บท
ตั้งค่า

Episode-05 นับหนึ่งอีกครั้ง

“โห...หลังใหญ่จังเลยค่ะ” ไม่ใช่แค่น้ำขิงที่รู้สึกแบบนั้นฉันเองก็เหมือนกัน รู้แหละว่าเขารวยแต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ แถมยังมีการ์ดเดินสวนกันให้วุ่นวายไปหมด

กวาดสายตาไปรอบบริเวณทุกอย่างในบ้านหรูหรามาก อีกทั้งยังเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย แต่แปลกที่มันให้ความรู้สึกเงียบเหงา

“บรรยากาศในบ้านคุณวังเวงจัง” ฉันพูดไปตามความรู้สึก

“ยังไง?”

“รู้สึกเหมือนต่างคนต่างใช้ชีวิต จะว่ายังไงดี...ช่างเถอะ”

“เธอชินกับบรรยากาศแออัดมากกว่ามั้ง”

“คงเป็นแบบนั้น” หันมาตอบฉันแล้วเดินนำขึ้นไปชั้นบน

“เธออยู่ห้องนี้” เขาว่าก่อนจะเปิดประตูห้องห้องหนึ่ง

“เตียงนอนใหญ่มากหนูชอบ!” น้ำขิงพูดแทรกขึ้นก่อนจะเดินตรงไปยังเตียงแล้วทิ้งตัวลงนอนอย่างถือวิสาสะ

“น้ำขิง!”

“ปล่อยเขาเถอะ เธอจะดุอะไรนักหนา”

“ไม่ได้หรอกค่ะ ไม่สอนตอนนี้จะสอนตอนไหน” แน่นอนว่าฉันเถียงกลับ “ตามใจได้แต่ไม่ใช่ทุกอย่าง”

“เลิกบ่นแล้วตามฉันมา”

“หนูไม่ได้บ่นหนูกำลังสอนอยู่นะ”

“ตามสบายนะฉันยืมตัวแม่หนูหน่อย” แทนที่จะสนใจคำพูดของฉันแต่เปล่าเลย

“คุณลุงจะพาแม่ไปไหนคะ”

“ไปหาน้อง”

“น้องเหรอ... หนูขอไปด้วยได้ไหมคะ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ตามมา”

เดินตามเขาไปด้านล่างอีกครั้ง สิ่งที่ฉันเห็นตอนนี้ไม่รู้เลยว่าควรด่าเขาไหม หรือควรพูดตักเตือนแบบไหนให้ดูสุภาพมากที่สุด

“เก่งจัง นอนคนเดียวได้ด้วย” น้ำขิงพูดไปตามประสาก่อนจะนั่งลงข้างเด็กคนหนึ่งที่กำลังหลับสนิท “แม่ขาขนตาน้องยาวมาก ผิวดีจังเหมือนลูกครึ่งเลย” น้ำเสียงเจื้อยแจ้วยังคงพูดไม่หยุดปาก “คุณลุงน้องชื่ออะไรคะ”

“ธาวิน”

เลิกสนใจน้ำขิงแล้วหันมาสนใจคนตรงหน้าอีกครั้ง

“ทำไมคุณปล่อยลูกแบบนี้ล่ะคะ”

“รู้ได้ยังไงว่าฉันปล่อย?”

“ก็นี่ไงให้อยู่คนเดียว แม่บ้านสักคนก็ไม่มี แล้วดูสิขวดนมเกลื่อนพื้นไปหมด พื้นมันดูสะอาดก็จริงแต่เชื้อโรคมันมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ปล่อยแบบนี้ลูกคุณต้องป่วยอยู่บ่อย ๆ แน่ ไหนจะถ้วยอาหารถ้วยขนมพวกนั้นอีก” เห็นแล้วขัดหูขัดตาไปหมดเลยค่ะ

“ฉันจ้างเธอมาเป็นพี่เลี้ยงนะไม่ได้จ้างให้มาด่าฉัน”

“ใครจะกล้าด่าหนูแค่บ่น”

“นี่...”

