2 มันเป็นอุบัติเหตุ!
ขณะที่นุ่มนิ่มกำลังกรอกข้อมูลของน้องแมวให้กับทางโรงพยาบาลสัตว์ เธอไล่อ่านตามช่องที่ต้องกรอก จรดปลายปากกาลงเขียน แต่ก็ไม่ยอมเริ่มเขียนอะไรลงไปสักตัวหนังสือเดียว เพราะเธอไม่มีข้อมูลอะไรเลย
“คุณฟ้า...” หญิงสาวหันไปหาชายหนุ่มที่ยืนกอดอก กดสายตามองเธออย่างไม่วางตา
“เขียนๆลงไปเถอะน่ะ เธอยืนจ้องมันมาห้านาทีแล้ว” เพียงเธอเอ่ยเรียกเขา เขาก็รู้ทันทีว่าเธอต้องการอะไร
“น้องชื่ออะไรนิ่มยังไม่รู้เลย” นุ่มนิ่มเบะปากทำแก้มป่อง
“น่วมไง หรือจะเน่าดีล่ะ ถ้าอยากได้สองพยางค์ก็น้ำเน่าไปเลย” ไม่พูดเปล่า เขาส่งมือไปหยิกแก้มป่องของเธอแล้วโยกไปมาตามจังหวะที่เขาพูด
“อื้อ! นิ่มเจ็บ!” คนโดนหยิกแก้มช้อนสายตาขึ้นมองร่างสูง ก่อนจะดึงมือเขาออก
“สักชื่อเหอะนิ่ม! ฉันจอดรถทิ้งไว้! ไม่รู้ป่านนี้หายไปหรือยังเนี่ย?!”
“ก็นิ่มคิดไม่ออกนี่!”
“สโนว์!” แล้วเขาก็บอกออกไป
“หืม? สโนว์เหรอ? น่ารักจังเลย...น้องตัวสีขาวเหมาะกับชื่อสโนว์ด้วยนะคุณฟ้า” หญิงสาวฉีกยิ้ม ก่อนจะเอะใจอะไรบางอย่างขึ้นมา
“เขียนลงไป!”
“ว่าแต่...สโนว์นี่ได้ ส.เสือมาจากชื่อสายฟ้า ส่วน น.หนูก็มาจากชื่อนุ่มนิ่มใช่ไหมคุณฟ้า?” เธอถามออกไปอย่างไม่คิดอะไร
“มโนเก่ง ฉันจะชื่อเราสองคนไปผูกกับชื่อแมวเพื่อ? สมองเธอนี่...คิดได้แต่เรื่องแบบนี้ใช่ไหมวะ?” เขาทำหน้าบึ้งตึง ก่อนจะหันหลังแล้วเดินออกไปจากตรงนั้น...พร้อมรอยยิ้มมุมปากที่ปรากฏขึ้นมา
“ชิ!” นุ่มนิ่มทำหน้าเบ้ลับหลังเขา ก่อนจะหันกลับไปเขียนชื่อ สโนว์ ลงไปในใบประวัติของน้องแมว
หลังจากที่จัดการเรื่องของสโนว์เสร็จ สายฟ้าก็ขับรถพานุ่มนิ่มกลับมาที่แถวมหาวิทยาลัย ระหว่างทางนุ่มนิ่มก็เอาแต่นั่งเล่นโทรศัพท์มือถือ หัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว ทำเหมือนว่าสายฟ้าไม่ได้อยู่ตรงนั้น
“คิกๆ”
“หัวเราะบ้าอะไรของเธอ? แล้วเมื่อไหร่จะเลิกเล่นมือถือสักที?!” สายฟ้าที่มองอยู่นานก็เริ่มไม่พอใจขึ้นมา เขาไม่ชอบ ไม่พอใจและจะโมโหทุกครั้งที่คนตัวเล็กให้ความสำคัญกับสิ่งอื่นมากกว่าเขา
“คิกๆ ฮ่ะๆๆๆ” แต่นุ่มนิ่มก็ยังไม่สนใจ เธอทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน ทำหูทวนลมเหมือนไม่ได้ยิน
“นิ่ม!”
“หืม?” พอเขาขึ้นเสียง ใบหน้าน่ารักก็หันมาเลิกคิ้วใส่ อย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว
“คุยกับใคร? เลิกเล่นมือถือสักที”
“ช่วงนี้คุณฟ้าเป็นอะไร? ชอบโมโหใส่นิ่มจัง...ตัวเองขับรถก็ขับไปสิ จะมาสั่งให้นิ่มเลิกเล่นมือถือทำไม?” มันก็ถูกอย่างที่เธอว่า แต่มีหรือที่คนอย่างสายฟ้าจะยอมง่ายๆ
หมั่บ!
ในจังหวะอันรวดเร็วนั้น มือหนาก็ตะปบเอามือถือจากมือเล็กมาครอบครอง
“คุณฟ้า! จะทำอะไรอ่ะ?! เอามือถือนิ่มคืนมานะ!” นุ่มนิ่มพยายามจะแย่งมือถือคืนมาจากสายฟ้า ท่าทีและน้ำเสียงนั้นดูเหมือนว่าเธอเป็นเดือดเป็นร้อนเอามากๆ
“เห้ย! อย่า! ฉันขับรถอยู่! เดี๋ยวก็ตายคู่หรอกนิ่ม!”
“งั้นก็คืนมือถือนิ่มมาสิ! คุณฟ้าอย่ามาเล่นแบบนี้นะ! นิ่มไม่ชอบ!” เธอจ้องหน้าเขาอย่างเอาจริงเอาจัง
“ทำไม?! มีความลับอะไร?! เธอคุยกับใคร?!”
“นิ่มคุยกับเพื่อน!”
“เพื่อนไหนอีก?! จอยอะไรนั่นเหรอ?! ไหน! เอาหน้ามาให้ดูหน่อย!”
“คุณฟ้าเป็นอะไรอ่ะ?! จะมายุ่งกับนิ่มทำไม?! นี่มันเรื่องส่วนตัวของนิ่มนะ!”
เอี๊ยยยยยด!!!
ทันทีที่นุ่มนิ่มพูดออกไปแบบนั้น สายฟ้าก็จอดรถลงที่ข้างทางอย่างแรง เขาเข้าเกียร์ปาร์คกิ้ง ปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วหันไปจ้องหน้าเธอ สายตาดุร้ายนั้นแสดงว่าให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขากำลังโกรธมาก
“คุณฟ้า...นิ่มขอโทษ...นิ่มไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้น...แต่จริงๆมันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของนิ่มอ่ะ” นุ่มนิ่มมองคนตรงหน้าด้วยความหวาดหวั่น เธอกลัวมากเวลาที่เขาโกรธ
“เรื่องส่วนตัวของเธอ ฉันอยากรู้...บอกมาว่าคุยอะไรกัน เปิดแชทให้ฉันดู!” เขายื่นมือถือให้เธอ
“ไม่ได้ นิ่มทำแบบนั้นไม่ได้หรอก”
“ทำไม? มีความลับอะไร?”
“นิ่ม...” เธอเริ่มอึกอัก
“ได้นิ่ม...ถ้าเธอไม่บอก ฉันจะเปิดเอง!” ว่าแล้วเขาก็กระชากมือถือกลับมา หวังจะเปิดเข้าไปอ่านแชท ทว่า...มือถือของนุ่มนิ่มกลับล็อกรหัสผ่านเอาไว้ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มันไม่เคยมี
“คุณฟ้า...อย่าทำแบบนี้เลยนะ นิ่มไม่อยาก...”
“รหัสอะไร?!!!” ตอนนี้เขารู้แล้วว่าหญิงสาวมีความลับ และมันทำให้เขาโกรธเอามากมาย
“ฮึก!” ร่างบางสะดุ้งเฮือก ตกใจกับเสียงแผดดังของเขา
“ฉันถามว่ารหัสอะไร?!!!”
“ฮึก! ไม่บอกอ่ะ!!! ฮือๆๆๆ นิ่มไม่อยากบอก! คุณฟ้ามาทำแบบนี้กับนิ่มทำไม? นิ่มผิดหรือไงที่มีความลับ นิ่มก็อยากจะมีเรื่องส่วนตัวของนิ่มบ้างอ่ะ คุณฟ้าเป็นเพื่อน...คุณฟ้าควรจะเข้าใจไม่ใช่เหรอ? ฮือๆๆๆ คุณฟ้าไม่มีความเป็นของตัวเองบ้างหรือไง?!” แล้วเธอก็ร้องไห้ออกมา ตัวสั่นไปหมด ทั้งกลัวเขา ทั้งโกรธเขาด้วย
“นิ่ม...” และเป็นแบบนี้ทุกครั้ง เมื่อไหร่ที่ทำเธอร้องไห้ เขาจะรู้สึกผิดและอ่อนลงทันตาเห็น
“ใช่! นิ่มมีความลับ! แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดีอ่ะ...นิ่มอยากมีโลกส่วนตัวของนิ่มบ้างไม่ได้หรือไง?! จะให้นิ่มวิ่งตามคุณฟ้า บอกคุณฟ้าทุกเรื่องเหมือนตอนเด็กๆไม่ได้หรอกนะ! นิ่มโตแล้วนะคุณฟ้า!”
“โอเคๆ ฉันรู้แล้ว...หยุดร้องไห้สักที”
“นิ่มจะร้อง! นิ่มโกรธนะ! คุณฟ้าอ่ะ...ชอบพูดไม่ดีกับนิ่ม ชอบทำให้นิ่มร้องไห้อยู่ได้! นิ่มเบื่อแล้วนะ! ถ้าคุณฟ้ายังทำแบบนี้อยู่ เราก็ไม่ต้องมาพูดกันเลย!”
“ไม่เอา! ไม่ได้! ฉันไม่ยอม!” เขาทำเสียงแข็ง ยังไงก็ไม่ยอมแน่ถ้าจะไม่ได้พูดคุยกับเธอ
“ฮึก! ฮือๆๆ งั้นก็ช่วยทำดีกับนิ่มหน่อยไม่ได้หรือไง? พูดกับนิ่มดีๆบ้าง...ไม่งั้นนิ่มจะไม่คุยด้วยอีกเลย ครั้งนี้นิ่มเอาจริงแล้วนะ!” คำว่า ‘ครั้งนี้นิ่มเอาจริงแล้วนะ’ มันไม่มีอยู่จริงๆ เรื่องนี้ทุกคนในแก๊งห้ามหัศจรรย์รู้ดี
“โอเคๆ หยุดร้องไห้เถอะ...ฉันไม่อยากรู้แล้วก็ได้ว่าเธอมีความลับอะไร แต่อย่าบอกว่าจะไม่พูดกับฉันอีก” ถึงจะรู้ว่านิ่มไม่เคยทำตามที่พูดเอาไว้ รู้จักกันมาเท่าอายุ เธอบอกว่าจะไม่คุยกับเขาไม่ต่ำกว่าร้อยรอบ แต่เธอก็ไม่เคยทำได้
“ฮึก! จริงๆนะ ห้ามอยากรู้เรื่องของนิ่มอีกนะคุณฟ้า”
“อืม...ฉันจะไม่อยากรู้อีกแล้ว ความลับของเธอ...เธอเก็บเอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน” เขายืนยัน เอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่แก้มของหญิงสาวอย่างแผ่วเบา ปากพูดไปแบบนั้น...แต่ลึกในใจเขาสาบานต่อหน้ารถเลยว่า...เขาต้องรู้ให้ได้ว่านุ่มนิ่มปิดบังเรื่องอะไรอยู่
“ฮึก! นิ่มอยากกินไอติมอ่ะ...คุณฟ้าทำให้น้ำตาลในเลือดนิ่มต่ำ คุณฟ้าต้องรับผิดชอบเลยนะ” นุ่มนิ่มช้อนสายตามองสายฟ้า
“อารมณ์เปลี่ยนไวจังเลยนะ?” เขาแสยะยิ้มถาม
“อย่าขัดใจนิ่มนะ วันนี้คุณฟ้าต้องตามใจนิ่มทุกอย่าง”
“ลืมไปแล้วเหรอ? ว่าฉันเพิ่งช่วยเธอไป...คิดไหมว่าถ้าไม่มีฉัน ป่านนี้สโนว์เหลือแต่ชื่อแล้ว”
“แหะๆ ก็จริงนะ...” แล้วคนตัวเล็กก็เผยรอยยิ้มแห้งๆออกมา
“ไหน...คำขอบคุณ?” ได้ทีเขาก็ทวงคำขอบคุณจากเธอ
“ขอบคุณนะคุณฟ้า...” เธอฉีกยิ้มเอ่ยออกไป
“ไม่ใช่แบบนี้ ทำเหมือนตอนเด็กๆ”
“หืม?” นุ่มนิ่มส่ายหน้าทันควัน
“เร็วๆ”
“นิ่มโตแล้วนะ จะทำเหมือนตอนเด็กๆได้ยังไง?”
“นิ่ม!”
“ก็ได้ๆ แต่ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายแล้วนะคุณฟ้า...ต่อไปนิ่มจะไม่ขอบคุณแบบนี้อีกแล้ว” สิ้นคำบอก นุ่มนิ่มก็โน้มตัวเข้าไปใกล้สายฟ้า...เธอยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้เขา จนปลายจมูกสัมผัสกับแก้มตอบของเขา ทว่าในตอนนั้น...สายฟ้ากลับหันหน้ามาหาเธอ...แล้วปากเขากับปากเธอก็สัมผัสกันเบาๆ
“ฮึก!!!” นุ่มนิ่มรีบผละตัวออกมาอย่างรวดเร็ว เวลานั้นพวงแก้มทั้งสองก็แดงระเรื่อลามไปถึงใบหู ยกมือขึ้นแตะปากตัวเองอย่างเผลอตัว ดวงตาเบิกโตด้วยความตกใจ
“หึ!” ขณะที่คนขี้แกล้งกลับแสยะยิ้มออกมาอย่างชอบใจ
“มันไม่ใช่จูบ! มันเป็นอุบัติเหตุ! นิ่มไม่นับ!” เธอลุกลี้ลุกลนปฏิเสธ
“ฉันก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเลยนี่” ว่าแล้วเขาก็เริ่มออกรถอีกครั้ง...
