บท
ตั้งค่า

ดูแลคนเมา

เปมิกาสะดุ้งตื่นในช่วงเวลาหนึ่งทุ่ม ภายในห้องมืดสนิทมีเพียงแค่แสงสว่างจากดวงจันทร์เล็ดลอดเข้ามา มือเรียวเอื้อมไปเปิดโคมไฟบนโต๊ะข้างหัวเตียง ทว่ายังคงไม่ยอมเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียงหนานุ่ม ดวงตากลมโตกลอกไปมาอย่างครุ่นคิด วูบหนึ่งเผลอคิดถึงบ้านและบิดาขึ้นมาจนรู้สึกอ้างว้างในจิตใจ

ร่างอรชรหันข้างชำเลืองมองไปยังประตู ก่อนพ่นลมหายใจเฮือกหนึ่ง พยายามเตือนสติตัวเอง นับจากนี้ต้องเข้มแข็งและห้ามอ่อนแอเด็ดขาด

เท้าเล็กก้าวลงจากเตียงนอน ย่างกรายไปยังห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกาย เนื่องจากค่อนข้างหิวเป็นอย่างมาก หลังจากกินไม่ได้นอนไม่หลับหลายวัน ซึ่งใช้เวลาในการอาบน้ำประมาณครึ่งชั่วโมงก็เสร็จเรียบร้อย เธอออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่นุ่งผ้าขนหนู แล้วเดินไปเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าที่ยังอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้มีการนำออกไปแขวนใส่ตู้แต่อย่างใด

ชุดที่เปมิกาเลือกใส่คืนนี้เป็นชุดนอนเดรสกระโปรงสีหวานแบบหลวม เมื่อจัดการตัวเองเสร็จจึงก้าวออกจากห้องตรงไปยังห้องครัว

ระหว่างนั้นเธอคอยชำเลืองมองดูผู้คน ทว่ากลับไม่มีใครเลย นอกจากนี้ไฟเปิดแค่บางดวงเท่านั้น

“ไม่มีใครเลยเหรอ” เสียงหวานพึมพำเงียบ ๆ คนเดียว ก่อนเสียงท้องจะร้องประท้วงด้วยความหิว จึงจำเป็นต้องสลัดความคิดในศีรษะทิ้ง แล้วก้าวไปยังสถานที่มุ่งหมาย

เมนูยามค่ำคืนนี้ เธอเลือกทำคือข้าวผัดไข่ดาว เปมิกานั่งรับประทานอาหารในห้องครัวเงียบ ๆ สายตาคอยชำเลืองมองดูผู้คนผ่านไปผ่านมาแต่ก็ไร้เงาใครสักคน แอบประหลาดใจ คฤหาสน์หลังโตขนาดนี้ ก้องฤทธาอาศัยอยู่คนเดียวเหรอ

“ไม่ใช่เรื่องของแก มายด์” พยายามเตือนสติตัวเองไม่ให้ก้าวก่ายเรื่องของเขา ก่อนจะสลัดความคิดในศีรษะทิ้ง และก้มหน้ารับประทานอาหารต่อกระทั่งเสร็จ แล้วนำภาชนะไปล้าง

ขณะนี้เปมิกากำลังจะกลับห้องนอน แต่ความอยากรู้ว่าก้องฤทธากลับมาจากข้างนอกหรือยัง หญิงสาวจึงเยื้องย่างไปหน้าประตูบ้าน แล้วเหลือบมองไปยังลานจอดรถ แต่สิ่งที่ได้เห็นคือรถสปอร์ตที่เขาขับออกไปเมื่อตอนเย็นกลับไม่มี

“หายไปไหนของเขา” จู่ ๆ ความรู้สึกผิดก่อเกิดขึ้นในใจ เพราะไม่แน่ใจตนเองจะใช่สาเหตุทำให้เขาออกไปหรือไม่ หากเป็นอย่างนั้นจริงคงรู้สึกแย่อยู่บ้าง

เปมิกาตัดสินใจไม่กลับห้อง เพื่อต้องการนั่งคอยก้องฤทธาอยู่บริเวณห้องโถง อย่างน้อยถ้าเจอหน้ากันจะได้ขอโทษเรื่องเมื่อช่วงกลางวัน

เวลาล่วงเลยผ่านไปนานหลายชั่วโมง คนตัวเล็กนอนหลับสนิทอย่างง่ายดายบนโซฟา กระทั่งเกือบเที่ยงคืน เสียงทุ้มของก้องฤทธาดังขึ้น ทำให้เปมิกาซึ่งไม่รู้หลับไปตอนไหนสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ นัยน์ตาคู่สวยสำรวจมองรอบ ๆ ก่อนจะได้ยินเสียงของชายหนุ่มอีกครั้ง เมื่อรู้สึกตนไม่ได้หูฝาดจึงเด้งตัวลุกขึ้นยืนแล้วไปยังที่มาของต้นเสียง