“ชู่...น้องตื่นแล้วค่ะ” น้ำขิงแทรกขึ้นพร้อมกับลูบหลังน้องหวังให้นอนหลับไปอีกครั้ง ซึ่งมันไม่ได้ผล “แม่เสียงดังน้องตื่นเลย”

ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ น้องวินลุกขึ้นนั่งแล้วเอาแต่มองคนแปลกหน้าอย่างฉันกับน้ำขิงสลับไปมา ท่าทางงัวเงียเหมือนนอนไม่เต็มอิ่ม

“มาหาป๊าเร็ว” คุณธัญเอ่ยเรียกแต่ถึงอย่างนั้นน้องวินก็ยังคงนิ่งอยู่ ไม่ร้องไห้ ไม่มีอาการตื่นกลัวใด ๆ ทั้งสิ้น

เห็นแบบนั้นฉันจึงเดินเข้าไปใกล้ ๆ แล้วชงนมขวดใหม่ให้

“ลูกคุณกี่ขวบแล้ว”

“สองขวบหนึ่งเดือน”

“เปลี่ยนสูตรนมผงได้แล้วนะคะ สูตรนี้สำหรับเด็กแรกเกิดถึงหนึ่งปี น้องสองขวบแล้วควรจะเปลี่ยนเป็นสูตรสองหรือสามเพื่อให้ได้ประโยชน์และสารอาหารที่มากกว่านี้” ปากพูดกับเขาขณะที่มือวุ่นวายอยู่กับนมขวดใหม่ “หรือเปลี่ยนยี่ห้อก็ได้ค่ะ ลูกคุณแพ้อะไรหรือเปล่า”

“ไม่รู้สิ” ถึงกับหันกลับไปมองหน้าเมื่อได้คำตอบแบบนั้น

“ฉันไม่เคยรู้จริง ๆ ตั้งแต่มีพี่เลี้ยงมามีเธอคนแรกนี่แหละที่บอกให้เปลี่ยนสูตร ปกติไม่สบายพาไปหาหมอแป๊บเดียวเขาก็หายแล้ว เขาเป็นเด็กแข็งแรง”

เลิกสนใจเขาแล้วยื่นขวดนมให้น้อง แน่นอนว่าเขารับอย่างรวดเร็ว

“มานอนตรงนี้” ฉันว่าพลางทำท่าทีจะอุ้ม ต้องดูก่อนค่ะว่าเจ้าตัวเขายอมให้อุ้มไหม “พื้นสกปรกครับน้องต้องนอนตรงนี้” ไม่รู้ว่าง่วงหรืออะไรเขายอมให้ฉันอุ้มแต่โดยดี ที่น่าแปลกคือไม่สนใจว่าฉันเป็นใคร

แค่เพียงไม่กี่นาทีดวงตากลมโตก็เริ่มหรี่ลงจนผล็อยหลับไปอีกครั้ง

“ทำไมน้องไม่ร้องเลยคะแม่ น้องไม่เห็นสนใจเลยว่าพวกเราเป็นใคร” เห็นไหมคะขนาดน้ำขิงยังคิดแบบเดียวกันกับฉัน

“น้องไม่ร้องแล้วน้องก็ไม่พูดด้วย ปกติเขางอแงไหม” ประโยคหลังฉันหันไปถามคุณธัญ

“ไม่”

“ปกติใครดูแลเขาตอนที่คุณไม่อยู่ แล้วเขานอนกับใคร”

“แม่บ้านนี่แหละ แต่ส่วนมากเขาจะอยู่คนเดียว”

“คือ?”

“เขามีห้องของเขา ถึงเวลานอนเขานอนเองได้ ที่เหลือจะมีแม่บ้านมาคอยดูเป็นระยะ”

“ดูเป็นระยะอะไรของคุณ เด็กยังเล็กต้องดูแลใกล้ชิด!” ฉันเริ่มไม่สบอารมณ์กับการเลี้ยงลูกของเขาแล้วจริง ๆ “เฮ้อ...”

“เธอจะมาถอนหายใจใส่ฉันแบบนี้ไม่ได้นะ”

“เหนื่อยค่ะ เหนื่อยกับคุณนี่แหละ”

“...”

“เอาเป็นว่าหนูจะนับหนึ่งใหม่ทั้งหมด รวมถึงคุณที่เป็นพ่อเขาด้วย คุณต้องเปลี่ยนความคิดและวิธีดูแลเขาใหม่ทั้งหมดค่ะ”

“ทำไม... ฉันก็โตมาแบบนี้”

“นั่นมันคูณ! นี่มันสมัยไหนแล้ว”

“...” เขาเงียบแล้วมองหน้าฉันอยู่แบบนั้น งงล่ะสิเริ่มงานวันแรกก็วีนฉ่ำเลย

“หนูเข้าใจค่ะว่าคุณเป็นใคร วิถีชีวิตคุณเป็นแบบไหน แต่ลูกคุณยังเล็กคุณจะให้เขาโตมาแล้วเก่งเลยไม่ได้ เขาต้องใช้ชีวิตตามวัยของเขา” ฉันพยายามบอกให้เขาเข้าใจแผนการเลี้ยงที่ถูกต้องแต่ไม่รู้ว่าเขาจะเข้าใจบ้างไหม หรือเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา

“แล้วฉันต้องทำยังไง”

“ก่อนอื่นเลย เขาเคยได้อยู่กับแม่เขาบ้างไหมคะ” คุณธัญเงียบไปเมื่อฉันถามถึงแม่ของลูก แววตาว่างเปล่าแข็งกร้าวขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด “ขอโทษค่ะหนูถามใหม่ก็ได้ ตั้งแต่แรกเกิดเลยคุณเลี้ยงเขาด้วยวิธีนี้เหรอ”

“ใช่! … เขาไม่ได้อยู่กับแม่หรอก แม่เขาเสียวันที่เขาเกิดนั่นแหละ” มิน่าล่ะเขาถึงชะงักไปเมื่อฉันถามแบบนั้น

“เสียใจด้วยนะคะ แต่คุณก็เก่งที่เลี้ยงเขามาได้ขนาดนี้”

“เก่งอะไรเมื่อกี้เธอยังบ่นอยู่เลย”

“หนูบ่นเพราะคุณละเลยเกินไปต่างหาก หนูไม่ได้บอกว่าคุณเลี้ยงลูกไม่ดีสักหน่อย”

“อีกสามวันฉันมีงานสำคัญมากที่ต้องทำ ถ้าเกิดอะไรขึ้นลุกซ์จะมารับเธอไปจากที่นี่นะ ถ้าไม่ใช่ลุกซ์ห้ามไปเด็ดขาดไม่ว่าจะเป็นใครก็ช่าง ห้ามไป! ระหว่างนี้ห้ามออกไปไหน ขาดเหลืออะไรบอกแม่บ้านได้ทุกเวลา” เขาออกคำสั่งเด็ดขาดกับฉัน “เรื่องงานของเธอเรียบร้อยหมดแล้วใช่ไหม”

“ลาออกเรียบร้อยแล้วค่ะ ส่วนน้ำขิงโรงเรียนเปิดเดือนหน้า”

“อืม”

“ดูคุณเครียดจัง”

“ฉันเครียดทุกวันอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องของธาวิน” มือหนาลูบศีรษะลูกชายตัวเองด้วยความรักใคร่ “แต่เห็นเธอใส่ใจรายละเอียดพวกนั้นฉันก็เบาใจ”

“ไม่ต้องห่วงค่ะ คุ้มแน่นอนกับเงินเดือนห้าหมื่น”

“คุ้มอะไร? ด่าฉันคุ้มน่ะเหรอ”

“หนูเปล่าด่าสักหน่อย คุณพูดเองทั้งนั้น”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel