Twin Dummy แค่เงาใจ *มีเล่มจำหน่าย

99.0K · จบแล้ว
คุณธิดา
45
บท
6.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

สองฝาแฝดสาวที่ถูกจับแยกจากกันคนละครึ่งโลก จนวันหนึ่ง ความฝันเกี่ยวกับความทรงจำในวัยเด็กของแฝดผู้พี่ ก็นำพาให้เธอค้นหาความจริง อยากตามหาน้องสาวฝาแฝด เพื่อพิสูจน์ว่า ที่เธอฝันเป็นเรื่องจริงเธอมาทำงาน และตามหาน้องสาวฝาแฝดไปด้วย แต่ระหว่างทางกลับเจออุบัติเหตุรักหนึ่งสาว ถูกผู้จัดการส่วนตัวของแฝดผู้พี่ นำตัวกลับไปยังประเทศของเขาส่วนอีกหนึ่งสาว ถูกพี่ชายของแฝดอีกคน พาตัวกลับบ้านที่จังหวัดแพร่เรื่องราวความรักอลเวง ผิดฝาผิดตัวจึงเกิดขึ้นเรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้อ่านที่อายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไปค่ะ- - - -สปอยเนื้อหาของเรื่อง แฝดผู้พี่"กลับบ้าน”“มึงอย่ามายุ่ง นี่น้องสาวกู" เขายังยกนิ้วชี้หน้าผู้ชายที่ถูกเขาดึงมือให้ออกพ้นไปจากการกุมมือของเธอ กั้งชูกำปั้นใส่ผู้ชายที่กำลังจะเข้าแสดงตัวมีเรื่องกับเขา"อ้าว... น้องสาวมึงนี่ ไอ้กั้ง" เพื่อนที่เดินตามมารีบยืนยัน ผู้หญิงตรงหน้านี้คือน้องสาวของกั้งจริง ๆ เพราะเขาเคยเจอที่บ้านของกั้งที่แพร่สามสี่ครั้ง ตอนเขาไปเที่ยวบ้านของกั้ง"เอ่อ กูรู้แล้ว กูถึงได้ของขึ้นอยู่นี่ไง" เขาตะคอกกลับ ทำชักสีหน้าโมโห ผู้ชายที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ จำต้องล่าถอยไป เพราะเป็นพี่ชายมาลากเอาตัวน้องสาวกลับบ้านจริง ๆด้วยความที่เธอดื่มเข้าไปเยอะ ตอนนี้เบลอหนักเข้าไปอีก เนื่องจากแสงสีที่หมุนเวียนจนน่าปวดหัว ใบหน้าของเธอเริ่มรู้สึกตึงไปหมด โซเฟียพยายามแกะมือของเขาที่จับรัดแน่นตรงข้อมือให้หลุดไป พร้อมทั้งส่งเสียงตะโกนบอกเขา แต่เพราะในร้านเปิดเพลงเสียงดังมาก ทำให้กั้งไม่ได้ยินในสิ่งที่เธอกำลังสื่อสารกับเขา"Hey you, what are you doing? Hey Hey"ตอนนี้กั้งหูดับไปหมด เขาแทบไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย เขาโกรธเธอมาก และที่สำคัญ เขารู้สึกหึงน้องสาวตัวเองเสียจนหน้ามืด ใจของเขาที่พยายามจะปฏิเสธตัวเองมาตลอดว่า เขานั้นรักแก้มแบบน้องสาว แต่ในใจส่วนลึกแล้ว เขารู้ว่ามันไม่ใช่ เขารักเธอและอยากจะครอบครองเธอมากเพียงใด"ขึ้นไป" เขาเปิดประตูและกระชากตัวเธอให้ขึ้นไปนั่งบนรถเต็มแรง แทบจะเรียกว่า โยนร่างของเธอเข้าไปเสียมากกว่า ก่อนจะปิดประตูตามหลังเธอดังโครมความเมา ความมึน ความงง กำลังบินว่อนอยู่ในหัวสมองของโซเฟีย เธอมองตามเขาที่รีบเดินขึ้นมานั่งประจำที่นั่งคนขับ สตาร์ตรถและกระชากตัวรถออกจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว- - - -สปอยเนื้อหาของเรื่อง แฝดผู้น้องแมคเวลจ้องมองหน้าสวยของแก้มสายตาฉงน"โซเฟีย นี่เธออัพยามาก จนจำชื่อพี่ไม่ได้เชียวรึ ฉัน ชื่อ แมคเวล" เขาจ้องหน้าเธอ แล้วพูดบอกชื่อแบบชัดถ้อยชัดคำ“แมคเวล” แก้มเรียกชื่อเขาเหมือนเพ้อออกมาตัวแก้มและแมคเวลหน้าห่างกันไม่ถึงศอก เธอจ้องหน้าเขากลับแบบตั้งใจ เพิ่งเห็นหน้าเขาชัดเจนในตอนนี้เอง‘ปากแดงจัง หน้าตาหล่อ’ เธอคิดในใจและยิ่งพิศใบหน้าของเขา ก็เห็นว่าเขาเป็นชายหนุ่มที่หล่อมาก ๆ นัยน์ตาสีฟ้าปนเทา ตอนนี้ส่งยิ้มมาให้เธอแบบเอาใจ แก้มหน้าแดงเมื่อนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างเธอและตัวเขา หญิงสาวขยับตัวออกห่างทันที เริ่มประหวั่นอยู่ในใจลึก ๆตลอดการเดินทางมาพร้อมกันกับชายหนุ่ม เขาก็ไม่ได้เอาใจใส่และทำดีกับเธอสักเท่าไรเลย แล้วตอนจะมีอะไรกัน เขาก็รุนแรงกับเธอมากมาย ถึงจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ชายหนุ่มพูด แต่แก้มรับรู้ได้ถึงอารมณ์ สีหน้า และการแสดงออก"จะไปไหน" เขารีบใช้อีกมือคว้าร่างเธอเข้าใกล้ ก่อนจะล็อกเธอเอาไว้ด้วยขาแข็งแรง แก้มมองตามร่างกายของเขาที่เคลื่อนไหวอยู่ใกล้ๆแมคเวลไม่สนใจจะปกปิดตัวเองด้วยซ้ำ เธอเห็นความเป็นชายของเขาที่เขาจงใจกระแทกเบียดชิดมันกับหน้าขาของเธอ แก้มหายใจเริ่มติดขัด ตัวเธอเองเริ่มสั่นเทิ้มด้วยความกลัวและกริ่งเกรงกระดากอาย"โซเฟีย เธอโอเคไหม ฉันว่าฉันน่าจะพาเธอไปหาหมอนะ" เขาบอกและสีหน้าเริ่มเป็นกังวล"คุณแมคเวล ฉันไม่ได้ชื่อโซเฟียค่ะ ฉันชื่อแก้ม" เสียงแก้มบอกเขา เธอพยายามพูดออกมาช้า ๆ เป็นภาษาอังกฤษ เน้นคำพูดเป็นคำ ๆ ออกเสียงให้ชัดเจนที่สุด"อะไรนะ" เขาตะโกนออกมาเสียงดัง ก่อนจะลุกขึ้นนั่ง แล้วฉุดหญิงสาวให้ลุกขึ้นนั่งตาม

