ช่วยเล่นละครตบตา
“เลขหมายที่ท่านเรียก”
เสียงผู้หญิงคนเดิม ดังมาจากโทรศัพท์ของวาริช เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ถ้าโทรอีกรอบไม่ติด วาจะโยนชุดทิ้งแล้วนะคชา
[โทษทีวา ประชุมเพิ่งจบ]
วาริชกดโทรอีกครั้ง คชาก็รับสายของเธอทันที แถมรู้ด้วยว่าเป็นวาริช เพราะวาริชยังใช้เบอร์เดิมมาตลอด 5 ปี เบอร์ลูกค้าเธออยู่ในนี้ทั้งหมด การเปลี่ยนเบอร์มันทำให้ลูกค้าหาย เธอจึงไม่เคยเปลี่ยนเลย
“จะเอาไหมชุด”
[เอามาส่งหน่อย เลิกงานแล้วนี่ ติดธุระ เอามาให้หน่อยนะ คอนโด x เจอกันหนึ่งทุ่มนะวา] ตูดๆๆ
เอ้า! วายังไม่ได้ตอบเลยว่าจะเอาไปให้ คชาก็กดวางไปแล้ว แถมโทรกลับก็ไม่ติดอีก เงินก็ยังไม่จ่ายเลยนะเห้ย โอ้ย! ต่อไปไม่รับงานคชาแล้ว เรื่องมาก
วาริชขับรถของตัวเองมาจอดลงที่คอนโด x ก่อนจะขับรถไปจอดหน้าคอนโดนั่นแหละ ไม่ได้จะมาอยู่นาน หวังว่ายามจะไม่มาล็อคล้อรถเธอนะ จอดแป๊บๆคงได้แหละมั้ง
ร่างแบบบางในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ เดินเข้าไปในคอนโด ที่เหมือนจะเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ แต่ก็ถือว่าดูดีและหรูหรามาก แถมยังเหมือนว่าจะมีงานภายในคอนโดแห่งนี้ด้วยนะ คนเยอะมากเลยอะ แต่ละคนดูดี มีเงินกันทั้งนั้น แล้วดูอีวาตอนนี้สิ สภาพแย่สุดๆเพราะเพิ่งผ่านพ้นการปั่นงานให้ลูกค้ามาหมาดๆ
“อยู่ไหนวะ โทรก็ไม่ติด”
วาริชประสาทจะกิน คชาไม่บอกอะไรเลย แล้วเธอจะหาเจอได้ยังไง คนเยอะแบบนี้ ไม่ใช่ว่าเอากับคนอื่นอยู่ห้องไหนสักห้องหรอกนะ
“วาริช”
ใบหน้าสวยหวานหันไปมองตามเสียงเรียก แต่เธอแทบจะมุดดินหนีทันทีที่หันไปเจอสายตาผู้คน
จะเรียกเสียงดังทำไม คนหันมามองกันทั้งงาน บางคนก็ทำหน้าสงสัย บางคนก็ยิ้มขำกับสภาพของเธอ ส่วนคนที่เรียกเธอยิ้มหน้าบานเลย เมื่อเห็นสภาพหน้าสดของอีวา
“คชา มาเอาชุดเร็วๆดิ อายจะตายอยู่แล้ว”
วาริชกวักมือเรียกอยู่ไกลๆ จนคชาเดินมาใกล้ เธอจึงได้เอ่ยเร่งอีกครั้ง ส่วนร่างสูงที่อยู่ในชุดสูท เอาแตายิ้มขำ กับชุดที่วาใส่เข้ามาในงานเปิดตัวคอนโดของเขา
“ตามมานี่แปปนึงสิ”
ร่างบางเดินตามคนที่สูงกว่าไปเงียบๆ อยากจบงานวันนี้เต็มทีแล้ว เหนื่อยมากๆ ถ้าไม่ตามไปเธอจะไม่ได้เงินค่าชุด และบวกค่าเซอร์วิส ที่ขับรถมาส่งถึงที่นี่อีก เธอจะเรียกราคาให้หนักเลยคอยดู
“ 3 หมื่น หมื่นห้าค่าชุด หมื่นห้าค่าจัดส่ง” ที่จริงไม่ได้แพงขนาดนั้นหรอก แต่พิเศษสำหรับคชา ต้องเรียกแพงๆไว้ เงินแค่นี้ไม่สะเทือนขนหน้าแข็ง ของคชาหรอกนะจะบอกให้
“ใส่ชุดนั่นไปเดินในงานเปิดตัวคอนโดด้วยกันแปปนึงดิ แล้วจะให้เพิ่ม”
คชามองหน้าวาริชนิ่งๆ ตอนแรกเขาตั้งใจจะเปิดตัวผู้หญิงของเขาในงาน แต่ยัยนั่นกลับเทซะได้ ตอนนี้ีคนถามตลอดทั้งงานว่าผู้หญิงของคชาไปไหน เอายัยวาแก้ขัดไปก่อนละกัน ไม่งั้นพ่อเขาได้ด่าข้ามปีแน่ๆ
“ขัดสนขนาดนั้นเลย”
“ก็ไม่ขนาดนั้นน่า แต่ถ้าวาไม่ช่วยวันนี้ คชาแย่แน่ พ่อบอกว่าถ้าไม่มีตัวจริง เขาจะให้แต่งงานกับคนอื่นอะ คชายังไม่อย่างมีห่วงผูกคอ ช่วยเล่นละครตบตา แค่คืนนี้คืนเดียวพอ นะวาริช”
ไม่รู้ว่าคชาเดินมาใกล้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ตอนนี้หน้าเขาอยู่ใกล้เธอนิดเดียว ใกล้จนเธอได้กลิ่นบุหรี่อ่อนๆจากลมหายใจของเขา
“คิดซะว่า วาทำเพื่อตอบแทนเงินสองแสน ที่คชาเคยยกให้วาละกัน รอแปปนึง วาขอแค่ 10 นาทีพอ”
วาริชพูดจบก็หายไปอีกห้อง ที่มันเป็นห้องน้ำนั่นแหละ เธอจัดการใส่ชุดราตรีที่ตัวเองเป็นคนตัด ไม่ต้องคิดเรื่องขนาดเลย เธอเป็นคนตัดเอง เธอรู้ดีว่าใส่ได้ ตอนตัดยังสงสัยเลยว่าชุดมันวัดจากขนาดตัวเธอหรือเปล่า ทำไมไซส์ที่คชาสั่งตัดมันถึงเหมือนไซส์เธอเปะๆขนาดนั้น
วาริชล้างหน้าอย่างรีบๆ จากนั้นก็หยิบเครื่องสำอางที่พกติดตัวไว้ตลอดเผื่อฉุกเฉิน หยิบมาจัดการแต่งหน้าด้วยความรีบร้อน เรื่องอะไรอีวาจะออกไปด้วยสภาพหน้าสดแบบนั้น ได้อายคนทั้งประเทศแน่ๆ
“พร้อมแล้ว ไปเลยไม่ต้องวิจารณ์ รู้ตัวดีว่าแต่งหน้าแล้วสวย”
ถ้าวาริชได้แต่งหน้าอะไรก็มาหยุดความมั่นหน้าของเธอไม่ได้หรอก มันก็เป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นเครื่องสำอางจะขายดิบขายดีหรือไง เดี๋ยวนี้ผู้ชายบางคนก็แต่งหน้านะเออ หรือวาริชจะทำแบรนด์เครื่องสำอางออกมาตีตลาดบ้าง คงจะขายดีมากแน่ๆ
“ไม่ต้องพูดอะไรมากนะ เดี๋ยวจัดการเอง”
เขาไม่ชอบถูกควบคุมเท่าไหร่ แค่คนที่เขาพาไปด้วยเงียบให้ได้มากที่สุดก็พอ ที่เหลือเขาจัดการเอง
วาริชยักไหล่นิดๆ ไม่ชอบคนบงการชีวิต เท่าไหร่ แต่เอาเป็นว่าจะทำตาม แต่ถ้าวาริชถูกใครก็ตาม คุกคามทางคำพูดวาริชฟาดกลับแน่ๆ ไม่เกรงจงเกรงใจใครทั้งนั้นแหละ
“ไปไหนมา เขารอให้เจ้าของกล่าวเปิดงานตั้งนาน มัวแต่ไปยุ่งอยู่กับผู้หญิงไร้ค่าอย่างนี่นะเหรอ”
วาริชมองคนที่มีตำแหน่งเป็นถึงรัฐมนตรีนิ่งๆ ไม่สนใจคำพูดดูถูกดูแคลนหรอก วาริชไม่เคยคิดว่าตัวเองไร้ค่า ไม่จำเป็นต้องดิ้นไปกับคนที่โตแต่ฐานะทางสังคม ส่วนความคิดที่มีไม่ได้โตตามฐานะเลย
“วาไม่ได้ไร้ค่า คนนี้อย่ายุ่ง”คชาจับมือวาริชเดินผ่านหน้าคนเป็นพ่อไปอย่างไม่สนใจใยดี
เขาไม่ใช่ลูกรักอยู่แล้ว ถึงจะเป็นลูกคนเดียวตามกฎหมาย แต่ก็ไม่ใช่ลูกรัก เหมือนพี่ชาย ที่เป็นลูกนอกสมรสของคนเป็นพ่อเท่าไหร่ เขามันลูกนอกคอกมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“วาริช” ร่างเล็กๆของมาดาม เดินมาทางวาริชกับคชา ส่วนข้างๆเธอคือแมททิวพี่ชาย และกลุ่มเพื่อนของคชา ที่มางานเปิดตัวคอนโดใหม่ของเขา
“น้องวา/น้องวา/วา?”
วาริชยกมือไหว้แมททิว เอเดน และเบล เพื่อนของคชาที่เธอก็รู้จัก คนทั้งสามรับไหว้จากเธอก่อนจะยิ้มให้อย่างเอ็นดู
“ฝากวาด้วย เปิดงานก่อน” ร่างสูงที่แต่งตัวภูมิฐาน เดินไปขึ้นเวที แล้วกล่าวเปิดงานอย่างเร่งรีบ สายตาไม่ได้ละไปจากยัยวาริชที่ถูกห้อมล้อมด้วยกลุ่มเพื่อนเขาสักนิด
ไม่รู้จะคุยอะไรกันนักหนา แล้วมันจำเป็นต้องจับมือ หรือโอบไหล่ด้วยเหรอวะ แล้วยัยวานั่น ไม่คิดจะรักนวลสงวนตัวเลยรึไงวะ ยืนให้เพื่อนเขาแทะโลมอยู่ได้
คชากล่าวเปิดงานยังไม่จบ เพราะมีคนถามเรื่องคอนโดเข้ามาไม่ขาดสาย มันเป็นสิ่งที่เขาต้องตอบ และกว่าจะจัดการทุกอย่างเรียบร้อย รู้สึกตัวอีกที วาริชกับเพื่อนๆของเขาก็หายไปจากสายตาซะแล้ว
“ถ้ารู้ว่าวาจะมา จะไม่ใส่ชุดนี้มาเด็ดขาด ไม่เกิดเลยอะ”
ชุดวามันเด่นเกินหน้าเกิดตาจริงๆ เพราะสีแดงแปร๊ดของชุดที่วาริชใส่มันช่างแสบทรวง จนคนในงานมองตามตลอด และอาจจะเป็นเพราะเธอเดินคู่มากับคชาเจ้าของงาน ทุกอย่างจึงขับให้เธอโดนเด่นที่สุดในงาน
“วาไม่เหมาะกับงานแบบนี้หรอก ที่มาเพราะจำเป็น”
คนทั้งหมดที่นั่งอยู่กับเธอตอนนี้ รู้ดีว่าเธอแตกต่างจากพวกเขาแค่ไหน พวกเขาเป็นลูกหลานคนดังทั้งนั้น ต่างจากวาริชที่ใช้ชีวิตแบบพื้นๆ ไม่ได้เด่นดังอะไรในวงสังคม
“ก็เหมาะออก คนก็สวย ชุดก็สวย ได้ข่าวว่าโสดด้วย พี่จีบนะ”
แมททิวเป็นคนอารมณ์ดี เขาก็หยอดไปทั่วนั่นแหละ มาดามน้องสาวของเขาหวงวาริชจะตาย และอีกคนที่ดูหวงเธอก็กำลังยืนหน้าบึ้งอยู่ข้างหลังวาริชนั่นแหละ
