ตอนที่ 5 [Serprise]1/2
“โปรด! มัวชักช้าอะไรอยู่ ลูกค้ายืนรอจนขาแข็งแล้วเห็นมั้ยนั่น!”
ผมทำงานที่ร้าน Thirsty3ties มา 2 ปีกว่า วันนี้เป็นครั้งแรกครับที่ผมโดนพี่แก้วไวน์ดุ ปกติพี่แก้วไวน์เป็นคนใจดี เซ็กซี่ ขี้เล่น และเป็นกันเอง กับทั้งลูกค้าและเด็กในร้าน โดยเฉพาะเด็กน่ารักน่ากินอย่างผม แต่วันนี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นครับ ลูกค้าเพิ่งสั่งยังไม่ถึง 2 นาที พี่แก้วไวน์ก็โวยใส่ผม ขนาดลูกค้ายังทำหน้างงเลยครับ
“ครับๆ” แต่ผมก็ไม่ได้โต้ตอบหรือแก้ตัวแต่อย่างใด รีบทำตามออเดอร์มือไม้สั่น “สักครู่นะครับคุณลูกค้า”
“ถอยไปดิ๊ เกะกะชิบหาย” ไอ้นี่ก็อีกคนครับ โรมันมันหาเรื่องผมตั้งแต่มาถึงร้านแล้ว ตอนเลิกคลาสยังคุยกันดีๆอยู่เลย
“มึงเป็นไรวะโรม” เห็นว่าเป็นเพื่อนรัก เราไม่เคยทะเลาะกันข้ามคืนเลยนะครับ รักกันยิ่งกว่าผัวเมียเสียอีก ผมก็เลยถามมันไปตรงๆ ว่าตกลงมันเคืองอะไรผม
“ทำไรไว้ก็น่าจะรู้ตัว มึงยังต้องให้กูพูดอีกเหรอ?”
แต่สิ่งที่ผมได้กลับมา คือ คำถามกับใบหน้าโกรธขึ้งของมัน
“กูไปทำอะไรให้วะ? มึงก็บอกกูมาดิ”
“…”
ผมไม่ได้คำตอบนอกจากความเงียบ และผมก็ไม่อยากจะทะเลาะกับเพื่อนต่อหน้าลูกค้าครับ
“VANILLA CREAM FRAPPUCINO ได้แล้วครับคุณลูกค้า” ผมเสิร์ฟออร์เดอร์ล่าสุดให้ลูกค้าที่นั่งรอรวมเวลาไม่ถึง 5 นาที ก่อนจะกลับมาประจำที่หลังเคาท์เตอร์อีกครั้ง
“โปรด เข้าไปคุยกับพี่ข้างใน” แล้วพี่แก้วไวน์ก็เดินเฉียดเข้ามาใกล้ๆ มองผมด้วยสายตาตำหนิ และสั่งเสียงห้วนอย่างที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน
“ครับพี่แก้วไวน์” ผมก้มศีรษะให้นายจ้างอย่างนอบน้อม ในใจก็ตุ๊บๆต่อมๆ
ผมมองไปทางแก้วใสที่ประจำตำแหน่งแคชเชียร์เป็นเชิงถาม เราทำผิดอะไรเหรอ?
แต่…แม้แต่แก้วใส ก็มองเลยหัวผมไปราวกับผมเป็นอากาศธาตุ
สรุปผมทำอะไรผิด?
“พี่คงให้โปรดทำงานที่นี่ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว”
ผมแทบหงายหลัง เมื่อได้ฟังประโยคแรกจากพี่แก้วไวน์หลังจากที่ผมเดินตามเข้าไปในห้องทำงานของเธอ
“หมายความว่าไงครับพี่แก้วไวน์ ผมทำอะไรผิด?”
“โปรดยังจะให้พี่สาธยายอีกเหรอ? ไม่ละอายใจบ้างหรือไง?”
นั่นยิ่งทำให้ผมทวีความสงสัย มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“ได้โปรดเถอะครับพี่แก้วไวน์ ผมไม่รู้จริงๆว่าผมทำอะไรผิด” ผมขอร้องเจ้านาย เสียงเริ่มเครือ
ปัง!
แต่… นอกจากพี่แก้วไวน์จะไม่อธิบาย เธอยังลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วทุบโต๊ะทำงานเสียงดังลั่น
“หน้าด้าน! พี่ไม่นึกเลยนะ ว่าคนที่พี่เอ็นดูอย่างโปรด จะมีนิสัยแบบนี้ พี่ผิดหวังในตัวโปรดจริงๆ พรุ่งนี้ไม่ต้องมาทำงานแล้วนะ พี่ไม่อยากเห็นหน้าเธออีก”
“พี่แก้วไวน์!…”
“ออกไปซะ!” พูดจบ พี่แก้วไวน์ก็หันหลังให้ผม ยืนกอดอกตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ
หยดน้ำใสไหลลงบนแก้มข้างซ้ายของผม วันนี้มันวันอะไรครับ ทำไมมันถึงวินาศสันตะโรได้ขนาดนี้
ผมค่อยๆลุกออกจากเก้าอี้ ใช้หลังมือปาดคราบน้ำตาก่อนจะเดินออกมาจากห้องทำงานของพี่แก้วไวน์ด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย แบกทั้งความเสียใจและความสงสัย
“โรม…” ในขณะที่ผมต้องการกำลังใจและคนที่คอยอยู่เคียงข้างอย่างโรมัน มันกลับมองผมด้วยสายตาเกลียดชังอย่างที่ผมไม่เคยได้รับจากมันมาก่อน
ความน้อยใจตีตื้นขึ้นมาจนจุกอก ผมพูดอะไรไม่ออกอีก นอกจากจะรีบเดินหลบเข้ามาหลังร้าน ก่อนที่น้ำตามันจะพาลไหลลงมาอีกครั้ง
ผมนั่งหงอยอยู่ในสวนหลังร้าน ปกติตอนกลางวันที่ตรงนี้จะมีลูกค้ามาถ่ายรูปเล่น เพราะทางร้านจัดไว้เพื่อการนั้น ถ่ายรูป เซลฟี่ เช็คอิน แต่เวลาใกล้ปิดร้านแบบนี้ ไม่มีลูกค้ามาโซนนี้แล้วล่ะครับ ผมก็เลยถือโอกาสนั่งซุกกายอยู่ในมุมมืดๆมุมหนึ่ง
พึ่บ!
ชีวิตวันนี้ของผมมันคงยังมืดมนไม่พอมั้งครับ ไฟแม่งยังจะมาดับอีก รอบกายผมมืดสนิท ‘ไฟมาดับอะไรตอนนี้วะ กูกำลัง ดราม่าอยู่’
ผมมองไปรอบๆ บริเวณหลังร้านนี้มืดสนิท แต่ในร้านยังมีแสงสลัว คนในร้านคงหาเทียนมาจุด หรืออาจเป็นแสงไฟจากโทรศัพท์มือถือ แต่น่าแปลก ที่เหมือนไฟจะดับแค่ในร้านของเรา แต่บริเวณรอบๆ และตรงถนนไม่ยักจะดับแฮะ!
Happy Birthday to you
Happy Birthday to you
Happy Birthday
Happy Birthday
วู่ วู่
Happy Birthday to you
เสียงเพลงสุขสันต์วันเกิดลอยนำมาจากในร้าน ตามด้วยโรมันที่ถือเค้กก้อนโต มีเทียนตัวเลข 20 ติดไฟปลักอยู่บนเค้กก้อนนั้น
Happy Birthday to you
Happy Birthday to you
Happy Birthday
Happy Birthday
วู่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงประสานจากทุกคนในร้าน รวมทั้งพี่แก้วไวน์ด้วย
“Happy Birthday to น้องโปรดปราณคนขี้แย2020คร้าบบบบบ”
“ไอ้สัด!โรม”
ผมกระโดดถีบคนถือเค้กด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“นี่ทุกคนแกล้งผมเหรอครับ?” ผมกวาดสายตาไล่ใบหน้าร่าเริงของแต่ละคน บันเทิงกันมากครับ สนุกกันมากมั้ย ในขณะที่ผมต้องกลืนน้ำตา
“พี่แก้วไวน์ก็ด้วยเหรอครับ?” และคนที่ตีบทแตกที่สุด ก็แหวกฝูงชนเข้ามาหาผม
“โอ๋ๆๆๆๆน้องโปรดที่รักของพี่” พี่แก้วไวน์สวมกอดผมแน่น เอาหน้าอกคัพซีขยี้อกผม สองมือกุมศีรษะทั้งสองข้าง สอดนิ้วเข้ามาในเส้นผม แล้วก็ดึงผมไปหอมหน้าผากดังฟอด “ไม่ร้องน้า พี่ล้อเล่นนนนนน”
“งืออออ โกรธพี่แก้วไวน์แล้ว ไอ้โรมด้วย เธอก็เหมือนกันแก้วใส ทุกคนเลย งือ” ผมบู้หน้าใส่ทุกคนที่โอบรอบตัวผมอยู่ด้วยใบหน้าเคลือบยิ้มและเอ็นดู
“ไม่เอาไม่งอน เดี๋ยวคืนนี้ให้นอนกอดทั้งคืนเลยเอ้า” แล้วไอ้โรมก็เอื้อมมือข้างที่ว่างดึงผมเข้าไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงอย่างมันเขี้ยว
“มึงอ่ะตัวดีเลย กูยิ่งเพื่อนน้อยๆอยู่” ผมได้แต่ตัดพ้อ กระทุ้งท้องมันไปทีนึง
“น้องโปรดน่ารักขนาดนี้ ไม่น่ามีเพื่อนน้อยนะ ถ้าปากหมาอย่างไอ้โรมก็ว่าไปอย่าง” พี่นะโมให้ความเห็น
“เพื่อนน้อยเพราะไม่มีใครอยากเป็นเพื่อน มีแต่คนอยากเป็นผัวมันอ่ะพี่” แต่ผมยังไม่ทันได้พูดอะไร ไอ้โรมก็ไขข้อข้องใจให้พี่นะโมแล้วล่ะครับ
“เอ้าๆๆ เทียนจะละลายหมดแล้วเนี่ย รีบอธิษฐานเร็วโปรด” แล้วแก้วใสก็คะยั้นคะยอให้ผมรีบอธิษฐานครับ ผมจึงรีบประสานมือทั้งสองข้างขึ้นมาตรงหน้า แล้วก็อธิษฐานอย่างตั้งใจ
