บทที่ 4 ตบมาก็จูบไป
4
จูบมาก็ตบไป
AT The Rich Condominium
เยลลี่และเพื่อนสาวอีกสองคนของเธอนั่งดื่มกันตั้งแต่บ่ายจนถึงเย็นก่อนที่เชลโล่จะแยกกลับไปก่อนเพราะร็อกเก็ตโทรมาบอกว่าคิดถึง
"มึงว่าเราจะเหงาป่ะวะ เชลโล่กับซินแม่งมีผัวไปแล้ว" ซูซานเริ่มตัดพ้อถึงเพื่อนที่มีแฟน
"เหงาเชี่ยไร งานสุมเต็มหัวแบบนี้จะเอาเวลาที่ไหนไปเหงา" เยลลี่กระดกเบียร์เขาปากอย่างไม่สบอารมณ์
"ก็จริงของมึง... แต่ถ้าอยู่ๆ มึงเกิดมีผัวขึ้นมา ก็คงเหลือแค่กูอ่ะ" คนไม่สนใจความรักเบะปากบ่นอย่ากลัวอนาคต
"ยากว่ะ! บอกเลยว่าถ้ามีผัวเชี่ยๆ กูไม่มีเลยดีกว่า! ไม่อยากต้องมานั่งเสียใจทีหลังว่ะ! " เยลลี่ถอนหายใจ
"ก็จริงของมึง... เชี่ย! อยากแดกชาบูว่ะ! จัดป่ะ? " ซูซานทำหน้าหิวโหย นำเอาสัญชาตญาณสาวสายกินออกมา
"อีกแล้วเหรอ? วันก่อนเพิ่งกินเนื้อย่างไปเอง พุงกูยังไม่ยุบเลยอีห่า" เยลลี่ทำท่าเหมือนจะปฏิเสธ
"เอาเหอะ! ยาถ่ายก็มี... มึงนึกถึงหมูสามชั้นสไลด์แล้วมีชีสเยิ้มๆ กับน้ำจิ้มเด็ดๆ สิ เชี่ย! กูต้องจัดว่ะ! ไม่ไหวแล้ว!” ซูซานพูดไปน้ำลายก็จะหกไป
"พ่อมึง! แค่คิดก็อ้วนแล้วอีเชี่ย! " เยลลี่ถลึงใส่เพื่อน
ภาพตัดไป
At Enjoy Shabu
"พี่คะ! ขอหมูสามชั้นเพิ่มอีกห้า! แล้วก็ชีสสอง! เนื้อออสเตรเลียอีกสาม! " เสียงเยลลี่ตะโกนดังไปลั่นร้านชาบู
"แล้วบอกกลัวอ้วน" ซูซานเบะปากมองบนใส่เยลลี่ที่กำลังเคี้ยวตุ่ยๆ
"ไว้ค่อยฟิตเนสส์เอา" คนกลัวอ้วนเอ่ยขณะที่คีบหมูสามชั้นเข้าปากคำโต
"ผักอ่ะแดกเข้าไปบ้าง จะได้ไม่ต้องบ่นว่าขี้ไม่ออก" ซูซานเชี่ยผักในหม้าชาบูไปให้เยลลี่
ติ๊ง!
เสียงแจ้งเตือนไลน์ดังขึ้นมา เยลลี่วางตะเกียบในมือแล้วคว้ามือถือขึ้นมาเปิดอ่านข้อความ โดยไม่ทันได้ดูว่าใครที่เป็นเจ้าของข้อความนั้น
LINE
Leo : อย่าลืมกินยาคุมนะ เมื่อคืนกูปล่อยในตอนยกสุดท้ายที่มึงหลับไปก่อน
Jelly : ไอ้สัด! จะอ้วก! ไปไร้สาระไกลๆ ไป กูไม่เชื่อคำขู่ของมึงหรอก!
Leo : กูไม่ได้ขู่ ท้องขึ้นมากูรับแต่ลูกนะ แม่แรดๆ กูไม่เอา
Jelly : ไม่ต้องห่วง กูไม่ปล่อยให้ท้องหรอก! ขืนมีสายเลือดชั่วๆ ของมึงเพิ่มมาอีกคน โลกเราแม่งคงฉิบหายหมด!
Leo : ปากดีอีกแล้วนะ สงสัยมึงคงอยากอมค_ยกูจริงๆ
Jelly : แหวะ! ค_ยเล็กๆ กากๆ ของมึง กูไม่อมให้เสียปากหรอก ไม่ต้องตอบมาแล้วนะ รำคาญ!
เยลลี่ตอบทิ้งท้ายไว้แบบนั้นก่อนจะกดปิดหน้าจอมือถือแล้ววางมันลงกระแทกโต๊ะดัง 'ปัง! '
"ใครวะ? " ซูซานถามขึ้นเมื่อเห็นว่าหน้าของเยลลี่บูดบึ้ง
"พวกโรคจิต! "
"ไอ้เชี่ยเสืออ่ะดิ"
"มึงรู้ได้ไงวะ? " เยลลี่ขมวดคิ้วถามกลับ แปลกใจที่ซูซานดูออกว่าเป็นเสือที่ไลน์มา
"ก็ถ้าเป็นพวกโรคจิตจริงๆ มึงไม่เสียเวลาไปนั่งตอบมันหรอก"
"รู้เก่ง... แดกเพ็ทดีกรีบ่อยสินะ"
"เพ็ทดรีกรีพ่อง! กูแดกแต่ข้าวคลุกตับย่าง! ฮ่าๆ”
"ฮ่าๆ ตลกเก่งไปอีกอีดอก! " เยลลี่เปลี่ยนใบหน้าบูดบึ้งมาเป็นหัวเราะ แล้วกลับไปสนใจของอร่อยตรงหน้าต่อ... อย่างไม่สบชๅนใจว่าเสียงแจ้งเตือนไลน์จะดังไม่หยุด
At Jelly's Home
เยลลี่เป็นสาวขี้เหงา เธอมักจะไปนอนค้างกับซูซานและไม่ค่อยอยู่บ้านเพราะกลับมาทีไรเธอก็พบแต่บ้านหลังใหญ่ที่ว่างเปล่า เนื่องจากแม่ของเธอที่เป็นดารางานชุกมักจะต้องไปออกกองถ่ายต่างจังหวัดอยู่บ่อยๆ และพอมีเวลาว่างก็จะไปช๊อปปิ้งที่ต่างประเทศบ้างหรือไปหาพ่อของเธอที่ทำธุรกิจเพชรพลอยก็ไปประจำอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นบ้าง เรียกได้ว่า... พ่อแม่นั้นไม่มีเวลาเหลือมากพอให้กับเยลลี่ พวกเขาให้เงินเธอมากกว่าความเอาใจใส่ จนเยลลี่กลายเป็นขาดความอบอุ่น ชอบเรียกร้องความสนใจจากคนรอบข้าง และเอาแต่ใจ ใช้เงินเป็นใบไม้
“คุณแม่ไปไหนคะป้าอ่อน” เยลลี่ยื่นกระเป๋าเสื้อผ้าของเธอให้ป้าอ่อน แม่บ้านที่เปรียบเสมือนแม่นมที่เลี้ยงเธอมาตั้งแต่เด็กๆ
“คุณผู้หญิงไปถ่ายละครที่เชียงใหม่ค่ะเยลลี่” แม้จะมาฐานะร่ำรวยอยู่แล้ว แต่ โยธกา ดาราสาววัยสี่สิบห้าก็ยังออกไปทำงาน ไม่ใช่เพราะอะไร... แต่เป็นเพราะเธอรักการแสดงและชอบที่จะอยู่ท่ามกลางแสงแฟรชอยู่เสมอ
“ค่ะ...” หญิงสาวเพียงตอบรับสั้นๆ ก่อนจะเดินสะบัดก้นงอนๆ ขึ้นไปที่ห้องนอนของตัวเอง
ที่วันนี้เยลลี่เลือกที่จะกลับบ้านนั้นก็เพราะต้องเอาเสื้อผ้ามาส่งให้แม่บ้านซักและเปิดโอกาสให้ตัวเธอเองได้ทำธุระส่วนตัวเช่นขัดผิว ไม่ใช่เพื่อมาเจอผู้เป็นแม่... เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าโอกาสจะได้เจอหน้าแม่หรือพ่อมันช่างน้อยนิดนัก
และระหว่างที่หญิงสาวกำลังมาส์กหน้าอยู่นั้น อยู่ๆ ความคิดสนุกก็เริ่มทำงาน เธอคว้ามือถือมาปาดหน้าจอ เข้าไปเลือกรูปที่ตัวเองถ่ายเซลฟี่เอาไว้ ก่อนจะอัพมันลงไอจี พร้อมแคปชั่นที่ว่า...