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันพลิกชีวิตดารารักหวานๆสัญญาทางรักรักแรกพบความจำเสื่อมโรแมนติก

ตอนที่ 1

ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

"แก้วอย่าไปนะ อย่าเอาแก้วไป แก้วจ๋า แก้ว อย่าทิ้งแก้ม ฮือ..." ร่างเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ทรุดลงไปนอนกองกับพื้น เงยหน้าขึ้นมองตามคู่แฝดที่หน้าตาเหมือนกันอย่างกับเป็นคนเดียวกันด้วยน้ำตานองหน้า

"เสียงเรียกชื่อใครดังไม่รู้ ก้องไปหมดเลย เต็มสองหูเลย ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ แก้ม แก้ม แก้ม..." เธอตะโกนเรียกใครบางคน ที่เธอรู้สึกคุ้นเคยเอามาก ๆ ดังลั่นห้อง

"ทำไมเธอหน้าเหมือนเรามาก แก้ม... เธอชื่อแก้ม แก้ม..." โซเฟียสะดุ้งสุดตัวตัวสั่นงันงก หญิงสาวลุกขึ้นนั่งบนเตียงนอนด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา ก่อนจะยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาอาบเต็มใบหน้า

"ทำไมช่วงนี้ฝันแบบนี้ติด ๆ กันจังเลย เฮ้อ... สงสัยจะเหนื่อยมากไปแน่ ๆ" เธอถอนหายใจออกมาแรง ๆ ล้มตัวลงนอน เลื่อนกระชับผ้าห่มขึ้นมาคลุมหน้าอก ก่อนที่จะล้มตัวลงนอน ข่มตาให้หลับลงไปอีกครั้งด้วยความอ่อนเพลีย ที่เหนื่อยจากการฝึกซ่อมเต้นและร้องเพลงมาทั้งวัน

"คุณหนูคะ คุณหนูโซเฟียคะ" เสียงเรียกของคุณแม่บ้านดังขึ้น คุณอิงกริชเธอเข้ามาเรียกโซเฟียที่ยังหลับนอนหลับอุตุอยู่บนเตียง หญิงสาวงัวเงียยกหน้าที่นอนคว่ำกับที่นอนขึ้น ก่อนจะขยี้ตาของตัวเองเบา ๆ มองหาที่มาของต้นเสียง

"มาดามให้มาตามค่ะ คุณแมคเวลโทรเข้ามาแล้ว เขาบอกว่าอีกยี่สิบนาทีจะมาถึงค่ะ"

แค่ได้ยินชื่อแมคเวล เธอก็รีบกระเด้งตัวลงจากที่นอน ความง่วงหายเป็นปลิดทิ้ง รีบหันหน้าไปออกคำสั่งคุณแม่บ้านทันที

"คุณอิงกริชคะ ช่วยบอกใครมายกกระเป๋าของโซเฟียลงไปให้ด้วยค่ะ" ก่อนจะวิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำตัวปลิว

คุณอิงกริชได้แต่ส่ายหัว แล้วยิ้มมองตามร่างเธอไปแบบเอ็นดู

"อ้าวนั่นไง น้องลงมาแล้ว" คุณมากาเร็ตเอ่ยดัง กวักมือเรียกลูกสาวสุดที่รักให้เข้าไปหา ทั้งสองสวมกอดกันเบา ๆ และจูบทักทายกันในยามเช้า

แมคเวลนั่งหน้าเข้ม มองมาที่โซเฟียด้วยสายตาตำหนิ แต่เขาก็ไม่เอ่ยอะไร

"แดดดี้" เธอหันไปอ้อนผู้เป็นพ่อ ก่อนจะจูบหนัก ๆ ที่แก้มทั้งสองข้าง

"เดินทางปลอดภัยนะลูก ถึงที่พักที่นู่นแล้ว ให้รีบสไกป์มาหาพ่อกับแม่ทันทีเลยนะ" คุณโจน์กำชับลูกสาว

"แมคเวล ป้าฝากน้องด้วยนะลูก ป้าขอร้องล่ะ เราก็อย่าเคร่งครัดกับน้องมากไป รู้หรือเปล่า" มาดามหันมาสั่งหลานชาย เพราะด้วยรู้นิสัยของเขาเป็นอย่างดี

"ครับ ผมจะพยายาม" เขารับปาก ก่อนจะลุกขึ้นยืน และกอดร่ำลาป้าและลุงของเขา

คุณมากาเร็ตยืนร้องไห้เช็ดน้ำตาปอย ๆ นางสวมกอดเอวสามีไว้หลวม ๆ ยกโบกมือลา สายตามองตามรถที่เคลื่อนออกไปจากคฤหาสน์แอนเดอร์สันจนลับไป

"วันหลังหัดตั้งนาฬิกาปลุกบ้างนะ" เสียงเขาตักเตือนเชิงต่อว่า โดยที่ไม่หันมามองหน้าของเธอสักนิดเดียว

"การทำงานที่เป็นมืออาชีพ ความรับผิดชอบต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง การตรงต่อเวลามาเป็นอันดับสอง และความมีวินัยมาเป็นอันดับสาม แต่ไม่ใช่ว่าอย่างอื่นจะไม่สำคัญนะ" โซเฟียที่เคยเป็นคนมั่นใจ ต่อหน้าผู้ชายคนนี้ที่ชื่อแมคเวล เธอต้องนั่งตัวลีบไปเสียทุกที

"ค่ะพี่ชาย" เธอเอ่ยรับคำและเรียกเขาแบบนั้น

แมคเวลหันขวับกลับมามองหน้าของเธอในทันใด

"ห้ามเรียกฉันว่าพี่ชาย ให้เรียกฉันว่าผู้จัดการ" เขาทำเสียงเขียว และสายตาที่ส่งมา ทำให้เธอพยักหน้าให้เขาน้อย ๆ ก่อนจะตอบรับคำเขาไปเสียงเบา

"Yes, sir"

‘โธ่ไอ้พี่ขี้เก๊ก มามี้ ทำไมต้องเลือกไอ้พี่ขี้เก๊กคนนี้ มาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของหนูด้วยคะ’ เธอโอดครวญอยู่ในใจ ยังทำสีหน้าเรียบเฉย ตามองออกไปนอกหน้าต่างเหมือนไม่ได้คิดมากแต่ในใจคุกรุ่น

ณ ประเทศไทย อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่

"แก้ม ลูก แก้มเอ๊ย พี่กั้งโทรมาบอกแน่ะ บอกว่ารถไถเสียอยู่ที่กลางสวนลำไย หนูช่วยขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปหาพี่เขาหน่อยไป เผื่อพี่เขาจะให้ช่วยอะไรนะลูก ไปเร็ว" แม่ตะโกนออกมาจากในครัว

แก้มกำลังรดน้ำพรวนดินพืชผักสวนครัวที่เธอกับแม่ช่วยกันปลูกไว้ตรงสวนหลังบ้านไม่ห่างจากห้องครัวมากนัก

"จ้ะแม่" เธอขานรับ ก่อนจะเดินไปล้างไม้ล้างมือ และขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ขับตรงไปยังสวนของพี่ชายที่อยู่ห่างจากหมู่บ้านมาประมาณสามกิโลเมตร

บรื้น... เสียงเร่งเครื่องมอเตอร์ไซค์ดังมาแต่ไกล รถกำลังวิ่งเข้ามาในสวนกว้างใหญ่ไพศาลของอังกูธ ตามทางเล็ก ๆ มีรอยล้อของรถยนต์ มอเตอร์ไซค์คันหนึ่งกำลังแล่นตรงเข้ามายังกระท่อมที่พักของเขา

จริง ๆ ก็ไม่ได้เรียกกระท่อมซะทีเดียว มันเป็นบ้านที่ใหญ่โตพอสมควร หนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องน้ำ หนึ่งห้องครัว และมีชานโล่งไว้รับแขกอีกด้วย เขาทำบ้านไม้ยกพื้นสูงประมาณสองเมตรกว่า ๆ เพื่อสะดวกในการจอดรถยนต์ไว้ข้างใต้ถุนด้วย

"พี่กั้ง รถไถเป็นอะไร" เสียงแก้มตะโกนถาม ทั้งที่ตัวเธอกับตัวรถยังเข้ามาไม่ถึงตัวเรือน เพียงแค่เห็นใบหน้าที่เปื้อนยิ้มส่งมาให้ เขาก็ยกหมวกสานปีกกว้างทำมาจากไม้ไผ่ออกไปให้พ้นใบหน้า กั้งเงยหน้าขึ้นมองน้องสาว เขาขยับตัวลุกขึ้นยืน

"ไม่รู้เหมือนกันจ้า พี่เรียนเกษตรมา ไม่ได้เรียนช่างยนต์ครับผม" เสียงเขาตอบมาแบบกวน ๆ แต่รอยยิ้มฉีกกว้าง

"ช่างตอบนะคะคุณพี่ คนเขาอุตส่าห์ดั้นด้นมาช่วย สรุปพี่กั้งจะทำยังไงต่อไปคะ" น้องสาวเอ่ยถาม ก่อนที่จะเอาขาตั้งมอเตอร์ไซค์ลงค้ำรับน้ำหนักรถเอาไว้ และรีบเดินเข้าไปหาเขา

"น้องแก้มคนสวยมาก็ดีแล้ว ซักผ้าให้พี่หน่อยสิครับ" เขาทำเสียงและสายตาอ้อนวอน ไม่ได้คุยเรื่องรถไถเลย

"โอ๊ะ โอ้ย ว่าแล้ว คิดเอาไว้แล้วเชียว อย่าบอกนะว่า พี่กั้งหลอกให้แก้มมาซักเสื้อผ้าให้เนี่ย" เธอโวยวายทำเสียงสูง ทำไม้ทำมือชี้ไปที่ตัวเขา

"โถ... เปล่าเลย รถไถมันเสียจริง ๆ เดี๋ยวพี่เก็บข้าวของเสร็จ ขออาศัยติดรถเราไปนอนที่บ้านด้วยนะคืนนี้ ไปหาช่างแล้วปรึกษาช่างดูก่อน พรุ่งนี้ค่อยพาช่างมาดูอีกที วันนี้คงไปหาใครไม่ทันแล้วมั้ง" กั้งอธิบาย ก่อนจะเดินนำเธอขึ้นไปบนเรือน แล้วตรงดิ่งไปล้างทำความสะอาดมือไม้ที่ดำเลอะสกปรกอยู่มากตรงลานชะล้างด้านบนเรือน

แก้มเดินตรงเข้าไปในห้องนอนของพี่ชาย แล้วหยิบตะกร้าผ้าที่วางซ่อนอยู่ใกล้ตู้เสื้อผ้าในห้องออกมา

"พี่กั้ง แก้มบอกพี่กั้งกี่ครั้งแล้ว ให้เอาตะกร้าผ้าเนี่ยเอาออกมาไว้ข้างนอก มักง่ายจริง ๆ วันหลังแก้มจะไม่มาซักให้เลยนะ ดูสิ ทั้งสกปรก ทั้งเหม็นมากด้วย มันมีเชื้อโรคเข้าใจไหม" เธอบ่นเขาเรื่องนี้ประจำ แก้มทำหน้ามุ่ยใส่พี่ชาย แต่ก็เดินตรงออกไปนอกชาน เปิดน้ำใส่กะละมัง ก่อนจะเทผงซักฟอกตีฟอง แล้วเอาผ้าในตะกร้าลงไปแช่

"อึ๋ย สกปรกมาก ต้องแช่ก่อนนะคะพี่กั้ง ไม่งั้นแก้มคงขยี้กันตาเหลือก" เธอยกกางเกงที่เขาใส่ทำงานตัวหนึ่งให้พี่ชายดู ทั้งเลอะโคลน และมีกลิ่นเหม็นเต็มไปหมด ก่อนจะเอากะละมังมาอีกใบ เปิดน้ำเข้าใส่จนเต็ม แล้วเอากางเกงที่เปื้อนเป็นพิเศษตัวนี้ลงไปแช่ ระหว่างนั้นเธอค่อย ๆ ใช้แปรงขยี้เอาโคลนออกมาเป็นอันดับแรก เสียงบ่นของเธอก็ยังดังพึมพำ แต่มือไม้ก็ลงมือทำไม่หยุด