‘จีบได้นะคะ วาโสดมาก’
“จีบได้นะคะ วาโสดมาก”
หยอดมาหยอดกลับ วาริชชินแล้วกับนิสัยพี่แมท ใครๆก็รู้ว่าพี่แกมีตัวจริงแล้ว ก็แค่พูดเล่นกัน ไม่มีใครจริงจังหรอก
“ไม่โสด”
ร่างสูงนั่งลงข้างๆ ทั้งยังยกมือมาโอบไหล่วาริชอีกด้วย ตอนที่เลือกแบบชุดเขาชี้ไปมั่วๆ แต่ตอนนี้รู้สึกดีที่เลือกแบบชุดนี้ให้เธอตัด เพราะเดรสเกาะอกสีแดงของเธอ มันเปิดไหล่ขาวเนียนให้เขาได้สัมผัสอยู่ตอนนี้ยังไงละ
“อะไร วาโสด อย่ามากันท่านะ ไม่ชอบ”
คชาก็ไม่ชอบเสียงแวดๆของวาริชเหมือนกัน กับคนอื่นทำไมพูดดีๆได้ กับเขานี่ใช้เสียงแหลมจนปวดแก้วหู
“ไม่ได้กันท่า แต่พ่อบอกว่า ถ้าเราคบกันได้เกินสามเดือน พ่อถึงจะปล่อยให้ทำตามใจ”
คชาไม่เคยมีความลับกับเพื่อน และตอนนี้พวกเขาก็นั่งอยู่นอกบริเวณงานด้วย ไม่กลัวใครมาได้ยินหรอก
“วาไม่เอาด้วยหรอก เสียเวลา ถ้าอยากพิสูจน์ตัวเอง หรือหนีจากคอกของพ่อ ก็หาคนอื่น วาไม่ช่วย จ่ายค่าชุดกับค่าส่งมาเลย เร็วๆด้วยวาจะกลับแล้ว นี่ยังไม่ได้นอนเลยตั้งแต่เมื่อวาน”
ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคชา เธอไม่เห็นประโยชน์อะไรเลย มีแต่เรื่องให้ปวดหัวไม่จบไม่สิ้น
“แค่สามเดือนเองวา พ่อยื่นคำขาดมาแล้ว”
เพื่อนๆได้แต่ยิ้มขำ ก่อนจะมองหน้าอย่างรู้กัน แต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไร พวกเขารู้จักคชาดีที่สุด ปล่อยมันละกัน
“จ่ายเงินมาก่อน ง่วง ขอกลับไปคิดก่อน วาเหนื่อยสมองไม่แล่นเลย”
“สองล้านอะวา ช่วยหน่อย”
“วาไม่ได้ขัดสนเหมือนเมื่อก่อน ไม่ต้องเอาเงินมาล่อให้วากินเบ็ดที่คชาเอามาหลอก ถ้าวาเห็นประโยชน์จากการคบกับคชาตลอดสามเดือน วาจะตกลง”
คิดได้แค่นี้แหละ ตอนนี้วาง่วงจนจะร่วงไปกองที่พื้นแล้ว กาแฟที่กินไปตอนหัวค่ำไม่ช่วยอะไรเลย
“เดือนหน้าจะมีงานเปิดตัวแฟชั่นวีคที่ปารีส ถ้าคบกันจะพาไป”
“ตกลงคบก็ได้ กลับแล้วนะง่วง โอนค่าชุดมาละกัน 3 หมื่นนะ ส่วนงานวันนี้ ถือซะว่าชดเชยเงินสองแสนที่คชาเคยให้ละกัน”
วาริชพูดจบก็ยกมือไหว้เพื่อนๆของคชาอีกครั้ง ก่อนจะโบกมือให้เพื่อนตัวเอง วาฝืนไม่ไหวแล้ว เหนื่อยและง่วงมาก เมื่อกี้แอบจิบไวน์ไปนิดๆด้วยแหละ มันเลยง่วงหนักกว่าเดิมอีก