JellyxJelly : Go f*ck yourself! Little boy. (เป็นคำด่านั่นแหละค่ะ)
และพียงเวลาผ่านไปไม่ถึงสามนาที เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้นรัว มันเป็นเรื่องปกติที่เมื่อเยลลี่อัพบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับตัวเธอลงไปในโซเชียล ผู้คนก็มักจะเข้ามาให้ความสนใจ เพราะเธอคือคนดัง... และเธอชอบที่มันเป็นแบบนั้น
เยลลี่ไม่ได้สนใจการแจ้งเตือนในมือถือ เธอยังคงสนใจการมาส์กน้าและการขัดผิวของตัวเองต่อไป จนกระทั่งเสียงเรียกเข้าจากซินดังขึ้นมา หญิงสาวคว้ามันขึ้นมารับสายอย่างไม่รีรอ
“ฮัลโหล... กูนึกว่ามึงหายเข้าไปในตัวไอ้เชี่ยขุนซะแล้ว” เยลลี่รับสายด้วยคำประชดประชันตามสไตล์ของเธอ
“มึงไปดูไอจีตัวเองด่วนเลย ไอ้เสือมันเล่นมึงแล้ว”
“เล่นอะไรวะ?”
“ก็ไปดูดิ! มึงลงไอจีด่ามันใช่ไหมล่ะ?!”
“เออๆ”
เยลลี่วางสายจากซิน ก่อนจะเข้าไปดูในไอจีของตัวเอง และในทันทีทันใดที่เธอได้อ่านข้อความจากเสือ ดวงตาคู่สวยกเบิกขึ้น ทั้งด้วยความโกรธ ความโมโหและตกใจในเวลาเดียวกัน ข้อความนั้นเขียนเอาไว้ว่า...
2409.Leo : Shhh! Don’ t tell anyone that we had a wonderful sex last night. (ชู่! อย่าบอกใครนะว่าเรามีเซ็กซ์ที่สุดยอดด้วยกันเมื่อคืน)
error loaded
พิมพ์คำอธิบายที่นี่
“ไอ้เชี่ยเสือ!”
หญิงสาวสบถออกมาขณะที่มือกำโทรศัพท์ไว้แน่น และอย่างไม่รีรอ เยลลี่ลบโพสต์นั้นทิ้งก่อนที่เธอจะบล็อกไอจีของเสือเพื่อไม่ให้เสือมีโอกาสมาวุ่นวายในไอจีของเธอได้อีก
และไม่วายที่เธอจะตามไปด่าเขาในไลน์ต่อ
LINE
Jelly : ไอ้เชี่ย! ไอ้เลว! มึงช่วยไปตายให้หนอนแดกสักทีไป! อย่ามาให้กูเห็นหน้าอีกนะ!!! ไอ้กาก!!! (เยลลี่ส่งเป็นข้อความเสียง)
Leo : เป็นบ้าเหรอวะ?
เยลลี่จงใจรอข้อความตอบกลับจากเสือ เธอรอให้เขาอ่านและเปิดฟังก่อนที่จะบล็อกไลน์เข้าทิ้งอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับที่เธอทำในไอจี และมันคงเป็นเพียงความสะใจเล็กๆ ที่เธอจะทำได้
At University
เยลลี่ขับรถมินิคูเปอร์ คันทรีแมนของเธอเข้ามาจอดที่ลานจอดรถของตึกนิเทศศาสตร์ เธอในชุดกางเกงยีนส์ทรงสกินนี่แสนรัดติ้วกับเสื้อยืดแบรนด์ดังหิ้วกระเป๋าราคาหลายหมื่นเดินเข้ามาในตึก ท่ามกลางสายตาของเหล่านักศึกษามากมาย หากเป็นผู้หญิงจะมองว่าเธอนั้นสวยเลิศ แต่งตัวหรูหราจนน่าอิจฉา ส่วนผู้ชายก็จะมองว่าเธอน่ากอดน่าฟัด และหากมีโอกาสก็อยากจะลองสัมผัสก้นแสนแน่นและน่ารักของเธอ
เธอรู้ว่าหลายคนชอบเธอ และรู้ว่าก็มีอีกหลายคนที่เกลียดเธอด้วย หญิงสาวยกยิ้มแล้วเสยผมยาวแสนสวยของตัวเอง ยักไหล่เชิดหน้าเมื่อเดินผ่านกลุ่มสาวๆ ต่างคณะที่มองเธอพร้อมกับใบหน้าเบะตึงเพราะความหมั่นไส้... ทว่าเธอไม่แคร์
และในตอนที่เยลลี่เดินมาถึงหน้าห้องเรียนซึ่งเพื่อนๆ ของเธอรออยู่ข้างใน ในตอนที่มือบางเอื้อมมือไปจับลูกบิดประตูนั้น อยู่ๆ มีหนาก็คว้าหมับเข้ามากุมหลังมือเธอเอาไว้
“ไอ้เชี่ยเสือ!” เยลลี่มองหน้าคนตัวสูงที่กำลังจ้องหน้าเธอไม่วาง และมือก็ยังไม่ยอมปล่อยออกจากมือของเธอ
“ตกใจอะไร?” เขาเลิกคิ้วถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
“ไม่ได้ตกใจ! แต่มึงจับมือกูอยู่ไง! ปล่อย!” หญิงสาวพยายามจะดึงมือของตัวเองออกจากลูกบิดประตูห้องเรียน ทว่าชายหนุ่มไม่ยอมปล่อยให้เธอเป็นอิสระโดยง่าย กลับกัน... เขายิ่งบีบมือเล็กแน่นขึ้นกว่าเดิม
“มากกว่านี้กูก็เคยจับมาแล้ว แค่มือเอง... มึงจะหวงทำไม?” เสือเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกวนประสาท มองเยลลี่ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าแล้วแลบลิ้นแดงฉานออกมาเลียริมฝีปาก
“อุบาทว์! วันๆ มึงคงคิดแต่เรื่องใต้สะดือสินะ ในหัวสมองมึงแม่งคงเต็มไปด้วยน้ำว่าวอ่ะ!” เยลลี่ถลึงตาใส่ร่างสูงอย่างท้าทาย
“ปากดีฉิบหาย... มึงไม่เข็ดใช่ป่ะ? ชอบให้กูทำแบบเมื่อคืนก่อนใช่เหรอ?”
“ชอบก็เชี่ยแล้ว!”
“มึงชอบ... มึงครางเรียกชื่อกู... เรียกกูว่าผัว...” เขาแกล้งพูดออกมาเสียงดัง
“หยุด! ได้เชี่ยเสือมึงหุบปากไปเลย! มึงจะเอาเชี่ยไรกับกูอีก! เลิกมายุ่งวุ่นวายกับกูสักทีได้ไหม?!” เยลลี่หมดความอดทน เธอหมดอารมณ์จะเข้าเรียนแล้ว และเธอใช้จังหวะที่เขาเผลอดึงมือตัวเองออกมาจากเขา ก่อนจะเดินไปทางบันไดหนีไฟ
เสือไม่รอช้าก้าวเท้ายาวตามหญิงสาวออกไป เขาตามเธอทันได้ง่ายดาย คว้าตัวเธอไว้ที่บันไดที่ไปซึ่งปลอดผู้คน ร่างสูงดันตัวหญิงสาวเข้าไปแนบชิดตัวกำแพง ยึดสองแขนของเธอขึ้นไปกุมไว้ที่เหนือศีรษะด้วยมือเดียว
“มึงถามใช่ไหมว่าตัวต้องการอะไร?” เขาโน้มตัวลงไปกระซิบถามเยลลี่ที่ใบหน้าแดงก่ำของเธอ
“ปล่อย!”
“กูจะบอกให้ก็ได้...” คำพูดของเสือหายเข้าไปในลำคอ เมื่อเขาซุกใบหน้าลงไปสูดดมความหอมหวานที่ซอกคอของเยลลี่
“ฮึก! ไอ้เชี่ยเสือ!” หญิงสาวนิ่วหน้า แม้อยากจะขัดขืนแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะชายหนุ่มยึดเธอไว้แล้วทุกส่วน
“อันบล็อกไลน์ ไอจี เฟสบุค ทวิตเตอร์ เบอร์มือถือของกูให้หมด ไม่งั้นมึงเจอดีแน่!” เสือเอ่ยบอกหญิงสาวเพราะเขารู้ว่าเธอบล็อกเขาทุกช่องทางการสื่อสาร
“ทำไมกูต้องทำ! มึงกับกูไม่ได้มีเชี่ยไรเกี่ยวข้องกันเลย! ไม่มีเรื่องที่ต้องติดต่อกันด้วยซ้ำ!” เยลลี่ยังคงท้าทาย
“มึงแน่ใจเหรอว่าเราไม่เคยเกี่ยวกัน?” เสือดันร่างหนาเข้ามาแนบชิดเยลลี่หลังถามคำถามนั้นออกไป
“อื้อ! เหม็นบุหรี่ฉิบหาย! สกปรก!” เธอเบือนหน้าหนีเขา
“ทำตามที่กูสั่งเยลลี่... ถ้าหลังจากนี้กูเช็กมือถือแล้วยังเห็นว่ามึงบล็อกกูอยู่ กูจะกดมึงให้ตายคาเตียงไปเลย” เขาคาดโทษหญิงสาวก่อนจะปล่อยให้เธอเป็นอิสระ
“กูไม่ทำ!!!”
เพี๊ยะ!
จังหวะนรกได้เกิดขึ้นเมื่อเยลลี่ตะโกนออกไปก่อนจะฟาดมือหวังจะตบหลังเสือ แต่เขาดันหันหน้ามาหาเธอ มือบางและเล็บยาวๆ นั้นจึงฟาดลงที่แก้มขวาของชายหนุ่มเข้าเต็มๆ
เยลลี่ตกใจจนเก็บมือแทบไม่ทัน ดวงตาคู่สวยฉายแววรู้สึกผิดเมื่อแก้มของเสือเกิดเป็นรอยนิ้วแดงๆ ของเธอ แถมยังมีรอยข่วนจากเลบจนมีเลือดซิบ
“ตบเหรอ?” ร่างสูงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงลอดไรฟัน เขาดันร่างบางเข้าไปชิดกับกำแพงอีกครั้ง
“อ๊ะ!” เยลลี่ส่งเสียงร้องเมื่อเขาทำเธอเจ็บ
“กะ... กูไม่ได้ตั้งใจ!” เธอบอกเขา
“มึงตั้งใจ!”
“อื้อ!!!”
เสียงร้องขัดขืนดังขึ้นในลำคอขาวนวลเมื่อเสือก้มลงไปประกบปากจูบหญิงสาวอย่างหนักหน่วง เขาดูดดึงปากเธออย่างแรงเพราะความโมโห เหนี่ยวรั้งลำคอเล็กของเธอไว้ไม่ยอมปล่อย
“ฮึก!” เยลลี่กอบโกยอากาศเข้าหายใจเมื่อเขาปล่อยจูบเธอ
เพี๊ยะ!
เธอฟาดมือลงที่หน้าเขาอย่างแรงซ้ำลงตรงที่เดิมเพราะความโมโห
“เนี่ย... กูตั้งใจ!”
“อื้อ!”
เสือดึงรั้งคอเยลลี่เข้ามาจูบอีกครั้ง จูบเธอหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ และเนิ่นนานจนเขาพอใจ แม้ว่าเยลลี่จะขัดขืนยังไง แรงของเธอก็สู้เขาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
เพี๊ยะ!
และเมื่อเขาถอนจูบหญิงสาวก็ตบเขาอีกครั้ง
“ตบอีกก็จูบอีก” เขายกยิ้ม ไม่สนใจว่าหญิงสาวจะรู้สึกยังไง ประกบปากกูเธออย่างชอบใจ ก่อนจะดูดริมฝีปากของหญิงสาวจนมันแดงและเหมือนจะบวมเจ่อขึ้นมา
“ฮึก!” เยลลี่ยกหลังมือขึ้นมาเช็ดปากอย่างลวกๆ จ้องมองคนตรงหน้าด้วยสายตาสั่นเครือ...
“ไง... ยังจะตบกูอีกไหม?” เขายิ้มถามหญิงสาวอย่างคนชนะ
“พอสักที... ถ้าสิ่งที่มึงต้องการคือแค่จะเอาชนะกู มึงก็ชนะไปเลย เดี๋ยวกูจะอันบล็อกทุกอย่างให้” เยลลี่ทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะเดินลงบันไดหนีไฟจากไป
ชายหนุ่มมองตามร่างบางจนเธอหายไปจากสายตาของเขา รอยยิ้มเหือดหายไปจากใบหน้า แทนที่ด้วยสายตาเรียบนิ่ง นิ่งมากจนไม่อาจรู้ความรู้สึกของเขาได้...
