ตอนที่ 10
"ที่พูดเมื่อกี้ หมายความว่ายังไง" เขายิงคำถามที่ตัวเองเริ่มสงสัย จ้องมองเธอแบบพิจารณา ใช้มือจะจับร่างของเธอเพ่งพิศไปทั้งตัวและใบหน้า แก้มกระชับเสื้อแสงให้ปกคลุมร่างกายของเธอให้ได้มากที่สุด
เขาจับตรงผมที่ยาวสยาย มันดูเป็นลอนและยาวกว่าผมของโซเฟีย และเหมือนจะไม่ใช่สีผมที่แท้จริงของเธอ แต่เป็นผมที่ผ่านการย้อมสี ผมของผู้หญิงตรงหน้าเป็นสีน้ำตาลเข้มปนทอง ซึ่งโซเฟียไม่ยอมทำสี ยืนกระต่ายขาเดียวขอให้เป็นสีผมธรรมชาติ ผมของเธอที่ยาวและเหยียดตรง
เขาจับมือของเธอขึ้นมาดู และเห็นว่าเล็บของแก้มนั้นสั้น และผิวดูหยาบกว่าเหมือนถูกใช้งานมาหนักกว่า รวมถึงบนหลังมือมีแผลเป็น มีรอยกรีดเหมือนถูกของอะไรที่มีคมบาด
ตอนนี้สายตาของเขาจ้องมองที่ร่องหน้าอก เขาเห็นไฝสองเม็ดวางอยู่บนเนินอกขวาของแก้ม เสื้อที่โซเฟียใส่ในการแสดงและร้องเพลงส่วนใหญ่จะโชว์เนินเต้า เขามองอยู่บ่อย ๆ ชมในใจว่าสวย ขาวสะอาดไร้ที่ติ แต่ผู้หญิงที่นั่งอยู่ต่อหน้าเขาตรงนี้ เธอมีไฝสองเม็ดเรียงกันอยู่บนเนินอกนั่น
แก้มมองตามสายตาของเขา เห็นเขาจ้องลงบนเนินอกของเธอแล้ว แก้มรีบยกมือขึ้นมาปิดบังเอาไว้ นั่งกลืนน้ำลาย ขยับกายออกห่าง และหมุนตัวหันหลังให้ รีบเอาเสื้อเชิ้ตที่อยู่ใกล้ ๆ ใส่ในทันที เธอกระชับตัวเสื้อ เพราะตอนนี้กระดุมมันขาดร่วงไปหมดแล้ว แก้มเอียงหน้าหันมามองทางเขา และเอ่ยปาก
"ฉันขอยืมโทรศัพท์ของคุณได้ไหม"
แมคเวลส่ายหน้าสะบัดหัวไปมาระรัวเพื่อขับไล่ความมึนงง เริ่มแน่ใจอะไรบางอย่าง ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบเสื้อคลุมจากตู้เสื้อผ้าออกมาสวม และยังหันไปหยิบเสื้อคลุมสีขาวออกมาให้หญิงสาวด้วย เขาตรงไปหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงที่ร่วงหล่นอยู่ข้างเตียง เดินกลับมาหาแก้ม
หญิงสาวมีสายตาหวาดกลัวเขาออกมาอย่างเห็นได้ชัด ขยับตัวอย่างระวังเหมือนว่ากลัวเขานักหนา
"ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกน่า" เขาพูดก่อนจะขยับมือใส่เสื้อคลุมสีขาวให้เธอ และมัดสายคาดเอวให้เธออย่างเรียบร้อย แก้มขยับนั่งแบบระวังตัว เขากระแทกตัวลงนั่งใกล้ๆ เริ่มแน่ใจอีกครั้งว่าเขาอาจจะทำอะไรที่ผิดพลาดใหญ่หลวงเป็นครั้งแรกในชีวิต
แมคเวลส่งมือถือที่หน้าจอใหญ่พอสมควร เพราะเขาต้องใช้มันในการทำงานด้วย แก้มรับมันมาถือแต่ดูเหมือนเธอจะไม่ถนัดที่จะใช้มัน จึงยื่นส่งคืนให้ และบอกให้เขาเปิดเฟซบุ๊กให้กับเธอ
"ช่วยเปิดเฟซบุ๊กให้หน่อยค่ะ" เสียงที่เอ่ยมีความรู้สึกเกรงใจ และประหวั่นเล็กน้อย เขารับมันมาเปิดให้แล้วส่งให้เธอ
แก้มรีบเข้าระบบ ก่อนจะกดที่อัลบั้มรูปที่เธอโพสต์กิจกรรมส่วนตัวที่ทำในแต่ละวันลงไป ยื่นให้แมคเวลดู เขาเลื่อนภาพดูไปเรื่อย ๆ หน้าเริ่มเปลี่ยนสี ชายหนุ่มมีอาการตกใจและเกิดความประหลาดใจขึ้นมามากมาย
จนถึงภาพหนึ่งเป็นภาพครอบครัวที่เธอถ่ายกับพ่อแม่และพี่กั้ง
"รูปครอบครัวของฉันในเมืองไทยค่ะ" สิ้นเสียงของแก้ม
“Shit…บ้าเอ๊ย” เขาถึงสบถออกมา ยกมือขึ้นกุมหน้า และลูบขยี้ผมไปทั้งหัว แล้วก็พูดแต่ว่า
“Impossible!!!! เป็นไปไม่ได้...”
"Oh my god! Sophia?"
ตอนนี้เขาเริ่มตกใจ และนึกเป็นห่วงลูกสาวบุญธรรมของคุณป้า เธอได้แต่มองเขา แต่แก้มก็เข้าใจว่าเขาจะต้องตกใจแน่ ๆ ในเรื่องเหลือเชื่อที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้ เธอเองยังรู้สึกมึนงงอยู่เช่นกัน
แมคเวลเปิดวิดีโอที่โซเฟียร้องเพลงและเต้นให้แก้มดู รวมถึงภาพนิ่งแบบเต็มหน้า แก้มตกใจมาก เธอถึงกับนั่งยกมือขึ้นปิดหน้า ปากคอสั่น ไม่อยากจะเชื่อต่อสิ่งที่กำลังเห็น ผู้หญิงที่แก้มเห็นเหมือนเธอเสียยิ่งกว่าแกะ สองตาของแก้มจ้องมองมือถือแบบไม่กะพริบ ก่อนจะสลับมองหน้าผู้ชายตัวสูงที่นั่งลงใกล้ ๆ ซึ่งตอนนี้มีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
"แล้วฉันจะทำอย่างไรต่อไปดี" เขาตะโกนออกมา ก่อนจะทุ่มหลังโยนตัวลงบนที่นอน และฟาดแขนของเขาลงไปบนนั้นเพื่อระบายอารมณ์ด้วย เสียงของเขาทำให้เธอตกใจมาก พานน้ำตาไหล เอ่ยคำขอโทษเขาออกไปด้วยอาการตัวสั่น
"ฉันขอโทษค่ะ" แก้มได้แต่นั่งร้องไห้ ความกลัวเริ่มครอบงำเข้ามาในหัวใจของเธออีกครั้ง หญิงสาวมาต่างถิ่น ไม่มีอะไรที่เป็นสมบัติติดตัวเธอมาเลยสักชิ้นเดียว แล้วตอนนี้แก้มคิดถึงบ้าน
‘แม่จ๋า พ่อจ๋า พี่กั้ง ช่วยแก้มด้วย’ เธอคร่ำครวญอยู่ในใจ
แมคเวลเหมือนได้สติ เขารีบลุกขึ้นนั่ง
“ต้องทำอะไรสักอย่าง ต้องติดต่อหาตัวโซเฟียก่อน” ยิ่งร้อนรนก็เหมือนจะคิดอะไรไม่ออก เขาเดินไปเดินมา ก่อนจะหันมามองผู้หญิงที่นั่งร้องไห้กระซิก ๆ อยู่บนเตียง
"เธอชื่ออะไรนะ ฉันขอชื่อเธออีกครั้ง" เขาถาม
แก้มยกหน้าที่เปื้อนไปทั้งน้ำตาดูเขาอย่างหวาด ๆ
"แก้ม" เธอบอกเขาน้ำเสียงเครือ
แมคเวลค่อย ๆ ปรับอารมณ์ เมื่อเห็นท่วงท่าและท่าทีของเธอ
"โอเคฉันจะส่งเธอกลับบ้าน" เขานั่งลงใกล้ ๆ ก่อนจะเอ่ยบอก จะส่งเธอกลับบ้าน
"แต่เธอช่วยติดต่อใครสักคนที่เมืองไทย ที่พอจะให้ความช่วยเหลือฉันได้ไหม" เขาพูดช้า ๆ เธอพยักหน้าว่าเข้าใจ
“ฉันจะโทรหาพี่กั้งค่ะ พี่ชายของฉัน” เธอบอกเขา แมคเวลค่อยระบายยิ้มออกมาได้
ประเทศไทย
กั้งยกหัวขึ้นระบายยิ้มเต็มใบหน้า มองคนที่นอนหันหลังให้ ลมหายใจของเธอยังฟังดูสม่ำเสมอ เขาขยับตัวออกห่างจากเธออย่างช้า ๆ ก่อนจะคว้าเอาผ้าแพรที่ถูกเขายันตกลงไปที่ปลายที่นอน ค่อย ๆ ดึงมันขึ้นมาห่มให้ร่างสวยที่นอนนิ่งหลับใหล
“ขอโทษนะ พี่รุนแรงกับแก้มมากไปหรือเปล่า” เขาพูดจบ ก้มกดปลายจมูกแตะเบา ๆ ลงบนแก้มนุ่ม แล้วหมุนตัวลุกขึ้น เก็บเสื้อผ้าของตัวเองที่ถูกถอดเหวี่ยงตกกระจายไม่เป็นที่บนพื้นห้อง สายตาก็หันมามองใบหน้าสวย ๆ อีกหลายครั้ง
เขาถือผ้าเช็ดตัวเดินผิวปากไปอาบน้ำชำระร่างกายอย่างมีความสุข หลังจากนั้นก็หาเสื้อผ้าที่ใส่สบายในตู้เสื้อผ้าออกมา กั้งเดินไปที่ครัว เขาหุงข้าวสวยหอม ๆ ไว้รอแก้มให้ตื่นขึ้นมากินพร้อมกัน ใจประวิงนึกถึงแต่ใบหน้านวลที่ผุดพรายเข้ามาในความคิดอยู่เนือง ๆ คงจะไม่มีใครมีความสุขไปมากกว่าเขาแล้วตอนนี้
“แก้ม พี่รักแก้มนะ ดีใจที่สุดเลยที่แก้มเป็นของพี่ แก้มจะโกรธจะเกลียดพี่ยังไง พี่ชายคนนี้ก็ยอมทั้งนั้น” เขานึกพลางยิ้ม ยอมจำนนต่อผู้หญิงที่นอนอยู่ในห้องคนนั้นแล้วทุกอย่าง ขณะที่เขากำลังเพลิดเพลินกับการทำครัว
“Hey you”
เสียงทักทายแปร่ง ๆ และคำพูดที่แปลกหู ทำให้เขาหันกลับมามองหญิงสาวในทันที โซเฟียใช้ผ้าขาวม้าของเขาขึ้นมาพันรอบตัว โชว์ความขาวสล้างของร่างสวยที่สมสัดส่วน ตอนนี้เธอยืนพิงอยู่ที่ประตูห้องครัว และส่งสายตามองมายังเขาแบบเต็มตา ร่องรอยมาสคาร่าที่ตกดำเลอะขอบตาเปรอะบนหน้าที่ขาวเกือบซีด
“ฉันต้องการใช้ห้องน้ำ”
กั้งอ้าปากหวอกับสำเนียงฝรั่งจ๋าที่ส่งเสียงออกมาจากริมฝีปากสวย ๆ จนเขาต้องตะลึง
ตอนนี้แสงสว่างจ้าของพระอาทิตย์ ทำให้เขาพิจารณาใบหน้าของผู้หญิงตรงนี้ได้อย่างแจ่มชัดขึ้น กล้ามเนื้อที่แขนพอต้องแสงสว่างยิ่งดูเนียน และมีกล้ามเนื้อเป็นมัดเล็ก ๆ ดูสวยงาม เหมือนคนที่สนใจออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ยิ่งมองดูเข้าไปในดวงตายิ่งเห็นความแตกต่าง ใจหนึ่งของกั้งนึกแวบไปถึงนักร้องต่างชาติที่นั่งให้สัมภาษณ์ในรายการทีวีเมื่อหลายวันก่อน
ชายหนุ่มรีบยกสองมือขึ้นตบหน้าตัวเองเบา ๆ เขากลืนน้ำลายเหนียวลงคอดังเอื๊อก กั้งหันหลังไปปิดแก๊สที่เตา ก่อนจะหันหน้ามาใช้ฝ่ามือถูกันอย่างไม่รู้จะทำอะไร เริ่มถามคำถามเพื่อเช็กความแน่ใจอีกครั้งหนึ่ง
“เอ่อ เธอชื่ออะไร” กั้งถามชื่อเธอเป็นภาษาอังกฤษ เขาคิดในใจ เขาท่าจะบ้าไปแล้วหรือเปล่าที่ถามชื่อน้องสาวของตัวเองออกมา
“คุณเห็นกระเป๋าของฉันไหม” เธอไม่ตอบ แต่สอบถามถึงสิ่งของของเธอ
“คงจะอยู่ในรถ” กั้งรีบตอบ ก่อนจะชี้นิ้วลงไปด้านล่างตรงที่รถยนต์ของเขาจอดสนิทอยู่ เธอทำท่าผายมือให้เขาลงไปเอากระเป๋ามาให้ กั้งเดินพลางยกมือตบหน้าตัวเองพลาง ยายแก้มภาษาอังกฤษเทอมหนึ่งเกือบจะเอาตัวไม่รอด แต่ละเทอมที่เรียนเหมือนต้องเข็นครกขึ้นภูเขา
