บท
ตั้งค่า

​คำเตือนครั้งที่ 6 โคตรชอบ (2)

​คำเตือนครั้งที่ 6

โคตรชอบ (2)

 

“ตอนนี้มีแค่พี่กับเทีย มีแค่เรา...เราสองคนเท่านั้น ไม่มีคนอื่น” ผมใช้มืออีกข้างกอบกุมใบหน้าเอาไว้ กลายเป็นว่าสองมือกำลังประคองแนบชิดบริเวณแก้มใส แถมร่างกายของเราสองคนก็ยังใกล้ชิดกัน

“พี่เมฆ...”

“เทียเก่งในแบบของเทีย เทียเป็นในแบบของเทีย”

ผมกดสายตามองลึกไปถึงนัยน์ตาหวานที่ตอนนี้กำลังสั่นไหว ผมเองก็ไม่รู้จะใช้คำพูดไหนมาปลอบโยนความรู้สึกของเธอในตอนนี้ ผมไม่ใช่คนปลอบเก่ง ออกจะนิ่ง ๆ มึน ๆ เลยด้วยซ้ำ ได้แต่นึกหงุดหงิดตัวเองที่ไม่สามารถปลอบโยนหรือทำให้เธอสบายใจได้เลย

ในสายตาของเธอตอนนี้มันเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย ทั้งความประหม่า สั่นไหว ไม่มั่นใจ และเหมือนกับว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ในใจของเธอเต็มไปหมด

“ขะ...ขอโทษค่ะ เทียชอบพูดกดดันตัวเอง ชอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นตลอด เทียไม่อยากเป็นแบบนี้เลย แต่เทียเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง เทีย...”

“ไม่ต้องทำยังไงเลยครับ เทียแค่เป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องแบกความหวังของใคร ไม่ต้องสนใจคำพูดของใคร เราแค่เป็นตัวตนของเรา พี่มั่นใจว่าคนรอบข้างของเทียต่างก็ชอบตัวตนของเทียทั้งนั้น”

ผมปล่อยมือข้างขวาเปลี่ยนจากการกอบกุมใบหน้ามาเป็นการลูบเรือนผมนุ่มของเธออย่างบางเบา

“ไม่จริงค่ะ คุณแม่ไม่เคยชมเทียเลย มีแต่บอกให้เทียพยายามเปลี่ยนตัวเอง อยากให้เทียเป็นแบบคนนั้นคนนี้”

“อืม...ตอนนี้พี่ว่าเทียควรมองที่ตัวเองก่อนนะ อย่าเพิ่งไปมองถึงคนอื่นเลย เพื่อนเทีย คนรอบข้างเทีย พี่มั่นใจว่าที่เขายังคงอยู่กับเทียในตอนนี้เพราะเขาชอบที่เทียเป็นแบบนี้”

ขณะที่พูด กระแสน้ำเสียงของผมสั่นเทาจนเกือบเอ่ยไม่ได้ศัพท์ เฉกเช่นเดียวกับหัวใจที่ตอนนี้มันกำลังเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ ราวกับว่ามันจะทะลักออกมาให้รู้แล้วรู้รอด

ถ้าผมสารภาพว่าผมชอบเธอแล้วต่อจากนี้ความสัมพันธ์ของเราจะเป็นเหมือนเดิมหรือเปล่า...

ผมไม่รู้ว่าเทียน่ารู้สึกแบบเดียวกับผมไหม ไม่รู้ว่าเธอจะรู้สึกยังไงถ้าผมบอกความในใจของตัวเองออกมา

ตลอดเวลาที่เราใกล้ชิดสนิทสนมกัน ความรู้สึกของผมมันฟ้องชัดมากว่าผมชอบเธอ ชอบมากกว่าคำว่าพี่น้อง ซึ่งผมได้แต่หักห้ามเอาไว้เพราะไม่อยากให้เธออึดอัดใจถ้าหากเธอไม่ได้รู้สึกกับผมแบบนั้น

“แล้ว...พี่เมฆชอบหรือเปล่าคะ”

เมื่อกี้นี้เทียพูดว่าอะไรนะ...

ผมชะงักแน่นิ่งไป ไม่รู้ว่าความหมายของคำพูดนั้นคืออะไร มันจะเป็นแบบเดียวกับที่ผมคิดหรือเปล่า

ชอบเหรอ...

ชอบสิ โคตรชอบเลย

พลั่ก!

“กลับมาแล้ว...เฮ้ย!”

ผมรีบขยับตัวออกห่างจากเทียน่าและหันไปมองยังต้นเสียงบริเวณประตูบ้านด้วยความตกใจ

น้ำเสียงแหลม ๆ แม้ไม่ได้มองก็รับรู้ว่าคนเป็นเจ้าของคือพี่สาวของผมนั่นเอง

ยัยมุก!

“เอ่อ...โทษที คือ...คือฉัน...”

“ไม่รู้จักเคาะประตู” ผมเอ่ยเสียงเข้มพร้อมกับหันไปมองด้วยสายตาดุใส่คนเป็นพี่สาว

นึกหงุดหงิดที่อยู่ ๆ ถูกขัดจังหวะ แถมตอนนี้คนตัวเล็กยังอยู่ในอาการตื่นตระหนกตกใจอีกต่างหาก แต่จะให้โทษยัยพี่สาวของผมก็ไม่ได้ ก็นั่นแหละ...ผมปากไวพาลโกรธซะก่อน

“เอ๊า! ไอ้บ้านี่ ก็นี่บ้านตัวเองทำไมต้องเคาะประตูด้วย ใครจะไปรู้ว่าแกพาแฟนมาที่บ้านวะ แกจะมาโมโหใส่ฉันไม่ได้นะ!”

‘ม่านมุก’ เดินตรงเข้ามาหาผมพร้อมกับการกอดอกมองอย่างเอาเรื่อง คนหน้าเจื่อนเสียงอ่อนเมื่อกี้นี้หายไปแล้ว หลงเหลือเพียงยัยมุกขี้วีนอยู่ตรงหน้า

“มุก อย่าวีน” ผมกดเสียงต่ำหวังให้คนเป็นพี่สาวข่มอารมณ์ตามลงไปได้บ้าง เพราะตอนนี้ดูท่าว่าเทียน่าคงจะตกใจมาก เธอเบิกตากว้าง ตัวสั่นระริก เพราะยัยมุกที่กำลังพูดเสียวแว้ด ๆ อยู่นี่แหละ

“ก็แกว่าฉันอะเมฆ!”

“มุก นี่เทียน่า คนที่ฉันเคยเล่าให้ฟัง”

“สะ...สวัสดีค่ะพี่มุก หนูชื่อเทียน่าค่ะ” เทียน่าเอ่ยออกมาด้วยความสั่นเทา เธอยกมือขึ้นไหว้จนผมต้องหันไปจับข้อมือของเธอให้ลดระดับลง

“สวัสดีจ้ะ ไม่ต้องไหว้พี่หรอก พี่ได้ยินชื่อเรามานานแล้ว ได้เจอกันสักทีนะ แล้วน้องพี่มันเล่าอะไรให้ฟังบ้างล่ะ พูดเรื่องดีหรือแย่”

“ไม่เลยค่ะ พี่เมฆไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังเลย พี่เมฆบอกว่ามีพี่สาวหนึ่งคนชื่อพี่ม่านมุก แต่พี่มุกสวยมาก ๆ เลยนะคะ เทียแอบคิดว่าหน้าจะเหมือนพี่เมฆหรือเปล่า แต่พี่มุกสวยมากเลย อย่างกับดาราแหนะ”

“โอ้โห อยู่เป็นนะเรา เลือกแฟนได้ดีมากเมฆ ชมแบบนี้พี่ยกน้องชายให้เลย เอาไปเลยแล้วก็ไม่ต้องเอากลับมานะน้องเทีย เอาไปไกล ๆ เลย”

“มุก” ผมถึงกับถอนหายใจและสั่นหน้าไปมา คำพูดคำจาของพี่สาวคนนี้มันน่าหมั่นไส้เอามาก ๆ ถ้าหากเทียไม่อยู่ผมคงได้จับยัยมุกมาหยิกให้เขียวไปแล้ว

“แหะ...เทียไม่ได้เป็นแฟนพี่เมฆหรอกค่ะ เทียเป็นลูกศิษย์ของติวเตอร์พี่เมฆต่างหาก”

ทว่าคำพูดนั้นทำให้ผมชะงักไปชั่วขณะ ไม่ได้รู้สึกไม่พอใจอะไรแค่ช็อกค้างกลางอากาศเท่านั้น

นี่สินะที่เขาเรียกว่า ‘ช็อตฟีล’

“โอ๊ะ...จึ้กไหมจ๊ะพ่อหนุ่ม” ยัยมุกกระแอมเบา ๆ พลางจิ้มนิ้วหยอกเย้าใส่ แต่ผมตวัดสายตากลับไปให้แทนคำตอบ เพราะถ้าหากเผลอหลุดอาการอะไรออกไปมีหวังเทียคงเกร็งมากกว่านี้แน่นอน “แล้วนี่ทำไรกันอะ จะทำอะไรกินเหรอน้องเทีย ซื้อของมาเยอะแยะเชียว”

“จะทำจิ้มจุ่มกันค่ะพี่มุก อากาศหลังฝนตกต้องกินอะไรร้อน ๆ นี่ ๆ เห็นพี่เมฆบอกว่าพี่มุกชอบน้ำจิ้มแจ่วเทียเลยซื้อข้าวคั่วมาด้วย ความจริงเทียตั้งใจจะซื้อแบบขวดสำเร็จมา แต่พี่เมฆบอกว่าทำกินเองจะอร่อยกว่า” เทียน่าบอกด้วยรอยยิ้มกว้าง ในขณะที่มือก็หยิบข้าวของออกมาจากถุงพลาสติกที่เพิ่งซื้อมาจากห้างมาหมาด ๆ

“น้องเทียน่ารักมากเลยอะ เวลายิ้มแล้วโลกสดใสมาก น้ำตาพี่จะไหล ในที่สุดน้องชายพี่มันก็หาแฟน...”

“มุก อย่าพูดมาก” ผมพูดแทรกเพราะรู้ว่าสิ่งที่ยัยมุกจะเอ่ยเอื้อนนั้นคืออะไร

“ถ้างั้นก็ตามสบายเลยน้า พี่ขอรอกินอย่างเดียวแล้วกัน”

“มุก อย่ากินแรงคนอื่น มาช่วย...”

“ได้เลยค่ะพี่มุก เทียรับรองว่าอร่อยแน่นอน พี่มุกหิ้วท้องรอได้เลย เพราะเทียเองก็ไม่ได้ทำเหมือนกันค่ะ แค่ช่วยพี่เมฆหยิบจับเท่านั้น”

คราวนี้ผมถึงกับหันขวับไปมองยัยตัวเล็กที่พูดเสียงเจื้อยแจ้ว นอกจากพี่สาวจะไม่ช่วยกันทำแล้ว เทียน่าก็ยังเห็นดีเห็นงามไปด้วยอีกต่างหาก นี่ผมจำได้ว่าสองคนนี้เพิ่งเจอหน้ากันไม่ถึงสิบนาทีเลยนะ ทำไมถึงได้พูดคุยเข้าขากันแบบนี้ก็ไม่รู้

ก็นะ ถึงสองคนนี้จะพูดคุยกันถูกคอจนผมรู้สึกเป็นอากาศ แต่ผมกลับมีความสุขยังไงไม่รู้สิ...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel