ตอนที่ 5 โฮมลับ[1]
เช้าวันใหม่มาเยือน อินที่ยกที่นอนให้พาย ตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวตั้งแต่เช้ามืด ซึ่งพายยังนอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว จนอินแต่งตัวเสร็จถึงได้ปลุก
“พายตื่นเถอะ”
“อื้อ” พายงัวเงียลุกขึ้นมาหยิบโทรศัพท์ดูเวลา พอเห็นว่าพึ่งหกโมงกว่าก็ทำเสียงไม่พอใจ “อะไรกัน นี่มันยังเช้าอยู่เลยนะพี่อิน!”
“รถสองแถวของโรงงานจะมาถึงซอยนี้ตอนเจ็ดโมงตรง ถ้าพายไม่ขึ้นรถฟรีก็ไม่เป็นไร พี่ไปก่อนนะ ล็อกประตูให้พี่ด้วย”
อินพูดจบก็เดินออกจากห้อง ความจริงอินไม่เคยเอาโทรศัพท์ติดตัวออกจากห้องเลยด้วยซ้ำ แต่เพราะมีพายอยู่ เธอเลยจำใจต้องพกติดตัวไปด้วย
ที่เธอไม่พกไป เพราะอย่างแรกไม่มีใครให้ติดต่อ อย่างที่สอง ก่อนเข้าทำงานทุกคนต้องทิ้งโทรศัพท์ไว้ในล็อคเกอร์ อินก็เลยไม่รู้ว่าจะเอาไปทำไม
พออินทราลงมานั่งกินโจ๊กได้ไม่นาน พายก็วิ่งกระหืดกระหอบลงมา “พายไปพร้อมพี่อินดีกว่าค่ะ”
อินได้แต่พยักหน้า วันนี้สีหน้าของอินทรากลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง เธอคิดถึงแต่เดมอน จนแยกโลกของความจริงไม่ออก ความเหงาและความอ้างว้างที่มากกว่าเก่าเข้ามาเกาะกุมจิตใจเธอ
ตั้งแต่ขึ้นรถจนเข้าไปในโรงงาน อินแทบจะไม่รับรู้สิ่งรอบกายเลย จนกระทั่งโรงงานประกาศเรียกประชุมทุกแผนก
อินพอได้ยินคร่าวๆ ว่าตั้งแต่วันนี้ ประธานและเจ้าของโรงงานจะมาทำงานอยู่ในโดม และเหมือนว่า จะมีคำสั่งให้พนักงานทำตามกฎอย่างเคร่งครัดและให้อยู่ในความเป็นระเบียบเรียบร้อย อะไรประมาณนั้น
จากนั้นทุกคนก็ถูกปล่อยให้กลับไปทำงาน อินทำงานราวกับเป็นหุ่นยนต์เหมือนเดิม ไม่ว่าพายจะชวนคุยอะไร เธอก็เอาแต่เงียบ ส่วนพายยังคงนิสัยเสียเหมือนเดิม พูดคุยหยอกล้อกับพวกหัวหน้าวิศวะ จนปล่อยแผงวงจรเลยมาถึงอินเป็นกอง
อยู่ๆ พวกหนุ่มวิศวะก็รีบแยกย้ายกันไป ส่วนพาย แทนที่จะหันมาหยิบงานในลาง กลับหันมาคุยกับอินแทน
จนกระทั่งหัวหน้างานที่เป็นผู้หญิงเดินเข้ามาในโซน พายถึงได้หันหน้าเข้าไลน์ ทำเป็นตั้งใจทำงาน
ไม่นาน กลุ่มคนใส่สูทก็เดินเข้ามา ตามด้วยหัวหน้างานระดับสูงอีกหลายคน
“งานที่นี่เรียบร้อยดีครับคุณนิโคไล ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”
ทีออน พยักหน้ารับรู้ สายตามองสำรวจไปยังการทำงานของแผนกคิวซี กระทั่งเดินมาถึงพนักงานที่นั่งคนสุดท้ายของไลน์ ชายหนุ่มถึงกับขมวดคิ้ว
พอผู้จัดการและพวกหัวหน้างานเห็น ก็รีบมองตามไปทันที
ซึ่งแผงวงจรที่กองอยู่บนโต๊ะของอินเวลานี้ สูงจนเลยหัวของเธอ แทบจะไม่มีพื้นที่ให้จี้กาว
“คุณสุภา พนักงานคนนั้นชื่ออะไร”
“อินทรา เหมือนใจ ค่ะ”
“คุณไปจัดการทำใบเลิกจ้างให้เธอ แล้วไล่ออกไปซะ!” ผู้จัดการสั่งเสียงกร้าว
คนทั้งแผนกต่างได้ยินกันถ้วนหน้า ทุกคนเลยพากันหันไปมอง พอเห็นประธานบริษัทที่ยืนเด่นเป็นตระหง่านอยู่ตรงนั้น พวกสาวๆ เลยพากันอ้าปากค้าง พายเองก็เหมือนกัน
แต่พอเห็นว่าดวงตาคมเข้มคู่นั้นเอาแต่จ้องไปยังกองงานของอิน พายก็รีบเสนอตัวที่จะช่วย “ให้พายช่วยนะคะ”
เด็กสาวไม่รอคำตอบ รีบหยิบแผงวงจรมาช่วยทำอย่างตั้งอกตั้งใจ ทั้งๆ ที่หัวใจเต้นแรงจนแทบจะกระดอนออกจากอก
พายนึกอยากจะถอดแมสปิดปากขว้างทิ้ง เพราะอยากให้ผู้ชายคนนั้นได้เห็นหน้าเธอ
อินเองก็ได้ยิน เธอมองไปยังแผงวงจรสองกองที่ตั้งอยู่ตรงหน้าด้วยความท้อแท้ ได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองให้เสร็จ ก่อนที่ใบเลิกจ้างจะมา ไม่แม้แต่จะหันกลับไปมอง หรือโต้แย้ง
“ผู้จัดการคะ เด็กคนนี้ทำงานกับเรามาห้าปีจนได้บรรจุแล้ว เธอทำงานดีมากเลยนะคะ และเป็นคนทำงานละเอียดรอบคอบด้วยค่ะ อีกทั้งยังไม่เคยหยุดเลยสักวันเดียว วันนี้อาจมีอะไรผิดพลาดก็ได้ ขอดิฉันคุยกับเธอก่อนได้ไหมคะ” สุภารีบช่วยพูดด้วยความร้อนใจ
“คุณก็รู้ว่าการตั้งแผงวงจรกองไว้แบบนั้นมันเสี่ยงกับความเสียหายขนาดไหน เด็กของคุณรับผิดชอบไหวเหรอ และผมไม่ได้พูดถึงแค่เด็กคนนี้ ต่อไป พวกคุณต้องเตือนทุกคนด้วย!” ผู้จัดการต่อว่าไปถึงหัวหน้าวิศวะ จนทุกคนหน้าสลด
“ช่างเถอะครับ ผมว่าเธอทำงานดีนะ” เบนที่เงียบมานาน เดินเข้าไปหยิบแผงวงจรที่อินพึ่งทำเสร็จขึ้นมาดู เป็นอย่างที่สุภาว่า พนักงานคนนี้ทำงานละเอียดรอบคอบ แม้แต่ลอยกาวยังไม่มี ก่อนจะยื่นแผงวงจรส่งให้ทีออน
“เป็นไง” เบนถาม
“อืม” พอทีออนพยักหน้า สุภาถึงได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
เบนรับแผงวงจรคืนมา จากนั้นก็วางไปในลายช่องสอง ให้มันไปถึงแผนกตรวจความถี่ ก่อนจะหันไปบอกผู้จัดการ
“ไม่ต้องถึงกับไล่ออกหรอกครับ พนักงานดีๆ หายาก แต่ความจริง คุณสุภาก็พูดถูกนะครับ ลองถามเธอหน่อย ว่ามีปัญหาอะไร ถึงได้มีงานมากองสุมที่เธอเยอะขนาดนี้ เพราะงานหน้าไลน์ จะมาโทษคนสุดท้ายคนเดียวไม่ถูก ถ้าจะโทษก็ต้องโทษทั้งไลน์!”