“ไม่ไปส่ง?? สภาพนั้นได้รถคว่ำตายก่อนถึงบ้านหรอก” เอเดนมองตามร่างวาริชไปจนเธอลับสายตา เห็นได้ชัดเลยว่าเธอไม่ไหว ไม่รู้จะไปแอบหลับหรือแหกโค้งที่ไหนหรือเปล่า
“ตามไปก็ไม่ยอมหรอก ถ้าไม่ไหวก็คงนั่งแท็กซี่กลับนั่นแหละ”
คชาไม่ได้ใจเย็น เป็นห่วงนิดๆ แต่เขาก็พอจะรู้นิสัยของวาดี บังคับยังไงก็ไม่ยอมหรอก ถ้าวาริชไม่คิดจะยอมเอง
“คิดจะทำอะไรกับเพื่อนมาร์อะ” มาดามถามคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามอย่างอยากรู้ แต่เธออะรู้ดีที่สุด
“ไม่ได้คิดอะไร”
“หราาาาาาาาา” คนทั้งสี่อุทานพร้อมกัน ก่อนจะส่ายหน้า ไอ้คนปากแข็งเอ้ย!!
“เดี๋ยวมาละกัน”
ร่างสูงกึ่งเดินกึ่งวิ่ง ไปตามทางที่วาริชเพิ่งจะเดินผ่านไป ได้แต่หวังในใจว่าเธอจะยังอยู่หน้าคอนโด แอบเป็นห่วงว่าการที่เขายื้อเธอไว้ในงาน จะทำให้เธอขับรถคว่ำตาย เพราะหลับในหรือเปล่า
ก๊อกๆๆ
คชาเดินมาเคาะรถของวาริชที่จอดอยู่หน้าคอนโด รถของเธอถูกสตาร์ทเครื่องแล้ว แต่มันยังจอดนิ่งอยู่ที่เดิม และตอนนี้ข้างในก็เงียบสนิท ไม่มีการตอบรับจากคนข้างในเลย แถมฟิล์มติดรถเธอยังมืดจนเขามองด้านในไม่เห็นอีกด้วย
ก๊อกๆๆๆๆๆ
“วาริช” คชาเคาะกระจกแรงๆ ทั้งยังตะโกนเสียงดังเพื่อเรียกให้เธอได้ยิน
“อะไรอีกเนี๊ย” ใบหน้าเล็กๆ ลดกระจกลงก่อนจะตะคอกคนที่มันมาเคาะกระจกรถเธอ คนกำลังงีบ จะเคาะทำไมนักหนา
“ลงมา จะไปส่ง”
วาริชตีหน้าตัวเองเบาๆ เพื่อเรียกสติ เธอไม่ถูกกับไวน์ที่มีรสติดไปทางหวาน มันเมาเร็ว ตอนนี้เธอง่วงและก็เมานิดๆนั่นแหละ กินไวน์ทีไร เมาตลอด
“คชา??” วาริชยังคงใช้เสียงสูงถามคนที่เธอมองเห็นเขาเพียงแค่เสี้ยวหน้า เพราะเธอลดกระจกลงมาเพียงนิดเดียว ก็นึกว่าเป็นพวกโจรมาเคาะรถอะ
“เมารึไง ขยับไปจะไปส่ง”
ร่างสูงมองใบหน้าที่อยู่ในรถ แสงไฟจากหน้าคอนโดมันส่องเข้าไปจากช่องกระจกที่เธอเลื่อนลง เห็นชัดเลยว่าสีหน้าเธอไม่เหมือนเดิม มันดูเซ็กซี่เพราะตาฉ่ำๆ กับน้ำเสียงที่มันแหบพร่า
“……” วาริชปลดล็อกประตู และเปิดมันออกกว้างๆ ชั่งใจนิดๆว่าจะเดินลงไปนั่งอีกฝั่งไหวไหม ก่อนจะตัดสินใจปีนข้ามไปนั่งเบาะหลังทันที อยากนอนอะ เบาะหลังมันเหมาะกับการนอนที่สุด
คชาได้แต่สายหน้าให้คนที่ปีนไปเบาะหลังด้วยความทุลักทุเล เดรสสีแดงที่มันเป็นแบบเกาะอก มันจะดูปกติกว่านี้ ถ้ามันไม่ผ่าจนถึงต้นขาของเธอ ยิ่งเธอขยับแบบนี้ เขาจึงได้เห็นขาขาวๆของเธอผ่านรอยแยกของผ้าได้อย่างดี
ร่างสูงของคชาขึ้นไปนั่งประจำที่คนขับ แล้วขับรถออกไปนิ่งๆ ไม่สนใจงานเปิดตัวของตัวเองด้วยซ้ำ สนใจเพียงคนที่นอนส่ายไปมาอยู่เบาะหลัง
ถ้ารู้ว่ากินไวน์แล้วเมาก็ไม่รู้จะไปกินมันทำไม ในงานมันก็มีน้ำอย่างอื่นอยู่เยอะแยะ เสือกไม่กิน อยู่ในสภาพนั้นก็สมควรแล้วล่ะ
“วา กุญแจห้องอยู่ไหน”
ตอนนี้ร่างสูงของเขา แบกเธอมาอยู่หน้าห้องแล้ว ถามชั้นกับห้องเธอ จากนิติของคอนโดเรียบร้อย เพราะสภาพวาริช ตอนที่อุ้มออกมาจากรถ นิ่งสนิทเหมือนคนที่กินยานอนหลับไปสักสิบเม็ด
“กาเป๋า อา” เสียงยานคางตอบพอให้เขารู้เรื่อง
คชาค้นกระเป๋าก่อนจะเจอคีการ์ดที่ใช้เปิดประตู เขาใช้เวลาไม่นานก็พาร่างของวาริชมาโยนลงบนเตียง สายตาคู่คมมองสำรวจห้องของเธอจนทั่ว คอนโดใหม่ก็ดูหรูดี ถือว่าใช้ได้ กับความสามารถที่พาตัวเองไต่มาได้ถึงขนาดนี้
“กลับแล้วนะ อย่าลืมเก็บไปคิดทบทวนอีกรอบ”
ไม่รู้เธอจะได้ยินไหม ได้ยินก็ดี ไม่ได้ยินเดี๋ยวค่อยถามใหม่อีกทีละกัน
“นอนด้วยกันไหม”
ร่างสูงที่กำลังจะเปิดประตูออกไป ชะงักงันพร้อมกับหันมามองคนที่เขาคิดว่าหลับ แต่ตอนนี้วาริชกำลังนั่งมองเขานิ่งๆ ใบหน้าสวยหวานนั่น ไม่รู้หลับหรือละเมอ และไม่รู้เธอคิดอะไรอยู่ ถึงถามออกมาแบบนี้
“พูดเล่น?”
“พูดจริง”
“อย่าเสียใจทีหลังนะวา”
“วาแค่อยากรู้อะ ว่าเวลาที่นอนด้วยกันมันรู้สึกยังไง” วาริชไม่ได้เมาขนาดนั้น วาริชมีสติดี
เมื่อกี้ได้นอนพักสายตาแปปนึงด้วย คอนโดใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวของเขา กับคอนโดเธออยู่ห่างกันเยอะ แถมรถก็ติด กว่าจะมาถึงนี่ เธอมีเวลาให้นอนเกือบชั่วโมง เพราะอย่างนั้นตอนนี้วามีสติทุกอย่าง ตอนที่คชาแบกขึ้นมาก็ด้วย
แค่แกล้งหลับเพราะขี้เกียจเดินขึ้นมาเองแค่นั้นแหละ
