว่า และที่สำคัญเธอมีบางสิ่งที่ฉันไม่มีวันมี นั่นคือความรักของออกัส!

นิยายรัก

บทนำ

[บทนำ]

เมื่อใดที่ดวงตะวันขึ้นทางทิศตะวันตก

เมื่อนั้นฉันจะเป็นอิสระ

ภายในงานแต่งงานที่ถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โตให้สมกับฐานะของฝ่ายหญิงและฝ่ายชายถูกจัดขึ้นในโทนสีชมพูอ่อน ดอกกุหลาบสีขาวถูกประดับประดาไปทั่วทั้งงาน แขกที่มาร่วมนั้นมีไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันคน แสดงให้เห็นถึงความร่ำรวยของทั้งสองตระกูลใหญ่ได้เป็นอย่างดีเยี่ยม สีหน้าทุกคนล้วนแต่มีรอยยิ้มแสดงความยินดีกันอย่างถ้วนหน้า จะมีก็แต่ร่างบอบบางในชุดเจ้าสาวแสนสวย ที่กำลังนั่งข่มน้ำตาตัวเองเอาไว้ไม่ให้มันไหลรินออกมา

‘คลุมฝูงชน’

ไม่น่าเชื่อเลยว่าการกระทำของผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณจะเกิดขึ้นกับเธอ สืบเนื่องมาจากทางบ้านมีปัญหาเรื่องการเงิน พ่อของเธอได้นำเงินส่วนใหญ่ที่มีไปร่วมลงทุนกับเพื่อนสนิทของท่าน แต่ทว่าธุรกิจกลับล้มลงมาไม่เป็นท่าทำให้จากที่คิดว่าจะมีกำไรมากมายตอนนี้กลับมีหนี้สินท่วมหัวทางออกจึงเหลือเพียงแค่หนทางเดียวเท่านั้น นั่นก็คือขายลูกสาวใช้หนี้!

ฉันมีชื่อว่า นาริม ฉันเป็นลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในภาวะไม่เหมาะสมจะแนะนำตัวสักเท่าไหร่นัก งั้นฉันขอเล่าย่อๆ ก็เลยนะค่ะ บ้านเดิมฉันอยู่ที่ญี่ปุ่น แต่ทว่าตอนนี้ที่ที่ฉันอยู่มันคือเกาหลี

ต้นเหตุมันเป็นเพราะคุณพ่อคนเดียวแท้ๆ ไม่น่าเลยจริงๆ แล้วบุตรสาวแต่เพียงผู้เดียวของท่านอย่างฉันคนนี้ก็ต้องมีอันเป็นไปเมื่อจู่ๆ วันหนึ่งที่อากาศแจ่มใสพ่อก็วิ่งพรวดพราดเข้ามาในบ้านหลังงามพร้อมทั้งประกาศดังลั่นว่าอีกสามวัน (ซึ่งก็คือวันนี้) จะมีงานหมั้นเกิดขึ้น ด้วยความอยากรู้อยากเห็นฉันก็เลยถามกลับไปว่างานหมั้นของใคร คำตอบที่ได้ทำให้ชีวิตของฉันต้องเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้าทันทีที่พ่อตอบกลับมาว่า...

’งานหมั้นของลูกยังไงล่ะ’

ถึงจะคัดค้านหัวชนฝายังไงในที่สุดฉันก็ถูกบังคับขึ้นเครื่องบินมาที่เกาหลีนี้จนได้

และตอนนี้....

ชีวิตที่รักอิสระอย่างฉันกำลังจะเศร้าหมองอย่างหนัก หน้าตาของเจ้าบ่าวเป็นเช่นไรไม่มีใครรู้เพราะว่านี่ก็ใกล้จะเริ่มพิธีก็ยังไม่มีวี่แววว่าชายหนุ่มในชุดทัดซิโด้สีขาวจะโผล่หน้ามาให้เห็นสักที

“กรี๊ดดดดด ทำฉันขายขี้หน้าอีกแล้วนะไอ้ลูกบ้า ทำไมถึงได้ชอบทำให้พ่อกับแม่ต้องอับอายแบบนี้ด้วยนะ ทำม้ายยย~”เสียงโหยหวนของว่าที่แม่สามีของฉันดังขึ้นก่อนร่างบางในชุดราตรีสีฟ้าครามจะทรุดฮวบลงไปกองอยู่ที่พื้น พร้อมทั้งกระดาษแผ่นหนึ่งในมือ

“มีอะไรเกิดขึ้นรึยังไงคุณ ไอ้ลูกชายตัวแสบมันส่งอะไรมาให้อีกล่ะคราวนี้” ชายร่างสูงเจ้าของสายตาเย็นชาถามไถ่ขึ้นก่อนจะเดินมาประคองร่างบางของคุณแม่สามีขึ้นท่ามกลางสายตาผู้อยากรู้อยากเห็นทั่วทั้งงาน(รวมถึงฉันด้วย)

“ก็จะอะไรซะอีกล่ะ จู่ๆ ไอ้ลูกบ้าก็ดันส่งจดหมายมาให้ฉัน บอกว่าตอนนี้ไม่ว่างใครก็ได้เข้าพิธีหมั้นแทนไปก่อน นี่มันคิดว่าเรื่องงานหมั้นเป็นเรื่องตลกรึยังไงกัน ถึงจะให้ใครทำแทนให้เล่า ไอ้ลูกบ้าเอ้ย!” ฉันได้แต่ยืนอึ้งกับประโยคที่เพิ่งจะได้ยิน

นี่ก็แสดงว่าไม่ใช่แค่ฉันคนเดียวล่ะสินะที่ไม่ได้อยากจะให้ไอ้งานบ้าๆ นี้ถูกจัดขึ้นมาเลยสักนิด แบบนี้ก็เข้าทางฉันเลยน่ะสิ

“เอาแบบนี้ไหมคะคุณป้า ในเมื่อเราทั้งคู่ไม่ได้อยากแต่งงานกัน ก็คิดซะว่าไม่มีงานแต่งงานนี้เกิดขึ้น ถือซะว่าฝันไปก็แล้วกันดีไหมคะ” ฉันออกความเห็นขึ้นมาทันทีพร้อมทั้งรอยยิ้มที่มีความหวัง

“ไม่ได้! ยังไงป้าก็ไม่ยอมเด็ดขาด หนูรู้ไหมว่าป้าคาดหวังอยากจะได้หนูนาริมคนดีคนนี้มาเป็นลูกสะใภ้ตั้งแต่หนูยังแบเบาะ แล้วพอตอนนี้ความฝันของป้ากำลังจะเป็นจริง ม้ายยยย~ยังไงซะหนูก็ต้องหมั้นและแต่งงานกับไอ้ลูกชายเฮ็งซวยของป้า ยังไงก็ต้องแต่ง” สิ้นเสียงอันทรงพลังของคุณป้าฉันก็ถึงกลับเงียบลงไปในทันทีเรื่องมันเริ่มตั้งแต่ตอนฉันยังเป็นเด็กน้อยๆ ที่แสนจะน่ารักน่าหม่ำ แต่ฉันกลับจำไม่ได้เลยว่าตัวเองเคยพบกับคุณป้าตรงหน้านี้ที่ไหนและเมื่อไหร่

“แล้วแบบนี้จะเอายังไงต่อไปดีครับ” ผู้ชายในชุดสูทสีดำพูดขึ้นอย่างนอบน้อม

“ช่างหัวมันสิ! ยังไงซะแหวนแต่งงานก็อยู่ที่ฉันอยู่แล้ว จะใครใส่ให้มันก็เหมือนกันนั่นแหละ” ว่าจบคุณป้าก็เดินพรวดพราดมาลากฉันขึ้นไปบนเวที ท่ามกลางสายตาตื่นตกใจของแขกภายในงาน

“กราบสวัสดีแขกที่เคารพทุกๆ ท่านนะค่ะ เนื่องจากว่าวันนี้เป็นวันดีของลูกชายสุดที่รักของฉัน หากแต่ว่าเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นซะก่อนที่เขาจะได้ทันมาถึงงานในวันนี้ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกนะค่ะ” คุณป้าเว้นช่วงหายใจก่อนจะหยิบแหวนแต่งงานขึ้นมาสวมให้ฉันอย่างหน้าตาเฉยแล้วจึงก้มหน้าก้มตาพูดต่อไป

“ดิฉันใคร่จะขอประกาศให้ทุกๆ ท่านได้ทราบกัน ตอนนี้หนูคิม นาริม คือลูกสะใภ้ที่ถูกต้องตามกฎหมายของดิฉันแล้วค่ะ!” จบประโยคที่พูดเองเออเองของคุณป้าวิญญาณฉันก็แทบจะหลุดลอยออกไปจากร่างซะเดี๋ยวนั้น สายตาก็ครั้นมองหาพ่อกับแม่ผู้บังเกลิดเกล้าแต่ก็พบเข้ากับความว่างเปล่า

“พ่อกับแม่หนูเขาฝากบอกว่าให้หนูดูแลตัวเองดีดีนะจ๊ะ พวกท่านมีธุระด่วน เลยรีบขึ้นเครื่องไปเสปนเรียบร้อยแล้วน่ะ”คำถามของฉันถูกคลี่คลายทันทีที่คุณป้าก้มลงมากระซิบประโยคๆ นั้นข้างๆ หู

“ปะ...ไปแล้วเหรอคะ”

“จ๊ะ ไปแล้ว”

ปะ...ไปแล้ว! ทำไมพ่อกับแม่ถึงได้ทำกับฉันแบบนี้ด้วยนะ แล้วต่อไปฉันจะมีชีวิตอยู่ได้ยังไง สถานที่ที่ไม่คุ้นเคย คนมากหน้าหลายตาที่ฉันไม่รู้จักแบบนี้ ฉันจะอยู่ต่อไปในยังไง!