Episode-10 เจ้าหญิงน้ำแข็ง
เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เต็มที่ฉันอยู่กับน้องธาวิน เขาเป็นเด็กฉลาดนะคะ ช่างสังเกตด้วย เพียงแต่ว่าไม่มีใครคอยอยู่กับเขาเท่านั้นเอง อยู่คนเดียวไม่รู้จะคุยกับใคร ไม่รู้จะเล่นกับใคร มีจอทีวีกับขวดนมเป็นเพื่อนแค่นั้น
“แม่หนูออกไปตลาดกับพี่ลูกศรนะ”
“ไปสิ ซื้อขนมมาฝากน้องด้วยนะ” ฉันว่าพร้อมกับยื่นเงินให้
“ดูก่อนนะ ถ้ามีอะไรน่ากินหนูจะซื้อมาฝาก”
คล้อยหลังน้ำขิงฉันก็ซักผ้าล้างขวดนมไปตามประสา รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแม่ลูกอ่อนอีกครั้งหนึ่งเลยแฮะ ต่างกันตรงที่ตอนนั้นฉันลำบากมาก นึกแล้วก็ภูมิใจที่ตัวเองสามารถผ่านมันมาได้
“วันนี้มีแกงจืดกับผัดพริกแกง หนูอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม” ป้าศรีเอ่ยถามฉัน “ของหวานก็มีนะลูก”
“แค่นั้นพอแล้วค่ะ ของเด็ก ๆ เดี๋ยวหนูจัดการเอง”
“ถ้าอย่างนั้นป้าไปรดน้ำต้นไม้แล้วนะ”
“ค่ะ”
ทำนั่นทำนี่เพลินไปหน่อย รู้ตัวอีกทีน้องวินก็ลากผ้าเน่ามาหาแล้ว
“ตื่นแล้วเหรอคะ”
ปึก!
นอกจากจะไม่ตอบฉันแล้วยังขว้างขวดนมลงพื้นอีกด้วย
“ทำแบบนี้ไม่น่ารักเลย น้องนอนไม่เต็มอิ่มน้องหงุดหงิด คราวหน้าน้องต้องบอกนะว่าอยากได้อะไรไม่โยนของแบบนี้เข้าใจไหมครับ” ฉันพูดอย่างใจเย็นพร้อมกับโอบกอดเขา ท่าทีเกรี้ยวกราดหายไปแทบจะทันที “เก็บขวดนมมาเดี๋ยวพี่จะล้างและชงให้ใหม่” ได้ยินแบบนั้นเขาจึงเดินไปหยิบมาให้ฉัน ต้องใช้ความใจเย็นกับเหตุผลเข้าสู้ค่ะ ไม่อย่างนั้นไปกันใหญ่
หลังจากได้นมขวดใหม่แล้วเขาก็ไม่ยอมกลับไปนอนที่เดิมนั่งเฝ้านอนเฝ้าฉันอยู่แบบนั้น
“อะไร” นิ้วน้อย ๆ ชี้มาที่ฉัน
“อันนี้เหรอคะ ไข่ค่ะ”
“ไข่”
“น้องอยากทำไหม” ได้ยินแบบนั้นเจ้าตัวจึงรีบวางขวดนมแล้วตรงมาที่ฉันทันที “ตอกไข่แบบนี้ค่ะ” ฉันทำให้ดูเป็นตัวอย่างหนึ่งฟอง และสอนให้เขาทำด้วยตัวเองอีกหนึ่งฟอง
“เก่ง”
“เก่งมาก” เอ่ยชมก่อนจะหันไปตั้งกระทะ เผลอแค่แป๊บเดียวน้องวินเกือบจะกินไข่ดิบซะแล้ว “ยังกินไม่ได้นะ”
“...”
“มันยังไม่สุกค่ะ เราต้องทำให้สุกก่อน” ได้ยินแบบนั้นเขาจึงวางช้อนลงแล้วเปลี่ยนเป็นนั่งดูฉันแทน
เอาจริง ๆ เด็กคนนี้ฉลาดมากถ้าถูกดูแลอย่างดีพัฒนาการของเขาอาจจะไวกว่าเด็กคนอื่นที่อยู่ในวัยเดียวกันด้วยซ้ำ เขาช่างสังเกตอยากรู้อยากเห็นไปซะทุกอย่าง แค่คอยอธิบายเท่านั้นเอง แต่ก็นั่นแหละปะป๊าของเขาเงียบขรึมขนาดนั้นจะเอาอะไรมาอธิบายให้ลูกฟัง
คุณธัญไม่กลับมาบ้านสามวันนี้แล้วค่ะ เขาบอกว่ามีงานสำคัญอะไรสักอย่างนี่แหละ ช่างเถอะงานอะไรก็เรื่องของเขา
“เซอร์ไพร์ส!”
“พี่บัว” ไม่ได้มามือเปล่านะมีของกินมาเพียบเลย “พี่เข้ามาได้ยังไง”
“มากับลีโอจ้ะ”
“รู้จักพี่ลีโอด้วยเหรอ ไม่สิพี่ต้องรู้จักทุกคนอยู่แล้ว”
“แน่นอน! แต่ถึงจะรู้จักถ้าเจ้าของบ้านไม่อนุญาตให้เข้าก็เข้าไม่ได้นะยะ แล้วนี่น้ำขิงไปไหนฉันซื้อของกินมาฝากหลานเยอะเลย”
“ไปตลาดกับแม่บ้านอีกเดี๋ยวคงมา”
“อ๋อ แล้วนั่น...” พี่บัวพยักเพยิดหน้ามาทางน้องวินที่ตัวติดฉันแทบจะตลอดเวลา “ติดหนึบขนาดนี้แกเอาอะไรให้ลูกเขากินหรือเปล่าน้ำแข็ง”
“น้ำมนตร์จากเกจิดังเก้าวัด”
“พูดไปเรื่อย”
“ฮ่า ๆ ก็ใช่ไง ตามติดแบบนี้ทั้งวันแหละ” วันแรก ๆ ไม่ค่อยกล้าเข้าหาค่ะแต่เหมือนน้องชินแล้วที่ตัวเองต้องมีพี่เลี้ยง เพราะแบบนี้หรือเปล่าที่ทำให้เขาไม่กลัวคนแปลกหน้าเลย
“แล้วเป็นยังไงบ้าง โอเคไหม?”
“อืม ตอนแรกเกร็งแทบตายแต่พอเอาเข้าจริงก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด”
“แกคิดอะไร”
“ถามมาได้คิดอะไร นี่ลูกมาเฟียเชียวนะ” ฉันว่าพลางก้มมองน้องวินที่กำลังมองฉันตาแป๋ว “แถมพ่อเขายังชอบทำหน้านิ่งตลอดเวลาอีกด้วย”
“อย่าใส่ใจนักเลยนั่นมันเป็นแค่บุคลิกของเขา”
“ดูพี่สนิทกับคุณธัญเหมือนกันเนอะ” พูดออกไปตามความคิด
“คุณธัญเขาสนิทกับลูกน้องทุกคนแหละ แกอยู่ไปเดี๋ยวก็รู้เอง”
“จริง ๆ เขาไม่ได้นิ่งเงียบขนาดนั้นหรอกนะพี่ หนูแนะนำอะไรเขาก็รับฟังนะ”
“เขาก็เหมือนแกนั่นแหละน้ำแข็ง เวลาที่แกโกรธแกจะกลายเป็นเจ้าหญิงน้ำแข็งทันที เย็นชา ดุ และเยือกเย็น ส่วนคุณธัญถ้าอารมณ์ดีเขาจะกลายเป็นเจ้าชายเลยล่ะ เปย์หนักและยิ้มบ่อย คนเรามันมีสองด้านด้วยกันทั้งนั้น”
“เปย์เหรอ... อันนี้หนูเชื่อ เขาให้เงินลูกน้องเหมือนกระดาษเลย และเงินที่ให้ไม่ใช่เงินเดือนด้วยนะพี่” ฉันเคยเห็นค่ะ เขาให้พี่ลุกซ์กับป้าศรีหลายครั้ง วันก่อนที่จะไปสวนสนุกเขาก็ให้ฉันด้วย
“ฉันบอกอยู่นี่ไงว่าหน้านิ่ง ๆ มันเป็นแค่บุคลิก ความจริงเขาใจดีจะตาย เฉพาะกับลูกน้องนะ”
อยู่คุยกับพี่บัวสักพักน้ำขิงก็กลับมาค่ะ ได้ขนมไทยมาฝากน้องด้วย ไม่ต้องห่วงว่าลูกฉันจะปรับตัวไม่ได้ รายนั้นน่ะเข้ากับทุกคนได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะธาวิน
