Episode-03 พี่เลี้ยงคนใหม่
“ลุกซ์ เรื่องที่ฉันให้ทำไปถึงไหนแล้ว”
“หาคนใหม่ได้แล้วครับคุณธัญ”
“เป็นใคร ชื่ออะไร อายุเท่าไหร่”
“นี่ครับประวัติของเธอ”
เอกสารฉบับหนึ่งถูกวางลงตรงหน้า ดวงตาคู่คมจ้องมองและอ่านมันอย่างละเอียดก่อนจะพูดประโยคไม่ค่อยพอใจออกมา
“เพิ่งอายุยี่สิบแปดเอง มีที่เป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ไหม”
“ตอนแรกก็มีครับ แต่พอรู้ว่าต้องเป็นพี่เลี้ยงของลูกคุณธัญพวกเขาก็เปลี่ยนใจกันหมด”
“อะไรนักหนากับเด็กแค่สองขวบ”
“เขาไม่ได้อะไรกับเด็กครับ เกรงว่าเขาอะไรกับพ่อของเด็กมากกว่า”
“ฉันทำไม?”
“พูดได้เหรอครับ”
“งั้นก็ไม่ต้องพูด” มือหนากุมขมับด้วยความเหนื่อยหน่ายไหนจะเรื่องงาน และยังเรื่องส่วนตัวอีก
“เธอคนนี้โปรไฟล์ใช้ได้เลยนะครับ ผมให้คนไปสืบมาแล้ว”
“หามาจากไหน?”
“คุณบัวงามครับ”
“...”
“ไม่ต้องห่วงครับคุณธัญ เธอไม่ใช่เด็กในสังกัดเรา เธอเป็นพนักงานบริษัทเอกชนและเป็นคนรู้จักของคุณบัวงาม มีประสบการณ์การดูแลเด็กถึงสิบปี ระดับการศึกษาปริญญาตรี แม่เสียชีวิตพ่อติดคุกคดียาเสพติดครับ” ลุกซ์อธิบายตามข้อมูลที่ได้รับมา
“อืม ติดต่อกลับไปอีกสามวันให้มาพบฉัน”
“ครับ ยังมีอีกเรื่องหนึ่งครับคุณธัญ ส่งสินค้าที่กาญจนบุรีรอบนี้คุณธัญจะไปด้วยไหม”
“ไม่ล่ะ ให้ไอ้ธีร์จัดการแล้วกัน นายถามทำไม?”
“สายของเรารายงานมาว่าบริษัทนั้นจะประชุมเรื่องสำคัญ ถ้าสำคัญมากทำไมมันถึงเลือกที่จะทำพร้อมกัน ผมว่ามันแปลก ๆ นะ”
“ปล่อยข่าวออกไปว่าฉันให้ไอ้ธีร์จัดการแทน”
“เอาแบบนั้นเหรอครับ คุณธีร์จะไม่เดือดร้อนเหรอ”
“ไม่หรอก ไอ้ธีร์มันรู้ว่าต้องทำยังไง”
“ครับ”
ความเงียบเข้าปกคลุมพร้อมกับความคิดที่วิ่งวนอยู่ในหัว ควันสีขาวโพยพุ่งออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อเป็นการระบายความเครียด
เหลือบมองรูปถ่ายอย่างไม่ตั้ง ... คนนี้เหรอจะเป็นพี่เลี้ยงให้ลูกชายของเขาได้ แต่ถึงไม่ได้ก็ต้องได้ตอนนี้ไม่มีเวลาแล้วเขามีอย่างอื่นที่สำคัญไม่แพ้กัน
สามวันถัดมา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ขออนุญาตค่ะ คุณลุกซ์คะมีคนมาขอพบคุณธัญค่ะ เธอแจ้งว่าคุณลุกซ์เป็นคนนัดไว้”
“ครับ ให้เธอรอที่ห้องรับรอง”
“ตรงเวลาดีนี่” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยพลางมองนาฬิกาหรูที่ข้อมือตัวเอง นิสัยส่วนตัวเขาค่อนข้างเจ้าระเบียบ พูดคำไหนต้องเป็นคำนั้น
“ไม่ตรงครับ มาก่อนเวลาตั้งหนึ่งชั่วโมง”
“ไอ้นี่!”
“ผมไม่อยากให้นายเครียดจนเกินไป” ลุกซ์เอ่ยอยางอารมณ์ขัน
“ฉันจะเครียดเพราะนายนี่แหละ” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะจัดระเบียบชุดที่อยู่บนร่างกายให้เรียบร้อยแล้วหันไปออกคำสั่งอีกครั้ง “นายไปดูความเรียบร้อย ฉันจะคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวสักหน่อย”
“ครับ”
แค่เพียงไม่กี่นาทีเขาก็หยุดยืนอยู่หน้าห้องรับรองแล้ว แต่คนด้านในกลับไม่ได้สนใจเขาสักนิดเพราะเอาแต่มองสำรวจไปรอบบริเวณ
กรอบหน้าเรียว ปากสีชมพูระเรื่อ สีผมดำธรรมชาติที่ถูกรวบมัดไว้อย่างเรียบร้อยเรียกความสนใจจากเขาได้เป็นอย่างดี
นานหลายนาทีที่เขามองใครอีกคนผ่านประตูกระจกก่อนจะผลักประตูเข้าไปอย่างตั้งใจ
“...”
“สวัสดีค่ะ” น้ำเสียงหวานเอ่ยทักทายและยกมือไหว้อย่างมีมารยาท
“นัดไว้ใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ” เธอยังคงตอบพร้อมรอยยิ้มแม้ว่าเขาจะเย็นชาดังก้อนหิน
“เชิญ...” ธัญกรเอ่ยแล้วเดินนำไปยังอีกห้องหนึ่ง บรรยากาศในห้องปกคลุมไปด้วยความเงียบก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายพูดก่อน “สิริโสภา ... ชื่อเพราะดีนะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“รู้จักคุณบัวงามเป็นการส่วนตัวเหรอ”
“ค่ะ”
“รู้ใช่ไหมว่าเขาทำอาชีพอะไร”
“ทราบค่ะ”
“แล้วคุณมีความคิดเห็นยังไงกับอาชีพนี้” แน่นอนว่าคำตอบของเธอมีผลต่อการตัดสินใจของเขา
“ทุกคนดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดของตัวเองกันทั้งนั้น ไม่ว่าใครจะทำอาชีพอะไรนั่นมันเป็นสิทธิ์ของเขาเราไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินแม้ว่าอาชีพที่เขาทำจะไม่ถูกใจตัวเองก็ตาม หรือต่อให้เรารู้สึกรังเกียจนั่นมันก็เป็นปัญหาของเรา ไม่ใช่ปัญหาของเขา ทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบชีวิตตัวเองค่ะ” เขาคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วตั้งคำถามต่อ
“ทำไมถึงอยากลาออกจากงานประจำ”
“อยากได้เงินเดือนที่มากกว่าค่ะ”
“ไม่พ้นเรื่องเงินสินะ”
“ใช่ค่ะ เงินเป็นเรื่องสำคัญ”
“ประสบการณ์เลี้ยงเด็กถึงสิบปี นี่เธอมีลูกตั้งแต่อายุสิบแปดปีเองเหรอ” น้ำเสียงเรียบนิ่งยังคงตั้งคำถามออกมาเรื่อย ๆ ประกอบกับดูประวัติในเอกสารที่ลุกซ์นำมาให้ก่อนหน้านี้ “เลี้ยงคนเดียวเหรอ”
“ใช่คะ”
“พ่อเด็ก?”
“ไม่มี”
“...” เขาเงียบพลางคิดอะไรบางอย่างแล้วตั้งคำถามกำกวมออกมา “คิดดี ๆ งานประจำเงินเดือนน้อยก็จริงแต่ได้ทุกเดือนยันเธอเกษียณอายุงาน แต่พี่เลี้ยงนี่ฉันให้เธอเลี้ยงแค่สองปีเองนะ”
“ทราบค่ะ หนึ่งปีมีสิบสองเดือน ทำงานทั้งปีได้แค่สองแสนกว่าบาท สองปียังไม่ได้ครึ่งล้าน แต่เป็นพี่เลี้ยงสองปีหนูมีเงินล้านในบัญชีเลยนะ หลังจากหมดสัญญาว่าจ้างแล้วหนูสามารถหางานที่ดีและเหมาะกับตัวเองได้แน่นอนค่ะ ทั้งประสบการณ์และการศึกษามั่นใจว่ามีดีไม่แพ้ใคร” เธอพรีเซนต์ตัวเองด้วยความมั่นใจ ตลอดการสนทนาไม่แม้แต่จะหลบตาเขาสักวินาที นี่เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่เธอไม่รู้ตัว
“แล้วเธอรู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นใคร?”
“คุณคือคุณธัญกรเจ้าของคลับหรูที่ถูกขนานนามไปทั่วโดยเฉพาะเรื่องไม่ดี”
หึ
“แล้วยังไงอีก?”
“เป็นผู้มีอิทธิพลที่ฆ่าคนเป็นว่าเล่น”
“รู้แบบนี้แล้วเธอยังอยากเป็นพี่เลี้ยงอยู่ไหม”
“อยากค่ะ หนูอยากมีเงินเยอะ ๆ คุณจะมองว่าหนูเห็นแก่เงินก็ได้หนูไม่เถียง แต่มั่นใจได้ค่ะว่าหนูเลี้ยงลูกคุณได้แน่นอน”
“ถ้าเธอยืนยันแบบนั้นฉันก็ตกลง” ธัญกรเอ่ยพร้อมกับยื่นหนังสือสัญญาให้คนตรงหน้า “ทุกอย่างคือความลับ!”
“เข้าใจแล้วค่ะ” น้ำเสียงหวานขานรับอย่างเข้าใจก่อนจะตั้งใจอ่านเอกสารจนครบทุกตัวอักษร “มันมากไปหรือเปล่าคะ”
“มากไปยังไง”
“เงินเดือนห้าหมื่นฟรีที่พักและค่าใช้จ่ายทุกอย่าง หนูว่ามันมากเกินไป ถึงหนูจะเห็นแก่เงินแต่หนูไม่ชอบเอาเปรียบใครนะคะ”
“แล้วเธอจะเอายังไง?”
“ที่พักและค่าใช้จ่ายหนูขอปฏิเสธ”
“ไม่ได้! เธอต้องย้ายมาอยู่กับฉัน”
“แล้วลูกหนูจะอยู่กับใคร”
“ก็อยู่กับเธอไง ฉันอนุญาตให้พาเขามาอยู่ด้วยเดี๋ยวฉันให้คนเตรียมห้องไว้ให้ ไม่ต้องห่วงหรอกเพราะหลังจากที่เธอเซ็นสัญญาฉบับนี้แล้วฉันจะถือว่าเธอคือคนของฉัน เธอกับลูกจะไม่ลำบาก ฉันจะทำให้เธอมีทุกอย่างแบบที่เธอไม่เคยมีมาก่อน”
“...”