“ว้าย คุณหมอ” เท้าเล็กรีบวิ่งไปประคองร่างล่ำสัน ซึ่งกำลังจะก้าวขึ้นบันไดอย่างทุลักทุเล

“เธอ เป็น คราย...” เสียงทุ้มกล่าวอย่างไม่เป็นศัพท์ พยายามเบิกตากว้างสำรวจมองหญิงสาวตรงหน้าซึ่งกำลังประคองตนเอง

“คุณหมอเมาเหรอ” เปมิกาไม่ได้ตอบคำถามของชายหนุ่ม แต่เอ่ยถามในสิ่งที่สงสัยแทน คาดไม่ถึงคนอย่างเขาจะดื่มเหล้า

“ไม่ต้องมายุ่ง” มือหนาหมายจะผลักร่างบอบบางไปพ้น ด้วยความมึนเมากอปรกับไม่ค่อยมีสติทำให้ผลักไม่โดนหญิงสาว

“เฮ้อ...เดี๋ยวมายด์ช่วยประคองพาไปบนห้องนะคะ” กล่าวเพียงเท่านั้น เปมิกาไม่คอยให้คนตัวโตร้องโวยวายอะไร ไม่ชักช้าพาขึ้นบันไดทีละขั้นอย่างระมัดระวัง ไม่ให้ทั้งเธอและเขาร่วงไปพร้อมกัน ไม่อย่างนั้นคงได้นำส่งโรงพยาบาลแทนขึ้นไปข้างบนแน่

กว่าจะพาชายหนุ่มขึ้นบนห้องสำเร็จ ทำเอาคนตัวเล็กถึงขั้นหมดแรงทีเดียว

“ตัวหนักเหมือนกันนะคะ” เสียงหวานบ่นใส่คนตัวโตพลางปรายตามองคนกำลังหลับราวกับเด็กน้อยวัยสามขวบ ช่างน่าเอ็นดูกว่าตอนตื่น นิ้วเรียวเผลอเอื้อมมือไปแตะบนริมฝีปากหยักได้รูปอย่างไม่รู้ตัว เมื่อได้สติหญิงสาวรีบชักกลับทันทีทันใด รีบนำมือมากุมหน้าอกซ้าย ซึ่งใจเต้นระรัวแทบปะทุออก

ความรู้สึกเมื่อสักครู่อะไรกัน ทำไมใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ถึงเธอจะไม่เคยมีคนรัก แต่ก็ใช่จะไม่มีใครมาจีบ ทว่าผู้คนเหล่านั้นกลับไม่เคยทำให้เธอใจเต้นแรงเท่ากับคนบนเตียงได้เลย

เปมิกาส่ายศีรษะไปมา สลัดความคิดที่มีต่อชายหนุ่มทิ้งหมด แล้วลุกขึ้นจากเตียงเพื่อไปหาผ้ากับกะละมังเพื่อเช็ดตัวก้องฤทธา ขณะกำลังจะก้าวเท้าลง จู่ ๆ ข้อมือเล็กถูกฝ่ามือใหญ่คว้าอย่างรวดเร็ว

“อย่าทิ้งกันได้ไหม อยู่ด้วยกันก่อน...” ก้องฤทธาร้องโวยวายพร้อมจับข้อมือเล็กอย่างแน่น ไม่มีท่าทีจะปล่อยง่ายดาย

“คุณหมอคะ ปล่อยมายด์ก่อนได้ไหม มายด์ไม่ได้จะทิ้งคุณหมอไปไหน แค่จะไปเอาผ้าเช็ดตัวให้เท่านั้นเอง” หญิงสาวพยายามอธิบายให้แก่คนเมาฟัง และค่อย ๆ แกะมือหยาบกร้านออกจากข้อมือของเธอ

“อย่าทิ้งไปได้ไหม ขอร้อง...” ก้องฤทธากล่าวเสียงสั่นเครือ ดวงตาคมกริบยังคงปิดลงสนิทไม่แม้จะเบิกขึ้น

หญิงสาวจำใจต้องเดินกลับมานั่งข้างก้องฤทธาเหมือนเดิม แล้วเกลี้ยกล่อมชายหนุ่ม

“คุณหมอคะ ปล่อยมายด์ก่อนได้ไหม มายด์แค่จะไปหาผ้ามาเช็ดตัวให้คุณหมอเท่านั้น” เสียงหวานกล่าวอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน ยกมืออีกข้างขึ้นมากุมมือหนา

“จริงนะ ห้ามโกหก” เขาลืมตาขึ้น จ้องมองคนตัวเล็กอย่างต้องการคำมั่นสัญญา

“จริงค่ะ รอมายด์ได้ไหม” ส่งยิ้มหวานแก่คนบนเตียง ก่อนเขาจะพยักหน้าหงึก แล้วยอมปล่อยข้อมือเล็กเป็นอิสระ

เปมิกาหายออกไปจากห้องชายหนุ่มประมาณราว ๆ สิบนาทีและกลับมาอีกครั้งพร้อมอุปกรณ์เช็ดตัว

ร่างอรชรนั่งบนเตียงข้างชายหนุ่ม จัดการนำผ้าชุบน้ำในกะละมังแล้วบิดให้เปียกหมาด ๆ จากนั้นเช็ดตามทั่วร่างกำยำ ซึ่งเขาในตอนนี้หลับใหลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หลังจากเสร็จสิ้นทุกอย่าง เปมิกาเตรียมจะเก็บอุปกรณ์เช็ดตัวเพื่อออกจากห้องไปให้พ้น ทันใดนั้นก้องฤทธาลืมตาขึ้นพร้อมจับคนตัวเล็กกดลงกับเตียงขนาดคิงไซซ์ แล้วขึ้นไปคร่อม จับแขนเรียวตรึงอย่างแน่น

“อื้อ คุณหมอจะทำอะไรคะ ปล่อยมายด์ไปเถอะ” เปมิการ้องประท้วง เมื่อคนเหนือร่างซุกไซ้ทั่วคอระหง ขบเม้มแรง ๆ จนเกิดรอยแดงหลายจุด

ไม่มีเสียงเล็ดออกจากริมฝีปากหยัก ชายหนุ่มยังคงวุ่นวายกับคอขาวเนียน ก่อนจะเลื่อนมาพรมจูบทั่วใบหน้างดงาม แล้วมาสิ้นสุดยังริมฝีปากอมชมพู

นัยน์ตาคู่สวยเบิกกว้าง จู่ ๆ ถูกก้องฤทธาขโมยจูบแรกไปอย่างหน้าตาเฉย เธอพยายามปิดปากสนิท แต่เขาพยายามจะแทรกลิ้นเข้ามาตักตวงความหวานในโพรงปาก

“อื้อ” เสียงหวานครางต่ำในลำคอ เมื่อชายหนุ่มสอดลิ้นเข้าในปากสำเร็จ เกี่ยวพันกับลิ้นของเธออย่างหยอกเย้า

จูบแสนหวานค่อย ๆ ผันเปลี่ยนเป็นรุนแรงและดุดัน จนคนใต้ร่างแทบขาดใจ สติพร่าเลือนทำให้เปมิกายกแขนเล็กขึ้นสอดกับต้นคอของก้องฤทธา พร้อมหลับตาลงอย่างผ่อนคลาย ปลดปล่อยอารมณ์ไปกับคนตัวโต

มือใหญ่ยกขึ้นมาบีบเคล้นดอกบัวตูม จากนั้นค่อย ๆ บีบขยำอย่างเมามัน จากความนุ่มนวลในตอนแรกกลายเป็นความรุนแรงในตอนท้าย

เปมิกาเริ่มได้สติจึงหันหน้าเบือนไปทางอื่น จนในที่สุดรอดพ้นจากเงื้อมมือของคนตัวโตสำเร็จ แต่ชายหนุ่มยังไม่ได้ปล่อยหญิงสาวเป็นอิสระ ยังคงวุ่นวายกับคอระหง ตวัดลิ้นเลียจนเปียกชื้น

“คุณหมอคะ ปล่อยมายด์ไปเถอะ” มือเล็กผลักอกแกร่งให้ห่าง แต่พยายามเท่าไรก็ไม่มีท่าทีจะรอดพ้น แถมชายหนุ่มยิ่งกอดรัดเธอแน่น

“อย่าไปได้ไหม” คนเมากระซิบข้างหูคนตัวเล็ก จากนั้นลงไปนอนข้างเปมิกา ทว่าไม่ยอมปล่อยหญิงสาว

“ปล่อยนะคะ” เธอพยายามแกะมือปลาหมึกออกจากเอวกิ่ว แต่เขายิ่งกระชับแน่นยิ่งขึ้น นอกเหนือจากนี้ใบหน้าคมคายซุกไซ้เข้ากับคอระหงและสูดดมกลิ่นกายเฉพาะจากตัวเธอ

“เฮ้อ” ด้วยความง่วงทำให้เปมิกาไม่อยากขัดขืนชายหนุ่มอีกต่อไป ยอมให้เขานอนกอดตัวเอง อย่างน้อยแค่เขาไม่ลุกขึ้นมาจับเธอเปลื้องผ้าก็ดีมากพอแล้ว แค่นอนกอดเฉย ๆ คงไม่เป็นไร ก่อนดวงตากลมโตปิดลงอย่างชักช้าจนเข้าสู่ห้วงนิทราพร้อมชายหนุ่มในที่สุด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel