บท
ตั้งค่า

หายไป

แสงแดดยามเช้าสาดส่องกระทบปลายเตียง พร้อมเสียงนกน้อยอย่างไพเราะเสนาะหูน่าฟังนอกหน้าต่าง ปลุกก้องฤทธาตื่นจากการหลับใหล ทว่ายังคงไม่ยอมลืมตาขึ้นมารับแสงในเช้าวันใหม่ แขนกำยำกระชับคนในอ้อมกอดแน่นกว่าเดิม เขารู้สึกเหมือนครั้งนี้นอนหลับสบายกว่าครั้งไหน ๆ แถมรู้สึกกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากคนในอ้อมแขน จนทำให้แทบไม่อยากตื่นจากฝันดีครั้งนี้

ริมฝีปากหยักประทับจูบบนหน้าผากกลมกลึง ก่อนจะรู้สึกตน ซึ่งไม่ใช่ความฝันแต่เป็นความจริง ก้องฤทธารีบลืมตาขึ้นอย่างไว สิ่งที่เห็นขณะนี้คือใบหน้าหวานของเปมิกาซุกไซ้อกกว้างของเขา

“เฮ้ย!!” เสียงทุ้มตะโกนดังพลางเด้งตัวลุกขึ้นขยับร่างกำยำถอยหนีจนชิดขอบเตียง

เสียงดังของก้องฤทธาปลุกร่างอ้อนแอ้นตื่นจากการนอนหลับ หญิงสาวลืมตาขึ้นเชื่องช้า นัยน์ตากลมโตปะทะเข้ากับก้องฤทธาซึ่งมีสีหน้าตกตะลึง

เปมิกาพยุงกายลุกขึ้นนั่ง แล้วทบทวนถึงเหตุการณ์ช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา ระหว่างเธอและเขาไม่มีอะไรทั้งนั้น เขาแค่เมา เธอก็เลยช่วยพามาที่ห้อง

“เธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร” เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบ

“คุณหมอจำอะไรไม่ได้เลยเหรอคะ” เหลือบมองคนตรงหน้าเล็กน้อย เพราะหากมองตรง ๆ จะทำให้หวนนึกถึงจูบที่เขามอบให้อย่างเร่าร้อน ไหนจะรอยแดงบริเวณคอ

“อื้อ ฉันจำอะไรไม่ได้เลย ปวดหัวชะมัด” มือใหญ่ยกขึ้นกุมขมับ แล้วภาพเลือนรางผุดเข้ามาในสมอง หลังจากแยกตัวกับรพีพงศ์ เขากลับมาถึงคฤหาสน์อย่างปลอดภัย จากนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาช่วยประคองพาไปยังห้องนอน ก่อนจะรู้สึกเหมือนตนเองได้กระทำบางอย่างกับผู้หญิงคนนั้น

นัยน์ตาคมช้อนตามองคนตัวเล็ก บริเวณคอระหงมีรอยแดงสองสามจุด แสดงว่าเมื่อคืนที่ฝันกำลังจูบใครบางคน นั่นไม่ใช่ความฝันแต่คือเรื่องจริง

มือเรียวยกขึ้นปิดคอระหงเมื่อถูกสายตาคมจ้องเขม็ง ใบหน้างดงามร้อนผ่าวขึ้นทันใด

“เอ่อ เมื่อคืนคุณหมอเมามาก ฉันเป็นคนพาคุณหมอมาที่ห้องค่ะ” หญิงสาวรีบอธิบายอย่างไว

“เมื่อคืนฉันได้ทำอะไรเธอไหม”

“ปละ เปล่าค่ะ งั้นมายด์ เฮ้ย ฉันขอตัวก่อนนะคะ” ไม่คอยให้เจ้าของห้องเอ่ยประโยคใด คนตัวเล็กก้าวลงจากเตียงขนาดคิงไซซ์ในท่าทีลนลาน จากนั้นเร่งฝีเท้าออกไปพ้นห้องชายหนุ่ม เนื่องจากกำลังเขินอายเรื่องที่โดนเขาขโมยจูบแรก

ก้องฤทธาส่ายหน้าไปมาเล็กน้อยกับท่าทีของเปมิกา เผยรอยยิ้มอย่างไม่รู้ตัว

หลังจากหญิงสาวออกจากห้องชายหนุ่มสำเร็จ เธอก็เดินกลับห้องของตนเอง ซึ่งอยู่ไม่ห่างกันมากนัก

ร่างอ้อนแอ้นเอนตัวลงบนเตียงหนานุ่ม แหงนหน้ามองเพดานห้องสีขาวล้วน จิตใจล่องลอยเพ้อหาถึงคนที่เพิ่งจากมา

ตึกตัก!!

เสียงหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะแทบทะลุออกนอกอก อาการเหล่านี้มันไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อน แค่เขาคนเดียวทำให้เธอรู้สึกได้ขนาดนี้

“เลิกคิดไปไกลได้แล้วมายด์ เราเพิ่งจะเจอกันแค่วันเดียวเอง ไม่มีทางเราจะชอบเขาหรอก” เปมิกาเตือนสติตัวเอง สลัดความคิดเพ้อเจ้อไปพ้นสมอง

นับจากวันนั้นเปมิกาแทบไม่ได้เจอก้องฤทธาอีกเลย เมื่อลองถามจากจำปาดู คำตอบที่ได้รับคือเขาติดงานผ่าตัดที่โรงพยาบาล และไม่ได้กลับมาพักยังคฤหาสน์แห่งนี้ ทว่ากลับอาศัยอยู่คอนโดแทน แต่ความรู้สึกเธอบ่งบอกเขาจงใจหลบหน้ามากกว่า

“คุณมายด์คะ เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าตาไม่ค่อยดีเลย” จำปาเอ่ยถามหญิงสาว ระหว่างกำลังจะเข้าห้องครัว แต่บังเอิญเดินผ่านห้องโถงเห็นเปมิกานั่งหงอย จึงเข้าไปทักทาย

“ไม่มีอะไรค่ะ มายด์แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย” ส่งยิ้มหวานแก่หญิงวัยกลางคน เพื่อเก็บซ่อนความรู้สึกส่วนลึกไว้ในใจ

“ถ้ามีอะไรก็บอกป้านะคะ แล้วอยู่ที่นี่เป็นอย่างไรบ้าง เริ่มชินหรือยัง” จำปาเอ่ยถามต่อตามประสาผู้ใหญ่ที่เอ็นดูเด็กอย่างเปมิกา

“ค่ะ มายด์เริ่มชินแล้ว ทุกคนที่นี่ใจดี” พูดพลางส่งยิ้มอ่อนแก่ป้าจำปา ดวงตาคู่หวานชำเลืองมองซองเอกสารสีน้ำตาลในมือของสาววัยกลางคน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอย่างสงสัย

คนโดนมองรีบอธิบายให้หญิงสาวเข้าใจทันใด

“เป็นของคุณหนูค่ะ” ไม่พูดเปล่าพร้อมยกซองสีน้ำตาลขึ้น

“จะเอาไปไหนเหรอคะ” คิ้วโก่งสวยเลิกขึ้นสูง

“เอกสารสำคัญ ป้าจะให้นางพวกนี้เอาไปให้ แต่ก็กลัวพวกมันสะเพร่าจนทำหาย” สีหน้าของหญิงวัยกลางคนเปลี่ยนไปจากเดิม ฉายความกังวล

“ถ้าอย่างนั้นให้มายด์เอาไปให้ได้ไหมคะ”

“จะดีเหรอ” หญิงวัยกลางคนมีความลังเล เพราะไม่กล้าใช้งานสาวตรงหน้า เกรงจะไม่เหมาะสม

“ไม่เป็นไรค่ะ มายด์ยินดี” รอยยิ้มหวานถูกส่งไปถึงคนตรงหน้าอีกครั้ง

หญิงวัยกลางคนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตอบตกลงและยื่นซองน้ำตาลในมือให้แก่เปมิกา

“งั้นป้าไปตามไอ้บุญ ให้มันไปส่งคุณมายด์ที่โรงพยาบาลนะคะ” ป้าจำปากล่าวเพียงเท่านั้น ก่อนผละจากไป เพื่อตามหาสามีของตนเองให้ไปส่งเปมิกา

รถตู้คันหรูจอดหน้าตึกโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ก่อนบุญุมาจะก้าวลงจากรถ เพื่อเปิดประตูแก่หญิงสาว

“ขอบคุณค่ะ” ส่งยิ้มอ่อนแก่ชายวัยกลางคน แล้วเงยหน้ามองตึกเบื้องหน้า ซึ่งมีผู้คนสัญจรไปมา

“ให้ลุงนำทางคุณมายด์ เข้าไปข้างในไหมครับ” ชายวัยกลางคนเอ่ยขึ้นด้วยความหวังดี เพราะเห็นเปมิกามาครั้งแรก อาจจะยังไม่คุ้นชินกับสถานที่นี่ แถมผู้คนยังพลุกพล่าน

“ไม่เป็นไรค่ะ” ส่ายหน้าปฏิเสธ แล้วยกเท้าเล็กเยื้องย่างเข้าไปข้างใน โดยไม่ขอรับความช่วยเหลือจากบุญมา

ชายวัยกลางคนจำเป็นต้องทำตามคำขอร้องของเปมิกา ยืนมองหญิงสาวเข้าไปข้างในจนลับหายในที่สุด แล้วเขาก็ย่างกรายไปขึ้นรถจากนั้นขับออกไป เนื่องจากเปมิกาไม่ต้องการให้รอ

“สวัสดีค่ะ” เสียงใสของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเอ่ยทักทายเปมิกาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“สวัสดีค่ะ มายด์มาพบคุณหมอก้อง ไม่ทราบเขาอยู่ห้องไหนเหรอคะ”

“ไม่ทราบคุณเป็นใครคะ แล้วได้นัดหมอก้องไว้ไหม” เจ้าหน้าที่สาวคนดังกล่าวปรายตามองเปมิกาตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า จากท่าทางเป็นมิตรก่อนหน้านี้เริ่มเปลี่ยนไปนิดหน่อย

“เอ่อ คือ...” เปมิกาพูดตะกุกตะกัก เธอไม่รู้จะตอบอย่างไรดี เบอร์โทรของเขาก็ไม่มีจะติดต่อก็ไม่ได้ ทว่าไม่ทันหญิงสาวจะสรรหาประโยคใดมาอธิบายคนตรงหน้า จู่ ๆ เสียงหวานของใครอีกคนก็แทรกขึ้น

“เดี๋ยวตรงนี้ดาจัดการเองค่ะ” คนมาใหม่หันไปส่งยิ้มแก่เปมิกา แล้วหันไปสบตากับเจ้าหน้าที่สาวคนนั้น

“ค่ะ”

เธอคนนั้นยอมจากไปแต่โดยดี ปล่อยคนทั้งสองอยู่ด้วยกัน ระหว่างเปมิกากำลังสำรวจสาวสวยตรงหน้า เสียงหวานของจิตรลดาก็ดังขึ้นทำลายบรรยากาศความเงียบ

“มาหาหมอก้องเหรอคะ” ส่งยิ้มหวานอย่างเป็นมิตร ไม่มีท่าทีเสแสร้งแม้แต่น้อย

“ค่ะ คุณหมออยู่ไหนเหรอคะ พอดีฉันมีธุระกับเขานิดหน่อย” เปมิกามองคนที่อายุมากกว่าตนเอง น่าจะประมาณราว ๆ สามสิบปี

“คุณมายด์หรือเปล่าคะ สวยจริงด้วย”

“เอ่อ คุณรู้จักมายด์เหรอคะ” คิ้วโก่งสวยเลิกขึ้น จู่ ๆ ผู้หญิงตรงหน้ารู้จักเธอ แถมยังชมเธออีกด้วยทำราวกับเคยเห็นกันมาก่อน

“ฉันชื่อจิตรลดาค่ะ หรือจะเรียกดาก็ได้ เป็นหมอของที่นี่ และเพื่อนกับหมอก้อง” จิตรลดาอธิบายเพิ่มเติมแก่คนตรงหน้า หญิงสาวมองเปมิกาด้วยความสนใจ คาดเดาได้เธอคงเป็นต้นเหตุทำให้ก้องฤทธาหงอยตลอดสัปดาห์

“ค่ะ” เปมิกาไม่รู้จะตอบโต้สิ่งใด ทำได้แค่ตอบรับสั้น ๆ

“งั้นไปกันเถอะ หมอก้องน่าจะอยู่ที่ห้องทำงาน” กล่าวเพียงเท่านั้น จึงนำหน้าเปมิกาไปยังจุดมุ่งหมายอย่างไม่รอช้า

เปมิกาจำยอมเดินตามหลังจิตรลดาไปเงียบ ๆ ไม่อาจซักไซ้อะไรมากมาย เกรงจะทำให้จิตรลดาเกิดความรำคาญ แค่ยอมพาไปหาก้องฤทธาก็ดีมากเหลือเกิน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel