Episode-06 จุดอ่อน
“นี่ป้าศรี ลูกหมี และลูกศร” เขาแนะนำแม่บ้านให้ฉันได้รู้จัก
“สวัสดีค่ะ สวัสดีพี่ ๆ ทุกคนด้วยนะคะ” ฉันกล่าวทักทายและยกมือไหว้ทุกคนอย่างมีมารยาท รวมไปถึงพี่การ์ดที่อยู่บริเวณนี้ด้วย ทุกคนอายุมากกว่าฉันแน่นอน
“ขาดเหลืออะไรบอกพวกพี่ได้นะคะไม่ต้องเกรงใจ”
“ใช่ค่ะ หรืออยากกินอะไรก็บอกได้เหมือนกัน” พี่ลูกหมีกับพี่ลูกศรพูดขึ้นอย่างเป็นกันเอง
“นั่นลูกสาวหนูเหรอ” ป้าศรีถามขึ้นมาบ้าง
“ค่ะ แกยังเด็กถ้าเผลอทำกิริยามารยาทไม่น่ารักใส่ทุกคนตักเตือนได้เลยนะคะหนูอนุญาต เขาล้างจานได้ซักผ้าได้เรียกเขาให้ช่วยได้เลยค่ะ” ฉันสอนลูกไว้แต่เล็ก ๆ ทำให้ชินให้รู้สึกว่าเป็นกิจวัตรประจำวันไม่ใช่ทำเพราะถูกใช้
“น่าตาจิ้มลิ้มจัง ไม่ค่อยเหมือนหนูเลยสงสัยจะเหมือนพ่อเขา”
“เหมือนแม่เขาค่ะ”
“แม่เขา...” เหมือนป้าศรีอยากพูดอะไรแต่ก็เงียบไปอีก
“เหมือนใครก็ช่างเถอะ เข้าครัวกับพี่ดีกว่ามีขนมให้กินเยอะเลย” พี่ลูกศรพูดแทรกขึ้นจากนั้นกอดคอพาน้ำขิงเดินหายไปอีกด้านหนึ่ง
“มื้อเย็นวันนี้คุณธัญให้เตรียมอะไรเป็นพิเศษไหมคะ” ป้าศรีถามขึ้น
ได้ยินแบบนั้นคุณธัญจึงหันมาทางฉัน
“เธอกับลูกชอบหรือไม่ชอบอะไรบอกแม่บ้านได้เลยนะ เสร็จแล้วตามฉันมาที่ห้องชั้นบนด้วย”
“ค่ะ”
คล้อยหลังคุณธัญฉันจึงเดินตามป้าศรีไปยังห้องครัว จะบอกว่าห้องครัวก็ดูแคบไปหน่อยเพราะมันหรูหราสมฐานะเกินไปมาก
“หนูแพ้อะไรไหมลูก”
“ไม่แพ้ค่ะ หนูกินได้ทุกอย่าง ส่วนลูกหนูขอเว้นขิงไว้อย่างเดียวค่ะ”
“เหมือนคุณธัญเลย เขาก็ไม่ชอบขิง” ป้าศรีว่ายิ้ม ๆ ดูท่าทางแล้วเขาน่าจะอยู่กับคุณธัญมานานนะคะ
“ป้าอยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้วคะ”
“ตั้งแต่ป้าเป็นสาว ๆ นั่นแหละ”
“คิกคิก”
“อยู่ตั้งแต่เกิดนั่นแหละพ่อของป้าเป็นลูกน้องคนสนิทของพ่อคุณธัญ ส่วนแม่ป้าก็เป็นแม่บ้านนี่แหละแต่ตอนนี้เสียไปหมดแล้ว”
“อ๋อ...”
“บางทีคุณธัญเขาจะดูลึกลับไปหน่อยหนูอย่าถือสาเลยนะหากว่าเขาอารมณ์ร้ายหรือโวยวายขึ้นมา”
“เขาเจ้าอารมณ์ขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกก็ตามประสาผู้มีอิทธิพลนั่นแหละ”
“หรือจะพูดให้ถูกแล้วแต่ว่าวันนั้นเจออะไรมามากกว่า สถานการณ์ตึงเครียดไปตามอารมณ์” พี่ลูกหมีกับพี่ลูกศรเสริมขึ้นมาบ้าง
“เป็นธรรมดาค่ะ เขาคงต้องแบกรับอะไรหลาย ๆ อย่าง”
พูดคุยกับบรรดาแม่บ้านอยู่ครู่หนึ่งฉันก็มาหาคุณธัญตามที่เขาสั่ง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ขออนุญาตค่ะ”
“เชิญ...”
“มีเรื่องสำคัญนอกเหนือจากในสัญญาอีกใช่ไหมคะ”
“เธอรู้ได้ยังไง”
“ไม่รู้สิแปลก คุณลึกลับขนาดนี้”
“ทุกอย่างเป็นความลับเธอจำได้ใช่ไหม”
“จำได้ค่ะ”
“เมื่อไหร่ก็ตามที่ก้าวเท้าออกจากบ้านหลังนี้นั่นคือความลับ ไม่ว่าเธอมีเหตุจำเป็นต้องออกไปไหนจะต้องไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นพี่เลี้ยงธาวิน และจะต้องไม่มีใครรู้ว่าธาวินเป็นใคร!” นี่คงเป็นเหตุผลที่ให้ค่าตอบแทนสูงสินะ
“คุณไม่ต้องการให้ใครรู้การมีอยู่ของน้องธาวิน หนูเข้าใจแบบนี้ถูกต้องใช่ไหมคะ”
“ถูก”
“ถ้าอย่างนั้นหนูจะเปลี่ยนชื่อให้ใหม่ อยู่กับคุณเขาคือน้องธาวิน ถ้าอยู่กับหนูชื่อน้องนับตังค์ค่ะ”
“นับตังค์?”
“ชื่อนี้แหละเหมาะสุดแล้ว พ่อรวยขนาดนี้นอนนับตังค์ไปยันโตนั่นแหละไหน ๆ ก็เกิดมาบนกองเงินกองทองแล้วนี่”
“ก็คิดได้เนอะ”
“แน่นอน” ฉันว่าพลางไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจมากนัก “อย่าลืมนะคะหนึ่งอาทิตย์นี้คุณห้ามเข้ามายุ่งวุ่นวายหนูจะอยู่กับน้อง”
“อืม”
“มีอะไรอีกไหมคะ”
“ฉันจะส่งลูกเธอไปเรียนศิลปะป้องกันตัว เธอมีความเห็นว่ายังไง”
“คุณคงจะไม่ให้น้ำขิงจับปืนจับมีดอะไรแบบนี้หรอกนะ”
“ก็ไม่แน่”
“...”
“เรียนรู้ไว้ก็ไม่เสียหายมีแต่ได้กับได้ อีกอย่างเรียนกับครูผู้เชี่ยวชาญอย่างดีเธอไม่ต้องห่วง เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้เอาตัวรอดได้”
“ขึ้นหลังเสือแล้วลงยากสินะ หนูรู้สึกว่าคุณเดินไปทางไหนหนูก็ต้องเดินไปทางนั้นด้วยไม่ว่ามันจะอันตรายหรือไม่ก็ตาม”
“คิดแบบนั้นถูกแล้ว ถ้าบอกว่าไม่อันตรายเลยก็คงโกหกสินะ”
“หนูรู้ว่าอันตรายตั้งแต่ได้ยินชื่อคุณแล้ว ที่หนูรับหน้าที่นี้เพราะหนูอยากมีเงินเยอะ ๆ หนูอยากสบาย กินอิ่มนอนหลับโดยที่ไม่ต้องมากังวลว่าเดือนนี้เงินจะพอใช้ไหม” สิบปีที่มีน้ำขิงเข้ามาในชีวิตฉันสู้มาตลอด เงินมากเงินน้อยฉันทำทุกอย่างไม่เคยเกี่ยง “ลำบากมาหลายปีความฝันเดียวของหนูคือนอนใช้เงินเท่านั้นแหละค่ะ ไม่ต้องห่วงหนูไม่ลืมหน้าที่ตัวเองหรอก”
“อยู่ในสถานการณ์จริงเธออาจจะเปลี่ยนความคิดก็ได้”
“มาลองดูกัน”
แยกกับคุณธัญฉันก็เข้ามาดูน้องวินซึ่งยังหลับอยู่ เด็กเล็กถ้านอนสบายเขาจะหลับนานค่ะ ฉันรู้เพราะฉันเลี้ยงน้ำขิงมาตั้งแต่เขาอยู่ในท้องแม่เขานั่นแหละ
“อยู่กับน้องก่อนนะแม่จะเอาขวดนมไปล้าง”
“หนูเล่นโทรศัพท์นะ”
“อย่าเสียงดังนะ”
ระหว่างที่น้องวินนอนฉันเก็บกวาดทุกอย่างที่กระจัดกระจายให้เข้าที่ และเพิ่งสังเกตว่าของเล่นน้องวินมีแต่ปืนกับมีดทั้งนั้น บางชิ้นยังไม่แกะเลยด้วยซ้ำ เขานี่มันบ้าบอจริง ๆ หาอะไรแต่ละอย่างมาให้ลูกเล่นไม่เข้าท่า
“ป้าคะมีจุกนมใหม่ ๆ ให้น้องวินไหม” ทุกขวดที่ฉันล้างจุกขาดแทบจะทุกอันค่ะ
“นี่ค่ะ มีเยอะเลย” ป้าศรีเอยพร้อมกับหยิบออกมาให้ฉัน “ของใช้ส่วนตัวพวกสบู่อาบน้ำ แปรงล้างขวดนมก็มีนะลูก พี่เลี้ยงคนก่อนเขาซื้อไว้เยอะ”
“พูดถึงพี่เลี้ยงคนก่อน เขาออกกันทำไมคะเงินเดือนตั้งแพง”
“อยู่ไปอีกสักพักหนูจะเข้าใจเอง”
“บอกมาเถอะค่ะป้าหนูไม่กลัวหรอก ชีวิตนี้หนูกลัวอย่างเดียวกลัวไม่มีเงินใช้” บอกออกไปอย่างไม่คิดอะไร เงินเท่านั้นค่ะที่ทำให้เราอยู่รอด
“มันอันตรายไง ก่อนเข้ามาเหยียบที่นี่หนูคงเซ็นสัญญามาแล้ว”
“เรียบร้อยค่ะรับทราบทุกรายละเอียดเลยแหละ แต่หนูไม่กลัวหรอก ชีวิตนี้หนูผ่านเรื่องน่ากลัวมามากแล้ว” แน่นอนว่ามันยากที่จะอธิบายให้ใครเข้าใจ จากวันนั้นจนถึงวันนี้ฉันไม่มีอะไรจะเสียแล้ว
“ดูใจเด็ดจัง ยังไงก็ช่างถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยดีนักหนูต้องเอาตัวรอดให้ได้นะ”
“เข้าใจแล้วค่ะหนูจะมีสติให้มาก ๆ” ไม่รู้หรอกว่าไอ้สถานการณ์แบบนั้นมันเป็นยังไงที่แน่ ๆ ฉันต้องเจออยู่แล้ว แต่ไม่รู้ว่ากับใคร ที่ไหน และเมื่อไหร่
“น้องวินเปลี่ยนพี่เลี้ยงมาแล้วถึงหกคน หนูเป็นคนที่เจ็ด หกคนนั้นเสียชีวิตแล้วทั้งหมด...ป้าบอกได้แค่นี้ มากกว่านี้หนูคงต้องหาคำตอบเอาเอง”
“คุณธัญเขาเป็นผู้มีอิทธิพลกว้างขวาง ศัตรูคู่แข่งเขาต้องมีอยู่แล้วค่ะ จุดอ่อนของเขาก็คือน้องวิน เหตุผลหลักมีแค่นี้เองค่ะ”
“...” ป้าศรีเงียบแล้วมองหน้าฉันอยู่แบบนั้น ไม่แน่ใจว่าฉันพูดอะไรผิดไปไหม “รู้ไหมว่าหนูฉลาดไหวพริบดีเหมือนใครสักคน”
“ใครเหรอคะ ยังมีคนสวยเท่าหนูอีกเหรอเนี่ย”
“แม่น้องวิน”
“...”
