บท
ตั้งค่า

4| ปาป๊า

"นายครับ "

"ว่ามา ฉันรอฟังอยู่ " ผมหันเก้าอี้มาทางลูกน้องเพื่อรอฟังรายงานข้อมูลที่เหลือบางส่วน

"คุณจิน มีคนรู้ใจแล้วครับ ทำงานเป็นช่างอยู่บริษัท CC "

"คบกันมานานหรือยัง "

"ห้าเดือนแล้วครับ " ผมกระตุกยิ้มเล็กน้อย แค่ห้าเดือนเองเหรอ? เอาล่ะ เรื่องที่ผมอยากรู้คงไม่มีอะไรมากแล้ว ที่ผมต้องให้ลูกน้องไปสืบมาก็เพราะมันเกี่ยวกับการทำงานในแต่ละวันของเธอ ผมจะพยายามไม่เข้าใกล้เธอให้มาก ถ้าเป็นไปได้อะนะ อาการของผมแม่ง! หนักข้อขึ้นทุกวัน

"อืมดี เรื่องคอนโดไปถึงไหนแล้ว "

"เฟอร์นิเจอร์ที่นายสั่งเรียบร้อยแล้วครับ เหลือแค่เก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ "

"อะไรบ้าง "

"ผ้าปูที่นอน พรมปูพื้น แล้วก็สีของไฟ คุณจินอาจไม่ชอบสีไฟแบบเดิม เพราะว่ารสนิยมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน " ผมนิ่งคิดแล้วพยักหน้าเข้าใจ มันสมเหตุสมผลสอดคล้องกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ

"อืม คงสืบไม่ได้ว่าชอบแบบไหน "

"ครับเจ้านาย "

"เดี๋ยวฉันจัดการเอง พรุ่งนี้ให้ช่างมารอแต่เช้า เจ้าของห้องจะมาบิ้วงานด้วยตัวเอง " ผมพูดออกมาด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย เหมือนสั่งงานลูกน้องตามปกติ แต่ทำไมสีหน้าของลูกน้องผมมันถึงไม่ปกติวะ?

" นายครับ "

"อยากถามอะไรก็ถาม "

"ถ้าเกิดคุณลูกแก้วรู้ขึ้นมา "

"ฉันสนเหรอ? นี่มันงาน ถึงเป็นเรื่องส่วนตัว ลูกแก้วก็ไม่มีสิทธิ์ยุ่งอยู่แล้ว ทำไมจะต้องถามเรื่องแบบนี้ด้วย "

"ขอโทษครับนาย " เหอะ ผมถึงกับอารมณ์เสียขึ้นมาทันที

"เธอมีหน้าที่ต้องดูแลฉัน ฟังดูเหมือนง่าย แต่พวกมึงก็รู้ ว่ามันไม่ง่าย "

"ครับนาย " เอาล่ะ เรื่องงานที่จินนี่ตอบตกลงผมวันนี้ยังทำให้ผมอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง ส่วนตัวผมไม่เคยง้อใครให้เข้ามาทำงาน ผมไม่รู้จะใช้คำพูดแบบไหน หว่านล้อมยังไง มันยากไปหมดกับการร้องขอ แต่ผมก็ฉลาดพอที่จะหาตัวช่วยอย่างมียาเมียของไอ้ฝุ่นเจ้านายเก่าของจินนี่ มียาช่วยผมได้มาก แล้วผมก็จับจุดเธอถูก ผมยินดีหาผู้เชี่ยวชาญมาดูแลแม่ที่ตาบอดของเธอเป็นอย่างดีที่สุด เสนอค่าตอบแทนแล้วก็สวัสดิการให้เธอ ไม่มีบริษัทไหนทำเหมือนผมอย่างแน่นอน

"ไปรับน้ำขิงหรือยัง "

"คุณหนูไม่ยอมกลับครับ "

"บ้าชิบ " ผมรีบลุกจากเก้าอี้ทำงานแล้วคว้ากุญแจรถทันที

_____________

โรงเรียนอนุบาลนานาชาติ FD

"น้ำขิง "

"ปาป๊า " น้ำขิงรีบวิ่งมาหาผมที่ยืนหอบแฮกอยู่ที่หน้าประตู ใบหน้าหวานเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา ในห้องเรียนเหลือเด็กอยู่ไม่กี่คน ยังทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นบ้าง อย่างน้อยๆ น้ำขิงก็ไม่ใช่คนสุดท้ายของโรงเรียน

"ป๊าขอโทษครับ "

"น้ำขิงรอป๊าตั้งนาน ฮึก "

"โอ๋ ไม่ร้องนะเด็กดี " เพราะงานวันนี้แท้ๆ ทำให้ผมลืมนัดน้ำขิง ผมกระตุกยิ้มให้คุณครูแล้วยื่นมือไปรับกระเป๋าสีชมพูของน้ำขิงมาถือเอาไว้

"อย่าลืมกิจกรรมวันแม่พรุ่งนี้นะคะ "

กึก!!

"ครับ " ผมตอบรับคุณครูของน้ำขิง ในขณะที่เด็กน้อยในอ้อมกอดอยู่ๆ ก็เงียบไป เมื่อไหร่โรงเรียนจะเลิกจัดกิจกรรมแบบนี้สักทีวะ! ผมไม่ชอบเลยกับการให้พาพ่อพาแม่มาโรงเรียน น้ำขิงก็คงคิดเหมือนกันกับผม

"ปาป๊า มาม๊าจะมามั้ยคะ "

"..."

"มาม๊าไม่มาใช่มั้ย " ผมกระชับร่างเด็กน้อยเข้ามากอดแน่นกว่าเดิม ผมอุ้มน้ำขิงมือนึงส่วนอีกมือนึงก็ถือกระเป๋า พอเดินมาถึงรถ ลูกน้องของผมที่ขับรถตามมาก็รีบวิ่งเข้ามาเปิดประตูให้น้ำขิง

"ปาป๊า "

"ป๊าจะพาน้ำขิงไปดูแมว น้ำขิงชอบแมวมั้ยคะ " ผมไม่รู้นี่หว่าว่าจะตอบลูกยังไงเรื่องมาม๊าของเขา เอาเป็นว่าหาเรื่องที่น้ำขิงชอบมาเสนอก่อนก็แล้วกัน เรื่องงานโรงเรียนวันพรุ่งนี้ผมจะพยายามคิดให้เร็วที่สุด ถ้ามันหาทางออกไม่ได้ก็ไม่ต้องไปแม่ง!! เหมือนทุกๆ ปีที่ผมต้องยืนฟังเสียงน้ำขิงร้องไห้อยู่หน้าประตูห้องนอน เพราะผมไม่รู้ว่าจะเข้าไปปลอบน้ำขิงว่าอะไร ผมทำได้แค่ยืนกำมือแน่น ในใจก็นึกแค้นคนเป็นแม่ที่ทิ้งลูกได้ลงคอ

"ชอบค่ะ ปาป๊าซื้อแมวมาให้น้ำขิงเลี้ยงเหรอคะ เย่ๆ " เห็นรอยยิ้มของน้ำขิงผมก็ยิ้มตาม ผมไม่ได้ซื้อแมวให้น้ำขิงหรอก เพราะผมแพ้ขนแมว อาจจะไม่รุนแรง แต่ผมก็ไม่อยากเสี่ยง

"เปล่าครับ ป๊าจะพาน้ำขิงไปดูแมวของเพื่อนป๊า "

"เพื่อน? ลุงฝุ่นเหรอคะ หรือว่า ลุงเดล " แต่ละคนที่น้ำขิงเอ่ยมา ไม่มีใครเลี้ยงสัตว์เลยสักคน

"ไม่ใช่ครับ "

"แล้วใครคะ? " เด็กน้อยหกขวบเอียงคอถามผมอีกรอบ

"เดี๋ยวก็รู้ คาดเข็มขัดด้วยครับ ป๊าจะพาซิ่ง "

"ปกติป๊าก็ซิ่งอยู่แล้วนี่คะ " ผมหันไปยิ้มให้น้ำขิงอีกรอบ จากนั้นก็ขับรถออกจากโรงเรียน จุดหมายคือบ้านแมวเพื่อง้อน้ำขิง เด็กน้อยยิ้มอารมณ์ดีมาตลอดทาง ลืมเรื่องงานโรงเรียนพรุ่งนี้ไปเสียสนิท ดีแล้ว หวังว่าคืนนี้ผมคงไม่ต้องยืนฟังเสียงน้ำขิงร้องไห้อีกหรอกนะ รู้มั้ยว่าใจของพ่ออย่างผมมันจะขาด

"เสียงรถใครลูก "

"เดี๋ยวหนูออกไปดูเองค่ะ " ฉันถอดผ้ากันเปื้อนแล้วรีบเดินไปที่ประตูหน้าบ้าน ชินเน่ก็วิ่งวนแข้งวนขาทำฉันเกือบล้ม

"ชินเน่! "

แกร๊ก!!

"มาหา เอ่อ คุณคี มีอะไรหรือเปล่าคะ? "

"ทำกับข้าวอยู่เหรอ? อืม หอมดี ทำอะไรกินล่ะ " ฉันอ้าปากหวอด้วยความตกใจ คุณคียืนอยู่หน้าประตูพร้อมกับทักทายฉันในช่วงเวลาเย็นด้วยประโยคที่เป็นกันเองแบบสุดๆ เขาดูเหมือนกำลังฝืน แล้วเขาก็ไม่ได้มาคนเดียวด้วย

"สวัสดีค่ะเพื่อนปาป๊า "

"สวัสดีค่ะ " ปาป๊า?ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ชายอย่างคุณคีมีลูกแล้ว

"หนูชื่อน้ำขิงค่ะ เป็นลูกของปาป๊าคีกับมาม๊าแก้ว " ฉันย่อตัวลงมาฟังวาจาที่แสนน่ารักของลูกคุณคี ดวงตากลมโตราวกับตุ๊กตา แก้มใสอมชมพู น่ารักสุดๆ

" น่ารักจังเลย กี่ขวบแล้วคะ "

"หกขวบค่ะ เป็นพี่อนุบาลสามแล้ว "

"เหรอคะ เก่งจังเลย "

"ฉันพาน้ำขิงมาหาแมวเธอหน่ะ " ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองคุณคี จากนั้นก็เรียกชินเน่ให้ออกมา ยัยแมวขี้อ้อนรู้งานเดินเข้าไปคลอเคลียน้ำขิงใหญ่เลย

"เข้าบ้านก่อนสิคะ "

"อืม " เขาตอบแบบส่งๆ ฉันไม่รู้นะว่าเขาพาลูกมาที่นี่ทำไม หรือว่าเขาไปทำความผิดมาก็เลยพาลูกสาวมาง้อด้วยการพามาหาชินเน่ แต่ถ้าใช่ เขาก็ทำสำเร็จเพราะน้ำขิงดูมีความสุขมากๆ เมื่อได้เล่นกับแมว

"ขอตัวไปทำกับข้าวก่อนนะคะ ตามสบายนะ "

"แม่เธอล่ะ "

"คนดูแลของคุณ พาไปอาบน้ำอยู่ค่ะ " คนของคุณคีช่วยแบ่งเบาฉันได้เยอะมากๆ แม่ดูอารมณ์ดีไม่เครียดเหมือนเมื่อก่อน นอกจากชินเน่แล้วแม่ก็มีเพื่อนใหม่นั่งคุย สุขภาพจิตของแม่คงจะดีขึ้นกว่าเดิม

ฉันกลับเข้ามาในครัวแล้วหยิบผ้ากันเปื้อนมาสวมต่อ เมนูที่ฉันวางแผนเอาไว้คงต้องยกเลิกเพราะพี่เอกไม่สามารถมาตามนัดได้ ฉันมองวัตถุดิบตรงหน้าอย่างเหนื่อยล้า ครั้งที่ห้าของการผิดนัด ฉันเริ่มเสียใจ น้อยใจ แล้วก็ ไม่อยากคุยกับพี่เอก อยากงอนสักสองสามวันให้เขาได้รู้ว่าฉันไม่พอใจที่เขาผิดนัดฉันบ่อยๆ

"วางมีดในมือลงก่อนได้มั้ย เธอกำลังเลือดไหล " อยู่ๆ เสียงของใครบางคนก็ทำให้ฉันสะดุ้งแล้วปล่อยบางอย่างในมือลงพื้น

"บ้าจริง! "

__________________

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel