EP10 หนังสือ
“ท่านจะทำสิ่งใด” นางเอ่ยถามด้วยใจเต้นดั่งกลองรบ รู้สึกเขินอายเขายิ่งนัก
“ได้เพลาแล้ว”
“นี่เพลาใด” หญิงสาวถามด้วยความสงสัย และลุกขึ้นนั่ง ใช้มือขยี้ตาให้หายงัวเงีย
“ยามเย็น”
“จริงหรือ ยามเย็น ข้าต้องแต่งตัว” หญิงสาวเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงลนลาน ลุกขึ้นจากที่นอนทันที
“ไปเถิด ไปทำหน้าที่ของเจ้า” ไบรอันเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม
“เจ้าค่ะ” โรซารี่เอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม เมื่อนางหันหลังกลับไป นางกลับเห็นจอร์จยืนอยู่ด้านหลังของนาง
“หยุดก่อนน้องหญิง พี่นี้มีบางอย่างอยากจะให้น้องนาง” จอร์จเอ่ยบอกเช่นนี้ เขาเสกหนังสือสีดำลวดลายวิจิตรงดงาม และส่งให้นาง นางรับหนังสือนั้นไว้ทันที
“หนังสือเล่มนี้ ข้ากับเรอาทำให้เจ้าโดยเฉพาะ ห้ามมิให้ผู้ใดได้เปิดอ่านเป็นอันขาด จงอ่านก่อนเข้าหอเถิด น้องหญิง” จอร์จเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มและเขยิบตาให้นางข้างหนึ่ง
‘มันไม่ใช่หนังสือที่ดีแน่แท้’
โรซารี่ทอดสายตามองในสระน้ำใสสะอาดตา สระนี้ขนาดใหญ่มหึมา สามารถลงอาบได้ประมาณสิบคนยังลงไปเหลือที่ว่าง เสาหินแกะสลักรูปเรียงรายนั้นเป็นรูปวิจิตรของดอกไม้ใบไม้นานาพันธุ์ เช่นดอกของกุหลาบ ทิวลิป ใบของเมเปิ้ล และลิ]ลี่เป็นต้น เรียกกันมากกว่าสิบต้น โรซารี่นางกางแขนออกกว้างให้นางราเซีย และลูเซียปลดอาภรณ์ออกจากเรือนร่าง ราเซียนางเองปลดมงกุฎและเครื่องประดับทั้งหมดออก ลูเซียนางปลดชุดของนางออกจนสิ้น มีเพียงเรือนร่างเปลือยเปล่าขาวนวลละเอียด พวกนางทั้งสองเปลื้องชุดตัวเองอกด้วยการเสกให้หายไป ราเซียประคองซ้าย ส่วนลูเซียประคองขวา ลงบันไดไปในสระน้ำ
“ราเซีย...ข้าอยากถามอะไรเจ้าได้หรือไม่” โรซารี่เอ่ยถามด้วยความสงสัย ขณะที่ราเซียและลูเซียกำลังขัดผิวให้กับนาง
“มีสิ่งใดในพระทัยจะรับสั่งถามมาเลยเพคะ องค์ราชินี” ราเซียเอ่ยบอกนาง
“ข้าไม่เคยเห็นริชาร์ด เอ่อหมายถึงฝ่าบาทของพวกเจ้า ไม่กินอะไรนอกจากเลือดบ้างหรือ” โรซารี่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“พระองค์สามารถเสวยน้ำจัณฑ์ โลหิตหรืออาหารที่มนุษย์กินได้ เพราะพระมารดาของพระองค์ก็เป็นเผ่าเดียวกับพระนาง” ราเซียเอ่ยบอก
“จริงด้วยแม่ของเขาเป็นป้าของข้า” โรซารี่เอ่ยบอก
“องค์ราชินีเป็นหญิงคนผู้เดียวที่ได้นอนร่วมแท่นบรรทมของฝ่าบาทเพคะ” ราเซียเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม ทำให้โรซารี่เผยรอยยิ้ม ขณะที่ลูเซียใช้น้ำหอมเทลงบนเรือนร่างของนาง
“ราเซียข้าอยากจะถามอีกประการหนึ่ง” โรซารี่เอ่ยถามเหมือนปูทาง
“มีสิ่งใดจะรับสั่งเพคะ” ราเซียเอ่ยบอก
“เฮเลน่านางเป็นผู้ใดหรือ นางคือคนรักเก่าของริชาร์ดหรือ” โรซารี่ถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“นางไม่ใช่คนรักของฝ่าบาท แต่นางเป็นเจ้าหญิงเฮเลน่า อีกทั้งนางยังเป็นน้องสาวต่างพระมารดาเพคะ องค์หญิงรักฝ่าบาทอย่างยิ่ง แต่ฝ่าบาทกลับไม่เคยตอบสนองความรักเชิงชู้สาวกับนาง มีเพียงองค์หญิงคิดเพียงฝ่ายเดียว” ราเซียเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“นางก็น่าสงสารเหมือนกันนะ” โรซารี่เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ด้วยเป็นหญิงเหมือนกัน รู้สึกเจ็บปวด เมื่อชายที่หมายปองนั้นไม่ตอบสนองตอบ เพียงคิดว่านางอาจจะเจอชายที่นางรักจริง และนางจะได้ไม่เจ็บปวดเหมือนรักครั้งนี้
“แต่ก่อนฝ่าบาท มีหญิงสาวมาหมายปองมากมาย แต่หญิงสาวพวกนั้นก็หายไปอย่าปริศนา ไม่รู้ว่าพวกนางหายไปไหน มีเสียงร่ำลือว่าพวกนางอาจจะถูกเจ้าหญิงสั่งประหาร หรือเอาไปดูดโลหิตจนหมดตัวก็เป็นได้” ราเซียเอ่ยบอก
‘นางคือคนที่น่าสงสารที่สุดรักเขามาเกือบแสนปี แต่ชายนั้นกลับไม่เห็นใจ’
โรซารี่ถอนหายใจเบาๆ
“แล้วฝ่าบาทเคยรักผู้ใดมาก่อนหรือไม่” ลูเซียเอ่ยถามด้วยความสงสัย เมื่อนึกถึงสวามีที่แต่งงานกับเจ้าเหนือหัวของนางนั้น เป็นบุรุษรูปงามหาที่ติไม่ได้ คงมีหญิงสาวมาชอบ เสนอตัวถวายให้กับเขา และอาจจะเคยมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวก็เป็นได้
“ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนร่วมแท่นบรรทมกับฝ่าบาท หรือไปร่วมสัมพันธ์สวาทกับผู้ใด จนกระทั่งอดีตพระราชินี พระชนนีของฝ่าบาททรงกลัดกลุ้มพระทัย ทรงกลัวว่าฝ่าบาทจะเป็นจำพวกชายรักชายเพคะ” ราเซียเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงขบขัน ทำให้โรซารี่หัวเราะดังลั่น
“เบาๆ เพคะ ไม่งาม ใครจะมาได้ยินเข้าจะมองดูไม่ดีเพคะ” ลูเซียเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่อมยิ้มเล็กน้อย
“เอาละ ข้าไม่หัวเราะแล้ว แต่ข้าหัวเราะเบาๆ ได้ใช่หรือไม่” โรซารี่หุบยิ้ม แต่ก็ยังหลุดหัวเราะเบาๆ ออกมา จนนางกำนัลหลายคนต่างหัวเราะตามไปด้วย
“ฝ่าบาทกระหม่อมดีใจด้วยพระเจ้าค่ะ” เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นมา
“จริงสิแฮร์รี่ ตอนนี้ตามตัวมาร์ค สจวต เจอหรือไม่” ริชาร์ดเอ่ยถามแฮร์รี่ผู้เป็นน้องชายที่นั่งอีกฝั่งหนึ่งของเก้าอี้
“หม่อมฉันให้ทหารไปสอดแนมแล้ว ถ้าเจอมันเมื่อใด ข้าจะถลกหนักเป็นหมื่นชิ้นมาสังเวยวิญญาณพระมารดาและพระบิดาให้จงได้” แฮร์รี่เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น ไม่ต่างกับริชาร์ดเองที่เคียดแค้นเช่นกัน
หลังจากองค์ราชินีวิคตอเรีย พระมารดาสิ้นชีพไป เพราะมาร์ค สจวต มาร์ค ล่อลวงแปลงตนเป็นเอ็ดเวิร์ดพระบิดาของตน และปิดจิตของนางและปิดกันดวงจิตของเอ็ดเวิร์ดด้วย ไม่ให้เอ็ดเวิร์ดได้รับรู้และรู้เห็นในปราสาทอาร์มันโด้ ในห้องพระบรรทมของพระบิดา หลังจากกระทำการข่มขืนใจพระนางแล้ว เอ็ดเวิร์ดได้เข้ามาเห็นมาร์ค สจวต ในร่างของตนกับองค์ราชินีได้สมสู่กัน มาร์คจึงแปลงร่างกลับเป็นตัวเอง เอ็ดเวิร์ดต่อสู้กับมาร์ค วิคตอเรียเข้ามาห้าม
แต่เอ็ดเวิร์ดเสกให้นางหยุดการเคลื่อนไหว จนในที่สุดเอ็ดเวิร์ดตายเพราะสู้อิทธิฤทธิ์และกำลังของมาร์คไม่ได้ มาร์คจุดไฟเผาเขาทันที เพื่อไม่ให้เอ็ดเวิร์ดฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อมนต์เสื่อมคลาย หลังจากเอ็ดเวิร์ดถูกเผาไปนั้น วิคตอเรียจะสังหารมาร์ค มาร์คกลับหัวเราะ และเลือนหายไปกับสายลม ทิ้งให้วิคตอเรียนั่งร้องไห้คร่ำควร นางเดินไปที่ตู้กระจก เปิดชั้นที่สามเอากริชคารอสออกมา และใช้กริชแทงลงที่ขั้วหัวใจและสิ้นชีพ ขณะที่บุตรชายสองคนเดินเข้ามาเห็นมารดาตายไปต่อหน้าต่อตาตนเอง และเลือนหายเป็นเม็ดทรายหายไป
“ข้าขอสัญญา ต่อพระบิดา พระมารดา ข้าริชาร์ด จอห์น อาร์มันโด้ จะล้างแค้นและสังหาร มาร์ค สจวตให้จงได้ข้าให้สัญญาต่อท่าน”
..........................................
ฝากเรื่องหนึ่ง ถ้านิยายเรื่องนี้จบ เหรียญจะขยับขึ้น ใครกลัวลืมอ่าน เปิดเหรียญรอไว้ก่อนได้เลย
ไม่เม้นท์ก็ส่งหัวใจมาก็ได้คร้า
ไรท์ชอบอ่านคอมเม้นท์ของทุกท่าน และพยายามตอบกลับทุกคอมเม้นท์
